Tag: fairytale
-
อาจารย์มหาวิทยาลัยโอซาก้าลั่นวาจา เจ้าชายในสโนว์ไวท์เป็นพวกล่วงละเมิดทางเพศ
เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินเกี่ยวกับแอนิเมชั่นของ ดิสนีย์ เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา มาบ้าง ซึ่งฉากเด่นที่ทุกคนอาจจดจำได้ดี คงจะเป็นฉากที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกเธอให้ตื่นจากนิทรานั่นเอง ฉากจูบนี้ทำเอาหลายคนเคลิ้มกับความโรแมนติกที่เจ้าชายมีต่อเจ้าหญิงจนฟินจิกหมอน แต่ศาสตราจารย์ Kazue Muta กลับเห็นต่างออกไป เธอมีความคิดเห็นว่านั่นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเลย Kazue Muta เป็นศาสตราจารย์หญิงใน มหาวิทยาลัยโอซาก้า เธอมีเชี่ยวชาญด้านสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์และเพศสภาพศึกษา เธอทราบข่าวที่มีชายคนหนึ่งแอบไปจูบหญิงสาวที่กำลังหลับอยู่บนรถไฟ ในจังหวัดวากายามะ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นกังวลเกี่ยวกับการกระทำในทำนองนี้ เธอจึงอยากสะกิดใจชาวเน็ตว่าการกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอจึงได้ทวีตเปรียบเปรยว่าเจ้าชายในเรื่องเจ้าหญิงนิทราและสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดนั้น กระทำการคุกคามทางเพศโดยจูบเจ้าหญิงที่หลับอยู่ “หากพิจารณาเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด และเจ้าหญิงนิทรากันดีๆ แล้ว ‘การปลุกเจ้าหญิงให้ตื่นด้วยจุมพิต’ นั้นเป็นการคุกคามทางเพศกับคนไม่ได้สติ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำลายฝันนะ แต่ต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเทพนิยายพวกนี้สนับสนุนให้คนทำผิด” ทวีตของเธอนั้นได้จุดประเด็นเรื่องศีลธรรมและความถูกต้อง เกี่ยวกับการจูบคนที่หลับอยู่ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยกับเธอและคนที่เห็นต่างด้วยเช่นกัน “ในกรณีนี้น่าจะเป็นการช่วยเหลือมากกว่าการคุกคามทางเพศนะ” “เธอพูดถูก อยู่ๆ เราจะไปไล่จูบคนที่หลับอยู่ได้ไง เจ้าหญิงก็แค่บังเอิญตื่นมาเถอะ” “จะเอาตรรกะทั่วไป ไปใช้กับเทพนิยายไม่ได้หรอก” “จากมุมมองของผมที่เป็นทนาย ถ้าสโนว์ไวท์ไม่ฟ้องร้อง เจ้าชายก็ไม่ผิด” แม้จะไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อย่างน้อยศาสตราจารย์…
-
ช่างภาพมือฉมัง เปลี่ยนสถานที่ทิ้งร้าง ให้สวยงามตามคอนเซปท์ “เทพนิยายด้านมืดสุดลึกลับ”
การถ่ายภาพในที่ว่าง หรือตึกที่ถูกทิ้งร้างเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ช่างภาพนามว่า Karen Jerzynk ได้คิดต่อยอดเกี่ยวกับการถ่ายภาพในที่รกร้างมากกว่านั้น เธอเปลี่ยนพื้นที่ในตึกรกร้างต่างๆ หรือกระทั่งสถานที่ซึ่งถูกทิ้งไปและไม่มีคนอาศัยอยู่ ให้ดูลึกลับมากขึ้น ไม่ต่างอะไรกับฉากในเทพนิยายน่ากลัวๆ ฉากนึงเลย Karen เริ่มการถ่ายรูปตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 โดยการถ่ายรูปงานคอนเสิร์ต หรือตามงานดนตรีต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มออกมาถ่ายภาพด้วยไอเดียของเธอเอง Karen Jerzynk กับภาพที่เธอสร้างขึ้น ในปีค.ศ. 2011 หลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง เธอจมอยู่กับความเศร้าช่วงเวลาหนึ่ง ต่อมาเธอนำเอาไอเดียของเธอมาผสมผสานเข้ากับทักษะในการถ่ายภาพของเธอ เพื่อสื่อความรู้สึกการสูญเสียผ่านภาพถ่ายของเธอ “ฉันเริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และความคิดของฉันก่อนที่จะเริ่มนำมันมาเรียบเรียงเป็นไอเดีย และในที่สุดฉันก็ใช้ไอเดียนี้มาสร้างความเชื่อมโยงกันระหว่างจินตนาการและอารมณ์ความรู้สึกเพื่อมาใช้ในภาพถ่ายของฉัน ฉันรู้สึกภูมิใจมากในงานที่ฉันสร้างสรรค์ขึ้นมา” เธอกล่าว . . ความสูญเสียและอ้างว้างที่ถูกถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายของเธอ . บางเวลามักจะมีความรู้สึกแปลกๆ มาเยี่ยมเยือนเธอเสมอ . . . . บางคืนที่ต้องทนอยู่กับฝันร้าย . . . สำหรับภาพชุดที่ #เหมียวปั๊ก มานำเสนอนี้มีชื่อว่า Last days…
-
ชมการ์ตูนเทพนิยาย ‘Kolobok’ ในอีกเวอร์ชั่น ที่ดูแล้วช่างห่างไกลจากความฟรุ้งฟริ้งซะเหลือเกิน!!
ว่าด้วยเรื่องเล่าเทพนิยาย ตำนานปรัมปราต่างๆ หลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องเล่าสำหรับเด็กๆ ที่อ่านให้ฟังก่อนเข้านอน หรือซื้อเป็นหนังสือมาให้อ่านในยามว่าง เอาเข้าจริงๆแล้วเทพนิยายเกือบจะทุกเรื่องแบบดั้งเดิมนั้นจะมีเนื้อหาที่รุนแรง ออกแนวหลอนไปซะด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องที่จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังวันนี้ เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าที่อยู่ในรวมเล่มเรื่องเล่าเทพนิยายสำหรับเด็ก เป็นคอลเล็คชั่นของเทพนิยายเยอร์มัน แต่งโดย Jacob และ Wilhelm Grimm หรือเรียกอีกอย่างว่าเทพนิยายกริมม์ มีชื่อเรื่องว่า Kolobok เป็นเรื่องราวของเจ้าก้อนขนมปังที่จู่ๆก็มีชีวิตขึ้นมาในขณะที่กำลังปรุงอาหารโดยชายหญิงชราคู่หนึ่ง จากนั้นมันก็ได้หนีไปเป็นเหตุให้ได้พบกับเหล่าสัตว์ต่างๆ และพวกมันก็พยายามที่จะกินเจ้าขนมปัง แต่ทว่ามันกลับหลบหนีไปได้ทุกครั้ง และร้องเพลงไปด้วย มีเนื้อเพลงว่า “I got away from Grandmother, I got away from Grandfather, and I will certainly get away from you” แปลได้ว่า “ฉันหนีมาจากคุณปู่ คุณย่า และฉันก็จะหนีจากเธอด้วย” และในปี 1990 ก็ได้มีการ์ตูนเรื่อง Kolobok อีกแบบออกมาให้ชมกัน แต่ดูแล้วมันช่างห่างไกลจากความฟรุ้งฟริ้งในเวอร์ชั่นเด็กๆซะเหลือเกิน… ไปดูคลิปเต็มๆกันเลยดีกว่า……