Tag: feed
-
‘แมวดำ’ โชว์วิชานินจา ‘แยกร่าง’ จาก1 เพิ่มเป็น 2 จาก 2 เพิ่มเป็น 4 ตกลงเอ็งมีกี่ตัววว!?
สำหรับทาสแมวแล้ว หลายครั้งแทนที่เราจะไปทำธุระส่วนตัว พอเราไปเจอแมวหิวโซอยู่กลางทาง เราก็กลับมานั่งให้อาหารแมวแทนซะอย่างงั้น โดยคิดว่า “แวะให้อาหารแมวแป๊บเดียวเองน่า เดี๋ยวก็รีบไปทำธุระต่อแล้ว” แต่สาวคนนี้คงไม่ได้ไปไหนง่ายๆ หรอก … ชาวเน็ตสาวจากประเทศจีนคนหนึ่งได้แชร์เรื่องราวของตัวเอง ที่เธอไปเจอแมวดำจรจัดท่าทางหิวโหยตัวหนึ่ง เธอก็เลยหยุดให้อาหารมันเพราะคิดว่าการเจอกันครั้งนี้ต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ และสิ่งที่ตามมาทำให้เธอประทับใจในเรื่องนี้จนลืมไม่ลงเลย มนุษย์หยุดก่อน เก๊าหิวขอไรกินหน่อย พอเธอหยิบอาหารมาให้มัน เจ้าแมวดำก็กินอาหารหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อกินหมดมันก็ดูอิ่มและพอใจมาก หญิงสาวคงคิดว่า “เอาล่ะ แกก็อิ่มแล้ว ฉัันไปทำธุระต่อดีกว่า” แต่พอเธอหันกลับมาหามันอีกทีหนึ่ง ก็เห็นว่ามีเจ้าเหมียว 2 ตัวแทนซะงั้น แถมมันยังดูเหมือนกันเปี๊ยบเลย ทั้งรูปร่างและสีขน ท่าทางมันน่าจะเป็นพี่น้องกัน พอตัวพี่กินอิ่มแล้วก็เลยพาน้องมากินด้วย เอาข้าวให้ร่างแยกของเราด้วย ด้วยใจของทาสแมวที่แพ้ต่อความน่ารักของเหมียวทั้งหลาย เธอก็เลยให้อาหารมันอีกตัวหนึ่ง ยังไงซะการให้อาหารแมวเพิ่มตัวเดียวมันก็ไม่ลำบากเท่าไหร่หรอก…ถ้าแค่ตัวเดียวน่ะนะ… แต่พอให้อาหารมันเสร็จ ก็มีแมวแบบเดียวกันเพิ่มมาจากไหนก็ไม่รู้อีก 2 ตัว พวกมันเดินมาล้อมเธอไว้แล้วร้องเมี๊ยวๆๆ ขออาหารไม่หยุดเลย นี่พวกมันเป็นครอบครัวเดียวกันหรือเจ้าเหมียวแยกร่างได้กันแน่เนี่ย แล้วถ้าให้ไปอีกครั้งมันจะแยกร่างเพิ่มเป็น 8 ตัวรึเปล่า? อยากกินอีกเยอะๆ ขอแยกร่างอีกรอบก็แล้วกัน โชคดีที่หลังจากให้อาหารเจ้าเหมียวดำที่มาใหม่อีก 2 ตัวแล้วก็ไม่มีเจ้าเหมียวตัวใหม่มาเพิ่มอีก…
-
ปาฏิหาริย์.. ช่วยเหลือแมวน้อยตัวไม่ต่างจากเหรียญ กลายมาเป็นแมวสุขภาพแข็งแรง!!
เมื่อสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาผิดจากปกติซึ่งส่วนใหญ่นั้นในความผิดปกติมักจะเป็นแง่ลบอยู่เสมอ อย่างลูกแมวที่เกิดมามีขนาดตัวที่เล็กมากกว่าแมวทั่วๆ ไป สุดท้ายแล้วจะสามารถมีชีวิตและโตขึ้นมาเป็นยังไง ลูกแมวตัวนี้นั้นเกิดมามีน้ำหนักตัวเพียง 40 กรัม และมีขนาดเล็กพอๆ กับเหรียญ ซึ่งได้มีผู้หญิงคนหนึ่งพบเข้าในสภาพร่างที่นอนแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหวใดๆ มีเพียงความรู้สึกจากการเต้นของหัวใจส่งผ่านมาทางมือของเธอ “เธอตัวเล็กมากเลยจริงๆ ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งมีชีวิตที่เล็กขนาดนี้จะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้” ผู้ใช้ imgur ชื่อว่า Nuuudel ได้แชร์เอาไว้ในโลกโซเชียล ผู้หญิงคนนั้นได้ถ่ายรูปเจ้าลูกแมวตัวนี้และนำไปให้สัตวแพทย์ได้ดู แต่ทุกคนที่ได้เห็นนั้นพูดเลยว่าไม่มีความหวังเลย เพราะไม่มีสัตวแพทย์คนไหนที่เคยเห็นลูกแมวที่ตัวเล็กขนาดนี้จะสามารถรอดชีวิตได้ แต่หลังจากที่ได้ไปเจอสัตวแพทย์ เธอก็ได้ตัดสินใจที่จะพยายามช่วยชีวิตเจ้าลูกแมวตัวนี้ไว้และได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า Titan (ในตอนแรกนั้นเธอคิดว่าลูกแมวตัวนี้เป็นตัวผู้) เธอและแฟนหนุ่มคอยดูแลเจ้า Titan อยู่เสมอ คอยให้อาหารทุกๆ 1 ชั่วโมง พยายามให้มันได้อบอุ่นและรู้สึกสบายอยู่ตลอดเวลา ในสัปดาห์แรกนั้นมันแทบจะไม่ขยับ น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้นและไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเลย พวกเธอไตร่ตรองในทุกวินาทีว่าได้ดูแลมันเพื่อให้มีชีวิตรอดไปได้ ในที่สุดเมื่อถึงวันที่ 8 จากที่เธอได้ดูแลมันนั้น เธอก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนตีสามเมื่อเธอได้ยินเสียงร้องดังมาจาก Titan เพื่อต้องการอาหาร มันได้ใช้อุ้งเท้าน้อยๆ ของมันจับหลอดฉีดยาที่เธอไว้ใช้ป้อนอาหารให้กับมันและคลานไปมาบนเตียงนอน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความหวังและความศรัทธาอย่างแรงกล้าให้กับพวกเธอ ในช่วงสองสัปดาห์ถัดมาพวกเธอแทบจะไม่ได้นอนและลืมที่จะกินข้าวกันไปเลยเพื่อดูแลมัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา…
-
วัฒนธรรมอันแสนหวาดเสียวกับการให้อาหาร “เหล่าไฮยีน่า” ในยามค่ำคืนแบบเม้าท์ทูเม้าท์
แทบจะทุกคนนั้นคงจะรู้จัก ไฮยีน่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่เรามักจะเคยได้ยินมาว่า พวกมันมักจะกินซากศพและอยู่รวมกันเป็นฝูง จึงทำให้มองได้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ดุร้าย แล้วถ้าสัตว์ที่เราคิดว่ามันไม่เป็นมิตร แต่กลับมีคนคอยไปให้อาหารมันทุกคืนล่ะ กลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่จริงในเมืองกำแพงอันเก่าแก่ที่มีชื่อว่า Harar ในเอธิโอเปีย ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ได้มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงไฮยีน่ามาอย่างยาวนานนับศตวรรษ โดยได้มีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงการให้อาหารที่นอกจากจะให้ผ่านมือแล้วนั้น ก็มีที่ใช้ปากคาบเนื้อสดๆ ป้อนเจ้าไฮยีน่า และเมื่อศึกษาลงไปจากแหล่งข้อมูลในท้องที่เหล่านั้นแล้วก็พบว่ากลุ่มผู้กล้าเหล่านี้ได้คอยให้อาหารไฮยีน่าตามชานเมืองมาเป็นเวลาประมาณ 60 ปีเลยทีเดียว ไกด์ที่เป็นคนท้องถิ่นชื่อว่า Hailu Gashaw ได้บอกกับนักท่องเที่ยวจาก National Geographic ว่า ย้อนกลับไปใน ค.ศ.1550 ได้มีความเชื่อที่ว่าผู้คนในเมืองนี้อยากให้ไฮยีน่าเข้ามาในเมืองด้วยเพราะว่าพวกมันจะช่วยในการกำจัดเศษซากทางการเกษตร และทำให้เมืองสะอาดสะอ้านเพื่อสุขอนามัยของแหล่งที่อยู่อาศัย ปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียวคือเมื่อมีไฮยีน่าป่า เข้ามาทำความเสียหายให้กับพื้นที่ปศุสัตว์ของชาวบ้านในบางคืน จึงทำให้การให้อาหารไฮยีน่ารอบชานเมืองเริ่มจากจุดนั้น เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหามาจนถึงปัจจุบัน เพื่อแน่ใจว่าเจ้าไฮยีน่าจะไม่ไปทำร้ายผู้คน กลุ่มคนที่ให้อาหารจึงจะเดินรอบๆ เมืองและร้องเรียกเหล่านักล่าให้ออกมากินอาหารจากมือหรือปากของพวกเขาเองทุกๆ คืน ซึ่งแน่นอนว่าการที่ต้องเจอไฮยีน่ารุมเข้ามาเป็นฝูงกว่า 30 ตัวคงจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวเอามากๆ แต่เพื่อการใช้ชีวิต มันจึงเป็นเรื่องจำเป็น คลิปวิดีโอการให้อาหารเหล่าไฮยีน่าในยามค่ำคืน Mulugeta Wolde-Mariam และ Abbas Yusuf คือคนที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมที่น่าเหลือเชื่อนี้ไว้อยู่ โดยในปัจจุบันได้มีการแสดงเพื่อความบันเทิงเพื่อหารายได้จากนักท่องเที่ยวอีกด้วย หรือในบางครั้งก็จะชวนให้นักท่องเที่ยวได้ลองให้อาหารเหล่าไฮยีน่าเองกับมือ แต่ก็นะไม่ใช่ว่าทุกคนจะกล้าทำอย่างนั้นหรอก นี่อาจเป็นความตื่นเต้นหวาดเสียวที่หลายคนชื่นชอบ แต่ยังไงก็อย่าไปลองเอาเองที่บ้านเชียว…