Tag: google
-
เอ๋า! ส่องเส้นทางในญี่ปุ่นผ่าน Google แต่ดันไปเจอห้องกระจกสำหรับ “ถ่าย AV” เฉยเลย!!
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยใช้ Google Street View กันแล้วใช่หรือไม่? แต่หากใครยังไม่เคยใช้ล่ะก็ ต้องบอกก่อนเลยว่าเจ้า Google Street View เป็นเทคโนโลยีที่ทางกูเกิลได้พัฒนาให้ระบบการดูแผนที่นั้นเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางกูเกิลจำเป็นต้องส่งทีมกล้องออกไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างละเอียดเพื่อเก็บภาพมาใส่ไว้ในระบบ เมื่อถึงตรงนี้ผู้ที่เข้ามาใช้งานก็สามารถดูแผนที่ได้ทั้งแบบกว้างๆ และแบบขยายจนเห็นผู้คนและบ้านช่องได้เลยทีเดียว ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้นี่เองที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้ Google Street View เพื่อส่องดูอะไรสักอย่างแล้วบังเอิญไปเจอกับ ห้องกระจกน่าสงสัย เข้าให้ ห้องกระจกน่าสงสัยที่ตากล้องของ Google บังเอิญถ่ายติดมา สำหรับชาวญี่ปุ่นและผู้ที่เสพสื่อบันเทิง 18+ ของญี่ปุ่นแล้วแทบไม่ต้องเดาเลยว่านี่เป็นรถห้องกระจกที่มีไว้สำหรับทำอะไร มันคงเป็นอะไรที่คุ้นตาอย่างมากเลยทีเดียวเชียวล่ะ แท้จริงแล้ว เจ้ารถห้องกระจกน่าสงสัยนี้ก็คือ สตูดิโอสำหรับถ่ายภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ของญี่ปุ่นนั่นเอง กับฉากที่พระเอกนางเอกต้องทำกิจกรรมจ้ำบ๊ะกันในห้องกระจกท่ามกลางสถานที่สาธารณะที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา ฉากนี้แหละใช่เลย… ค่อยโล่งใจหน่อยที่ไม่ถ่ายตอนเขากำลังแสดง “หนัง” กันอยู่พอดี… ที่มา: ck101
-
ดาวเทียม Google จับภาพ ‘หรรมส์’ ได้ ชาวเน็ตเข้าไปรีวิว 5 ดาว จนคนอยากไปเที่ยว!?
ใครเล่าจะคิดว่าจากการค้นพบภาพประหลาดจากดาวเทียม Google จะทำให้สถานที่แห่งนั้นได้รับการรีวิว 5 ดาวและกลายเป็นสถานที่ที่คนอยากจะลองไปเที่ยวดูสักครั้ง!? เรื่องมีอยู่ว่ามีการตรวจจับภาพรูป ‘กระปู๋’ ขนาดเล็ก ถูกวาดเอาไว้ท่ามกลางทะเลสาบ Betoota ในเมืองมาร์คัส ฮิลล์ รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ที่แห้งผากเผยให้เห็นแต่พื้นดินไปแล้ว ภาพของกระปู๋หากซูมออกไปในระยะไกลๆ แล้วอาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะความซามารถในการซูมเข้า-ออก ของกล้องบนจานดาวเทียมของ Google ก็ทำให้สามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน ภาพของกระปู๋ยักษ์อันนี้ถูกนำมาแชร์โดยเพจเฟซบุ๊ก Take the Piss Geelong เมื่อช่วงดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ไม่มีรายงานว่าเจ้ารอยกระปู๋ในทะเลสาบที่แห้งไปนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่จากการคาดเดาแล้วคิดว่าเจ้าหรรมส์อันใหญ่นี้น่าจะเป็นรูปปั้นหรือไม่ก็เป็นร่องรอยที่ถูกวาดขึ้น และน่าจะมีขนาดความยาวราวๆ 50 เมตรเลยทีเดียว มีชาวเน็ตมากมายเข้าไปรีวิวสถานที่ทะเลสาบ Batoota ใน Google Earth Maps จนได้รับเรตติ้ง 5 ดาวไปเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีการเขียนรีวิวฮาๆ ที่ไม่รู้จะจริงหรือเล่นเอาไว้มากมาย 555 มีชาวเน็ตบางส่วนตังมั่นเอาไว้ว่าจะต้องไปเยือนมันให้ได้ “เดินทางมาตั้งไกลจากนิวยอร์ก เพื่อชมความงดงามของมัน และผมจะมาอีกแน่นอน!!” …
-
ส่องภาพถ่ายงามๆ จาก Google Street View มันช่างมินิมอลและอ้างว้างเหลือเกิน~
คงต้องเรียกเขาว่าศิลปินนิรนามแล้วล่ะ เพราะเขาได้สร้างผลงานภาพที่เอามาจาก Google Street View ซึ่งได้คัดแต่ภาพที่ให้ความรู้สึก สบายตา โดดเดี่ยว และเวิ้งว้าง ในสไตล์มินิมอลมาเก็บไว้ในอินตาแกรม ถึงเราจะมองว่าเขาเป็นศิลปินที่มีศิลปะอยู่ในหัวใจ แต่เขากลับเรียกตัวเองว่า “นักเดินทาง” ทั้งที่จริงแล้วเขาเดินทางโดยใช้เพียง Google Street View ส่องเอาเท่านั้น “โรคกลัวชุมชนและความวิตกกังวล เป็นอุปสรรคขัดขวางการเดินทางของผม ผมจึงต้องหาทางท่องเที่ยวและสำรวจโลกด้วยวิธีของผมเอง” ศิลปินนิรนามกล่าว อย่างไรก็ตาม ศิลปินคนนี้ก็ได้นำภาพสุดงดงามในสไตล์มินิมอลที่ผสมกลิ่นอายและบรรยากาศของแต่ละสถานที่มาให้เราได้ชมกัน ลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… #1 #2 #3 #4 #5 #6 #7 #8 #9 #10 #11 #12 #13 #14 #15…
-
9 ผู้ก่อตั้งแบรนด์ดังระดับโลก ที่ไม่ค่อยจะโผล่หน้ามาให้คนอื่นๆ ได้เห็นกันสักเท่าไหร่
หลายๆ คนที่สนับสนุนสินค้าหรือบริการของแบรนด์ดังๆ มาหลายครั้ง เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่าผู้ก่อตั้งแบรนด์เหล่านั้นหน้าตาอย่างไร เพราะบางแบรนด์นี่ผู้ก่อตั้งแทบไม่โผล่หน้ามาให้สื่อเห็นสักเท่าไหร่ อย่างเช่น Nike บริษัทอุปกรณ์กีฬาที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี จะมีสักกี่คนที่นึกหน้าของผู้ก่อตั้งบริษัทออกในทันที ไม่เหมือนพี่มาร์กแห่งเฟซบุ๊ก หรือ ลุงเกตส์แห่งไมโครซอฟท์ ที่แค่ได้ยินชื่อ หน้าของทั้งสองก็ลอยมาในทันที วันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมหน้าตาของผู้ก่อนตั้งแบรนด์ดังระดับโลกมาเสิร์ฟถึงที่เลยล่ะ เอ้า!! ไปชมกันครับ 1. Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike เมื่อตอนสมัยหนุ่มๆ Phil Knight กับโค้ช Bill Bowerman ต่างรักการวิ่งเป็นที่สุด แต่คุณภาพรองเท้าวิ่งในอเมริกาตอนนั้นไม่ดีเอาเสียเลย จึงได้สร้างแบรนด์ Blue Ribbon Sports ที่ตอนนี้คือแบรนด์ Asics ต่อมาจากความยากลำบากต่อการจัดการทรัพยากร Phill และ Bill จึงตัดสินใจสร้างแบรนด์ของตนเองขึ้นและนั่นก็คือ Nike นั่นเอง 2. Howard Schultz เจ้าของ Starbucks ตอนเริ่มต้น Starbucks นั้นก่อตั้งในปี 1971 แต่เป็นเพียงร้านขายเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์การทำเพียงเท่านั้น ก่อนที่ในปี…
-
ไปทั่วโลกก็งี้ล่ะ 28 ภาพขำๆ แปลกๆ น่ารัก และแอบน่ากลัว ที่รถ Google บังเอิญถ่ายมา
Google Street View เป็นบริการภาพแผนที่ ที่ให้บริการโดย Google จัดทำขึ้นโดยการนำรถติดกล้องรอบทิศทางออกถ่ายภาพตามท้องถนนจริงๆ และทาง Google เอง ก็ตั้งใจที่จะให้ Google Street View มีภาพของท้องถนนทั้งหมดในโลกใบนี้ หรืออย่างน้อยก็มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ด้วยความที่เที่ยวเก็บภาพไปทั่วถนนทุกสาย ในทุกๆ ที่ทั่วโลกนั่นเอง มันก็ย่อมที่จะต้องมีเรื่องอะไรแปลกๆ น่าขำ ตลก หรือน่ากลัวติดเข้ามาในกล้องกันบ้างเป็นธรรมดา… ใช่แล้ว อะไรแบบภาพต่อไปนี้นั่นเอง บางครั้งกล้องของรถก็ขัดข้องจนมีเหตุแปลกๆ แบบนี้ออกมาให้เห็น UFO? ไม่ใช่ๆ มันคือผีเสื้อที่กล้องถ่ายหายไปครึ่งตัวตางหาก หรือไม่ก็คนเลือนไปกับทางเดินแบบนี้ และแบบนี้ และบางครั้งความผิดพลาดของกล้องก็ทำให้เกิดเรื่องบังเอิญตลกๆ แบบนี้ เจ็ตสกีมีขา? และแน่นอนว่าการไปถ่ายเจอเรื่องแปลกๆ มันก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน มั่นใจนะว่าจักรยานเขานั่งแบบนั้น คนหัวม้า… นั่งกินกล้วย… ข้างถนน? นักบิดปริศนาที่ยืนอย่างเดียวดายกลางทุ่ง คนสองคนที่ Yes กันอยู่ข้างถนน นักรบที่กำลังจะสู้กันที่ข้างถนน …
-
หรือว่ากูเกิลกำลังกวนประสาทเรา? 18+1 ภาพสุดฮาที่คนไปเจอระหว่างที่กำลังค้นหาข้อมูล
พวกเรากำลังอยู่ในยุคที่ไม่ว่าจะเป็นคำถามหรือปัญหาใดๆ เราก็สามารถหาคำตอบได้จากอาจารย์กูเกิลในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที (นอกเสียจากว่าเน็ตจะห่วยสุดๆ อ่ะนะ) แต่คุณรู้ไหมว่าบางครั้งนั้น กูเกิลก็แอบกวนประสาทเราอยู่เหมือนกันนะ ไม่เชื่ออย่างนั้นเหรอ งั้นลองไปดูภาพหลักฐานทั้ง 18 ภาพต่อไปนี้ได้เลย จะได้รู้ว่ากูเกิลกำลังกวนประสาทเราอยู่จริงๆ Hot biker chicks แปลได้ทั้ง สาวนักบิดแจ่มๆ และลูกไก่นักบิดแจ่มๆ Rock in a pool หาหินในสระน้ำ ได้หินจริงๆ The Rock มาเอง Best. Fridge. Ever. สุดยอดตู้เย็น R2-D2 ไง จะใครล่ะ A swan หงส์… คือจะเอาหงส์ที่มันเป็นตัวๆ A muscular guy ชายนักกล้าม…ได้เสื้อกล้ามเทียม When Wi-Fi is down เมื่อไม่มีไวไฟ A vacuum cleaner USB เครื่องดูดผุ่นแบบ USB The…
-
ฤา Google จะเป็นผู้กุมความลับของคนทั้งโลก? ไปดูกันว่าพวกเขาได้ข้อมูลอะไรจากเราบ้าง?
ถ้าข่าวที่ว่ามีข้อมูลผู้ใช้ Facebook กว่า 50 ล้านชุดหลุดรั่วออกไปทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลแล้วล่ะก็ เราอยากบอกว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือบริการไหนๆ พวกเขาก็มักจะคอยเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ไปทั้งนั้น โดยเฉพาะเจ้าพ่อเสิร์ชเอนจินอย่าง Google ต้องบอกว่าข้อมูลที่พวกเขามีอยู่ในมือนั้นละเอียดยิบราวกับว่าเขาคือคนสนิทของเราคนนึง ที่คอยตามติดเฝ้าดูชีวิตคุณอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล (อย่างกับสตอล์กเกอร์) เราลองมาไล่เรียงไปเป็นข้อๆ เลยดีกว่าว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับเราบ้าง? Google รู้ว่าคุณไปไหนมาบ้างในแต่ละวัน Google จะคอยเก็บข้อมูลทุกๆ ที่ที่คุณไป (ในกรณีที่คุณเปิดระบบ GPS) พวกเขาจะบันทึกทุกๆ ข้อมูลการใช้และรู้ว่าคุณเคยไปที่ไหนมาบ้าง ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ ลองกดที่ลิงก์นี้ดูสิ google.com/maps/timeline แล้วคุณจะระลึกชาติได้ทันทีว่าเคยไปไหนมาบ้าง Google รู้ว่าคุณเคยค้นหาและลบอะไรบ้างในอินเตอร์เน็ต (ใช่ พวกหนังโป๊ก็ด้วย) Google เก็บข้อมูลการค้นหาบนอินเตอร์ทั้งบน PC รวมไปถึงอุปกรณ์พกพาต่างๆ และแม้ว่าคุณจะลบมันไปแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้ข้อมูลก่อนจะลบไปแล้วเรียบร้อย ถ้าอยากรู้ว่าคุณเคยค้นหาหรือกดลิงก์อะไรบ้าง ลองเข้าไปเช็กที่ลิงก์นี้ดูนะ myactivity.google.com/myactivity Google จะมีโฆษณาที่ตรงกับตัวตนของคุณ Google จะสร้างโฆษณาที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับตัวตนหรือความชอบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่ เพศ อายุ กิจกรรมยามว่าง ความสนใจ ความสัมพันธ์บลาๆๆ ถ้าคุณอยากรู้ว่า Google คาดเดาสิ่งเหล่านี้ได้ยังไง ลองกดลิงก์นี้ไปเลย adssettings.google.com/authenticated…
-
อดีตพนักงานสาวจ่อฟ้อง Google เนื่องจากคนในมีพฤติกรรมเหยียดเพศ กดขี่และลูบคลำสารพัด!!
การคุกคามทางเพศ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ยังคงเกิดขึ้นในทุกสังคมไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ข่าวเหล่านี้มักจะปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆ และเชื่อว่าการคุกคามทางเพศนี้เกิดขึ้นหลายครั้งไม่เว้นแต่ละวัน… Loretta Lee อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์สาว ก็เป็นคนหนึ่งที่เคยถูกกระทำการคุกคามทางเพศ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นเธอถูกคุกคามในองค์กรใหญ่ระดับโลกอย่าง Google เธอตัดสินใจยื่นคดีฟ้องร้อง Google สำนักงานใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้เหตุผลประกอบว่าในบริษัทมีการสร้างวัฒนธรรมที่เรียกว่า Bro Culture (การกระทำแผลงๆ ของผู้ชาย) และมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน หญิงสาวบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า เธอทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับบริษัทนี้มาเป็นเวลา 8 ปี ซึ่งช่วงเวลาเหล่านั้นเป็นเวลาที่เธอถูกคุกคามอย่างหนักจากสิ่งที่เรียกว่า Bro Culture และเธอถูกล่วงละเมิดจากเพื่อนร่วมงานผู้ชายบ่อยครั้ง เพื่อนร่วมงานคุกคามทางเพศเธอหลายอย่างทั้งการแตะเนื้อต้องตัว พูดจาลามกในปาร์ตี้บริษัท ส่งข้อความอนาจาร ปาลูกดอกใส่เธอ และแอบบุกไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอขณะที่มึนเมาด้วย เธอต้องทนกับพฤติกรรมต่างๆ ของเพื่อนร่วมงานผู้ชายเหล่านี้ โดยที่เธอไม่สามารถทำหรือตอบโต้อะไรได้เลย รวมไปถึงการเหยียดเพศและเลือกปฏิบัติ ถึงแม้จะมีการรายงานไปยังบริษัทว่าเธอถูกคุกคามทางเพศหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการจัดการใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องราวมันมาถึงจุดที่ว่า เธอถูกไล่ออกเมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 โดยเหตุผลที่ว่า เธอไม่มีประสิทธิภาพดีพอ…
-
Top 10 เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพที่ถูกค้นหาใน Google พร้อมคำตอบที่เป็นประโยชน์กับชีวิตของทุกคน
ในยุคสมัยที่คนเราสามารถหาแทบทุกสิ่งทุกอย่างได้จากอินเตอร์เน็ตนั้น เชื่อว่าเพื่อนๆ อาจจะเคยเอาเรื่องเจ็บป่วยของตัวเองไปเสิร์ชหาใน Google ดูกันบ้างล่ะ ปวดหัวเป็นอะไรไม่รู้พอเสิร์ชดูปรากฏว่าเป็นเนื้องอกในสมองจ้า หรือไม่ก็เลือดกำเดาไหลเป็นอะไรหว่า หาไปหามา อ๋อ เป็นลูคีเมียนี่เอง เพราะอย่างนั้นจึงมีหลายๆ ไม่ค่อยเชื่อข้อมูลจาก วิธีนี้เท่าไหร่นัก แต่ก็ใช่ว่าข้อมูลการค้นหานั้นจะมั่วซั่วไปเสียหมด เพราะยิ่งมีคนค้นหามากเท่าไหร่ โอกาสที่ผลการค้นหาจะมาพร้อมกับข้อมูลดีๆ ก็จะมากขึ้นเท่านั้น และถ้ายิ่งเป็น 10 เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพที่มีการค้นหามากที่สุดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาแล้ว ข้อมููลที่ได้มานั้น มันยิ่งเต็มไปด้วยประโยชน์จริงๆ จะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยดีกว่า 1# อะไรทำให้คนเราสะอึก ไม่น่าแปลกที่คำถามพื้นๆ จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนเราค้นหากันมากที่สุด เพราะไม่ว่าอย่างไรเหตุผลของการสะอึกก็ยังไม่เป็นที่เด่นชัดแน่นอน มันต่างกันไปในแต่ล่ะคนและแทบจะหาเหตุผลที่เกิดอย่างแน่นอนไม่ได้ แน่นอนว่าทำไมมันถึงหายได้ก็ยังไม่เป็นที่ทราบเช่นเดียวกัน สำหรับเหตุผลที่พอจะรู้ก็มี การที่กระเพาะเต็มเกินไป ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป แอลกอฮอล์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสูบบุหรี่ ความตื่นเต้น ความเครียด เรื่อยไปยันโรคบางชนิดอย่าง ไตวาย 2# จะทำอย่างไรให้หยุดกรน อันนี้คนที่ค้นหาอาจจะไม่ใช่คนกรนเองเท่าไหร่ แต่เป็นคนนอนข้างๆ มากกว่า อย่างไรก็ตามการกรนนั้น เลี่ยงได้ด้วยการ 1. เปลี่ยนท่านอน ให้ยกหัวให้สูงขึ้น หรือนอนตะแคงข้าง 2. ลดน้ำหนักส่วนเกิน 3. เลิกหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์…
-
เหล่ามือใหม่ที่ดันเข้าใจผิด ไปพิมพ์ค้นหาในหน้าเพจปลอมที่มีชื่อว่า Google Search App
ปัจจุบันเวลาที่เราต้องการจะหาข้อมูลหรืออยากได้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องบางเรื่อง สิ่งที่จะสามารถช่วยพวกเราได้ก็คือ Google เว็บไซต์ Search Engine ที่รู้จักกันไปทั่วโลก พวกเราแทบทั้งหมดรู้ดีว่าถ้าอยากหาอะไรใน Google เราก็แค่เพียงเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของเขา แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเล่นคอมมาก่อน หรือเหล่าคุณปู่คุณย่าที่เพิ่งหัดเล่น พวกเขาก็อาจจะไม่รู้ว่า Google ต้องเขาไปตรงไหน จนกลายเป็นความสับสนขึ้นมาได้ ในเฟซบุ๊กมีเพจหนึ่งที่ชื่อว่า Google Search App เป็นเพจที่สร้างความสับสนให้กับกลุ่มคนที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า Google หน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้พวกเขาเข้าไปพิมพ์ถามเรื่องที่อยากรู้จากเพจนี้แทน หน้าตาของเพจ Google Search App แน่นอนว่าช่องที่พวกเขาพิมพ์ลงไปมันไม่ใช่ช่องค้นหา แต่มันคือช่องสำหรับการโพสต์ต่างหาก นั่นจึงทำให้เราได้เห็นว่าเหล่ามือใหม่ทั้งหลายนั้นมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง และนี่ก็คือตัวอย่างของคนที่ “ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยย” สงสัยเธอคนนี้คงอยากจะรู้ว่าใครโทรมา ชายคนนี้ก็คงจะชอบกีฬาบาสไม่มากก็น้อย ถึงขั้นมาถามหาตารางแข่งบาสในนี้ นอกจากจะเป็นมือใหม่ในเรื่องการใช้เน็ตแล้ว เขายังเป็นมือใหม่ในเรื่องโทรศัพท์อีกด้วย เพราะแค่วิธีเปลี่ยนซิมแกยังต้องมาถามเลย คิดว่าเขาน่าจะหมายถึงนักร้องชื่อ Lil Wayne นะ และอันนี้ก็อาจจะหมายถึง Youtube หรือเปล่า หารูปสัตว์…
-
เมื่อหลานสอน “คุณยายวัยเก๋า” ลองใช้ “เทคโนโลยียุคใหม่” เกิดเป็นเรื่องสุดป่วนสุดฮา!!
ในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นได้ก้าวกระโดดไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมโทรศัพท์จะต้องมีขนาดใหญ่ก็หดเหลือขนาดเล็ก แต่ก่อนจะส่งข้อความก็ต้องใช้จดหมายแต่มาในตอนนี้ก็มีอินเตอร์เน็ตมาช่วยให้เราสบายขึ้น และไหนจะผู้ช่วยที่เป็น AI ที่สามารถตอบคำถามและคอยจัดการทุกอย่างให้เราได้อีก… และเมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ เหล่าผู้สูงอายุที่ไม่เคยเจอกับเทคโนโลยีอะไรแบบนี้ ทุกอย่างก็ล้วนถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา โดยเฉพาะระบบ AI ผู้ช่วยที่ในยุคสมัยของพวกเขายังไม่มีนั่นเอง และนั่นก็ทำให้พวกคนชราส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะเปิดใจยอมรับมันสักเท่าไหร่ กลับกันคุณยาย Kathleen Todd วัย 95 ปีคนนี้กลับหลงรักเทคโนโลยีมากๆ แม้จะอายุมากขนาดนี้แล้วก็ตาม… ยิ่งล่าสุดคุณยาย Kathleen นั้นได้พบกับเทคโนโลยีผู้ช่วยสุดล้ำ ที่หลานของเธอเพิ่งจะซื้อมาให้ได้ไม่นานเพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ซึ่งมันก็คือเจ้า Google home นั่นเอง ซึ่งเมื่อเธอได้ลองใช้เจ้า Google home ไปสักพัก เธอก็ตกหลุมรักและยอมรับเลยว่าตอนนี้เธอเป็นแฟนตัวยังของ Google ไปแล้ว แถมยังเล่าถึงเพื่อนใหม่ของเธอผ่านเฟซบุ๊กอีกด้วย คุณยายแกเล่าว่า มีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้านของเธอ ซึ่งสมาชิกที่ว่านั้นชื่อ Google สมาชิกใหม่คนนี้สามารถทำได้ทุกอย่างเลยเพียงแค่เรียกพูดว่า “Hey Google!!” ยกตัวอย่างเช่นเธอได้ขอให้มันปลุกเธอตอน 6 โมง 15 และเพื่อนใหม่ก็ทำให้ คุณยายยังบอกอีกว่า เธอสามารถถามหาสูตรอาหารจากเพื่อนใหม่ได้ด้วย แม้ว่าบางอย่างเพื่อนใหม่ก็ทำไม่ได้เช่นกัน ซึ่งคุณยายก็ไม่ว่าอะไรพร้อมบอกว่าทุกคนล้วนไม่ได้สมบูรณ์แบบ …
-
Google จ้างพนักงานเพิ่ม 30 คน เพื่อตามหาจักรยานของพนักงานที่ชาวบ้านขโมยไปกว่า 250 คัน!!
หลังจากที่ทาง Google ได้สร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นที่ Silicon Valley เราต่างรู้ดีว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่นี้มีสวัสดิการให้พนักงานมากมาย รวมถึงการให้บริการรถจักรยานฟรีเพื่อให้สามารถสัญจรไปมาในออฟฟิศขนาดกว้างใหญ่นี้ ล่าสุดดูเหมือนว่าบริการดังกล่าวจะมีปัญหาซะแล้ว หลังจากที่รถจักรยานจำนวนมากถูกชาวบ้านในละแวกนั้นขโมยไปใช้ซะอย่างนั้น!! เมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Google กำลังเผชิญกับปัญหาจักกรยานของเหล่าพนักงานกว่า 100-250 คันที่ถูกขโมยไป จากทั้งหมด 1,100 คัน!? งานนี้ทำเอาบริษัทดังถึงขั้นต้องกลับมาคิดหนักเรื่องให้บริการจักรยานฟรี และจ้างคนสำหรับตามหารถที่หายไปโดยเฉพาะกันเลยทีเดียว หลังจากคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่หลายวิธี ในที่สุดทาง Google ได้ลงทุนจ้างพนักงานกว่า 30 ตำแหน่งและรถตู้อีก 5 คันสำหรับการปฏิบัติภารกิจตามหาจักรยานที่หายไปนี้ นอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้ติดตั้งระบบ GPS พร้อมกำหนดให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น ที่สามารถใช้โทรศัพท์มืิอถือเพื่อปลดล็อครถจักรยาน เป็นการแก้ปัญหาอีกทางด้วยเช่นกัน โครงการจักรยานสำหรับพนักงานนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ก่อนที่จะพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2015 ทางบริษัทได้ลงทุนมากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐในการพัฒนาจักรยานและระบบดังกล่าวเพื่อใช้ใน Mountain View ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือต้องการให้คนเมืองนี้หันมาใช้จักรยาน รวมถึงทำให้เป็นเมืองจักรยานอย่างเช่นเมือง Copenhagen ของเดนมาร์กนั่นเอง คุณ Ken Rosenberg นายกเทศมนตรีของ Mountain…
-
AI จาก Google ฉลาดล้ำเกินไปแล้ว สามารถคาดเดาและให้คะแนนภาพที่มนุษย์น่าจะชอบได้ตัวเอง
ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี AI นั้นได้ถูกพัฒนาไปไกลขึ้นเรื่อยๆ โดยมันได้ถูกนำไปใช้ในหลายๆ ด้าน และหลายค่ายก็ต่างพากันเข็น AI ในแบบของตัวเองออกมาโชว์สักยภาพกันให้เพียบ เช่นเดียวกับ NIMA (Neural Image Assessment) ของทาง Google ที่พวกเขากำลังพัฒนาให้มันสามารถคาดเดาความชอบและสิ่งที่มนุษย์น่าจะทำ โดยตอนนี้ได้มีการทดลองให้เจ้า AI ตัวนี้สามารถจัดหมวดหมู่และให้คะแนนภาพต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานของมันนั้นก็ไม่มีอะไรมากเลย โดยเจ้า AI จะให้คะแนนภาพต่างๆ ตั้งแต่ 0.00 ถึง 10.00 ซึ่งมันจะวัดจากคุณภาพพิกเซลของภาพ องค์ประกอบและความสุนทรีย์โดยรวมของภาพนั้นๆ ถ้าเราลองเทียบสองภาพดู เราก็จะรู้สึกแบบเดียวกับเจ้า NIMA เช่นกันว่าภาพทางขวาดูดีกว่า เราอาจจะมองว่า แล้วทำไมเราต้องมาให้ AI ออกคะแนนให้กับภาพของเรา? คำตอบนั้นก็ง่ายมากๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเดิมๆ ซ้ำๆ ทีละ 20 ถึง 30 ภาพ การจะมานั่งคัดหาภาพที่ดีที่สุดทีละภาพก็คงจะเป็นอะไรที่เสียเวลา ฉะนั้นถ้าเราให้ NIMA มาให้คะแนนภาพต่างๆ มันก็จะช่วยให้เราลดจำนวนภาพที่เราคาดว่าจะชอบจาก 30 ภาพ…
-
มือดีใช้ระบบ ‘อัลกอริทึ่ม’ เปลี่ยนใบหน้าของดาราหนังโป๊ ให้กลายเป็น Gal Gadot ได้!?
ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำในปัจจุบัน ทำให้โปรแกรมต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์สามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมากมาย ซึ่งก็มีหลายคนที่นำโปรแกรมเหล่านี้ไปสร้างประโยชน์ให้กับสังคม แต่ก็มีอาจมีบางคนใช้ไปในทางที่ผิดเหมือนกับคนๆ นี้ได้นำใบหน้าของดาราภาพยนตร์เรื่องดังไปตัดต่อใส่ในหนังโป๊ซะอย่างงั้น และเหยื่อของการกระทำครั้งนี้ก็คือ Gal Gadot ดาราสาวสุดสวยผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Wonder Women โดยเธอถูกตัดต่อใบหน้าลงไปในวิดีโอโป๊เรื่องหนึ่ง โดยในฉากนั้นเธอต้องมีเซ็กส์กับลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง และจากภาพวิดีโออันล่าสุดของ Gal หากลองมองดูดีๆ จะพบว่ายังมีร่องรอยของการตัดต่ออยู่ อย่างบางทีก็มีใบหน้าที่เคลื่อนหลุดออกจากตัวบ้าง และคำพูดที่ออกมาก็ยังไม่ตรงกับปากอีกด้วย Gal Gadot ในวิดีโอโป๊ที่เธอถูกตัดต่อลงไป วิดีโอโป๊นี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บบอร์ดชื่อดังก้องโลกอย่าง Reddit ผ่านผู้ใช้ชื่อว่า deepfakes เป็นผู้โพสต์วิดีโอดังกล่าว โดยเขาได้อธิบายว่าเขาสร้างวิดีโอการตัดต่อเหล่านี้ขึ้นโดยใช้ machine learning อัลกอริทึ่มสาธารณะ ที่ใครๆ ก็สามารถใช้งานได้ที่มีชื่อว่า Tensorflow ของ Google ในการตัดต่อวิดีโอครั้งนี้ โดยในอดีต ยูสเซอร์ deepfakes ก็เคยตัดต่อดาราฮอลลีวูดลงไปในหนังโป๊แนวฮาร์ดคอร์มาแล้วหลายคนไม่ว่าเป็น Scarlett Johansson, Maisie Williams, Taylor Swift, Aubrey Plaza และเหยื่อรายล่าสุดก็คือ Gal Gadot นั่นเอง ลองดูดีๆ แล้วจะพบความไม่แนบเนียนอยู่ สำหรับ deefakes นั้นเขาได้ออกมาเผยว่าเขาไม่ใช่นักวิจัยปัญญาประดิษฐ์แต่อย่างใด เขาเป็นเพียงโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งที่สนใจในระบบ…
-
เปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง Pixel 2 กับ iPhone 8 กล้องฝั่งไหนจะมีดีมากกว่ากัน?
ปัจจุบันนี้ เรามีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนให้เลือกใช้มากมายหลายร้อยรุ่น หลายคนอาจเลือกจากระบบปฏิบัติการ หลายคนอาจเลือกจากขนาดหน้าจอ แต่หนึ่งฟีเจอร์ที่หลายๆ คนใช้ในการเลือกซื้อโทรศัพท์ซักรุ่น ก็คงจะหนีไม่พ้น “กล้อง” นั่นเอง สำหรับโทรศัพท์ที่มีกล้องคุณภาพดีในตลาด หลายคนคงคิดถึง Samsung Galaxy S และ Note หรือไม่ก็ iPhone เป็นอย่างแรกแน่ๆ แต่เมื่อปีก่อน ทาง Google ได้เปิดตัวโทรศัพท์ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการกล้องมือถืออย่าง Pixel ออกมา ซึ่งทางเว็บไซต์ทดสอบกล้องชื่อดังอย่าง DxOMark ได้ยกให้ Pixel เป็นโทรศัพท์ที่มีกล้องดีที่สุดประจำปี 2016 ตามมาด้วย iPhone 7 และ Galaxy S6 Edge (ปีก่อน Note 7 บึ้มไป เลยไม่ได้เอามาทดสอบ) ล่าสุดทาง Google ได้ปล่อยโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ต่อยอดจากตัวเก่านั่นก็คือ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL…
-
ชาวเน็ตสงสัยถึงความผิดพลาดในการออกแบบ “โลโก้กูเกิ้ล” แท้จริงแล้วมันมีเบื้องหลังอยู่!!
“โลโก้” ถือเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญของแบรนด์ที่ทุกบริษัทจำเป็นต้องมี เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว โลโก้ยังเป็นประตูด่านแรกที่ทำให้ผู้คนสามารถจดจำ สนใจ และรู้จักแบรนด์ต่างๆ ได้ง่ายขึ้น Google เป็นหนึ่งใน Search Engine ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก และเราก็เชื่อว่าคงไม่มีคนเล่นอินเทอร์เน็ตคนไหนไม่รู้จักอย่างแน่นอน สำหรับบริษัท Google ได้ทำการออกแบบโลโก้บริษัทเป็นตัวอักษรคำว่า Google โดยถูกออกแบบขึ้นมาในลักษณะที่เรียบง่าย เป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังมีการเติมความสนุกด้วยการแต่งเติมสีสันของตัวอักษรให้ดูแตกต่างกัน และแม้ว่าโลโก้ของ Google จะได้รับการปรับโฉมใหม่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้ชาวเน็ตบางคนได้สังเกตถึงความผิดพลาดของการออกแบบตัวอักษร “G” ของ Google ที่ควรจะมีสัดส่วนที่เป๊ะมากกว่านี้ ไม่ใช่บิดๆ เบี้ยวๆ แบบนี้… งานนี้จึงทำให้ทางบริษัทพยายามแก้ไขโลโก้ของ Google ให้ดูสมมาตรกัน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่าเวอร์ชั่นที่ถูกปรับ กับเวอร์ชั่นต้นฉบับมีความต่างกันนะ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ชาวเน็ตพากันตั้งคำถามไปยังบริษัทว่า ทำไมตัวอักษร G จึงดูผิดสัดส่วน และไม่สามารถอธิบายความสมมาตรได้ ตัวอักษร G ที่เราเห็นนั้น จริงๆ แล้วอาจไม่ได้มาจากวงกลมที่สมบูรณ์แบบเสมอไป ซึ่งความหนาของตัวอักษรก็ไม่สมดุลกันอย่างเห็นได้ชัด…
-
Google Street View จับภาพ “คุณป้าปั่นจักรยานตกร่องน้ำ” กลายเป็นความฮาระดับนานาชาติ..!!
บ่อยครั้งเรามักจะเห็นภาพตลกโปกฮาโดยไม่ได้ตั้งใจของชาวบ้าน ที่ดั๊นมาปรากฎโชว์อยู่บนภาพของกูเกิลสตรีท งานนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทนอายไปอีกกี่ปี (กว่าจะเปลี่ยนภาพใหม่) ซึ่งล่าสุดก็ได้มีชาวเน็ตตาดีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @ichigoKJC บังเอิญสังเกตเห็นภาพของคุณป้านิรนามคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าปั่นจักรยานอีท่าไหน ต๊กกะใจโม๊ะเลย!! ภาพของคุณป้าสุดฮาปรากฎขึ้นมา เมื่อเจ้าตัวลองมาสำรวจพื้นที่ย่านฟูจิเอดะ ในเมืองชิซูโอกะ แต่ดูเหมือนชาวเน็ตคนนี้จะเจอสิ่งที่น่าสนใจกว่า… เอ้าา สู้เขาคุณป้า คุณป้าแกจะค่อยๆ ปั่นมาอย่างช้าๆ ราวกับว่ากำลังบริหารร่างกาย โผล๊ะ..!! เสียงถุงแกงแตกทันทีเมื่อตกพื้น ตอนแรกคุณป้าก็แอบงงๆ ปั่นอยู่ดีๆ มายืนได้ไง ดูเหมือนว่าแรงโน้มถ่วงของโลกจะหมุนเอียง คุณป้าถึงกับต้องเอนกล้ามเนื้อเอวไปข้างหน้าตามเลย เพียงชั่วพริบตาเดียวจักรยานของคุณป้าก็ถูกโลกดูดลงไป เช่นเดียวกับขาของเธอ หรือนี่จะเป็นจุดจบนะ โอ้ววไม่นะ.. สู้ต่อไปคุณป้าทานาโกะจัง (ชื่อมั่วเอา) ดูเหมือนว่าคุณป้ามิอาจต้านแรงจีของโลกได้ เธอจึงต้องยอมสละทั้งตัวเองและจักรยานก้าวลงไปในท่อน้ำทิ้ง อ้ออ๊อยยย… หลังจากที่มีชาวเน็ตนำเรื่องนี้มาโพสต์บนอินเตอร์เน็ต ก็มีหลายคนออกมาแสดงความเห็นว่า เหตุใดรถกูเกิ้ลถึงใจร้ายใจดำไม่ยอมลงไปช่วยคุณป้า ในขณะที่อีกหลายๆ คน ต่างก็แสดงความคิดเห็นเชิงเป็นห่วงเป็นใย ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมานานแล้วแต่ความตลกของคุณป้าจะอยู่ในใจทุกคนเสมอ… แรงโน้มถ่วงของโลกเรามันรุนแรงจริงๆ ขับรถขับราต้องระวังไว้นะจ๊ะ ที่มา: Rocketnews24
-
กูเกิ้ลฉลองครบรอบ 44 ปี ‘ดนตรีฮิปฮอป’ พร้อมปล่อยลูกเล่น มิกซ์และสแครชแผ่นแบบคูลๆ
ถ้าใครที่เป็นสาวกกูเกิ้ลตัวจริง หรือชอบเข้าหน้าหลักกูเกิ้ล เราก็จะรู้กันดีว่ากูเกิ้ลมักจะปล่อยกิมมิกเล็กๆ ออกมาอยู่บ่อยๆ บริเวณหน้าค้นหา เพื่อเป็นการฉลองในวันสำคัญต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก แต่ที่ทำให้ครั้งนี้มันน่าสนใจกว่าครั้งไหนๆ นั้นก็คือ กูเกิ้ลได้ปล่อยภาพดูเดิ้ลอาร์ตคำว่า กูเกิ้ลออกมา เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 44 ปี ของการเกิดเพลงแนวฮิปฮอป และปล่อยลูกเล่นให้เราสามารถมิกซ์เพลงและสแครชแผ่นเพลงได้ดั่งใจนึก!! ในส่วนวิธีการเข้าไปเล่นนั้นก็เพลงแค่เข้าไปหน้าหลักของกูเกิ้ล แล้วกดที่ตัวหนังสือ เท่านี้เราก็จะเข้าสู่หน้าหลักแล้ว ภายในก็จะมีการแนะนำประวัติความเป็นมาของเพลงฮิปฮอปว่ามีความเป็นมายังไง และเริ่มยังไงพร้อมภาพและเสียงประกอบที่ดูเพลินมากๆ เลยล่ะ จากนั้นเราก็จะได้รับคำแนะนำและวิธีในการใช้เครื่องเทิร์นเทเบิล แบบคร่าวๆ ส่วนเพลงที่เราสามารถนำมามิกซ์ก็จะมีให้เลือกใช้อยู่พอสมควร ไม่แน่ว่าบางคนพอได้ลองเล่นอาจจะติดใจอยากเป็นดีเจก็เป็นได้นะ สุดท้ายแล้ว นอกจากการมิ๊กเพลงและสแครชแผ่นแล้ว เรายังสามารถเรียนรู้เรื่องราวของวงการฮิปฮอปผ่านหน้าต่างเควสตรงรูปถ้วยได้ด้วย เจ๋งสุดๆ!! เอาเป็นว่าก็ขอให้สนุกกับเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของวงการฮิปฮอป และสนุกกับการหัดมิกซ์เพลงนะทุกคน!! เข้าไปเล่นกันโลด เรียบเรียงโดย #เหมียวมู่ทู่
-
วิศวกร Google คาด หุ่นยนต์จะฉลาดเกินมนุษย์ในปี 2045 และอาจเป็นจุดจบของมนุษยชาติ!!
ถ้าพูดถึงหนึ่งในประเด็นร้อนที่สุดในเวลานี้ ปัญหา AI คงจะต้องเป็นประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้ายักษ์ใหญ่ทางไอทีอย่าง Mark Zuckerberg และ Elon Musk เปิดสงครามด้านความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันในเรื่องนี้ไปแล้ว ล่าสุด Ray Kurzweil หัวหน้าแผนกวิศวกรรมจากฝั่ง Google ก็ได้ออกมาพูดว่า “หุ่นยนต์จะเริ่มปรับตัวและพัฒนาให้มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ในปี 2029 จากนั้นมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ” โฉมหน้าของตา Ray Kurzweil ผู้ออกมาพูดถึงการคาดเดาดังกล่าว แม้ว่าในตอนนี้สิ่งที่เราเรียกกันว่า Artificial Intelligence หรือ AI นั้นยังจะถูกจำกัดความอยู่แค่ผู้ช่วยในรูปแบบเสียง เช่น Siri หรือคอมพิวเตอร์อย่าง Deep Blue ที่ฉลาดจนชนะนักหมากรุกมืออาชีพได้ ก็ยังเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีข้อจำกัดในตัวของมันอยู่ ทว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ AI สามารถจะคิดวิเคราะห์ทุกอย่างด้วยตัวเองได้จริงๆ จนมันสามารถจะเรียนรู้และก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้ ในตอนนั้นแหละมันอาจจะเปลี่ยนแปลงตนเองจนกลายเป็น artificial super-intelligence หรือเรียกว่า ASI ซึ่งจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดล้ำและแข็งแกร่งยิ่งกว่ามนุษย์ จากนั้นยุคของหุ่นยนต์ก็จะเกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงปี 2029 ทุกอย่างบนโลกก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วโดยมนุษย์ไม่อาจทันตั้งตัว พอถึงปี 2045…
-
เมื่อค้นหาภาพเมืองหลวงต่างๆ ใน Google แต่ละภาพที่ได้นั้น งดงามประชันกันได้เลย!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการเข้าเว็บไซต์ Google คงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันกันไปแล้ว แต่เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่าหากเราเสิร์ชหารูปภาพของเมืองหลวงในแต่ละประเทศ เราจะได้พบเจอกับภาพใดเป็นภาพแรก? จะเป็นภาพชูโรงให้เราได้เห็นถึงความงดงามจนเกิดความรู้สึกว่าอยากไปเที่ยวเลยรึเปล่า? หรือว่าเป็นแค่ภาพธรรมด๊าธรรมดาที่ดูแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ก็ลองไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างนี้เลยจ้า… 1. Stockholm ประเทศสวีเดน 2. Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ 3. Berlin ประเทศเยอรมนี 4. Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน 5. Budapest ประเทศฮังการี 6. Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก 7. Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 8. Moscow ประเทศรัสเซีย 9. Lisbon ประเทศโปรตุเกส 10. Havana ประเทศคิวบา 11. Astana…
-
รู้จักกับโปรแกรมวาดภาพ AutoDraw จาก Google ที่จะเปลี่ยนภาพวาดห่วยๆ ให้ดูสวยงาม
สำหรับเพื่อนๆ ที่รู้ตัวเองว่าไม่มีความสามารถในการวาดภาพ แล้ววันนี้ #เหมียวหง่าว มีโปรแกรมวาดรูปแบบใหม่มานำเสนอ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ AutoDraw โปรแกรมวาดภาพที่แม้ว่าคุณจะวาดภาพไม่สวย แต่ก็สามารถดลบันดาลให้ภาพที่เราวาดกลายเป็นภาพที่สามารถเอาไปใช้งานต่อได้ เมื่อก่อนหน้านี้เพื่อนๆ คงเคยรู้จักกับอัลกอริทึม AI QuickDraw มาแล้ว ที่จะเดาว่าคุณวาดภาพอะไรลงไปในเว็บไซต์ เป็นผลงานของทีมงานจาก Google และวิธีการใช้งานของเจ้า AutoDraw ก็ไม่ยากอะไรเลย เพราะระบบการทำงานของมันก็ไม่ต่างอะไรกับโปรแกรม Paint มากมายนัก เพียงแต่ว่ามันมีระบบพิเศษขึ้นมาก็คือการจับคู่รูปภาพที่เราวาด กับภาพวาดต่างๆ ที่ทางระบบ AI ได้จดจำมาไว้เรียบร้อยแล้ว พอเราวาดอะไรลงไปมันก็จะประมวลผลและนำรูปภาพที่ใกล้เคียงกันมาให้เราเลือกข้างบน ที่เราต้องทำก็คือเลือกภาพที่เราต้องการ กี่ภาพก็ได้ตามที่ต้องการ จากนั้นก็ลงสี แถมยังสามารถบันทึกเอาไว้ไปใช้งานเนื่องในโอกาสต่างๆ ได้อีกด้วย!! รถโทรมๆ ก็เปลี่ยนให้เป็นภาพวาดรถที่ดูสวยงามได้ หอยทากเองก็เช่นกัน เราสามารถวาดยีราฟให้ออกมาดูสวยงามได้ด้วยนะ บ้านเบี้ยวๆ ก็ปรับให้ตรงได้ เจ้าหมาที่ว่าวาดยากๆ ก็สามารถวาดออกมาได้อย่างง่ายดาย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปทดลองใช้งานที่เว็บไซต์ AutoDraw ได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว (เสียแต่ค่าไฟกับค่าเน็ต ฮร่าๆ)…
-
กูเกิ้ลเผย ‘สุดยอดมนุษย์’ ที่เกิดจากการฝังชิพลงในสมอง พร้อมใช้งานจริงในปี 2029!!
ดูเหมือนว่าภาพของหุ่นยนตร์ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์ทั่วไป แบบที่เรามักจะเห็นตามหนังดังทั้งหลาย ดูใกล้จะเป็นความจริงมากเข้าไปทุกที ถึงเรื่องนี้จะฟังดูเหมือนนิยายไซไฟซักหน่อย แต่ล่าสุดผู้อำนวยการด้านงานวิศวกรรมประจำบริษัทกูเกิ้ล Ray Kurzweil ได้ออกมาเผยเองเลยว่า ภายในปี 2029 เราจะได้เห็นสุดยอดมนุษย์ที่เก่งกว่า และฉลาดกว่าอันเกิดจากการรวมร่างระหว่างมนุษย์ตัวเป็นๆ และเครื่องกลที่ฝังลงไปในสมองได้! Ray Kurzweil เล่าว่า ภายในปี 2029 เราจะมีระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ โดยระบบดังกล่าวจะทำการฝังชิพอัจฉริยะลงในสมองของมนุษย์ เพื่อเชื่อมต่อกับบริเวณเปลือกสมอง ตัวชิพดังกล่าวจะไปเชื่อมต่อกับระบบจัดการไฟล์ทั่วไป (Cloud) ซึ่งจะช่วยให้สมองของมนุษย์เข้าถึงข้อมูลจากทั่วทุกสารทิศได้ไวขึ้น และมีวิธีคิดอย่างชาญฉลาดมากกว่าเดิม โดยนวัตกรรมดังกล่าวถูกทดลองมาตั้งแต่ปี 1990 จนปัจจุบันสำเร็จลุล่วงไปแล้วถึง 86% Ray Kurzweil ‘ต่อไปในอนาคตความเป็นมนุษย์ของเราจะสนุกมากยิ่งขึ้น ทุกคนสามารถเป็นนักดนตรีที่ดีขึ้นได้ เป็นผู้เรียนที่มีความรู้หนาแน่น แม้แต่สาวๆ ก็จะดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบดังกล่าว’ Ray Kurzweil กล่าว นอกจากนั้นทีมวิจัยยังเคลมมาว่า นวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยทำให้เราเข้าใจระบบการทำงานของสมอง และอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นข้อดีที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปต่อยอดได้ในอนาคต ‘จริงๆ แล้วปรากฏการณ์นี้มันอยู่คู่มนุษย์เรามานานแล้ว อย่างเช่นสมาร์ทโฟน ที่กลายมาเป็นอวัยวะอีกชิ้นหนึ่งของมนุษย์ยุคใหม่ไปโดยปริยาย’ – Ray Kurzweil …
-
เด็ก 7 ขวบเขียนใบสมัครงานส่งไปให้ Google ทาง CEO ประทับใจ ส่งจดหมายตอบกลับ!!!
เด็กหลายๆ คนมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินอวกาศ เชฟ หรือไม่ก็เป็นนักผจญเพลิง แต่สำหรับเด็กสาวคนนี้กลับใฝ่ฝันที่อยากจะทำงานในบริษัทชื่อดังอย่าง Google กลายเป็นเรื่องราวสุดน่ารักเมื่อสาวน้อยวัย 7 ขวบ ส่งจดหมายไปสมัครงานกับบริษัท Google และก็ได้รับการตอบกลับจาก CEO ซะด้วย!! Chloe Brigewater เด็กสาววัย 7 ขวบ ได้ทำการเขียนจดหมายด้วยลายมือเล่าถึงความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ และบอกถึงความสนใจที่จะทำงานในสถานที่ที่มีเก้าอี้ฟูกและโกคาร์ทบริการให้กับพนักงาน ข้อความในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า… “ถึง Google Boss หนูชื่อว่า Chloe และเมื่อโตขึ้นหนูอยากทำงานร่วมกับ Google หนูยังอยากทำงานในโรงงานช็อคโกแล็ตอีกด้วย และไปว่ายน้ำแข่งขันในโอลิมปิค หนูต้องไปว่ายน้ำทุกวันเสาร์และวันอังคาร พ่อหนูบอกว่าถ้าไปทำงานที่ Google หนูจะได้นั่งทำงานบนเก้าอี้ฟูกแสนนุ่มนิ่ม สไลด์เดอร์ และเล่นโกคาร์ทแสนสนุก หนูชอบคอมพิวเตอร์เหมือนกันและมีแท็บเล็ตเป็นของตัวเองด้วยนะ หนูเล่นเกมที่คุณพ่อโหลดมาให้เป็นเกมที่ต้องบังคับหุ่นยนต์ขึ้นๆ ลงๆ เพื่อหลบกล่องสี่เหลี่ยม พ่อบอกว่าการเรียนคอมพิวเตอร์มันจะช่วยหนูได้มาก และพ่อบอกว่าจะซื้อคอมฯ ให้หนูด้วย หนูอายุ 7 ขวบ และคุณครูบอกแม่กับพ่อของหนูว่าหนูเป็นเด็กที่เรียนดีมากๆ ทั้งการอ่าน และการออกเสียง พ่อบอกว่าถ้าหนูตั้งใจเรียนและทำคะแนนดีๆ แบบนี้ต่อไป…
-
แม้ “ทรัมป์” จะมีคำสั่งแบนผู้อพยพ แต่ Google เตรียมต่อต้านด้วยการบริจาค 140 ล้านให้ผู้ลี้ภัย
กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โดนัดล์ ทรัมป์ เมื่อเขาได้ลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราว รวมทั้งแบนไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐอเมริกา แม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีกรีนการ์ดก็ตาม โดยช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ลงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และในอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาจะแบนวีซ่าจาก 7 ประเทศมุสลิม ประเทศในลิสต์ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เพื่อคัดกรองและลดความเสี่ยงที่จะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในประเทศ คำสั่งดังกล่างสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะคำสั่งแบนผู้อพยพดูจะขัดกับอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ รวมทั้งการแบนวีซ่า 7 ประเทศมุสลิมไม่เพียงส่งผลเฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ล่าสุด ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท Google คนปัจจุบัน เตรียมบริจาคเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพ และเขาเชื่อว่าพนักงานของบริษัท ก็จะช่วยบริจาคกันอีกราวๆ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิชัยได้กล่าวอีกว่าจะมีพนักงานของ Google ราวๆ 200 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนวีซ่ามุสลิมครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาได้สั่งให้พนักงานเหล่านั้น กลับมาในสหรัฐอเมริกาทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
ตามติดชีวิต Larry Page ผู้ก่อตั้ง Google และสุดยอดมหาเศรษฐีของโลก กว่าจะมาถึงวันนี้…
ถ้าพูดถึง Larry Page ชื่อนี้เพื่อนๆ คงไม่ค่อยคุ้นหูกัน แต่ถ้าพูดถึงผลงานของเขาอย่าง Google แล้ว คงไม่มีใครที่จะไม่รู้กัน และ Larry คนนี้นี่เองที่คือหนึ่งในผู้ที่ร่วมก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ แม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้เป็นหัวเรือใหญ่ของ Google แล้ว (ไปเป็น CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google อีกที!!) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือหนึ่งในคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกไปแล้ว และนี่คือเรื่องราวชีวิตของเขาล่ะ!! Gloria และ Carl Page คือแม่และพ่อของเขา ทั้งคู่เป็นศาสตราจารย์สอนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ Michigan State University สิ่งที่พวกเขาชอบทำก็คือการซื้อนิตยสารคอมพิวเตอร์มาสุมไว้เต็มบ้าน และนั่นทำให้ Larry สนใจในเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กๆ พวกเขาส่ง Larry ไปเรียนที่โรงเรียน Montessori โรงเรียนแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องการให้อิสรภาพทางความคิดและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ ซึ่ง Larry ถึงกับออกมาบอกเองเลยว่า การฝึกฝนและทัศนคติจากโรงเรียนแห่งนี้มีผลต่อความสำเร็จในชีวิตของเขาเป็นอย่างมาก อายุ 12 ปี Larry ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับนักประดิษฐ์ท่านหนึ่ง Nikola Tesla ตอนจบของเรื่องราวของเขานั้นไม่สวยหรูนัก เพราะว่าเขาเสียชีวิตทั้งๆ ที่จน…
-
รวม 17 เครื่องมือและโปรแกรมน่าใช้งาน จากเว็บไซต์ Google ที่คุณอาจเคยรู้ว่ามีอยู่….
ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Google แทบจะอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของเรา เวลานึกอะไรไม่ออกก็เข้าไปเสิร์ชหาข้อมูลในเว็บ Google อยากดูคลิปสนุกๆ ก็เข้า Youtube หลงทางก็เปิด Google Maps แถมระบบปฏิบัติการบนมือถือก็เป็น Android ของพี่กูอีกต่างหาก แต่รู้หรือไม่ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ข้างบนแล้ว Google ยังมีเครื่องมือและแอปพลิเคชั่นเจ๋งๆ อีกมากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน จะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย Google Keep แอปจดโน๊ตและเตือนความจำระดับเทพของกูเกิ้ลที่สามารถเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาจับเวลา เพียงแค่เราพิมพ์เวลาที่เราต้องการนับถอยหลังเป็นภาษาอังกฤษ แล้วต่อด้วยคำว่า timer เท่านี้กูเกิ้ลก็จะนับถอยหลังให้เราแล้ว Google Sky แค่เพียงเราพิมพ์ Google.com/sky ลงใบบนช่อง URL เท่านี้เราก็สามารถสำรวจอวกาศได้จากรูปภาพของกล้อง NASA satellite, the Sloan Digital Sky Survey, และ the Hubble Telescope Google Books nGram…
-
เกมสร้างเมือง!? ชวนเที่ยวญี่ปุ่นแบบ 3 มิติ ผ่าน Google Earth สวยสมจริง ฟินไปอีกแบบ
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่งของคุณ Real~Fine เข้า โดยในกระทู้เป็นการนำเอาภาพ 3 มิติจาก Google Earth มาให้เราได้ชมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว Google Earth จะแสดงผลโดยการดึงเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมมาหให้เราดู ภาพที่ได้ก็จะแบนๆ ไม่มีมิติอะไร แต่ในระยะหลังๆ มานี้ Google ได้พัฒนาระบบ 3 มิติของบ้านเรือน อาคาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดูเป็นรูปทรงโดดเด่นออกมาจากพื้นดินมากขึ้น ประหนึ่งว่าคุณกำลังเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้นเลย ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะเชิญชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Google Earth 3D ตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ลองมาดูกันว่าระบบ 3 มิติที่ว่านี้จะทำให้คุณเหมือนไปอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า? 1. พระราชวังอิมพีเรียล ภาพสถานที่จริง 2. โตเกียวทาวเวอร์ สถานที่จริง 3. ภูเขาไฟฟูจิ …
-
พนักงานรุ่นแรกของ Google ทั้ง 21 คน กับชีวิตในปัจจุบัน แต่ละคนไปไกลขนาดไหนนะ!?
ถ้าจะบอกว่าไม่รู้จักบริษัท ‘Google’ ก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อยในยุคนี้ ไม่ว่าจะหาข้อมูลทำรายงาน หาสูตรอาหาร หรือจะหาอะไรก็แล้วแต่ ก็ตั้งพึ่งพาอากู๋กันทั้งนั้น แต่กว่าที่บริษัทจะเติบโตขนาดนี้ได้ ก็ต้องเริ่มจากนับหนึ่งมาก่อน และข้อมูลจากเว็บไซต์ BusinessInsider นี้แหละ ที่จะพาเราไปดูกันว่า ปัจจุบันชีวิตของลูกจ้างทั้ง 21 คน ที่เคยร่วมก่อตั้งกันมา พวกเขาไปอยู่ที่ไหน และทำอะไร ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่รู้จัก แต่ขอบอกเลยว่าแต่ละคนนั้น อยู่ในระดับหัวกะทิสุดๆ 21. Marissa Mayer เริ่มงานกับบริษัทกูเกิ้ลด้วยตำแหน่ง ‘วิศวกรซอฟท์แวร์’ ปัจจุบันเธอได้กลายเป็น CEO ของเว็บไซต์ดังอย่าง Yahoo เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 20. Kendra DiGirolamo เริ่มงานกับกูเกิ้ลครั้งแรกในปี 1999 ในฐานะฝ่ายขายโฆษณา ก่อนจะลาออกจากบริษัท 3 ปีก่อนที่จะกูเกิ้ลจะลงสู่ตลาดหุ้น ปัจจุบันเธอทำงานให้กับ Driscoll’s บริษัทที่ขายผลไม้ชื่อดัง 19. Larry Schwimmer วิศวกรซอฟท์แวร์มือโปร ผู้ออกแบบระบบการจัดการพนักงานภายในบริษัท ช่วงที่กูเกิ้ลต้องเพิ่มอัตราพนักงานอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นผู้ออกแบบ ‘Google…
-
32 ภาพย้อนประวัติศาสตร์ Google จากหอพักนักศึกษา สู่บริษัทไอทีอันดับต้นๆ ของโลก!!
ตั้งแต่หอพักนักศึกษาจนกลายเป็นบริษัทดังระดับโลก ต้องยอมรับว่า ณ ขณะนี้ Google คือหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่ยิ่งใหญ่จริงๆ และวันนี้เราก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปดูจุดเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้กัน จากสิ่งเล็กๆ ที่เริ่มขึ้นในหอพักของนักศึกษาจนกลายเป็นบริษัทโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ากว่า 543,300 ล้านเหรียญ!? Google นั้นเกิดจากนักศึกษามหาวิทยาลัย Stanford ประเทศสหรัฐอเมริกา คือ Sergey Brin (ซ้าย) และ Larry Page (ขวา) สร้าง “BackRub” เสิร์ชเอ็นจินแรกขึ้นมา สถานที่ทำงานของพวกเขาก็คือหอพักนักศึกษานั่นแหละ แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนจาก “BackRub” มาเป็น “Google” ในภายหลัง… เรื่องน่ารักๆ ก็คือ เครื่องเซิฟเวอร์แรกของ Google นั้น ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเคสเป็นเลโก้ ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย Stanford นั่นแหละ “google.stanford.edu” ซึ่งภายหลังก็ได้จดทะเบียนโดเมนเป็น “Google.com” ในวันที่ 15 กันยายน 1997 ถึงกระนั้น Google ก็ยังใช้ปริมาณการส่งผ่านข้อมูลของทางมหาวิทยาลัยเยอะอยู่ดี ฝ่าย IT ของมหาวิทยาลัยจึงไม่ให้พวกเขาอยู่อีกต่อไป…
-
เปรียบเทียบภาพถ่ายจาก Pixel Phone ปะทะ iPhone 7 เฉือนคะแนนรีวิวไปได้หวุดหวิด!!
หลังจากที่ทาง Google ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับไปในทิศทางที่แตกต่างกันออกไป… และล่าสุดทาง Pixel Phone ก็ได้รับคะแนนรีวิวจาก DxO Mark (ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทดสอบเลนส์ และเซนเซอร์ต่างๆ บนกล้องถ่ายรูป) ไปอย่างท่วมท้นไปถึง 89 คะแนนเลยทีเดียว มาแรงแซงทางโค้งมือถือทุกรุ่นก่อนหน้านี้เลยทีเดียว และก็มากกว่าไอโฟน 7 ถึง 3 คะแนนด้วยกัน ทางด้านเว็บไซต์ Phandroid ที่เป็นสื่อเกี่ยวกับเทคโนโลยีของต่างประเทศที่ได้เข้าร่วมในงานเปิดตัวก็เลยอยากจะทดสอบความแตกต่างของความชัดระหว่างกล้องของ iPhone 7 และ Pixel Phone กันซะหน่อย ลองไปชมกันได้เลยจ้า… ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดนั้นก็จะเป็นในเรื่องของแสงและโทนสี โดยทางฝั่งของ Pixel Phone นั้นจะมีโทนสีเย็นกว่า ส่วนของ iPhone 7 นั้นจะมีโทนสีอุ่นมากกว่า ส่วนอีกเรื่องที่ Pixel Phone ทำได้ดีกว่าก็คือภาพพื้นหลังในส่วนที่เป็นภาพเบลอนั้นจะดูมีมิติ และชัดเจนกว่า iPhone 7 ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าทางฝั่ง iPhone…
-
ไม่น้อยหน้า!! ‘Google’ เปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel แอบเหน็บแนมค่ายผลไม้เบาๆ ฮาๆ
หลังจากที่แอปเปิ้ลทำการประกาศเปิดตัว iPhone 7 ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง แน่นอนว่าแฟนๆ ที่ตั้งน่าตั้งตารอก็อาจจะสมหวังไปตามๆ กัน บ้างก็รู้สึกว่าไม่โอเคโดยเฉพาะเรื่องที่ตัดรูเสียบหูฟังออกไป (ทำให้หลายๆ คนออกอาการบ่นเบาๆ) และล่าสุด สดๆ ร้อนๆ เลยทาง Google ได้ทำการอัพคลิปแนะนำโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแบบใหม่ล่าสุดชื่อว่า Pixel Phone ออกมา โดยในคลิปนั้นก็ยังไม่วายจะไปเหน็บแนมทางฝั่งค่ายผลไม้เค้าอีกด้วย ฮร่า และเจ้ามือถือใหม่จะมีฟังก์ชั่นอะไรเป็นพิเศษบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… เริ่มมาก็ถามแล้วว่าอยากได้โทรศัพท์ใหม่มั้ย!? แบบที่ว่าใหม่จริงๆ อ่ะ ไม่ต้องมีตัวเลขมากำกับรุ่น (อ่ะ เหน็บไปอีก 1ดอก) ตัวเครื่องมีให้เลือกสามสี สีดำสนิท สีน้ำเงิน (จริงๆ นะ) และสีแบบโคตรสีเงินเล๊ยยยยยย แบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ 7 ชั่วโมงโดยชาร์จเพียงแค่ 15 นาที กล้องที่มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนหน้าจอก็ทำออกมาเพื่อซัพพอร์ตกับระบบ VR (Virtual Reality) อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ มีพื้นที่สำหรับเก็บภาพและวิดีโออย่างไม่มีจำกัด (คาดว่าน่าจะเก็บไว้ใน Google…
-
รู้จักกับ Jack Chen ชายตาบอดผู้เป็นทนายให้กับ Google และทำหน้าที่ดีไม่แพ้คนปกติเลย..!!
คนปกติที่มีอวัยวะครบ 32 มักจะดูถูกความสามารถของตัวเอง ว่าไม่สามารถทำนั่นทำนี่ได้ อาจเพียงเพราะพวกเขาไม่กล้าหรือประเมินความสามารถของตัวเองต่ำไป แต่ #เหมียวฟิ้น อยากให้ทุกๆ คนดูผู้ชายคนนี้เป็นตัวอย่าง เพราะเขาตาบอด แต่กลับใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยงยิ่งกว่าคนปกติซะอีก ชายหนุ่มที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Jack Chen ชายตาบอดผู้ทำงานเป็นทนายความให้กับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google เขาสูญเสียดวงตาไปตั้งแต่เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 16 ปี แม้ว่าจะผ่านการผ่าตัดมาแล้ว 8-9 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขากลับมามองเห็นได้ นั่นหมายความว่าเขาคงจะต้องตาบอดไปตลอดชีวิต แต่คุณเชื่อไหมว่าการที่เขาตาบอดไม่ได้ขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันของเขาเลย เพราะเขายังใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ กินข้าว ขึ้นรถไฟฟ้า เรียนหนังสือ ทำงาน หรือแม้แต่การท่องตำราเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย Jack จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย(เบิร์กลีย์) ปัจจุบันเขาทำงานเป็นทนายให้กับ Google ในฐานะที่ปรึกษาเรื่องสิทธิบัตรระหว่างบริษัท ในแต่ละวันเขาต้องอ่าน (ฟัง) เอกสารจำนวนมาก เขาสามารถฟังคำพูดต่างๆ ได้มากถึง 620 คำต่อนาที และพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว เรื่องราวน่าทึ่งของนาย Jack ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะหลังจากที่เขาเลิกงานไปแล้ว เขาก็ยังใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยงจนคุณนึกไม่ถึงเลย เขาเข้าร่วมการแข่งขันไตรกีฬามาแล้วถึง…
-
ทัวร์ Data Center คลายข้อสงสัย ข้อมูลบนเน็ตมหาศาล เขาเอาไปเก็บกันไว้ตรงไหนยังไง!?
ในทุกวันนี้ ระบบอินเตอร์เน็ตช่างก้าวไกลไปมาก ไม่ว่าจะข้อมูล ภาพ คลิป หรือเอกสารอะไรก็ตามแต่ สามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตจนหมดแล้วซึ่งนับวันไอ้เจ้าข้อมูลเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางคนเริ่มสงสัยว่า “ข้อมูลเหล่านั้นมันเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?” เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับกระทู้หนึ่งของสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 2973363 ที่ตั้งกระทู้สงสัยเกี่ยวกับข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเช่น Facobook Youtube หรือเว็บไซต์ต่างๆ ว่ามีวิธีการจัดเก็บข้อมูลมหาศาลได้ยังไง? เพราะเนื่องจากในแต่ละวันมีคนส่งข้อมูลและคลิปต่างๆ เข้าไปเยอะมาก เราก็เลยขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้แบบง่ายๆ โดยจะเป็นการยกตัวอย่างศูนย์เก็บข้อมูลของ Google มาใช้อ้างอิง เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นภาพเดียวกันนะ ในทุกๆ ครั้งที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Google.com, Youtube.com, Gmail หรือดึงข้อมูลบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ต่างๆ คุณจะถูกเชื่อมต่อไปยังศูนย์ข้อมูลส่วนกลางที่ชื่อว่า Google Data Center ศูนย์ข้อมูลที่ว่านี้มีอยู่ในสหรัฐฯ 12 แห่ง ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็มีศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และไต้หวันด้วยเหมือนกัน แต่ที่เราจะพาไปชมกันตอนนี้คือศูนย์เก็บข้อมูลที่อยุ่ในเมือง Lenoir รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ที่นี่จะมีพนักงานคอยหมุนเวียนเปลี่ยนกะมาทำงานตลอด 24 ชม. เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลหรืออุปกรณ์ต่างๆ พวกเขาจะได้แก้ไขมันได้ทันท่วงที ห้องนี้คือ Networkong Room ห้องนี้จะเป็นห้องที่ใช้สำหรับเชื่อต่อฐานข้อมูลต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ ส่งต่อไปยังผู้ใช้ทั่วโลก .…
-
ใช่เหรอ…ทดลองค้นคำเดียวกัน ในภาษาอังกฤษกับเกาหลี แต่ผลลัพธ์ต่างกันสุดๆ!?
ในทุกวันนี้การจะค้นหาภาพสักภาพหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่คุณเข้าเว็บไซต์ค้นหา ทุกอย่างก็ลอยมาอยู่ในหน้าจอของคุณได้ง่ายๆ แต่ใช่ว่าคนทั้งโลกจะได้ภาพที่เหมือนๆ กันนะ เพราะอย่างที่เกาหลีใต้เอง บางครั้งคุณก็จะได้ภาพแปลกๆ แตกต่างจากภาพในประเทศอื่นๆ ได้เหมือนกัน… อย่างเช่นคำค้นหาที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันในตอนนี้ เป็นคำค้นหาง่ายๆ เช่น “ม้าขาว”, “น้องสาว” และ “กลางคืน” เราจะทำการค้นหาในภาษาอังกฤษเปรียบเทียบไปกับภาษาเกาหลี เพื่อดูว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นยังไง? 1. ม้าขาวภาษาอังกฤษ ม้าขาวภาษาเกาหลี… 2. น้องสาวภาษาอังกฤษ น้องสาวภาษาเกาหลี… 3. กลางคืนภาษาอังกฤษ กลางคืนภาษาเกาหลี… 4. คำว่า “ถนน” ในภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี… อย่างไรก็ตามการค้นหาภาพจากคำๆ เดียวกันในต่างภาษา อาจจะได้ภาพในบริบทที่แตกต่างกันอันเนื่องมาจากการใช้เป็นคำแสลงหรือเป็นคนที่ผู้คนใช้ค้นหาในสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในแต่ละภาษานั้นๆ แต่จะว่าไปมันก็ไม่น่าจะต่างกันมากขนาดนี้ เอ๋ นี่เรากำลังค้นหาคำๆ เดียวกันอยู่ใช่ไหมเอ่ย? ที่มา rocketnews24 เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
-
23 ประโยคเด็ดที่เพื่อนๆ สามารถนำไปค้นหาใน ‘Google’ แล้วจะทำให้ยิ้มกันได้แน่ๆ
ในเวลาที่เราพบเจอกับเรื่องแย่ๆ หลายๆ คนก็คงมีวิธีในการจัดการกับความรู้สึกที่ไม่ดีนั้นแตกต่างกันออกไป บ้างก็โทรไประบายกับใครซักคนหนึ่งที่ไว้ใจได้ บ้างก็ออกไปตะโกนในที่ที่ไม่มีใครเสียงดังๆ บ้างก็นั่งร้องไห้ เป็นต้น และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็มีวิธีในการสร้างความสุขให้กับตัวเองด้วยการเสิร์จหาคำต่างๆ เหล่านี้ใน Google หากว่าวันไหนพบเจอกับเรื่องแย่ๆ มาล่ะก็ ลองเอาวิธีไปใช้กันดู มันอาจจะช่วยให้อารมณ์ของเพื่อนๆ ดีขึ้นมาไม่มากก็น้อยเลยทีเดียวล่ะ ^^ (เวลาค้นใช้ภาษาอังกฤษตามแบบภาพต้นฉบับได้เลยนะฮะ) 1. แมวที่โดนตัดขนคล้ายสิงโต 2. หมาในชุดนักธุรกิจ 3. Nicolas Cage บ้าไปแล้ว!!! 4. เจ้าหนู Pygmy 5. กบทะเลทราย (หน้าตาน่าร๊ากกก) 6. กระต่ายยักษ์ 8. หมาน้อยในชุดนอน >< 9. คอร์กี้ในชุดคอสตูม 10. สกั๊งตัวน้อย 11. ตูดคอร์กี้ …
-
นโยบายระดับเทพของ Google ที่ให้พนักงานสามารถ ‘บริจาค’ วันหยุดให้คนอื่นๆ ได้!!!
ถ้าพูดว่าบริษัท Google นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลก หลายๆ คนก็คงไม่มีใครกังขากันในเรื่องนี้ และแน่นอนกว่าจะก้าวมาเป็นบริษัทระดับโลกได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และถ้าทำเหมือนบริษัททั่วๆ ไปพวกเขาคงไม่ได้มายืนถึงจุดนี้ใช่รึเปล่า?? นโยบายวันหยุดของพนักงานที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากที่อื่น กล่าวคือตามอายุงาน พนักงานอายุงาน 1-3 ปีจะสามารถหยุดได้ 15 วัน พนักงานอายุงาน 4 ปีสามารถหยุดได้ 20 วัน และถ้าทำมากกว่า 6 ปีพวกเขาจะสามารถหยุดได้ถึง 25 วันเลยทีเดียว!!! เรียกได้ว่าเป็นวันหยุดที่มากพอสมควร แต่เพื่อนๆ เคยได้ยินเรื่องการบริจาควันหยุดระหว่างพนักงานรึเปล่า!? เรื่องของเรื่องคือระบบในรูปแบบนี้เข้ามาเมื่อพ่อแม่ของพนักงานคนหนึ่งป่วย แน่นอนเขาใช้วันลาของเขาหยุดลาไปเพื่อดูแลสมาชิกในครอบครัว แต่เมื่อวันลาของเขาหมดอาการของพ่อแม่ก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นเขาต้องเลือกระหว่างการถูกหักเงินหรือกลับมาทำงานทั้งๆ ที่พ่อแม่ยังป่วยอยู่… หนึ่งในเพื่อนร่วมงานของเขาก็เกิดปิ๊งไอเดียเกี่ยวกับเรื่องการบริจาควันหยุดขึ้น และทำเรื่องขอฝ่ายบริหารเพื่อให้เพื่อนของเขาสามารถเอาวันหยุดของตัวเองไปได้ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการบริจาควันหยุดในบริษัท Google ล่ะ!!! การบริจาควันหยุดในกลุ่มพนักงาน… Laszlo Bock หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของทางบริษัท Google ได้พูดเรื่องนี้ในวันที่เหล่าพนักงานพาพ่อแม่มาเยี่ยมชมที่ทำงานของพวกเขา ‘หลังจากนั้นมาเราก็มีนโยบายมอบวันหยุดให้กับเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็คือมันเป็นน้ำใจที่คุณสามารถให้เพื่อนร่วมงานของคุณได้’ เขากล่าว สิ่งหนึ่งที่ Google พยายามจะมอบให้กับเหล่าพนักงานของพวกเขาก็คือสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ที่สำคัญที่สุดคือการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และอิสระในการทำงานกับพวกเขา…
-
ไม่ต้องขอบคุณจ๊า!! ยายที่ถาม Google แบบสุดฮา ได้รับการตอบกลับดีๆ จากบริษัทด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวเลเซอร์ ได้เสนอเรื่องราวอันน่ารักของคุณยายที่ถูกหลายแฉวิธีการใช้กูเกิ้ลของเธอ หลังจากที่ไปแอบเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเจอกับสิ่งที่คุณยายได้สอบถามขอร้องให้กูเกิ้ลช่วยแปลจำนวนตัวเลขโรมันให้แบบสุภาพมากๆ (ข่าวเก่า) หลังจากที่ Ben John เจ้าหลานชายตัวแสบแอบแฉคุณยายตัวเองผ่านทวิตเตอร์ไปแล้ว ก็ถูกอกถูกใจชาวเน็ตมากมาย แสดงให้เห็นถึงความน่ารักของคุณยายได้เป็นอย่างดี แล้วหลานชายก็แอบถามคุณยายด้วยว่า ทำไมต้องใช้คำว่า ‘กรุณา’ กับ ‘ขอบคุณ’ ด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าคุณยายของเขานั้นคิดว่ากูเกิ้ลเป็นคนที่มีตัวตนจริงๆ คอยตอบคำถามให้กับเธอแบบเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนั้นเลยยังไงล่ะ หลานชายตัวแสบ Ben John กับคุณยายผู้น่ารัก จนกระทั่งเรื่องราวอันน่ารักของคุณยายก็ไปเตะตากูเกิ้ลเข้าจนได้ แถมยังตอบกลับมาด้วยว่า ‘ถึงคุณยาย ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอกครับ จากใจพวกเราชาวกูเกิ้ล’ ถึงคุณยายของ Ben หวังว่าคุณยายจะสบายดีนะครับ ในโลกแห่งการค้นหาเป็นพันล้านครั้ง การค้นหาของคุณยายทำให้พวกเรายิ้มได้ อ้อ!! เกือบลืมไป คำตอบก็คือ 1998 นะครับ ขอบคุณครับ โอ้ยยยยย อะไรจะน่ารักปานนั้นเนี่ยยยยย นี่สิ เป็นตัวอย่างของการเอาใจใส่งานการให้บริการอย่างแท้จริง สร้างความสุขให้กับทั้งผู้รับและผู้ให้เลย อิอิ ที่มา : unilad
-
โถ่ ยาย!! หนุ่มแชร์วิธีการใช้งานกูเกิ้ลของคุณยายวัย 85 ปี ถามอย่างสุภาพพร้อมขอบคุณด้วย
คนเฒ่าคนแก่ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วนั้น อาจจะทำให้พวกเขาตามเทคโนโลยีไม่ทัน นั่นก็หมายถึงไม่เข้าใจหลักการใช้งานบริการหรืออุปกรณ์ไอทีต่างๆ ได้ อย่างการค้นหาในเว็บไซต์กูเกิ้ลเราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับผู้สูงอายุมันก็ยากเหมือนกันนะ Ben John หลานชายวัย 24 ปี ไปเจอมาว่าคุณยายของเขานั้นใช้กูเกิ้ลเพื่อทำการค้นหาอะไรบางอย่าง ซึ่งตามปกติแล้วการค้นหาของเราก็จะใส่คีย์เวิร์ดค้นหาลงไป แล้วก็ค่อยเลือกข้อมูลที่ถูกต้องตามที่เราต้องการมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าคุณยายวัย 85 ปี ของเขานั้นจะไม่เข้าใจหลักการทำงานของกูเกิ้ลซักเท่าไหร่ อาจจะรู้แค่เพียงว่า ‘อยากรู้อะไรให้ถามกูเกิ้ล’ ก็เลยมาเป็นประโยคยาวๆ ที่ว่า ‘กรุณาแปลเลขโรมัน mcmxcviii ให้หน่อย, ขอบคุณ’ ฮ่าฮ่า จะว่าไปก็เป็นอะไรที่น่ารักนะเนี่ย แบบว่าคนเฒ่าคนแก่จะมีมุมที่สุภาพมากๆ กับการขอร้องให้ผู้อื่นช่วยเหลือ อย่างกรณีนี้กูเกิ้ลถูกคุณยายถามซะไปไม่ถูกเลย อิอิ ที่มา : boredpanda, theladbible
-
Larry Page ซีอีโอ Google แอบเปิดบริษัทเล็กๆ เพื่อสร้าง ‘รถบินได้’ หรือว่ามันใกล้จะมาแล้ว!?
รถบินได้ หนึ่งในยานพาหนะแห่งโลกอนาคตที่เรามักจะได้เห็นอยู่บ่อยๆ ในหนังไซไฟ หรือหนังโลกอนาคต หลายๆ คนเห็นกันจนชินตา และจินตนาการไปว่าวันหนึ่งจะมีรถเหล่านี้จะมีให้ใช้กันจริงๆ ซึ่งถ้าดูจากอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ หรือเทคโนโลยีสมัยนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าเราขยับเข้าใกล้อนาคตกันมากแล้ว แต่จะเกิดขึ้นจริงเมื่อไหร่ ตรงนี้ก็คงต้องรอดูกันไปเรื่อยๆ ล่าสุดดูเหมือนความคาดหวังของพวกเราอาจจะใกล้เป็นจริงเต็มทีแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Yahoo ได้รายงานว่า Larry Page หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Google หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของธุรกิจมากมายทั้งเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล ระบบปฏิบัติการมือถือ และอีกมากมาย ได้แอบตั้งบริษัทลับๆ (ที่ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) ขึ้นมาเพื่อสร้างรถบินได้โดยเฉพาะ!? ตามรายงานของทางเว็บไซต์ยาฮู บอกว่า Page ได้ใช้เงินในการก่อตั้งบริษัทมากกว่า 100 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือประมาณ 3,500 ล้านบาท ในการก่อตั้งบริษัท Zee.Aero นอกจากนี้ยังใช้เงินอีกก้อนตั้งบริษัท Kitty Hawk ซึ่งเป็นชื่อที่มีความเกี่ยวโยงกับเมือง Kitty Hawk ที่ 2 พี่น้องตระกูล Wright สร้างเครื่องบินเป็นครั้งแรก …
-
Google ศึกษาวางแผนรับมือ Skynet ในอนาคต และยืนยันจะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น!!!
ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรามากซักเท่าไหร่แล้วล่ะ เพราะทุกวันนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ออกมาเหมือนกับภาพยนตร์ได้แล้ว เพียงแต่ว่าพวกมันยังไม่สามารถทำตามคำสั่งหรือทำตามหน้าที่ได้แบบสมบูรณ์ แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งสมองกลเหล่านี้สามารถพัฒนา คิด วิเคราะห์ จนสามารถทำหน้าที่ต่างๆ แทนมนุษย์ได้ ลามไปจนถึงการวางแผนที่จะยึดครองโลก กำจัดมนุษย์ออกไป โดยอ้างด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยแบบในหนังล่ะ? แม้กระทั่งคนดังทางด้านวิทยาการอย่าง Elon Musk และ Stephen Hawking ก็มีความรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มีความเป็นไปได้อยู่มากพอสมควร พวกมันก็อาจจะฉายแววเป็นหุ่นพิฆาต ถูกสั่งการมาจาก SkyNet เหมือนในหนังคนเหล็ก Terminator ก็เป็นได้!! และ Google เองก็มีผลงานผลิตภัณฑ์ทางด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เช่นเดียวกัน พัฒนาให้พวกมันสามารถนึกคิดเองได้ แต่ก็ควรที่จะมีแผนสำรองง่ายๆ อย่าง ‘สวิตช์ปิดเครื่อง’ ด้วย เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา ดังนั้น Google กับทีมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ Deep Mind จากอังกฤษ จึงทำการศึกษาหาหนทางป้องกันเพื่อยับยั้งหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมานั้นหยุดการทำงานทันที หากมีการกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นภัยอันตรายมนุษย์ ทั้งนี้ก็จะเป็นทั้งการปิดเครื่อง หยุดการทำงาน หรือเรียกการควบคุมให้กลับมาบังคับได้โดยมนุษย์อีกครั้ง และแน่นอนว่าเมื่ออุปกรณ์อัจฉริยะพวกนี้ออกมาใช้จริง เราต้องสามารถหยุดการทำงานของมันได้เมื่อต้องการ…
-
ตามติดชีวิตคนแบกกล้อง Google’s Street View เดินเที่ยวไทยกว่า 500 กิโลเมตร!!
Google’s Street View ถือเป็นมิติใหม่แห่งการนำทางเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากการมองแผนที่จากมุมมองข้างบน เราจะได้เดินทางไปบนถนนราวกับว่าเราได้ขับรถไปที่นั่นจริงๆ เลย นอกจากนี้ในส่วนที่ไม่ใช่ถนน ก็จะมีคนที่แบกกล้องที่ถ่ายได้ 360 องศาเดินตามทางไปถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ทำให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวของเราอยู่แค่ที่หน้าจอเป็นเรื่องที่ง่ายทันที ที่บ้านเราก็มีเหมือนกันนะ และผู้ที่ทำหน้าเดินเดินถ่ายภาพประเทศไทยก็คือคุณแมน ภานุพงษ์ ที่ต้องแบกกล้องน้ำหนักกว่า 18 กิโลกรัมไปทั่วประเทศไทย เป็นระยะทางกว่า 500 กิโลกเมตร ประกอบไปด้วยสถานที่กว่า 150 แห่ง เพิ่มลงไปในแผนที่ของ Google ให้เราได้เลือกดูเลือกชมกันได้ จุดที่เขาไปถ่ายส่วนมากก็จะเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ อุทยาน สถานที่โบราณ ไร่หรือสวนที่คนนิยมกันไป ลองเดินตามเขาดูไหม กดเลือนไปดูได้เลย หรือจะไปดูที่อื่นๆ ก็ตามไปได้ที่ Thailand Highlights ที่มา boredpanda
-
เผยภาพสำนักงานใหม่ Google อลังการล้ำสมัย สมกับตำแหน่งเบอร์หนึ่งในวงการ..!!
หลายๆท่านคงได้ยินข่าวคราวของการที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google จะทำการปรับปรุงสำนักงานใหญ่ใน Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ยังคงปิดตัวเงียบอยู่หลังจากที่ประกาศไปในช่วงกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ที่วางแผนของเมือง ได้อัพโหลดแผนในโครงการที่จะปรับปรุงสำนักงานใหญ่ของ Google ไปยังเว็บไซต์ของเมือง และตั้งสถานะว่า Active Projects (โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่) และแล้วก็ทำให้ชาวเน็ตได้เห็นในที่สุด ในแบบแผนตอนแรกจะสร้างเป็นหลังคาแก้วแทนหลังคาธรรมดา ซึ่งตอนนี้เราลองมาดูกันว่าจะคืบหน้าไปถึงไหนแล้ววว… ในเอกสารนี้รวมรายละเอียดต่างๆของแต่ละตึก โดยใช้ชื่อว่า Charleston East และจะให้เห็นพื้นที่ทั้งหมดและภาพรายละเอียดของแต่ละพื้นที่ พื้นที่ทั้งหมดของโครงการนี้มี 55,428 ตารางเมตร ในนั้นประกอบด้วยสวนจุดๆต่างๆ 4,185 ตารางเมตร และเส้นทางไปยังตัวอาคารอีก 5,638.8 เมตร ในพื้นที่นั้นต้นไม้ประมาณ 160 ต้นจะต้องถูกตัด ซึ่ง 100กว่าต้นนั้นเป็นต้นไม้ที่มีความเก่าแก่ ลานจอดรถที่สามารถจอดรถได้ 1,200 คัน ลานจอดรถจักรยานระยะยาวสำหรับจักรยานอีก 660 คันและชั่วคราวอีก 440 คัน ลองมาดูวีดีโอตัวอย่างกันซะหน่อยยยย บอกได้เลยว่าคงต้องรอชมในฉบับที่ปรับปรุงใหม่จนเสร็จแล้ว คงเป็นบริษัทที่มีตึกและบริเวณรอบๆที่สวยมากๆเลยทีเดียวว ที่มา : theverge
-
หลังจาก AlphaGo ชนะแชมป์โลกแล้ว เป้าหมายต่อไปของ Google คือเกม Starcraft เหรอเนี่ย!??
หลังจากที่ทาง Google ได้ทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนมาแล้ว จากระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่พัฒนาต่อจากเจ้าของเดิม (Google ได้ทำการซื้อบริษัท DeepMind มาเมื่อปี 2014 และตั้งชื่อใหม่เป็น Google DeepMind) ที่เป็นโครงข่ายประสาทเทียมระดับลึก มันสามารถเลียนแบบวิธีการจดจำระยะสั้นของมนุษย์ได้ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมมันถึงเล่นเกมเก่ง เพราะมันสามารถเรียนรู้วิธีการเล่นเกมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านการป้อนข้อมูลใดๆเลย นอกจากนี้ยังสามารถฝึกฝนและวิเคราะห์หาถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อีกหลายแนวทาง พร้อมกับประมวลโอกาสในการแพ้ชนะได้เป็นอย่างดี ล่าสุดทาง Google ได้สร้างเจ้า AlphaGo ขึ้นมา เพื่อทดสอบความสามารถของระบบ AI ของ Google DeepMind และแน่นอนเมื่อเหล่านักเล่นโกะทราบข่าวต่างก็อยากลองของกันทั้งนั้น ขนาดแชมป์โลกกระดานโกะ อย่าง Lee Sedol ก็ยังไม่รอด ซึ่งก่อนหน้านั้นแชมป์ได้บอกว่าจะชนะเจ้าเครื่องนี้ด้วยสกอร์ 4-1 เกม โดยคิดเผื่อไว้แล้วว่าจะแพ้อย่างน้อยแค่ 1 เกม แต่เอาเข้าจริงๆ กลับแพ้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าทาง Google DeepMind นี้กำลังมองหาความท้าทายรูปแบบใหม่ อาจจะเป็นสุดยอดเกมแนววางแผนระดับตำนานอย่าง StarCraft ของค่าย Blizzard (ที่เป็นเจ้าของเดียวกับชุดเกม Diablo)…
-
แคมเปญดีๆ จาก Google และ Zootopia โดยการติดกล้องในสวนสัตว์ ให้เหล่าสรรพสัตว์มาเซลฟี่กัน!!!
สำหรับช่วงนี้กระแสภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Zootopia ที่เป็นเรื่องน่ารักๆ เกี่ยวกับสรรพสัตว์ที่มาอยู่รวมตัวกันเป็นสังคมเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งก็แน่นอนว่าถูกใจเพื่อนๆ และเด็กๆ หลายๆ คนอย่างมาก ล่าสุดทาง Google ก็ได้จับมือกับภาพยนตร์ Zootopia โปรโมตสวนสัตว์ใน LA เพื่อรณรงค์ในเรื่องการสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่และเหมาะสมให้กับเหล่าสัตว์ในสวน ซึ่งแคมเปญที่ว่านั้นก็คือ ติดกล้องให้เหล่าสัตว์ได้ถ่ายเซลฟี่กันล่ะ ฮร่าาาาา… แคมเปญของทาง Google และ Zootopia กล้องทุกๆ ตัวที่ถูกติดตั้งในสวน จะติดเซ็นเซอร์ไว้ ถ้าเหล่าสัตว์เข้าใกล้กล้องภายในระยะ 18 นิ้วก็จะทำการแชะภาพทันที!!! และนี่ก็คือภาพที่ได้มาแหละ ฮร่าาาาา ดูภาพไม่ออกใช่ไหม เจ้าตัวนี้คือหมูป่าล่ะ ^^ แน่ะๆ ยื่นแขนเซลฟี่เองเลยซะด้วย อิอิ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากเข้าไปดูรูปกันแบบเยอะๆ เพลินๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามต่อกันได้ที่นี่เลยนะจ๊ะ ZoogleSelfies อยากได้กล้องเซนเซอร์เหล่านี้มาติดเล่นกับเจ้าตัวป่วนที่บ้านจริงๆ >< ที่มา: Buzzfeed
-
รุ่นใหญ่แถมใจบุญ!! Google บริจาคเงิน 35 ล้าน ช่วยเหลือเด็กๆและผู้ป่วยไวรัสซิกา
มั่นใจว่าทุกคนย่อมรู้จักกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ซึ่งนอกจากจะเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในเรื่องของ IT แล้ว ยังมีความเมตตาใจบุญอีกด้วย ล่าสุดนี้บริษัท Google ได้บริจาคเงินจำนวนกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ถ้าตีเป็นเงินไทยก็คงราวๆ 35 ล้านบาท) เพื่อให้กับกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ที่จะนำไปช่วยเหลือเด็กและป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสซิกา หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซิกาในประเทศแถบลาตินอเมริกา โดยเฉพาะบราซิล ซึ่งเชื้อดังกล่าวอาจทำให้เด็กพิการและมีศีรษะเล็ก ไวรัสดังกล่าวถูกประกาศให้ไวรัสตัวนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและถือว่าเป็นภัยคุกคามขั้นรุนแรงของโลกในระดับเดียวกับ “อีโบลา” ซึ่งสาเหตุของไวรัสตัวนี้นั้นก็มาจากยุงลาย ทาง Google จึงเตรียมเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือและลดจำนวนยุงลาย และพัฒนาวัคซีนเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อ บริษัท Google ยังได้นำวิศกรที่ทำงานร่วมกับ Unicef วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยในการประเมินแผนที่ของการระบาดไวรัส และออกแบบซอฟต์แวร์ที่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของสภาพอากาศและการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ว่ามีไวรัสซิการะบาดหรือไม่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Google ได้แก้ไขระบบค้นหาให้แสดงข้อมูลรายละเอียดของไวรัสซิกาแล้ว ใน 16 ภาษาด้วยกัน พร้อมกับจัดทำ Youtube เกี่ยวกับไวรัสดังกล่าวให้ประเทศแถบลาตินอเมริกา ยังไงเพื่อนๆก็ต้องระมัดระวังตัวไว้นะ ยุงลายที่ก่อให้เกิดได้หลายโรคเหมือนกัน ถ้าบ้านเราก็คงไข้เลือดออก แต่ก็สามารถถึงแก่ชีวิตได้เหมือนกันนะ!!! ที่มา : BBC
-
ชมปฏิกิริยาของเจ้าสุนัข (จริงๆ) เมื่อเจอกับเจ้าสุนัข (หุ่นยนต์) น้องหมาเห่าไม่ยั้ง
ทุกวันนี้วงการหุ่นยนต์ในต่างประเทศได้พัฒนาไปไกลมาก ถึงขั้นสามารถสร้างหุ่นยนต์ที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ออกมาได้แล้ว และล่าสุดก็ดูจะล้ำไปอีกขั้น เพราะบริษัทในเครือของ Google ได้สร้างหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า Spot หุ่นยนต์สุนัขที่สามารถเดินวิ่งได้คล้ายกับสุนัขจริงๆ เลย เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเจ้าหุ่นยนต์สุนัข Spot ที่ถูกสร้างสรรค์โดยบริษัท Boston Dynamics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google เดิมทีมันถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นหุ่นยนต์ขนสัมภาระของเหล่าทหารเวลาออกปฏิบัติภารกิจในสนามรบ เป็นที่น่าเสียดายเนื่องจากมันส่งเสียงที่น่ารำคาญเกินไป ทีมผู้สร้างจาก Boston Dynamics จึงนำมันมาดัดแปลงเป็นหุ่นยนต์สุนัข และนำมันมาทดสอบกับเจ้าสุนัขจริงๆ ตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Fido และดูปฏิกิริยาของมันว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเจ้าสุนัขหุ่นยนต์ แต่ดูเหมือนเจ้า Fido จะไม่ประทับใจในตัวของเพื่อนใหม่ตัวนี้สักเท่าไหร่ เพราะมันเอาแต่เห่าใส่หุ่นยนต์ตลอดเวลา ทีมงานจึงหยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาถ่ายภาพการพบกันสุดจะไม่เป็นมิตรของเจ้า Fido และ Spot และเผยแพร่ให้เราได้ดูกัน คลิปวิดีโอเผยให้เห็นเจ้า Spot หุ่นยนต์สุนัขกำลังวิ่งเล่นไปมากับเจ้า Fido แต่ไม่ว่าจะวิ่งวนรอบไปเท่าไหร่ก็ดูจะไม่เป็นที่ปลื้มปริ่มเท่าไหร่ สุดท้ายคนบังคับเจ้าหุ่นยนต์เหล็กจึงต้องบังคับให้มันก้มหมอบลงกับพื้น เพื่อแสดงท่าทีจำนนต่อเจ้า Fido ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย ไม่แน่หรอกนะ อีกหน่อยหุ่นยนต์พวกนี้อาจถูกพัฒนาจนเหมือนสุนัขจริงๆ ก็ได้…
-
ส่อถึงอะไรรึเปล่า!? เมื่อรถยนต์ไร้คนขับของ Google เกิดเหตุเฉี่ยวชนเข้ากับรถบัสระหว่างทดสอบ
กำลังส่อแววให้เห็นอะไรรึเปล่า สำหรับโครงการนี้ของทาง Google เมื่อทางบริษัทได้ออกมาเผยในรายงานประจำเดือนว่า รถยนต์ขับด้วยตัวเองของพวกเขานั้น เกิดอุบัติเหตุไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นกรณีแรกเลยล่ะที่เกิดเหตุการณ์ชนโดยรถบริษัทเป็นผู้ผิดจริงๆ สำหรับรถที่ไปชนเข้ากับรถบัสก็คือ Lexus SUVs ที่กูเกิลนำมาทดสอบระบบขับด้วยตัวเอง แถบถนนในแคลิฟอร์เนีย โดยเหตุการณ์ที่นำไปสู่การชนก็คือรถขับอัตโนมัติได้ทำการเปลี่ยนเลนวิ่งเพราะเจอเข้ากับกระสอบทรายในเลนของตัวเอง รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ถึงการชนจะไม่รุ่นแรงก็ตาม เพราะตอนนั้นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพียง 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็ขูดรถบัสไปทั้งแถบ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตัวสินค้าของผู้บริโภค ต่อผลิตภัณฑ์นี้ที่ Google จะปล่อยออกมาตีตลาดในอีก 1-2 ปีรึเปล่า?? แต่ถ้าจะมองในแง่ดีหน่อยก็คือ ถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Google จะเคยประสบอุบัติเหตุต่างๆ มาก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ร้ายแรงมากนัก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฝ่ายผิดคือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของทางบริษัทอีกด้วย!!! รถยนต์ที่สามารถขับตัวเองได้อัตโนมัติ ในส่วนของทาง Google ก็ได้ออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยออกมากล่าวแก้ต่างว่า ‘แน่นอนว่าเรามีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะกระสอบทรายที่ตัวรถสามารถตรวจสอบได้ ถูกวางไว้ที่ถนนโดยบังเอิญ แต่แน่ล่ะความผิดพลาดนี้จะทำให้เราต้องขบคิดวิธีการแก้ปัญหา เพื่อคุณภาพที่ดีกว่าในอนาคต’ ‘การที่รถขับเคลื่อนอัตโนมัติของเราชะลอความเร็วลง ก็เพราะประมวลผลแล้วว่ารถบัสคันดังกล่าวจะหยุดหรือชะลอให้เราได้ผ่านไปก่อน เพราะมีพื้นที่ให้รถสามารถทำแบบนั้นได้’ ทางบริษัทออกมาแถลง ส่วนตัวแล้ว #จ่าสิบเหมียว ก็ยอมรับว่าเป็นไอเดียที่ดีอยู่เหมือนกันนะสำหรับรถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง แต่ในการตัดสินใจเสี้ยววินาทีในกรณีเล็กๆ น้อยๆ…
-
Google ยอมรับ ‘รถไร้คนขับ’ ทำผิดพลาดครั้งแรก จนเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวกับรถบัสบนถนนจริง!!
หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวที่บริษัท Google ได้ทำการปล่อยรถยนต์ไร้คนขับออกมาวิ่งไปตามถนนเส้นทางต่างๆ หากใครที่นึกภาพเจ้ารถคันนี้ไม่ออกเรามีคลิปให้ท่านดู ในการปล่อยรถไร้คนขับออกไปแต่ละครั้งนั้น ก็ประสบอุบัติเหตุอยู่หลายครั้งแต่ไม่ใช่ความผิดของตัวรถยนต์ไร้คนขับสักครั้งเดียว แต่ในครั้งนี้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไร้คนขับของ Google ไปชนกับรถประจำทางคันนึงในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งจุดเกิดเหตุก็อยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของ Google รถของ Google นั้นขับมาด้วยความเร็ว 3 กม./ชม. และต้องการที่จะเปลี่ยนเลนส์กลางเพื่อเลี้ยวขวารอบกระสอบทราย ซึ่งระบบประมวลผลผิดไปว่ารถบัสที่ใกล้เข้ามาข้างหลังในเลนส์กลางจะชลอหรือหยุดเพื่อให้รถยนต์ไร้คนขับไปได้ก่อน ด้วยเหตุนี้รถยนต์ไร้คนขับจึงเลี้ยวไปชนด้านข้างของรถบัสในความเร็วที่ต่ำ ซึ่งทำให้บังโคลนรถยนต์ข้างหน้า ล้อ และเซนเซอร์ต่างๆได้รับความเสียหาย ซึ่งรถยนต์ไร้คนขับรุ่นนี้เป็น Lexus รุ่น RX450h ทำให้งานนี้ทาง Google ต้องกรอกรายละเอียดรายงานอุบัติเหตุไปยังกรมการขนส่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย งานนี้ Google ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตัวรถ Google เอง จากนั้นทำให้ทางบริษัทต้องกลับไปปรับปรุงชุดคำสั่งของระบบขับเคลื่อนด้วยตนเองใหม่ ซึ่งมั่นใจได้ว่าระบบที่ทำใหม่จะสามารถรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคตได้ดีขึ้นด้วย ยังถือว่าโชคดีที่อุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่มีใครบาดเจ็บ ก็หวังแต่ว่า Google จะนำบทเรียนครั้งนี้เป็นประสบการณ์พัฒนาให้รถสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคตนะฮะ ที่มา : engadget
-
Google มอบเงินจำนวน 6,006.13 เหรียญ ให้ชายที่เคยเป็นเจ้าของ Google.com ในระยะเวลาสั้นๆ !!!
เหมียวต้องขอชื่นชมรัวๆ จริงๆ สำหรับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงปลายปีก่อน ถึงการซื้อชื่อโดนเมนของ Google. com ด้วยราคาเพียง 12 เหรียญ หรือราวๆ 420 บาทเท่านั้น!!!? นักศึกษา ป.โท อดีตพนักงานกูเกิ้ลอย่าง Sanmay Ved เคยได้เป็นเจ้าของ Google.com (เฉพาะชื่อ) ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูกยกเลิกโดยผู้ดูแลความปลอดภัยของบริษัท ตอนนั้นเค้าก็แคปภาพหน้าจอไว้เสร็จสรรพเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งเขาได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในโซเชียลมีเดียส่วนตัวของเขา Linkedln กับการเป็นเจ้าของ Google.com ภายในระยะเวลาสั้นๆ แต่พอเขาจะเช็คเอ้าท์และทำการจ่ายเงิน ทางระบบ Google Domains ก็มาระงับไว้ซะก่อน เลยรายงานเรื่องที่เขาพึ่งพบเจอกับหน่วยความปลอดภัยของบริษัท Sanmay Ved ได้เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไวรัลต่างประเทศอย่าง BuzzFeed ว่า ‘ผมเคยทำงานให้กับ Google ด้วยล่ะ ถึงผมจะออกมาเป็นปีๆ แล้ว ผมก็ยังคอยรายงานข้อบกพร่องต่างๆ ซึ่งทางบริษัทก็ตอบรับและแก้ไขเป็นอย่างดี แน่นอนผมทำอย่างนี้ไม่ได้มีเงินหรือผลประโยชน์หรอกนะ’ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน หน่วยงานรักษาความปลอดภัยของ Google ได้เผยว่าพวกเขาได้มอบเงินให้แก่…
-
6 สถานที่ลึกลับบนโลกที่ไม่สามารถสอดส่องผ่าน Google Earth ได้ เราไม่ดีพอหรือเธอไม่ชัดเจน!?
เทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวหน้ามากขึ้น ตั้งแต่การทำแผนที่บนอินเทอร์เน็ต การฉายภาพพื้นผิวโลกที่ถูกถ่ายจากดาวเทียมบนอวกาศ ทำให้เราสามารถเดินทางไปดูสถานที่ต่างๆ บนโลกได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส อยากจะไปดู 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็ค้นหาได้ทันที หรือจะเป็นต่างประเทศที่เราใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะเดินทางไปชมที่นั่นด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเราสามารถสอดส่องได้ทุกที่ แต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะบางสถานที่ก็ถูกปิดบังเอาไว้ เก็บงำความลับอะไรบางอย่างอยู่ เช่น 8 สถานที่ดังต่อไปนี้ที่ถูกเบลอภาพและซ่อนเอาไว้บน Google Earth Pacific Northwest, USA HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับชายแดนของรัฐ Washington-Oregon เป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมพลังงานบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งถูกสั่งปิดโดยกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ว่ากันว่าที่นี่ทำการวิจัยเพื่อควบคุมสภาพอากาศและปรากฏการณ์ธรรมชาติ บางคนก็ว่าเป็นสถานีทดลองจานบิน UFO เมืองลึกลับในประเทศรัสเซีย หากลองเข้าไปดูลึกๆ ภายในความหนาวเหน็บของแถบไซบีเรียก็จะพบว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเบลอภาพเอาไว้ใน Google Earth และไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ หลายๆ คนก็คิดว่าน่าจะเป็นเมืองที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งของค่ายทหารเพื่อใช้ในการทดลองและวิจัยอาวุธ ซึ่งต้องใช้พื้นที่และความเป็นอิสระสูงพอตัว…
-
เชื่อหรือไม่? นี่คือคลิป “บ้านๆ” ที่ทำให้ Google ตัดสินใจซื้อ Youtube เมื่อ 9 ปีที่แล้ว
อย่างที่ทราบกันดีว่าเว็บไซต์ YouTube นั้น เป็นบริการส่วนหนึ่งของ Google แต่ลองย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เว็บไซต์ Youtube เป็นเว็บเว็บวิดีโอเล็กๆ ที่เพิ่งจะเริ่มก่อตั้งขึ้น แต่อะไรดลใจทำให้ Google เข้าซื้อกิจการของพวกเขากันนะ? ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว Susan Wojcicki ได้ถูก Google แต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลโปรเจกต์วิดีโอ ซึ่งตอนนั้นเธอไปสะดุดตาเข้ากับเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Youtube พอดี และเมื่อเธอเห็นคลิปวิดีโอบ้านๆ ของ 2 หนุ่มชาวจีน ก็ทำให้เธอตัดสินใจได้และตอบตกลงทันที คลิปที่ว่านี้มีชื่อว่า “BSB” เป็นคลิปของ 2 หนุ่มชาวจีน ที่ลิปซิงค์เพลง As Long As You Love Me จากวง Backstreet Boys ใช้กล้องธรรมดาๆ และถ่ายแบบเทคเดียวจบ ภายในวิดีโอแสดงให้เห็นวัยรุ่น 2 คนใส่เสื้อวอร์มสีแดงกำลังลิปซิ้งค์เพลงอยู่อย่างเมามัน…
-
Google เกาะกระแส Star Wars ให้บัญชีผู้ใช้เลือกด้านมืด-สว่าง ได้ สวยแปลกตาไม่เบาเลยล่ะ!!!
ตอนนี้ก็เรียกได้ว่ากระแสมาแรงจริงๆ สำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Star Wars: The Force Awaken ที่กำลังจะเข้าฉายในเร็ววันนี้ แถมตอนนี้ Google ก็ขอเกาะกระแส มีฟีเจอร์เจ๋งๆ มาให้เราเล่นกันขำๆ อีกด้วย สามารถเข้าไปเล่นได้ที่ GoogleStarwars โดยที่พอเข้าไปแล้วทางกูเกิลจะให้เราเลือกข้างว่าจะอยู่ด้านมืดหรือด้านสว่าง กูเกิลจะค่อยๆ ปรับพื้นหลังและอินเทอร์เฟซบางส่วนให้เข้ากับธีมของข้างที่เราเลือก เช่นแถบแสดงวิดีโอ YouTube เป็นดาบ lightsaber ตำแหน่งของเราใน Google Maps จะกลายเป็นยานในภาพยนตร์ เป็นต้น เลือกด้านมืดซะเลย เข้าสู่ด้านมืดแล้วล่ะ หรือเปลี่ยนใจมาเข้าด้านสว่างทีหลังก็ได้นะเออ มีวัดด้วยว่าด้านไหนมีพลังมากกว่า แถบยูทูปเป็นไลท์เซเบอร์แดงเลย อิอิ ลองชมวิดีโอกันได้ที่นี่ ว่างๆ เพื่อนๆ ก็ลองไปเล่นกันดูนะจ๊ะ อิอิ สนุกใช้ได้เลยทีเดียว สวยแปลกตามากๆ เลยล่ะพอเลือกข้างแล้ว ^^ ที่มา: Blogone
-
ชีวิตสุดประหยัดของวิศวกรซอฟต์แวร์ Google ใช้ชีวิตอยู่ในรถบรรทุกที่จอดในบริเวณบริษัท
การที่เรามีหน้าที่การงานที่ดี อยู่กับบริษัทในฝัน แถมยังเป็นบริษัทที่มีสวัสดิการดีเยี่ยมและเป็นผู้นำทางด้านเว็บไซต์ค้นหาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google ด้วย ใครๆ ก็คงจะคิดว่าหากได้เป็นพนักงานของบริษัทนี้ คุณภาพชีวิตต้องดี๊ดีทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับพ่อหนุ่มวิศวกรซอฟต์แวร์รายนี้ เขาเปิดเผยเพียงแค่ชื่อว่า Brandon วัย 23 ปี โดยก่อนหน้าที่จะได้รับบรรจุเป็นพนักงานของ Google จะต้องผ่านการฝึกงานเสียก่อน ซึ่งในช่วงฝึกงานเขาต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน โดยจะต้องร่วมกันจ่ายค่าห้องเช่าประมาณ 71,000 บาท (2,000 ดอลลาร์) ทุกเดือน จากการที่จะต้องร่วมกันแชร์พื้นที่ส่วนตัวและค่าเช่าที่ว่านั้น มันทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาเสียเลย และยิ่งไปกว่านั้นคือเขารู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่าย แต่กลับไม่มีความสุขแม้แต่นิดเดียว เขาจึงตัดสินใจวางแผนซื้อรถบรรทุกมูลค่าประมาณ 356,000 บาท (10,000 ดอลลาร์) หลังจากที่ได้รับบรรจุเป็นพนักงาน Google เมื่อได้รถบรรทุกมาก็นำมาจอดในที่จอดรถของบริษัทและใช้ชีวิตอยู่ในนั้น ค่าใช้จ่ายของเขามีเพียงแค่ค่าประกันภัยรถยนต์ ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าโทรศัพท์บริษัทก็จ่ายให้ เดินไปอาบน้ำในฟิตเนส เดินไปทำงาน ประหยัดค่าน้ำมัน และรับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็นที่บริษัท …
-
Google มอบรางวัลให้อดีตพนักงานที่ซื้อเว็บบริษัท เพิ่มให้เป็นสองเท่าเมื่อรู้ว่าเขาจะนำไปบริจาค!!
เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจกับกรณีของพ่อหนุ่ม Sanmay Ved อดีตพนักงานของบริษัท Google จากข่าวก่อนหน้านี้ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้ว ซึ่งทาง Google เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทราบถึงข้อบกพร่องของระบบดังกล่าวต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก Sanmay Ved เป็นผู้ที่เจอข้อบกพร่องของระบบ ทางบริษัทก็ยินดีมอบเงินรางวัลเป็นการตอบแทน ซึ่งเจ้าตัวก็กล่าวเอาไว้ว่า ‘ผมไม่สนใจเงินรางวัลอะไรนั่นหรอก ผมแค่อยากจะให้กรณีนี้เป็นตัวอย่างในการหาข้อผิดพลาดก็เท่านั้นเอง’ โดยระเบียบทั่วไปของบริษัทนั้นจะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ที่สามารถค้นหาข้อบกพร่องเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการหาช่องโหว่ความปลอดภัยของระบบ อย่างไรก็ตามเขาก็เลือกที่จะนำเงินรางวัลที่ว่านี้ มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นดอลลาร์ (355,000 บาท) มอบให้องค์กรการกุศลของอินเดียแทน เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาในสลัม ซึ่งหลังจากบริษัท Google ได้ทราบเรื่องเงินที่เขานำไปใช้ ก็เพิ่มเงินบริจาคให้เป็นสองเท่าไปเลย!! ที่มา : businessinsider
-
อดีตพนักงาน Google ได้เป็นเจ้าของเว็บไซต์ด้วยเงิน 437 บาท แต่มีสิทธิ์ครอบครองได้เพียงนาทีเดียว!!
ฟังดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการที่จะได้เป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google.com แต่มันก็เกิดขึ้นจริงกับอดีตพนักงานของบริษัท Google ที่ได้ทำการซื้อชื่อโดเมนดังกล่าว!? Sammay Ved อดีตพนักงานของ Google กับประสบการณ์ภายในบริษัท 5 ปี โดยเขานั้นตัดสินใจลาออกจากบริษัทเพื่อที่จะศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจ มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญในคืนหนึ่งที่เขานั้นได้ทำการค้นหาชื่อโดเมนใน Google Domains แล้วก็สังเกตเห็นว่าชื่อโดเมน Google.com สามารถซื้อได้ด้วย เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเขาจึงไม่รีรอ ตัดสินใจซื้อโดเมนดังกล่าวทันที และไม่น่าเชื่อว่ามันสามารถซื้อได้จริงๆ มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นจริงและเขาก็ได้เป็นเจ้าของ Google.com ด้วยเงินเพียง 437 บาท (12 ดอลลาร์) แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโดเมนระดับโลกแบบนี้ถึงซื้อได้ง่ายขนาดนี้ แถมเขายังสามารถเข้าไปจัดการระบบภายในโดเมนได้อีกด้วย!! แต่พอหลังจากที่เขาได้เป็นเจ้าของ Google.com ด้วยเวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น เขาก็ได้รับอีเมลตอบกลับมาว่าชื่อโดเมนนี้ถูกจดทะเบียนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวคืน ทั้งนี้ข้อผิดพลาดดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะผู้ดูแลระบบ Google Domains อาจจะลืมเปลี่ยนชื่อก็เป็นได้ ฮ่าฮ่า!!…
-
พาไปฮากับแฮชแท็ก “#เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย” รู้เลยว่าคนไทยหาอะไรกัน!!
กลับมาอีกครั้งกับการติดตามกระแสแฮชแท็กในประเทศไทยกับเหมียวผู้ไม่ยอมให้ความฮาในสายเลือดหลุดรอดไปได้ วันนี้เหมียวก็ไปเจอกับแฮชแท็กใหม่ที่ชื่อว่า #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย ฟังชื่ออาจจะดูงงๆว่าเกี่ยวกับอะไร แต่พอเข้าใจแล้วก็จะฮาทันที แฮชแท็ก #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย จะเกี่ยวกับการค้นหาคำในกูเกิลแล้วปรากฏว่าคำที่เราหานั้นมันดันขึ้นแนะนำเป็นคำอื่นที่ดูเหมือนจะฮามากๆ ซึ่งมันก็ทำให้เราเห็นว่าคนไทยค้นหาคำอะไรมากที่สุด เราไปดูกันเลยดีกว่า #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย 555555 เล่นมั้ง Posted by Ohh O Por on Thursday, September 24, 2015 #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย Posted by Nichanan Son-in on Wednesday, September 23, 2015 #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย ต้องลอง Posted by Gu Gangzaa on Thursday, September 24, 2015 #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย What?!! Posted by บ’แบงงงงงงง ‘ค์. on Wednesday, September 23, 2015 #เราไม่ได้คิดนะพอgoogleก็คิดเลย…
-
Google เปลี่ยนโลโก้ใหม่ ครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมเปรียบเทียบอดีต – ปัจจุบัน!!!
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Google ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้งานอินเตอร์เน็ตไปเสียแล้ว นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1998 ทาง Google ได้เปลี่ยนโลโก้ครั้งใหญ่ไปเพียงครั้งเดียว (คือเปลี่ยนฟอนต์ใหม่นะ ส่วนย่อยๆมีอีกหลายครั้งอยู่) และเมื่อวานนี้ (1 กันยายน 2015) ก็เป็นครั้งที่สองที่ Google เปลี่ยนโลโก้ของบริษัทตนเอง ไปดูกันเลยว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบกันชัดๆอีกที แบบเก่า แบบใหม่ จะเห็นได้ว่าดีไซน์ของโลโก้มีความเป็น Material Design มากขึ้น เหมือนกับระบบปฏิบัติการ Android รุ่นใหม่นั่นเอง โดยทาง Google บอกว่า โลโก้แบบใหม่นี้ จะลดขนาดลงไปมาก หากเทียบกับแบบเก่า ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของพวกเขาในปัจจุบัน ที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ประหยัดขึ้น ชมคลิปการเปลี่ยนแปลงของ Google กันดีกว่า ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของ Google หลังจากมีการปรับโครงสร้างบริษัท รวมถึงการเปลี่ยน CEO ก็รอชมกันต่อไปว่า Google จะมีอะไรตื่นเต้นๆมาให้เราชมกันบ้าง ที่มา The Verge
-
Google โชว์ของ!! แอพฯ แปลภาษาที่เหนือไปอีกขั้น “แปลภาษาผ่านกล้อง” รวดเร็วทันใจ
หลายครั้งหลายคราวที่เราต้องการความช่วยเหลือจาก Google ในส่วนของการให้บริการแปลภาษา ปัจจุบันก็ให้บริการในทั้งรูปแบบบนเว็บไซต์และแอพพิลเคชั่น แต่ Google ยังไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ พัฒนาความสามารถของแอพฯ แปลภาษาให้สามารถอ่านแล้วแปลผ่านกล้องได้แล้ว!! ล่าสุดนี้ทางทีมงานของ Google ก็ได้ปล่อยวิดีโอคลิปโชว์ความสามารถของแอพฯ แปลภาษา ที่ทำการอ่านและแปลผ่านกล้องของสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วและทันใจ แปลได้มากถึง 27 ภาษากันเลยทีเดียว สุดยอดไปเลยจ้า!! คลิปวิดีโอทดสอบในการใช้งานจริง เด็ดมากๆ ขอบอก!! ที่มา : twistedsifter
-
หนุ่มใหญ่สัญญามนุษย์เมียว่าจะเลิกบุหรี่ แต่ Google Street View เผยความจริงให้เธอได้รู้!!!
สงสัยงานนี้เทคโนโลยีจะกลายเป็นภัยเสียแล้ว เมื่อนักอมควันรุ่นเดอะท่านหนึ่ง ได้สัญญากับภรรเมียของเขาว่าจะเลิกบุหรี่ แต่แล้วฝันนั้นก็สลายไปในพริบตากันเลยทีเดียว เมื่อเจอความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเข้าให้ Donny Riding นักสูบบุหรี่ตัวยง ที่ถูกแพทย์สั่งให้เลิกบุหรี่ เพราะว่าอาการโรคหัวใจของเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องสัญญากับภรรยาของเขาว่าจะเลิกสูบเพื่อสุขภาพ แถมยังต้องเลิกทานพวกอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ภาพเจ้าปัญหา แต่เมื่อ Google ได้เริ่มถ่ายภาพ Street View ของถนนแถบนี้ พอดิบพอดีกับช่วงเวลาที่เธอทะเลาะกับสามี เรื่องที่แอบกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นพวกขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย เพราะเธอเจอซองขนมที่แอบซุกไว้ในรถ แต่เขาก็ไม่ยอมรับ ทั้งคู่ทะเลาะ และสามีโกรธมากจึงเดินหนีออกไปนอกบ้าน วันต่อมาเธอก็เกิดสงสัยว่าเขาเดินออกไปทำไมหนอออ แน่นอนเธอได้ข่าวว่าทาง Google ได้มาถ่ายภาพสตรีทวิวไว้แถวนี้ เลยลองเปิดดู อื้อหือ โป๊ะเช๊ะเลยทีเดียว อะไรจะสังหรณ์ได้แม่นปานนั้นเจ๊!!!? ‘แน่นอนตอนนี้เขาไม่มีทางปฏิเสธแล้วล่ะ หลักฐานคาหนังคาเขา’ เธอกล่าว… โถ…อาเฮีย เลิกได้ก็เลิกเถอะ เค้าจู้จี้ เค้าขี้บ่น ก็เพราะห่วงหรอกนะเออ >< ที่มา: Metro
-
มารู้จัก Eiji Tsuburaya ผู้สร้างอุลตร้าแมน ขนาดที่ Google ฉลองครบรอบ 114 ปีให้ด้วย!!
วันนี้หากใครเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Google แล้วล่ะก็ คงจะได้เห็นแล้วซินะว่าวันนี้ Google Doodle เขาเปลี่ยนหน้าตาใหม่ มีอุลตร้าแมนและเหล่าสัตว์ประหลาดมายืนเท่เทียบเคียงโลโก้ของ Google อยู่ด้วย ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าวันนี้(7 ก.ค.) เป็นวันคล้ายวันเกิดของ Eiji Tsuburaya ชายผู้ให้กำเนิดตัวละครอย่างก็อดซิลล่าและอุลตร้าแมนนั่นเอง และหากเขายังมีชีวิตอยู่ วันนี้จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 114 ของเขาเลย Eiji Tsuburaya เป็นชาวญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงในด้านการสร้างเทคนิคพิเศษในภาพยนตร์ และเขาเป็นคนแรกๆที่คิดค้นชุดยางเพื่อเปลี่ยนให้คนกลายเป็นก็อตซิลล่ายักษ์ นอกจากนี้ยังมีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างเมืองจำลองที่เป็นผลมาจากการชื่นชอบการต่อโมเดลในวัยเด็กด้วย จนนำเทคนิคต่างๆมาปรับใช้จนกลายเป็นหนังสัตว์ประหลาดอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ล่ะ กว่าที่จะกลายมาเป็นหนังสัตว์ประหลาดไคจูหรือก็อตซิลล่านั้น Tsuburaya ยอมรับว่าตัวเขาได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง King Kong ที่เคยออกฉายเมื่อปี 1933 เขาจึงคิดอยากจะสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาสักตัว แต่ด้วยความที่หนังยุคนั้นใช้เทคนิคที่เรียกว่า Stop Motion เสียส่วนใหญ่ เขาจึงเปลี่ยนไปใช้วิธีการสวมชุดยางแทน เพื่อให้ดูสมจริงและน่ากลัวมากขึ้น จนในปี 1954 Tsuburaya จึงได้สร้างสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่าก็อดซิลล่าขึ้นมา สร้างความตื่นเต้นและหวาดผวาให้แก่ชาวญี่ปุ่นไม่น้อย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งจะผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาได้ไม่นาน บวกกับเทคนิคพิเศษที่สมจริงมากในยุคนั้น โดยหากจะบอกว่า Tsuburaya เปรียบเสมือน Steven Spielberg ฝั่งญี่ปุ่นก็คงไม่ผิดนัก เพราะผลงานต่างๆของเขาล้วนเต็มไปด้วยความคิดแปลกๆใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นบริษัทของเขาก็ได้สร้างผลงานออกมาอีกมากมายรวมไปถึงอุลตร้าแมนด้วย แม้ว่าผลงานในช่วงหลังๆจะเสื่อมความนิยมลงไปค่อนข้างมาก แต่เขาก็ยังคงทำงานที่ตัวเองรักเรื่อยมา…
-
10 นวัตกรรมจากบริษัท Google ที่จะมาเปลี่ยนโลกมนุษย์ในยุคอนาคต!!
ในหนึ่งวันที่โลกค่อยๆ หมุนไปอย่างช้าๆ แต่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดเพัฒนาเลยแม้แต่น้อย กลับพัฒนาไปได้ไกลอย่างก้าวกระโดดเกินจินตนาการที่เคยคาดเดากันเอาไว้แล้ว หนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากมายอย่าง Google นั้น หากประสบความสำเร็จและนำมาใช้ได้จริง อาจจะเปลี่ยนโลกนี้ไปเลยก็เป็นได้ Project Loon โปรเจคบอลลูนลอยฟ้าที่ไม่ใช่บอลลูนธรรมดา จะสามารถเชื่อมคนทั้งโลกไว้ด้วยกันด้วยการปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในซีกไหนของโลก กองทัพหุ่นยนต์ของ Google Google เองก็แอบซุ่มพัฒนาหุ่นยนต์เหมือนกันนะเออ มีทั้งหุ่นยนต์ทั่วๆ ไปที่สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ไปจนถึงหุ่นยนต์รบกันเลยทีเดียว Calico หนึ่งในโครงการที่จะสร้างความอมตะให้กับมนุษย์ Google ได้ร่วมมือกับ Dr. Arthur Levinson เพื่อคิดค้นกระบวนการชะลอความชราในร่างกายมนุษย์ Google Contact Lens ในเมื่อมีแว่นแล้ว คนที่ไม่ชอบใส่แว่นก็คงจะเกลียด Google Glass ไปเลย แล้วทำไมไม่ทำคอนแทคเลนส์บ้างล่ะ? เพิ่มฟังก์ชั่นวิเคราะห์ระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเข้าไปด้วย โดยที่ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือด มันจะล้ำเกินไปแล้ว!! Liftware อุปกรณ์ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน (มีความผิดปกติของระบบการเคลื่อนไหว) สามารถทานอาหารเองได้…