Tag: hiv
-
ผลตรวจผิดพลาด!! แม่เหมือนตกนรกทั้งเป็นนาน 6 ปี เข้าใจว่าเธอและลูกติดเชื้อ HIV
ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ แม้แต่กับผลตรวจทางการแพทย์และมันอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องทุกข์ทรมานอยู่กับความผิดพลาดในครั้งนั้นมาโดยตลอดเหมือนอย่างคุณแม่คนนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2018 เพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์เรื่องราวของคุณแม่ที่เข้ามาระบายให้ทางเพจฟัง เป็นเรื่องของผลตรวจเลือดที่ผิดพลาด ทำให้เธอเข้าใจมาตลอดว่าลูกของเธอที่เพิ่งคลอดออกมาและตัวเธอเองนั้นติดเชื้อ HIV เธอเล่าว่าลูกคลอดออกมามีน้ำหนักเพียง 1,800 กรัม ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเด็กทั่วไปค่อนข้างมาก ทำให้คุณหมอต้องเฝ้าดูอาการอยู่ในห้องอบเด็ก และบอกกับเธอว่ามีโอกาส 50/50 ที่เธออาจจะไม่สามารถพาน้องกลับไปเลี้ยงได้ตามปกติ ลูกของเธอนอนอยู่โรงพยาบาลนานถึง 3 วัน ก่อนที่จะสามารถกลับไปบ้านได้ เพราะร่างกายแข็งแรงดีแล้ว แต่ทว่าเธอกลับได้รับข่าวร้ายที่สะเทือนจิตใจเป็นอย่างมาก แพทย์แจ้งว่าเธอมีเชื้อ HIV (สาเหตุของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และอาจนำไปสู่โรคเอดส์) ไม่สามารถให้ลูกดื่มนมจากเต้าของเธอได้ และเด็กก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับเชื้อจากเธอไปด้วย ข่าวร้ายในครั้งนั้นทำให้เธอรู้สึกตกใจและเสียใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป สงสารลูกและหลานที่จะต้องใช้ชีวิตหลังจากนี้ ทำได้เพียงกอดลูกสาวแล้วร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ราวกับว่าครอบครัวของเธอตกนรกทั้งเป็น จนกระทั่งปัจจุบันผ่านมาเกือบ 6 ปี ลูกของเธอไม่สบายจึงต้องพาไปโรงพยาบาล แล้วหมอคนเดียวกันกับที่ทำคลอดให้เธอในตอนแรกสุดก็ต่อว่าเธอ เพราะเธอไม่ได้พาลูกมารับยาในตอนก่อนหน้านี้ จากนั้นคุณหมอก็ตรวจเลือดลูกสาวเธออีกครั้ง ก่อนที่วันต่อมาหมอจะแจ้งกับเธอว่า เด็กไม่ได้มีเชื้อ HIV แต่อย่างใด ทำให้เธอเริ่มสงสัยและถามกับหมอว่าถ้าเธอมีเชื้อจริง แล้วทำไมแฟนเก่าของเธอถึงไม่มีเชื้อดังกล่าว…
-
‘สาวไทยขายบริการ’ เดินทางไปถึงไต้หวัน ก่อนถูกจับหลังพบว่าเธอเป็นคนแพร่เชื้อ HIV
แน่นอนว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่เราไม่ได้รู้จักหรือคุ้นชินมาก่อน อย่างเช่นการซื้อบริการทางเพศกับคนที่ขายบริการ สิ่งสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจในเรื่องนั้นคือความปลอดภัย ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะติดเชื้อ HIV หรือโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ไปโดยไม่รู้ตัว นี่คือตัวอย่างของสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อสาวไทยขายบริการที่ใช้ชื่อว่า Patty วัย 24 ปี เดินทางไปยังประเทศไต้หวันเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2018 โดยใช้วีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว เข้าไปอาศัยอยู่ในเขต Taitung ภาพถ่ายของหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า Patty แต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้เพียงแค่มาเที่ยวอย่างเดียว เธอกลับนัดลูกค้าเอาไว้เป็นจำนวนมาก ติดต่อกันผ่านทางแอป LINE โดยสำนักข่าว Taiwan News รายงานว่าระหว่างช่วงวันที่ 13-22 มีนาคม หญิงสาวคนนี้ออกไปเจอกับลูกค้าหนุ่มๆ จำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากนั้นเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่ของไต้หวันเข้าจับกุมตัว หลังจากที่เธอชักชวนชายหนุ่มให้มามีเซ็กส์กับเธอหลายต่อหลายคน ก่อนที่เธอจะถูกควบคุมตัวไปตรวจร่างกาย จนกระทั้งวันที่ 2 เมษายน 2018 ผลตรวจออกมาว่าสาวคนนี้มีเชื้อ HIV ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เชื้อไวรัส HIV เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบภูมิต้านทานล้มเหลว และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ได้ในเวลาต่อมา เมื่อทราบผลตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบทำการกระจายข่าวให้เหล่าลูกค้าหนุ่มๆ…
-
ภาพผู้ป่วยเอดส์ในยุค 90 ช่วงที่เอดส์แพร่ระบาด กับการรักษาด้วยการให้กำลังใจ
ย้อนกลับไปในปี 1993 Gideon Mendel หนึ่งในช่างภาพหนุ่มได้รับโอกาสเข้าไปทำการบันทึกภาพในโรงพยาบาล Middlesex ในวอร์ดผู้ป่วยโรคเอดส์ เขาใช้เวลาในการเข้าไปเก็บภาพนานประมาณ 3 สัปดาห์ก็ได้เห็นชีวิตของทั้งผู้ป่วย หมอและพยาบาลในมุมมองที่เปลี่ยนไป ในช่วงนั้นผู้ป่วยโรคเอดส์ส่วนมากอยู่ในวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะชายรักชาย ทัศนคติของคนอื่นที่มองผู้ป่วยโรคนี้ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้ช่างภาพคนอื่นๆ ที่ถูกเชิญมาบันทึกภาพไม่ค่อยกล้าที่จะเข้ามาสัมผัส แต่นาย Gideon เป็นผู้ที่กล้าก้าวผ่านประตูมาเพื่อสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แพทย์และพยาบาลใช้วิธีรักษาที่ดีมากๆ นั่นก็คือการให้กำลังใจผู้ป่วย ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มียารักษา การให้กำลังใจเป็นหนึ่งสิ่งที่จะเยียวยาได้ดีที่สุดแตกต่างจากบ้านเราที่ผู้ป่วยโรคเอดส์จะถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี เป็นคนน่ารังเกียจ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานทัศนคติแบบนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ดูแลผู้ป่วยเหมือนเพื่อนและคนในครอบครัว ลบภาพความน่ากลัวของโรคให้เปลี่ยนมาเป็นภาพแห่งความรัก สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่รังเกียจ แพทย์และพยาบาลเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด น้อยคนนักที่จะได้เห็นภาพในมุมนี้ ก้าวข้ามผ่านกำแพงความกลัว เปลี่ยนมุมมองลบๆ ที่มีอยู่ โชคร้ายที่คนเหล่านี้ไม่ทันได้ใช้ยารักษาเหมือนในปัจจุบัน ยารักษาโรคที่สำคัญที่สุดคือการรักษาจิตใจ ที่มา demilked
-
“น้องก่อน BNK48” โพสต์ชวนผู้ติดเชื้อ HIV มาร่วมงานจับมือแบบไม่รังเกียจ ดังไปถึงญี่ปุ่น!!
โรคเอดส์หรือการติดเชื้อ HIV นั้นถือเป็นหนึ่งในอาการป่วยที่รุนแรง และถึงแม้ว่าปัจจุบันพัฒนาทางการแพทย์นั้นสามารถคิดค้นวัคซีนเพื่อต้านเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้แล้วก็ตาม แต่ผู้ป่วยโรคดังกล่าวก็ยังดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมสักเท่าไหร่ และเมื่อไม่นานมานี้น้องก่อน หนึ่งในสมาชิกของวง BNK48 วงเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นน้องของ AKB48 เองก็ได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว พร้อมกับบอกเชิญชวนให้ผู้ป่วยมาร่วมงานจับมือกับพวกเธอที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 มกราคมนี้ สาวน้อยจาก BNK48 ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจของเธอว่า “ก่อนได้ทราบข่าวมาว่า มีแฟนคลับที่มีเชื้อไวรัส HIV อยู่ แล้วกังวลว่าพวกเรา จะรังเกียจไหมที่จะต้องจับมือด้วย ก่อนจะขอเป็นตัวแทนพูดแทนนะคะ ในปัจจุบันเชื้อไวรัส HIV สามารถควบคุมได้ด้วยการทานยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ การปรึกษาคุณหมออย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าคุณคิดว่าได้ทำสิ่งเหล่านี้แล้ว แล้วร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องจับมือเลยค่ะ อีกอย่างคนที่มีเชื้อไวรัส HIV นั้น จริงๆ แล้วสามารถใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้เลยค่ะ ก็เลยไม่อยากให้กังวลกันค่ะ ก่อนและเหล่าเมมเบอร์ BNK48 นั้นก็อยากร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยเชื้อไวรัส HIV ค่ะ แล้วใครที่อยากได้กำลังใจกับพวกเราอย่างใกล้ชิดก็สามารถมาจับมือพวกเราในวันที่ 13-14 มกราคม นี้! ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน นะคะ ปล.ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะ…
-
คลิปสั้นน่ารัก ‘คาราเต้ดิ๊ก’ การต่อสู้ของน้องจู๋กับเชื้อร้าย HIV ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วย!!
ทุกๆ วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีนั้น นอกจากจะเป็นวันเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว วันนี้ก็ยังถือเป็นวันเอดส์โลกอีกด้วยเช่นกัน โดยวันสำคัญดังกล่าวถูกจัดขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ และให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าโรคร้ายที่คร่าชีวิตของผู้ป่วยไปกว่า 25 ล้านคนแล้วทั่วโลก และทางกลุ่มนักทำอนิเมชั่นอิสระที่ใช้ชื่อว่า Emanuele Colombo เองก็ได้ร่วมสร้างอนิเมชั่นที่ใช้ชื่อว่า Karate Dick เพื่อร่วมให้ความสำคัญในวันนี้อีกด้วย Karate Dick เป็นเรื่องราวของเจ้าจู๋หนุ่มนักสู้ ที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อต่อสู้กับเชื้อ HIV และได้ฝึกความแข็งแรงของเขา ก่อนที่จะสวมชุดเกราะถุงยางอนามัยและออกไปผจญโลกกว้าง สื่อให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมและทำความเข้าใจกับผู้คนว่าโรคร้ายนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนั่นเอง “ขอบคุณวงการแพทย์ ที่ทำให้โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากว่าเหล่าเยาวชนของเราขาดความรู้ในการป้องกัน เจ้าโรคร้ายนี้ก็อาจจะกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งก็ได้” คุณ Colombo หนึ่งในทีมผู้สร้างกล่าว ถึงแม้จะแข็งแรงแค่ไหนแต่ถ้าหากไม่ป้องกัน ก็อาจจะไม่รอดก็ได้นะเจ้ากระเจี๊ยว!! ไปชมความน่ารักๆ ของคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา designtaxi
-
หนุ่มจงใจปล่อยเชื้อ HIV ใส่คู่นอนที่เจอกันผ่าน “แอปหาคู่” ถึง 4 คน แถมส่งข้อความเยาะเย้ย
ทุกคนคงรู้จักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง HIV กันอยู่แล้ว และนั่นจึงทำให้ถุงยางมีประโยชน์มากกว่าการคุมกำเนิดเพราะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวนี้ได้อีกด้วย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เองก็ต้องระวังไม่ให้ใครได้รับโรคร้ายนี้ไปด้วย ตรงข้ามกับชายหนุ่มชื่อ Daryll Rowe ที่ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวของช่างตัดผมวัย 26 ปีคนนี้เริ่มขึ้นเมื่อเขาได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยติดเชื้อ HIV ในเดือนเมษายน 2015 ที่เมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ หลังจากนั้นเขาจึงกินยาต้านเพื่อไม่ให้ไวรัสเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ต่อมาเขาก็ย้ายไปเมือง Brighton ประเทศอังกฤษ และเนื่องจากเขาไม่มีที่ไหนที่พอจะสามารถพักพิงได้ จึงใช้แอปฯหาคู่ชื่อ Grindr ตามหาการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน โดยเขาจะพูดคุยกับคนในแอปฯ ก่อนที่จะไปหาพวกเขาเหล่านั้นที่บ้านและมีอะไรกัน เพื่อที่เขาจะสามารถแพร่ไวรัสที่ตัวเองเป็นอยู่ไปให้กับคนอื่นๆ ได้ วิธีการของเขาก็คือหลอกให้ทุกคนตายใจว่าเขาไม่ได้ป่วย HIV และปฏิเสธที่จะใช้ถุงยาง หรือถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมเขาก็จะใส่แล้วค่อยฉีกถุงในตอนที่กำลังร่วมเพศกันอยู่ ถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะกินยาต้านแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลิกกินเพื่อให้คนอื่นๆ มีโอกาสที่ติดเชื้อจากเขาไปได้มากขึ้น หลังจากนั้นเมื่อแยกย้ายกันไปเขาก็จะโทรหรือส่งข้อความไปเยาะเย้ยให้กับผู้โชคร้ายเหล่านั้นอย่างเช่น “ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมีไข้ เพราะว่าผมสอดใส่เข้าไปในตัวคุณและผมเป็น HIV อุ๊บส์!” หรือ ”ตอนนั้นผมฉีกถุงยางโดยที่คุณไม่รู้ เพราะคุณเป็นคนที่โง่มาก” อัยการ Caroline Carberry ได้เล่าว่า ชายคนนี้ได้ทำพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 จนถึงธันวาคม 2016…
-
ช็อคทั้งอินเดีย โรงพยาบาลหลายแห่งถ่ายเลือดที่มีเชื้อ HIV ให้ผู้ป่วยกว่า 2,234 คน!!
นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศอินเดียเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Usnews ได้รายงานว่า องค์กรควบคุมโรคเอดส์นานาชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของกรมอนามัยและสวัสดิการครอบครัวของอินเดีย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าตลอดระยะเวลา 17 เดือนที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ HIV กว่า 2,234 คน จากการถ่ายเลือดของพวกเขา โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ สาเหตุที่มีการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวก็เพราะว่ามีนักเคลื่อนไหวที่ชื่อว่า เชตาน โคธารี ได้ยื่นหนังสือกับองค์กรควบคุมโรคฯ เพื่อขอรับรู้ข้อมูลที่แท้จริง ทั้งนี้ตามรายงานระบุว่าผู้ติดเชื้อ HIV ส่วนใหญ่อยู่ทางเหนือของประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 361 คน อยู่ในรัฐคุชราต 292 คน รัฐมหาราษฎระ 276 คน และอยู่ในกรุงนิวเดลีอีก 264 คน แต่นาย นายโคธารี เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยนี้อาจยังไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง และคิดว่าอาจจะมากกว่านี้อีก 2-3 เท่า ทางด้านนายนาเรช โกยาล รองผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การควบคุมโรคเอดส์แห่งชาติ ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เลือดบริจาคกลายเป็นเลือดติดเชื้อ HIV ก็เพราะว่าไวรัสต้องใช้เวลาประมาณ 10 วันในการแสดงผล หลังจากที่ติดเชื้อระยะแรก ทำให้ในตอนแรกที่มีผู้มาบริจาคเลือดทางทีมงานที่รับบริจาคเลือดไม่สามารถตรวจเจอเชื้อ HIV การถ่ายเลือดครั้งนี้จะเกิดจากการถ่ายเลือดให้ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียเลือดมากหรือใช้เลือดในระหว่างการผ่าตัดต่างๆ ซึ่งกว่า 84% ของเลือดทั้งหมด…
-
แปลไทยแบบชัดๆ จากคลิปสอบสวน Martin Shkreli ชายที่คนทั้งโลกหมั่นไส้ที่สุดในขณะนี้
เชื่อว่าหลายคนคงได้ชมคลิปนี้กันแล้วนะครับ สำหรับคลิปสอบสวน Martin Shkreli บุรุษที่ชาวอเมริกันและชาวโลกพร้อมใจกันเกลียดมากที่สุดคนหนึ่ง "Pharma Bro" goes to Washington Today was Martin Shkreli's day in Congress, but that didn't stop him from acting the part as “the most hated man in America.” Posted by Quartz on Thursday, February 4, 2016 ท้าวความเล็กน้อย ใครที่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรมา เขาคือคนที่เข้าซื้อ Turing Pharmaceutical บริษัทที่ถือสิทธิบัตรยา Daraprim ที่เป็นยาต้าน HIV แต่เพียงผู้เดียว นั่นทำให้เขาสามารถกำหนดราคาได้ตามใจชอบโดยไม่มีความผิดทางกฎมาย และเขาได้ปั่นมันขึ้นไปจาก 13.5 ดอลลาร์ เป็น 750 ดอลลาร์ หรือว่า…
-
Martin Shkreli ผู้ปั่นราคายาต้าน HIV บุคคลที่โดนเกลียดมากที่สุด ตอนนี้ปั่นราคายาเพิ่มอีกตัว
ถ้าหากว่าเอ่ยชื่อของ Martin Shkreli บางคนอาจจะมาไม่ทันหรือยังไม่รู้จักชื่อเสีย(ง) เรียงนามของพ่อหนุ่มคนนี้ เขาเป็นคนที่โดนเกลียดมากที่สุดในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตัว ไร้น้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยการปั่นราคายาต่อต้านเชื้อ HIV ที่พุ่งสูงไปถึง 5,000 เท่ากว่าราคาที่แท้จริง Martin Shkreli ผู้บริหารระดับ CEO ของบริษัท Turing Pharmaceuticals จากที่เคยทำวีรกรรมแสบเอาไว้ ตอนนี้ก็เอาอีกด้วยการปั่นราคายารักษาโรคอเมริกันทริพาโนโซม (Chagas Disease) เป็นลักษณะของการติดเชื้อปรสิตที่สามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ด้วยการกระทำแบบนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนนับร้อยนับพันต้องตกอยู่ในความเสี่ยง จากปกติที่ตัวยารักษาโรคอเมริกันทริพาโนโซม ควรจะอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ (1,811 บาท) โดนปั่นสูงไปถึง 60,000 ถึง 100,000 ดอลลาร์ (2.17 ล้าน ถึง 3.62 ล้านบาท) วีรกรรมก่อนหน้านั้นคือยาต่อต้านเชื้อ HIV ที่บริษัทของเขาผูกขาดและเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงผู้เดียว จากราคาที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 13.50 ดอลลาร์ (489 บาท) มีราคาพุ่งสูงถึง…
-
GTH ทำคลิป ” ‘พละ’ ผมมีเชื้อ HIV ครับ” แจงข้อมูลเกี่ยวกับโรค ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด!!
ในช่วงนี้บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรมาแรงเท่า Hormones The Series ซีซั่น 3 อีกแล้ว เพราะแต่ละประเด็นที่ทางซีรีส์ได้นำเสนอมานั้น มันเข้ากับบ้านเรามากๆ ยิ่งดูก็ยิ่งคิดได้ว่าสังคมเรามันเป็นแบบนี้จริงเหรอเนี่ย เมื่ออาทิตย์ก่อนๆ ได้มีประเด็นที่คนสงสัยกันมานานว่าตัวละครที่ชื่อว่า “พละ” เขามีเชื้อ HIV จริงหรือเปล่า เพราะได้มีคนวิเคราะห์การใช้ชีวิตของเขาแล้วมันตรงกับผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มากๆ จนกระทั่งตัวอย่างตอนต่อไปได้เฉลยว่าข้อสันนิษฐานนั้นเป็นจริง และวันนี้ ทาง GTH ก็ได้ทำคลิปคลิปหนึ่งออกมา โดยให้พละเป็นคนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับบอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อ HIV ว่าเป็นยังไง เราไปชมกันเลย ถือเป็นซีรีส์หรือละครโดดเด่นทั้งเนื้อหาและการนำเสนอจริงๆ เหมียวคิดว่านี่แหละคืออนาคตของซีรีส์บ้านเรา มันต้องแบบนี้!! สำหรับใครที่ไม่เคยดู เหมียวแนะนำให้ดูเลย มีย้อนหลังในยูทูบทุกตอน ไม่ต้องดูซีซั่นก่อนๆก็สามารถเข้าใจได้ ดูเหอะ มันดีจริงๆนะ ที่มา GTHchannel
-
ชับชับชับ!! WHO อนุมัติ ‘ShangRing’ อุปกรณ์ช่วยขลิบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ต่อสู้กับ HIV
เหมียวเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยของมนุษย์บนโลกนี้ล้วนไม่มีใครอยากมีโรคภัยไข้เจ็บกันทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะโรคติดต่อร้ายแรงอย่าง ‘เอดส์’ ที่เราพยายามรณรงค์และต่อสู้กับมันมาโดยตลอดทุกรูปแบบ และล่าสุดก็มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า องค์การอนามัยโลกได้ปล่อยดาเมจการรณรงค์ต่อสู้กับเชื้อ HIV ด้วยการอนุมัติให้อุปกรณ์ช่วยขลิบสำหรับท่านชายแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งชิ้นนี้ล่ะ!! นี่ก็คือ ‘ShangRing’ ที่ตั้งชื่อตามหนุ่มจีนจากมณฑลอานฮุย ‘นายชาง เจี้ยนจง’ นักประดิษฐ์หัวใส ที่ทำให้การผ่าตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายมีเลือดออกระหว่างการผ่าตัดน้อยที่สุดด้วยแหวนที่ว่า อันที่จริงแล้วอุปกรณ์นี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มผลิตขึ้นนะจ๊ะ แต่สำหรับการใช้งานของมันถือว่าสะดวกและน่าสนใจจริงๆ เพราะจากข้อมูลที่เหมียวได้สืบค้นมาสรุปได้ว่า วงแหวน 2 ชิ้นซ้อนกันที่เห็นนี้ ทำหน้าที่ล็อคหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพื่อท่านชายได้สวมใส่เข้าไป ถ้าใครใจแข็งพอก็กุมเป้าไว้ แล้วกดเพลย์คลิปนี้เลยฮะพี่น้อง!! ส่วนทางองค์กรอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้มีการรับรองว่าเจ้าอุปกรณ์นี้สามารถใช้อำนวยความสะดวกในการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายได้ ทั้งตามความเชื่อทางศาสนาและเพื่อสุขอนามัย งานนี้เค้าก็ได้ทดลองกับหนุ่มๆ ในประเทศแถบแอฟริกา เช่น เคนยา ยูกันดา และแอฟริกาใต้กันไปแล้ว พบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ HIV ในเพศชายได้ถึง 60% เชียวหละจ้า!! ที่มา springnews, markfriedman93