Tag: IT
-
งานสายนี้มันเหนื่อย… IT Support ออกมาแชร์เรื่องแปลก ที่พวกเขาได้พบในชีวิตการทำงาน
ถ้าหากว่าเพื่อนๆ ท่องไปใน Facebook อยู่บ่อยๆ ก็คงจะเคยเห็นเหล่าคนทำงานออกมาบ่นลูกค้าของตัวเองอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเหล่าศิลปินที่มันจะโดนขอให้ทำงานให้ฟรีๆ หรือฟรีแลนซ์กับการแก้งานซ้ำแล้วซ้ำอีก แน่นอนว่าเรื่องราวในวันนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการออกมาแชร์เรื่องราวของผู้ประกอบอาชีพนั่นเอง IT support เป็นงานที่ต้องทำงานกับคนหลากหลายประเภท บวกกับโดยพื้นฐานที่เป็นงานสายแก้ปัญหาด้วยแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะต้องพบกับลูกค้าประหลาดๆ หรือสภาพงานที่ไม่เข้าใจเลยว่าไปทำอย่างไรถึงได้เป็นแบบนั้น จนบางครั้งก็เก็บไว้คนเดียวไม่ไหว ต้องเอาออกมาบ่นกันให้คนอื่นฟัง แบบเรื่องต่อไปนี้ ลูกค้า: บอกพาสเวิร์ดของผมมาที เป็น IT support ต้องรู้สิ IT: แต่มันเป็นพาสเวิร์ดที่คุณตั้งเองนะ ใครจะไปรู้ล่ะ IT support นะ ไม่ใช่ Hacker ลูกค้า: แอนติไวรัสของฉันพังอ่ะ มันบอกว่า “System Infected Backdoor Adwind Activity Detected” มันไม่ได้พังงงงง!!! เครื่องเจ๊โดนไวรัส!!! ลูกค้า: สวัสดี ช่วยมาทาสีรั้วให้หน่อยสิ IT: ….หา? ลูกค้า: ทาสีรั้วไง คุณเป็น IT support ไม่ใช่เหรอ?…
-
ศิลปินผู้ใช้เวลากว่า 900 ชั่วโมง สร้างโลกจำลองของภาพยนตร์ It เพิ่มขึ้นมาจริงๆ
แม้ว่ากระแสของหนังสยองขวัญกับตัวตลกจากเรื่อง IT จะได้ผ่านพ้นกันไปแล้ว แต่ผลงานศิลป์ของศิลปินคนนี้นั้นเพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้เวลานานกว่า 37.5 วัน หรือ 900 ชั่วโมง เรียกว่ากินเวลากันเป็นเดือนๆ เลยนะเนี่ย ศิลปินคนนี้ได้ใช้ชื่อว่า Kassiopeya โดยเขาได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกที่ชื่อว่า Derry Project ด้วยการเนรมิตตู้เครื่องเสียงเก่าๆ จากปี 1958 ให้มาเป็นงานชิ้นนี้นั่นเอง โดยตัวงานจะเป็นการจำลองมุมๆ หนึ่งของเมือง Derry จากหนังเรื่อง IT เขาบอกว่าเขาเคยอ่านนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ และเขาก็ชอบมันมากๆ จนโตมาแล้วมีหนังภาครีบูท เขาจึงรู้สึกว่านี่แหละเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เนรมิตรหนังที่เขาชอบขึ้นมาแล้ว… Kassiopeya ได้สร้างจุดต่างๆ อย่างตั้งใจ ตั้งแต่ตัวบ้านฉากหลัง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงส่วนที่เป็นท่อน้ำต้นตอของเรื่องน่ากลัวทั้งหมด เขาก็เก็บรายละเอียดทุกอย่างเป็นอย่างดี ขนาดการลงสีแต่ละจุดก็สุดยอดมากๆ เลยล่ะ พูดไปเดี่ยวจะหาว่าอวยพี่แกเปล่าๆ เอาเป็นว่าเราลองมาดูผลงานชิ้นเอกที่ว่านี้กันเลยดีกว่า… . . . . . . . . . . .…
-
Bill Skarsgård ผู้รับบท ‘Pennywise’ เผยถึงในหนังมีฉากบางฉากของ ‘IT’ ที่สมควรถูกตัด!!
ก็ผ่านกันไปสักระยะหนังสยองขวัญเรื่อง IT ที่ได้ฉายให้เราได้ขนหัวลุกไปตามๆ กัน ซึ่งแม้เราจะรู้ว่าในหนังนั้นมีความน่ากลัวสุดๆ อยู่แต่ก็มีช่วงปลอดภัยที่เราจะพักหายใจได้อยู่บ้าง แต่สำหรับบางคนคงจะกลัวตัวตลกไปอีกพักใหญ่ๆ เลยล่ะ ทีนี้ล่าสุด Bill Skarsgård นายแบบหนุ่มรูปงามผู้รับบทตัวตลก Pennywise ก็ได้ออกมาพูดถึงหนังที่เขาแสดงว่า จริงๆ แล้วแม้เราจะได้รับความรู้สึกสนุก กลัว ตลก ไปกันแล้ว แต่จริงๆ ในหนังยังมีฉากหลายฉากที่ให้ความรู้สึกหลอนสุดขีดยิ่งกว่าที่เราได้ดูเสียอีก…(ธรรมดานี่ก็หลอนแล้วนะ) Bill ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉากที่ว่านั้นจะเป็นฉากที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 1600s ที่ๆ ก่อน Pennywise จะกลายเป็น Pennywise อย่างในหนังที่เราเห็น ซึ่งมันเป็นฉากที่รับรองว่ามันจะรบกวนจิตใจคนดูมากๆ เพราะฉากนั้นก็คือฉากของผมเอง ผมที่แสดงด้วยหน้าจริงๆ ไม่ใช่ตัวตลก” นอกจากนั้นยังมีรายงานอีกว่า ยังมีฉากที่มีการแลกเปลี่ยนชีวิต โดยแม่ของเด็กคนหนึ่งได้ยื่นข้อเสนอยอมให้ลูกตัวเองถูก Pennywise กิน เพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวเธอเอง แม้ว่าตัว Bill จะออกมาพูดขนาดนี้ แต่เขาก็บอกว่าเขาจะไม่บอกรายละเอียดเชิงลึกของฉากที่ตัดออกรวมถึงฉากอื่นๆ ที่ไม่ได้บอกมากกว่านี้แน่ๆ เพราะมันอาจจะเป็นสปอยเนื้อหา เพราะเขาคาดว่าฉากนี้อาจจะถูกไปใช้ในหนังภาค 2 ต่อนั่นเอง แต่เขารับรองว่าถ้ามันได้ใช้จริงๆ มันจะต้องเป็นอะไรที่กวนใจคนดูไปได้นานพอสมควรและมันจะดีมากๆ…
-
ผลกระทบจากความหลอนของเรื่อง IT ทำให้เหล่า ‘ตัวตลก’ ทั้งหลายได้รับงานน้อยลง…
ในตอนนี้คงมีหลายคนที่ได้เข้าไปสัมผัสกับความสยองของภาพยนตร์เรื่อง IT กันมาแล้ว และทุกคนก็ทราบกันดีตั้งแต่แรกว่า ปีศาจอย่างเจ้า Pennywise ทำให้เรารู้สึกขนหัวลุกกับตัวตลกได้มากขนาดไหน ทว่านอกจากความรู้สึกเหล่านั้นที่ได้ทิ้งไว้ให้ผู้ชมทุกคน มันกลับได้สร้างความปวดหัวให้กับเหล่าตัวตลกในชีวิตจริง ที่ต้องเจอกับปัญหาการว่าจ้างงานที่ลดลงไปมาก จากการรายงานของเว็บไซต์ Hollywood Reporter ได้กล่าวถึงประเด็นที่โรงเรียนและห้องสมุดหลายแห่ง ต่างยกเลิกการจ้างงานตัวตลกมืออาชีพ และจนถึงขั้นที่ สมาคมตัวตลกโลก (World Clown Association) ได้ออกมาชี้ว่า เหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ก็อันเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว… ส่วนหนึ่งของเอกสารจากทางสมาคมตัวตลกโลก ที่เผยว่าตัวตลกนั้นก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยิ้มได้ ไม่ใช่ทำให้รู้สึกกลัว Pam Moody ผู้ที่ทำงานให้กับองค์กรดังกล่าวออกมาพูดว่า เด็กทุกคนจะรู้สึกระแวงกับตัวตลกกันเป็นเรื่องธรรมดา และเมื่อพ่อแม่พยายามที่จะให้เด็กเข้าไปเล่นด้วย ก็อาจทำให้เกิด โรคกลัวตัวตลก (Coulrophobia) ขึ้นได้ แต่เขาก็ยังบอกอีกว่า อย่างไรก็ตามจากที่กระแสสังคมได้สัมผัสภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ของตัวตลกที่เปลี่ยนไปจากเดิม เป็นการสร้างตัวตลกให้กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว มากเกินกว่าที่จะพบเจอในชีวิตจริง พวกเขาเพียงแค่ต้องการสร้างความสนุกและเล่นกับเด็กๆ เท่านั้นเอง แต่ก็ได้มีการโต้แย้งออกมาว่า หากลองคิดกลับกัน ภาพลักษณ์ของตัวตลกที่แต่งกายประหลาด อีกทั้งการแต่งหน้าทาปากที่เป็นเอกลักษณ์ ดูยังไงก็มีความรู้สึกไม่ค่อยดีด้วยอยู่แล้ว… เมื่อมองย้อนกลับไปก่อนที่จะมีหนังเรื่องนี้ ก็ได้มีการพูดถึงตัวตลกในแง่ลบมากมาย อย่างเช่น…
-
สาวๆ เปลี่ยนความน่ากลัวของ ‘เพนนี่ไวซ์’ จากเรื่อง IT ให้กลายเป็นความสวยงามแบบหลอนๆ
หลังจากสร้างกระแสและมีเสียงตอบรับเป็นอย่างดีของ IT หนังสยองขวัญที่สร้างจากนิยายของ Stephen King และตัวเอกอย่างตัวตลก ‘เพนนี่ไวซ์’ ก็มีคนชื่นชอบมากมายในเรื่องความหลอนเช่นกัน (ยังไม่นับเรื่องคนแสดงอีกนะ ฮร่าๆ) และด้วยลักษณะของ เพนนี่ไวซ์ ในแบบฉบับทำใหม่นั้น มีเอกลักษณ์การแต่งหน้าและดีไซน์ที่น่าสนใจ ก็เลยมีสาวๆ มากมายเอาตัวตลกสุดหลอน นำมาใช้เป็นต้นแบบในการแต่งหน้าและดัดแปลงให้เข้ากับแบบฉบับของพวกเธอ ว่าแต่จะสวย จะหลอนแค่ไหนนั้น เราลองมาดูกัน… แบบฉบับรีบูทนั้นจะมีการแต่งหน้าที่เป็นเอกลักษ์ด้วยจมูกสีแดง ปากแดงและเส้นที่ลากขึ้นมาจากปากจนถึงตา และที่ขาดไม่ได้คือลูกโป่งสีแดง!! เริ่มต้นกับแบบเบาๆ กับเธอคนนี้ที่แม้จะแค่บริเวณรอบๆ ดวงตา แต่รายละเอียดดีมากเลยล่ะ ส่วนของเธอคนนี้ก็จะดูน่ากลัวนิดๆ แต่ก็สวยไม่เบาเลยนะ ไม่ต้องทำหน้าแบบขาวสุดๆ ก็เป็นเพนนี่ไวซ์ได้เช่นกัน เธอคนนี้แต่งเป็นเพนนี่ไวซ์แบบฉบับเก่าก่อนรีบูท แต่แม้จะเก่าก็ยังน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย อันนี้น่าจะออกไปทางเซ็กซี่มากกว่าน่ากลัวนะ ฮร่าๆ คนนี้ก็เช่นกัน แม้จะดูน่ากลัวแต่เราก็สัมผัสได้ถึงความสวยของเธอที่ทะลุออกมา แม้เธอคนนี้จะไม่หน้าขาวเหมือนเพนนี่ไวซ์เป๊ะๆ แต่ก็ใช้มาเป็นเรฟในการแต่งหน้าได้โอเคเลยล่ะ ของเธอคนนี้ดูจะออกไปทางแนวโกธิคนิด พังค์หน่อยๆ เลย เก็บรายละเอียดดีเลยนะเนี่ย ที่มัดผมก็แสดงถึงลูกโป่งได้ …
-
หนุ่มแต่งเป็นตัวตลกไปนั่งดู IT งานนี้หลอนในหนังไม่พอ เปิดไฟมาหลอนไปทั้งโรงเลย…
บ้านเราอาจจะไม่ค่อยมีคนที่กลัวตัวตลกมากนัก แต่ถ้าสำหรับเมืองนอกตัวตลกนั้นถือเป็นไอค่อนสำหรับความน่ากลัวได้ดีทีเดียว และแน่นอนว่าด้วยกระแสของ IT ที่พึ่งเข้าฉายไป ก็ยิ่งรู้ว่าปีนี้ไม่เป็นมิตรกับคนที่กลัวอะไรแบบนี้เลย หลายคนอาจจะได้ไปดู IT กันมาบ้างแล้ว หรือหลายคนอาจจะยังลังเลว่ามันน่ากลัวมากไหม มันจะสนุกหรือเปล่า สำหรับ #เหมียวมู่ทู่ ที่ไปดูมาแล้วบอกเลยว่าทั้งน่ากลัวและสนุกมากๆ แนะนำให้ไปดูเลย แต่ถ้าไปแล้วอย่าทำแบบชายเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ล่ะ!! เรื่องของพ่อหนุ่มคนนี้เริ่มจากที่มีชาวเน็ตได้ทวีตภาพของเขา หลังจากที่ไปดูเรื่อง IT จนจบแล้วหันมาพบว่าเขานั่งอยู่ข้างหลังสุดในชุดตัวตลกพร้อมกับลูกโป่งสีแดง แต่เรื่องมันพีคที่สุดก็เมื่อผู้จัดการฝ่ายสื่อสารของ Hello Games ได้รีบเข้าโรงหนังเพื่อไปดู IT ก่อนใครๆ แต่เขาที่คิดว่าทั้งโรงจะมีแค่ตัวเอง ก็ดันไปเจอกับตัวตลกเจ้ากรรมที่มานั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาเลยแบ่งปันเรื่องราวสุดหลอนนี้มาให้เราได้ดูกัน ผมเข้าโรงไปก่อนคนแรก และดูว่าผมเจออะไร แม่มนั่งอยู่โดดๆ แถมถือลูกโป่งไว้อีก ผมนั่งไปสักพัก เจ้าตัวตลกก็เริ่มเดินไปมาอยู่กับที่ไม่เป็นแล้ว!! ไม่ใช่แค่ตาคริสเท่านั้นที่เจอ ชาวเน็ตคนอื่นๆ ในวันเดียวกันก็เจอเหมือนกัน พร้อมบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไปดู IT ก็น่ากลัวแล้วยังมีไอ้บ้าที่ไหนแต่งเป็นตัวตลกถือลูกโป่งมานั่งหลอนๆ ข้างหลังอีก ชาวเน็ตก็เลยเสนอวิธีตอบโต้ว่า นาย Chris ต้องเจาะลูกโป่งทิ้งซะ ถ้าลูกโป่งหาย เจ้าตัวตลกก็จะหายไปด้วย!! ส่วนนายคนนี้ก็บอกว่า…
-
พบตัวตลกออกอาละวาดอีกครั้ง ทำตัวมีพิรุธอยู่ตามบ้านในสหรัฐฯ คาดเพราะกระแสเรื่อง ‘IT’
ในตอนนี้คงมีใครหลายคนได้ไปรับชมภาพยนตร์หลอนแห่งปีเรื่อง IT กันมาแล้ว และจำกันได้กับความหลอนของ Pennywise ปีศาจตัวตลกภายในเรื่อง ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบได้มากกว่าความน่ากลัวภายในเรื่อง เมื่อกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐ Wisconsin ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถจับภาพคนแต่งหน้าและสวมชุดตัวตลกคล้ายกับในหนัง พร้อมกับถือลูกโป่งสีดำ เดินไปเดินมาอยู่บริเวณสวนหน้าบ้าน ก่อนที่จะมองเข้ามาในบ้านอย่างมีพิรุธ การแต่งตัวแต่งหน้าทาปาก และภาพในลักษณะขาวดำ ทำให้ดูไม่ออกเลยว่าบุคคลนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง . เหตุการณ์นี้จึงทำให้ตำรวจคาดการณ์ว่า หนังเรื่องดังกล่าวจะทำให้ “อาชญกรรมในคราบของตัวตลก” กลับมาอีกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่ในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ทำการออกมาแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังภัยของตัวตลกชวนขนหัวลุกเหล่านี้ ที่จะกลับมาออกอาละวาดในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่หนังเรื่อง IT กำลังจะเข้าฉายพอดี Pennywise ปีศาจตัวตลกจากหนังเรื่อง IT วิดีโอที่ถูกถ่ายโดยกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่ง บุคคลในคลิปวิดีโอที่ถ่ายมาได้ คาดว่าน่าจะเป็น Gags ตัวตลกในเมือง Green Bay แห่งนี้ ซึ่งมีผู้พบอยู่บ่อยครั้งในช่วงสิงหาคมที่ผ่าน มีรูปที่แชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊คของตัวตลกตัวดังกล่าว เผยให้เห็นลักษณะการแต่งตัวและถือลูกโป่งในแบบเดียวกันที่เห็นในคลิป ตัวตลกที่รู้จักกันในชื่อ Gags มีผู้พบเจอไปทั่วเมือง . หนึ่งในผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่า ตัวตลกที่ออกมากลั่นแกล้งสร้างความน่ากลัวในเมืองนี้…
-
ความหลอนจากหนังเรื่อง IT ทะลุออกมานอกจอ กับลูกโป่งสีแดงลอยเต็มเมืองซิดนีย์
ตอนนี้คงมีใครหลายคนรอที่จะได้รับชมภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปีที่มีชื่อว่า IT เพราะกระแสการตอบรับจากรอบสื่อออกมาค่อนข้างดี แม้แต่ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้อย่าง Stephen King ถึงกับออกมาบอกว่ามันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากจริงๆ เรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ถูกมองว่าแปลกแยก เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่ากลุ่มของคนขี้แพ้ ต้องเข้าไปเผชิญและต่อสู้กับปีศาจที่ไม่มีวันตายในคราบตัวตลกที่ชื่อว่า Pennywise รับบทโดย Bill Skarsgard เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดของมันก็คือ จะมีลูกโป่งสีแดงติดตัวไปไหนมาไหนและมันจะใช้ลูกโป่งสีแดงนี้หลอกล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ สิ่งนั้นได้กลายมาเป็นไอเดียของการโปรโมตหนังไปในปริยาย ตอนนี้ท่อระบายน้ำในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีลูกโป่งสีแดงผูกไว้เต็มไปหมด พร้อมกับประโยคชวนหลอนว่า “มันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด” ซึ่งทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องรู้สึกขนหัวลุกไปตามๆ กัน สิ่งนี้ได้รับกระแสตอบรับในทวิตเตอร์ออกมามากมาย “ตอนนี้มีลูกโป่งแดงลอยเต็มเมืองไปหมด และฉันก็จะเป็นบ้าอยู่แล้ว” “จากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ฉันอยากแนะนำว่าอย่าที่จะไปเข้าใกล้เจ้าลูกโป่งนี่เด็ดขาด” “ไม่ได้อย่างแน่นอน ลูกโป่งสีแดงบ้าๆ นี่มีอยู่ให้เห็นเต็มซิดนีย์ไปหมด และคุณเองจะลอยขึ้นฟ้าไปเหมือนกัน” . ถ้าใครจำได้ ช่วงสัปดาห์ก่อน Eagan Tilghman ไม่รู้เบื่ออะไรมา จึงเกิดปิ๊งไอเดียจับน้องของเขาเองมาแต่งหน้าทาปากและยัดลูกโป่งแดงเข้ามือ เป็นความหลอนแบบน่ารักๆ ถือว่าเป็นไอเดียเจ๋งๆ ในการโปรโมตหนังจริงๆ ใครที่สนใจรอชมหนังเรื่องนี้กันในวันที่ 7 กันยายนเลยจ้าาา ที่มา: ladbible
-
ประเด็นดราม่า เว็บไอทีดังเขียนบทความสอนโกง Pokemon GO แถมตำหนิคนเล่นสร้างความเดือดร้อน
กลายเป็นประเด็นดราม่าอย่างรุนแรงเลยทีเดียว สำหรับเว็บไซต์ด้านไอทีชื่อดังเว็บไซต์หนึ่ง หลังเขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon GO โดยไม่ต้องเดินออกจากบ้านไปไหน รวมทำตำหนิคนที่ออกไปเล่นเกม Pokemon GO นอกบ้านสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น จนชาวเน็ตเข้ามาต่อว่าอย่างรุนแรง โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ทางด้านไอทีชื่อดังของไทยเว็บไซต์หนึ่งได้เขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon Go ในชื่อ “xxxxพาแบก PC ไปจับ Poke’mon คอมบ้านก็จับโปเกม่อนได้นะ” โดยตัวบทความได้สอนให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกม Pokemon GO ได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Destop หรือ Laptop โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปไหน ซึ่งถือว่าขัดกับเจตนารมณ์ของค่าย Niantic ที่ต้องการให้ผู้เล่นอออกจากบ้านไปเดินเล่น ยิ่งไปกว่านั้น มีส่วนหนึ่งของบทความเขียนตำหนิในทำนองว่า การเล่น Pokemon GO อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ เมื่อชาวเน็ตเห็นบทความดังกล่าว ก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เว็บไซต์ดังกล่าวอย่างรุนแรง . . เรียกว่าเดือดจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนิล่ะ ไม่ต้องรู้หรอก อิอิ
-
อนาคตมาแล้ว!! บริษัทต่างชาติระดมทุนสร้างเครื่องพิมพ์ 3 มิติ แค่ต่อกับมือถือก็พิมพ์ได้แล้ว!!
เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติเริ่มเข้าใกล้กับผู้ใช้ทั่วๆ ไปมากขึ้นทุกทีๆ แล้วล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้บริษัท OLO 3D Inc. ได้เปิดตัวผลิตภันฑ์ที่ชื่อว่า OLO 3D Printer เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือและพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว เจ้าเครื่องพิมพ์ OLO นั้นใช้เวลาในการคิดค้นและพัฒนามานานกว่า 2 ปี มันคือเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือ และสร้างวัตถุแบบ 3 มิติขึ้นมาได้ เจ้าเครื่องนี้ทำงานโดยใช้ถ่าน AA 4 ก้อนและสามารถพิมพ์ได้ 100 ครั้งทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเรซินชนิดใหม่ที่เรียกกันว่า Daylight Resin เพียงแค่เทเจ้าเรซินชนิดนี้ลงไปยังกล่อง OLO และนำมือถือไปวางปิดด้านบน เจ้าเรซินขนิดนี้ก็จะสามารถแข็งตัวได้เมื่อถูกแสงสีขาวจากหน้าจอมือถือ และเราก็จะได้โมเดล 3 มิติออกมานั่นเอง และเพื่อนๆ สามารถมั่นใจได้เลยว่านี่ไม่ใช่ข่าว April Fool’s Day อย่างแน่นอน เพราะทีมงาน OLO…
-
เชื่อหรือไม่? นี่คือคลิป “บ้านๆ” ที่ทำให้ Google ตัดสินใจซื้อ Youtube เมื่อ 9 ปีที่แล้ว
อย่างที่ทราบกันดีว่าเว็บไซต์ YouTube นั้น เป็นบริการส่วนหนึ่งของ Google แต่ลองย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เว็บไซต์ Youtube เป็นเว็บเว็บวิดีโอเล็กๆ ที่เพิ่งจะเริ่มก่อตั้งขึ้น แต่อะไรดลใจทำให้ Google เข้าซื้อกิจการของพวกเขากันนะ? ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว Susan Wojcicki ได้ถูก Google แต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลโปรเจกต์วิดีโอ ซึ่งตอนนั้นเธอไปสะดุดตาเข้ากับเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Youtube พอดี และเมื่อเธอเห็นคลิปวิดีโอบ้านๆ ของ 2 หนุ่มชาวจีน ก็ทำให้เธอตัดสินใจได้และตอบตกลงทันที คลิปที่ว่านี้มีชื่อว่า “BSB” เป็นคลิปของ 2 หนุ่มชาวจีน ที่ลิปซิงค์เพลง As Long As You Love Me จากวง Backstreet Boys ใช้กล้องธรรมดาๆ และถ่ายแบบเทคเดียวจบ ภายในวิดีโอแสดงให้เห็นวัยรุ่น 2 คนใส่เสื้อวอร์มสีแดงกำลังลิปซิ้งค์เพลงอยู่อย่างเมามัน…