Tag: japan
-
ห้องพักญี่ปุ่นนำเสนอ ออปชั่นพิเศษ ‘แมวเช่า’ สำหรับทาสแมวที่ไม่มีแมวมาอยู่ด้วย
เวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่น เหล่าทาสแมวย่อมไม่พลาดที่จะไปเที่ยวคาเฟ่แมว สวรรค์ที่เต็มไปด้วยแมวน่ารักจำนวนมาก ถึงจะอยู่ด้วยกันได้แค่แป๊บเดียว แต่มันก็ทำให้รู้สึกชื่นใจขึ้นมาได้บ้าง ทว่าวันนี้มีอีกทีหนึ่งที่ทาสแมวอาจจะสนใจเวลาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มันคือ My Cat ( まいきゃっと) ซึ่งอยู่ในเขตฮาโกเนะ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เป็นที่พักเหมือนกับโรงแรมทั่วไปนี่แหละ แต่ที่พิเศษก็คือที่นี่มีบริการให้ ‘เช่าแมว’ ไปอยู่ในห้องด้วย! ที่พักแห่งนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตหลังจาก @mituyasann หญิงรักแมวที่ได้มาพักที่นี่ รีวิวความน่ามาพักไว้บนทวิตเตอร์ของเธอเอง เธอทวีตไว้ว่า “เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉันไปเที่ยวที่เมืองฮาโกเนะ เพื่อสลัดความเครียดจากการทำงานในเดือนเมษายนทิ้งบ้าง ฉันได้พักในที่ที่ดีที่สุดที่เคยเจอมา … มันเป็นโรงแรมในเมืองยูกาวาระที่มีแมว (เช่า) อยู่ด้วย! ถึงฉันจะเลี้ยงแมวไว้ที่บ้านไม่ได้ แต่ฉันชอบเจ้าเหมียวตัวนี้มากเลย มันทำให้ฉันดีใจจนน้ำตาไหลเชียวล่ะ” ตอนแรกที่เข้าไปพัก ถ้าเราอยากเช่าแมว คนดูแลจะให้เลือกแมวก่อน รอบนี้หญิงสาวเลือกเจ้า Kai มาอยู่ด้วย คนดูแลบอกว่า Kai มันชอบเล่นคนเดียว แต่ก็ยังยอมให้เธอลูบอยู่นะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วเจ้าเหมียวก็ขี้เล่นผิดกับที่โฆษณาไว้ทุกอย่าง ตั้งแต่เข้าห้องมามันก็เดินเข้ามาเล่นกับเธอเองแล้ว แถมไม่ยอมปล่อยซะด้วยสิ งื้อ ทาสฟิน …
-
แมวเหมียวสุดหล่อ ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปท่าไหน ยังไง รูปก็ออกมาดูไม่น่าเกลียดสักรูป!?
แมวเหมียว Nyankichi เป็นแมวหนุ่มจากจังหวัดคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มันเกิดมาพร้อมกับหน้าตาหล่อเหลา แถมยังมีทาสที่ชอบเอาใจซะด้วย เจ้าเหมียวกับทาสท่องเที่ยวด้วยกันไปทั่วประเทศ และระหว่างนั้นทาสก็เก็บภาพของเจ้าเหมียวระหว่างที่เที่ยวมาเยอะแยะเลย ที่น่าแปลกใจก็คือไม่มีรูปไหนเลยที่เจ้าเหมียวดูไม่ดี!! ถึงจะฟังดูขี้โม้ แต่รูปของมันก็เป็นหลักฐานแล้วว่ามันถ่ายรูปขึ้นทุกขณะจริงๆ แถมมันยังมีแฟนคลับในเฟซบุ๊กที่กดถูกใจให้กว่า 123,000 ครั้ง แล้วก็มีคนติดตามตั้ง 70,000 คนด้วย เถียงไม่ได้เลยว่ามันดูดีขนาดไหน แลบลิ้นให้กล้องทำไมอะ รูปตาปรือก็ดูเซ็กซี่ ถ่ายมุมเผลอยังไงก็สวย รู้จักจัดท่าให้ตัวเองด้วยนะ ภาพในแบบในน้ำนี่แหละมัดใจแฟนคลับได้ เจ้าทาสทำไมไม่จัดแสงให้มันดีๆ ห๊ะ!! แค่นอนเล่นก็หล่อแล้ว องศาการมองโคตรนายแบบ ถ่ายเบลอๆ ก็ยังน่าร๊ากกก เลียนแบบพระพุทธรูปแป๊บ ถ่ายตอนข้าโดดน้ำให้ได้นะเจ้าทาส ดูเหมือนเป็นแมวยักษ์เลย ความสวยของดอกไม้ต้องชิดซ้ายเมื่อเจอแมว เราไม่กลัวน้ำนะจะบอกให้ ตอนตกใจก็ยังดูดีเลยอะ ถ่ายรูปเก๊าแล้วไม่นับ จะยิ้มให้กล้องได้ยังไง …
-
ปิดตำนาน 35 ปี ร้านเกมชื่อดังในญี่ปุ่น เพราะปัญหาสุขภาพ คนดังวงการเกมให้กำลังใจเพียบ
จากประสบการณ์ของ #เหมียวฟิ้น ที่เคยไปเดินในญี่ปุ่นมาบ้าง ทำให้เห็นว่าร้านขายเกมต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างใหญ่และครบวงจรทีเดียว เนื่องมาจากการซื้อขายเกมแบบถูกลิขสิทธิ์บ้านเค้าค่อนข้างที่จะแข็งแรง ไม่เฉพาะแต่กับแผ่นเกม แม้แต่พวก CD เพลงที่ออกวางขายมาหลายปีแล้ว เราก็ยังสามารถหาซื้อกันได้ที่ญี่ปุ่น กลับมาที่เรื่องร้านขายเกมกันต่อครับ ล่าสุดเราไปเจอข่าวคราวการปิดตัวของร้านขายแผ่นเกมร้านนึงเข้า แต่สาเหตุไม่ได้มาจากการขาดทุนหรือยอดขายลดลง แต่เป็นเพราะเรื่องของสุขภาพคนขายเอง แต่สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้น่าสนใจก็เพราะว่าในวันปิดร้าน มีเหล่าผู้บริหารค่ายเกมดังและคนแวดวงเกมมาร่วมให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามทีเดียว เว็บไซต์ Kotaku ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2018 ที่ผ่านมา ร้านเกมชื่อดัง Games Maya ที่เปิดทำการมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปี ได้ปิดตัวลง ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ร้าน Games Maya ดูจะไม่ใช่ร้านที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่เนื่องจากเจ้าของร้านอย่างคุณ Hisako Akitani มีอัธยาศัยที่ดี ตั้งราคาขายที่เหมาะสม มีสินค้าให้เลือกมากมาย มันจึงกลายเป็นร้านที่ไม่ว่าใครก็แวะเวียนเข้าไปดูเสมอ ในกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นเองก็มีหลายคนที่เติบโตมาและเข้าไปทำงานในอุตสาหกรรมเกมจริงๆ ซึ่งหลายๆ คนถึงกับได้เป็นผู้บริหารระดับสูงเลยก็มี หลายครั้งที่คุณ Hisako มักจะถูกเชิญไปงานแถลงข่าวเปิดตัวเกมต่างๆ จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคนวงการเกมมาอย่างยาวนาน แต่หลังจากเปิดทำการมา 35 ปี เธอก็ตัดสินใจที่จะปิดตัวกิจการนี้ลง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพและคุณหมอแนะนำให้เธอหยุดทำงานเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง…
-
ใครว่าคนญี่ปุ่นไม่มีขโมย? ล่าสุดชาวญี่ปุ่นพบต้นซากุระถูกตัดแหว่งในโอซาก้า
ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ค่อนข้างซื่อตรง มีระเบียบวินัย เรื่องลักเล็กขโมยน้อยนี่แทบจะไม่มีเลย แต่จากข่าวที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้อาจทำให้คุณเริ่มเปลี่ยนความคิดก็ได้นะ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในญี่ปุ่นได้รายงานว่ามีคนพบเห็นต้นไม้กว่า 25 ต้น กิ่งไม้ 18 กิ่ง ถูกตัดแหว่งในสวนสาธารณะ Kanokita Park ในเมืองฮิงาชิโอซะก้า ซึ่งในบรรดาต้นไม้ที่ถูกตัดไปมีต้นซากุระรวมอยู่ด้วยหลายต้นทีเดียว ในตอนแรกชาวเมืองคาดว่าน่าจะเป็นหน่วยงานรัฐที่เข้ามาจัดการกับต้นไม้เหล่านั้น อาจด้วยเหตุผลว่ากิ่งก้านเหล่านั้นเน่าเสีย ใกล้หักหรืออะไรก็ตามแต่ แต่กลายเป็นว่าไม่มีหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเลย จากหลักฐานจึงคาดได้ว่าน่าจะเป็นหัวขโมยที่แทบจะไม่เคยมีเลยในญี่ปุ่น ในขณะที่หลายๆ คนกำลังตื่นเต้นกับฤดูซากุระบานในญี่ปุ่น พากันเอาเสื่อออกไปกางพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อชมความงามของดอกไม้ แต่กลับมีหัวขโมยมาแอบตัดไป จนทำให้ชาวเมืองเกิดความสงสัยว่าตัดไปทำไม และจะเอาไปไว้ที่ไหน? มีการวิเคราะห์กันจากรอยตัดต้นไม้ ว่ามีความเรียบเนียนคล้ายกับการใช้เครื่องมือระดับโรงงาน จึงน่าจะไม่ใช่หัวขโมยทั่วๆ ไป “ฉันไปสวนสาธารณะ Kanokita Park มา เป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่โดนตัดซากุระไป รอยตัดใหม่ๆ บนผิวหน้ามันดูเจ็บปวดและแย่มาก มันอยู่ตรงกลางสวนสาธารณะเลย” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น @Norikyuu กล่าว . . …
-
ยูทูบเบอร์ดักรอคนในป่าฆ่าตัวตายที่ญี่ปุ่น จนสามารถช่วยชีวิตคนคิดสั้นได้สำเร็จ
ชื่อเสียงของป่าฆ่าตัวตายหรือป่าอะโอะกิงะฮะระ ในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลายเป็นชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากที่ยูทูบเบอร์อย่าง Logan Paul เข้าไปถ่ายคลิปห่ามๆ ที่นั่น จนทำให้ชาวญี่ปุ่นและคนทั่วโลกก่นด่ากันมากมาย จากนั้นเป็นต้นมาได้มีการพยายามปรับภูมิทัศน์ของป่าแห่งนี้ และโปรโมตเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้คนอยากมาท่องเที่ยวมากกว่าฆ่าตัวตาย ล่าสุดมียูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาย Saito Taicho ได้เข้าไปในป่าอะโอะกิงะฮะระเพื่อถ่ายคลิปเช่นกัน แต่เขาก็ค่อนข้างกังวลว่าคลิปนี้จะถูกต่อว่าหรือเปล่า จึงเกิดความลังเลในใจ “บอกตรงๆ เลย ผมค่อนข้างรู้สึกขัดแย้งในตัวเองมากเกี่ยวกับว่า ผมควรจะอัปโหลดหรือไม่อัปโหลดคลิปวิดีโอนี้ลง Youtube ดี แต่ผมหวังว่ามันจะช่วยผู้คนที่ต้องรับมือกับความเจ็บปวดและความเศร้าทุกวัน เพื่อตระหนักว่าชีวิตของพวกเขามีค่า ผมเลยอัปโหลดมัน” Saito กล่าว จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่านาย Saito กำลังยืนอยู่ตรงบริเวณจุดจอดรถบัส พร้อมกับถือป้ายที่มีข้อความว่า Free Hugs (กอดฟรี) เพื่อรอดูว่าจะมีใครที่มีท่าทีเป็นบุคคลที่มีอาการซึมเศร้าและมีโอกาสเดินเข้าป่าเพื่อฆ่าตัวตายหรือไม่? ถ้าเจอใครที่เข้าข่ายตามนี้เขาก็จะเดินเข้าไปหาคนๆ นั้นในป่า พูดคุยกับเขา พยายามโน้มน้าวให้เขาคนนั้นพิจารณาสิ่งที่จะทำใหม่อีกครั้ง Saito บอกว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาอยากทำคลิปนี้ก็เพราะไปเห็นป้ายที่ถูกติดไว้ตามข้างทางในป่าอะโอะกิงะฮะระ ที่มีข้อความมากมายพยายามเตือนใจผู้คนที่คิดฆ่าตัวตายว่า ไม่ว่าความเศร้าเสียใจของพวกคุณจะมากขนาดไหน แต่ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งก็ยังเป็นสมบัติอันล้ำค่าอยู่ดี “ผมไม่ได้ทำเล่นๆ นะ” Saito กล่าวหลังจากที่ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่งในการยืนรอที่ป้ายรถบัส จากนั้นไม่นานเขาสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินลงมาจากรถโดยที่ไม่ได้ถือกล้อง กระเป๋า หรือสิ่งใดๆ ติดตัวมาเลย แถมยังไม่ได้ใส่เสื้อสำหรับเดินป่ามาด้วย …
-
สื่อญี่ปุ่นรายงาน Tsunenori Aoki นักแสดงจาก Kamen Rider ถูกจับเพราะจับหน้าอกสาว!?
เชื่อว่าฮีโร่ในวัยเด็กของใครหลายๆ คน ต้องมี “ไอ้มดแดง” รวมอยู่ในนั้นแน่ๆ เพราะพวกเขาคือฮีโร่ที่เป็นต้นแบบของความดี คอยผดุงความยุติธรรม แต่หากวันหนึ่งพวกเขาดันทำผิดซะเองล่ะจะเป็นยังไง? เว็บไซต์ Soranews24 ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตเซะตะงะยะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าจับกุมนักแสดงหนุ่มอย่างนาย Tsunenori Aoki วัย 30 ปี หลังได้รับแจ้งเหตุจากหญิงสาวว่าถูกนาย Aoki จับหน้าอกเข้า ตามรายงานบอกว่านาย Aoki นั้นนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งจนถึงเวลาราวๆ ตี 1 ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกมาแล้วจับหน้าอกของหญิงสาว 4 คน ภายในเวลาเพียง 30 นาที หลังจากถูกจับกุมนาย Aoki ได้กล่าวว่า “ผมมีงานยุ่งมากๆ และผมดื่มมากไปหน่อย” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน้าที่การงานของเขาสะดุดอย่างจัง เพราะในเร็วๆ นี้เขากำลังจะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เตรียมเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และจะเปิดให้ชมรอบสื่อในวันที่ 14 เมษายนนี้ ก็มีอันต้องยกเลิกไปก่อนเพราะข่าวของเขา Tsunenori Aoki นั้นเป็นนักแสดงที่แฟนๆ…
-
บ.ญี่ปุ่นสร้างเงาปลอมๆ บนผ้าม่าน เพื่อให้สาวโสดที่อยู่คนเดียวรู้สึกอุ่นใจจากมิจฉาชีพ
หากคุณคือสาวโสดที่ต้องอาศัยอยู่ในหอพัก อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดเพียงคนเดียวในเมืองหลวง แล้วรู้สึกกังวลว่าอาจจะมีอาชญากรหรือขโมยขโจรมาทำมิดีมิร้ายกับคุณล่ะก็ เราพอจะมีทางออกให้คุณแล้วล่ะ บริษัทอย่าง Leo Palace 21 ผู้ที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเข้าไปช่วยจัดการเกี่ยวกับธุรกิจหอพักในญี่ปุ่นได้คิดค้นระบบที่ชื่อว่า Man on the Curtain (ชายหนุ่มบนผ้าม่าน) เป็นระบบที่จะฉายภาพเงาของชายหนุ่มจากโปรเจกเตอร์หรือสมาร์ตโฟนลงไปบนผ้าม่าน โดยในเงาที่ฉายออกไปนั้นจะเป็นภาพของชายหนุ่มขณะออกกำลังกายมั่ง ทำความสะอาดห้องมั่ง ดื่มกาแฟมั่ง เล่นโยคะมั่ง ต่อยมวยมั่ง คาราเต้มั่ง และอื่นๆ อีกมากมายกว่า 12 แบบ ทำให้คนที่มองจากภายนอกเห็นว่าคุณไม่ได้อยู่ในห้องเพียงคนเดียว ถ้าคุณเกิดความสงสัยว่าแค่ภาพเงาธรรมดาๆ แบบนี้มันจะดีกว่าการตัดกระดาษแข็งมาวางไว้ที่ผ้าม่านยังไงล่ะก็ ขอบอกว่าระบบ Man on the Curtain มันสามารถเคลื่อนไหวได้แบบเต็มรูปแบบเลยนะ มีการขยับเขยื้อนเหมือนคนจริงๆ (เพราะมันถ่ายมาจากคนจริงๆ นั่นแหละ) ตามรายละเอียดโปรเจกต์นี้บอกว่าเงาแต่ละแบบนั้นจะเคลื่อนไหวได้ยาวนานกว่า 30 นาทีด้วยการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน . ลองชมตัวอย่างเงาหนุ่มต่อยมวยจากคลิปนี้ได้เลย หรือจะยกน้ำหนักก็มี ที่มา soranews24
-
โรงเรียนในญี่ปุ่นสนับสนุน LGBT เปิดให้นักเรียนแต่งยูนิฟอร์มไม่ตรงเพศกำเนิดได้
ปัจจุบันโลกของเราเปิดรับกระแส LGBT หรือก็คือกลุ่มคนที่เพศไม่ตรงเพศกำเนิดมากกว่าแต่ก่อนมาก ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของประเทศเรา ก็อนุญาตให้บัณฑิตที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศแต่งชุดบัณฑิตผู้หญิงมารับปริญญาได้แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีความเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBT เช่นกัน โดยโรงเรียน Kashiwanoha Middle School ได้อนุญาตให้นักเรียนชั้นมัธยมต้นทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศใด แต่งกายชุดนักเรียนของผู้ชายหรือผู้หญิงมาโรงเรียนก็ได้ โรงเรียนที่ว่านี้อยู่ในเมืองคาชิวะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นมาจากโรงเรียน Kashiwanoha Elementary School ที่เปิดเมื่อปี 2012 โดยมีการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนในชั้นประถมศึกษาเท่านั้น ในปีนี้นักเรียนกลุ่มแรกที่เข้าเรียนก็กำลังจะจบชั้นประถมศึกษา และเพื่อรองรับนักเรียนเข้ามาเรียนในชั้นมัธยมศึกษาต่อ จึงได้สร้างโรงเรียนมัธยม Kashiwanoha Middle School ขึ้นมา ความพิเศษของโรงเรียนนี้ก็คือการให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษา ใช้สระว่ายน้ำและโรงอาหารร่วมกันและยังข้ามไปใช้ตึกเรียนร่วมกันด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับนักเรียนประถมก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในระดับมัธยมนั่นเอง แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนที่กำลังจะเข้าศึกษาในระดับมัธยม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถเลือกใส่ชุดนักเรียนของอีกเพศหนึ่งได้ตามความสบายใจของนักเรียนเองเลย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดเรื่องการเปิดรับ LGBT ที่มีมากขึ้นนั่นเอง ในตอนแรกทางโรงเรียนอยากจะให้นักเรียนแต่งชุดอะไรมาเรียนก็ได้ด้วยซ้ำ ทว่าทางด้านผู้ปกครองกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีความต้องการให้ลูกของตนสวมใส่ชุดนักเรียน ทางโรงเรียนจึงทำตามความต้องการนั้นนั่นเอง บุคลากรที่โรงเรียนเองก็พยายามเลือกชุดที่ดูเป็นกลางมากที่สุดเพื่อไม่ให้ชุดดูค่อนไปทางเพศใดเพศหนึ่งมากเกินไป จึงไม่ได้ใช้ชุดนักเรียนกะลาสีที่มีความเป็นผู้หญิง และชุดเสื้อแจ็คเก็ตคอตรงที่ดูมีความเป็นผู้ชาย สุดท้ายจึงเลือกใช้เสื้อเชิ๊ตสีขาวแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตแทน นักเรียนสามารถเลือกที่จะใส่กางเกงสแล็กหรือกระโปรงได้ตามใจชอบ และก็สามารถเลือกที่จะผูกคอเสื้อด้วยเนกไทหรือโบว์ก็ได้เช่นกัน แม้ว่าโรงเรียนบางแห่งจะให้นักเรียนหญิงผูกเนกไทได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีโรงเรียนไหนอนุญาตให้ผู้ชายผูกโบมาก่อนเลย ทางโรงเรียนหวังว่ากฎระเบียบการแต่งกายแบบใหม่นี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างเพศ และเพิ่มความสบายใจในการแต่งตัวให้กับนักเรียนทุกคนได้ พวกเขาจะได้มาโรงเรียนด้วยความรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย…
-
เทรนด์ใหม่ในญี่ปุ่น “กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์” เน้นความต่ำ แต่ไม่น่าใส่สบายนะ ถัมเพื่อครายยยย!?
เทรนด์แฟชั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ โดยเฉพาะแฟชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงแล้วต้องมีอะไรแปลกใหม่ตลอดเวลาเพื่อมาประชันความสวยงามกันให้ได้ เมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมาแฟชั่นเสื้อผ้าที่ฮิตติดตลาดอีกอย่างก็คือกางเกงโลวไรซ์ หรือในอีกชื่อหนึ่งก็คือกางเกงเอวต่ำนั่นเอง เพราะมันช่วยให้เห็นช่วงเอวและสะโพกของหญิงสาวมากขึ้น พูดอีกแบบก็คือยิ่งต่ำก็ยิ่งเซ็กซี่นั่นแหละ มาในปี 2018 ในประเทศญี่ปุ่นก็ได้อัปเกรดความเซ็กซี่กันไปอีกระดับหนึ่ง โดยเน้นหลักการเดียวกับกางเกงเอวต่ำนี่แหละ แต่ทำให้มันต่ำลงไปยิ่งกว่าเดิมเยอะ จนเกิดเป็นกางเกงใน ‘ซูเปอร์โลวไรซ์’ ขึ้นมา กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์ ต่ำอะไรขนาดนั้นแม่คู๊ณ กางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์ หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่ากางเกงในเอวโคตรต่ำนี้เป็นสินค้าของแบรนด์ Predator Rat จากเดิมที่กางเกงในเอวต่ำนั้นต่ำลงจนแทบจะเห็นไรขนอยู่แล้ว กางเกงในเอวโคตรต่ำนี้ลดขอบลงไปจนแทบจะเห็นส่วนสงวนของสาวๆ เลย กางเกงในอะไรทำไมใส่แล้วไม่ปิดก้น ดูแล้วกางเกงในแบบใหม่นี้ไม่น่าจะสวมใส่สบายตัวสักเท่าไหร่หรอก ก็ดูสิว่าสวมแล้วแก้มก้นโผล่ออกมาอย่างกับไม่ได้ใส่อะไรเลยสักนิดเดียว เห็นแล้วทนดูอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ จากในภาพจะเห็นได้ว่าพอนางแบบสวมกางเกงในซูเปอร์โลว์ไรซ์แล้ว มันไม่ได้ปกปิดร่องก้นของเธอเลย เวลาใส่กางเกงคงเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดเป็นแน่แท้ ใครจะใส่กางเกงในตัวนี้ต้องระวังนิดนึง ดูท่าจะหลุดง่าย พอเปลี่ยนมุมมองมาทางด้านหน้าดูน่าหวาดเสียวกว่าทางด้านหลังเสียอีกอีก เพราะมันช่วยโอบอุ้มของสงวนของหญิงสาวไว้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ถ้าใครจะใส่สงสัยจะต้องไปบวชชีกันก่อนด้วยละมั้ง แล้วลองนึกถึงเวลาที่เราใส่กางเกงในตัวนี้เดินไปไหนมาไหนดูสิ มันเล็กขนาดนี้จะไปเกาะอยู่ได้ยังง๊ายย เดินไปเดินมาดีไม่ดีกางเกงในจะหลุดลงไปอยู่ที่ข้อเท้าแบบไม่รู้ตัวเอานะเนี่ย อิอิ ว้าววว มียกทรงซูเปอร์โลวไรซ์ให้ใส่คู่ด้วย ผมนี่มองตาไม่กระพริบเลยครับ นอกจากกางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์แล้ว ทางแบรนด์ก็ยังทำยกทรงซูเปอร์โลวไรซ์มาให้ใส่คู่กันด้วย ถ้าให้พูดตรงๆ คงต้องบอกว่ามันช่วยปกปิดหน้าอกมากกว่าแผ่นปิดหัวนมแค่นิดเดียวเอง แถมไม่น่าจะช่วยรักษาทรงด้วย เห็นแล้วเป็นห่วงจนอยากเอามือไปโกยให้นมไม่โผล่มาแทน แม้ว่ากางเกงในซูเปอร์โลวไรซ์นี้จะใช้ผ้าน้อยจนใส่แล้วแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดจดก็ตาม…
-
คาเฟ่สำหรับชายขี้อาย คลายเหงากับ “น้องเหมียวจรจัด” ที่จะมาป่วนหัวใจจนคุณละลายยยย
ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่ความน่ารักของคาเฟ่แมวนั้น มีค่าเฟ่น้องเหมียวที่มีความเป็นเอกลักษณ์อยู่หลายแบบเลยทีเดียว ตอนนี้แบรนด์คาเฟ่แมว Neco Republuc เองก็กำลังจะจัดกิจกรรมพิเศษ โดยกิจกรรมนี้มีขึ้นเพื่อให้หนุ่มๆ โดยเฉพาะเลยจึงตั้งชื่อกิจกรรมนี้ว่า ‘วันของชายหนุ่ม‘ (Men’s Day) โดยปกติแล้วการเข้าคาเฟ่แมวนั้นเป็นกิจกรรมที่คนทั่วไปไม่คิดว่าผู้ชายจะทำ เวลาที่ผู้ชายจะเข้าไปในคาเฟ่แมวคนเดียวจึงมักจะถูกคนมองด้วยสายตาประหลาดใจอยู่เสมอ ทางร้านจึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยมีจุดประสงค์จะให้ผู้ชายได้มีความสุขกับแมวเหมียวโดยไม่ต้องเขินอายต่อสายตาของสาวๆ และกิจกรรมนี้จะถูกจัดขึ้นที่ร้าน Neco Republic ในย่าน Shinsaibashi เมือง Osaka ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้แมวในร้าน Neco Republic เป็นแมวจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือมาทั้งนั้น พวกเขาหวังจะทำให้แมวพวกนี้ได้รับความอบอุ่นจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้วย หนุ่มๆ ที่จะมาร่วมกิจกรรมนี้จึงมีโอกาสได้มอบความอบอุ่นให้กับน้องเหมียวอีกด้วย ถึงจะมีชื่อกิจกรรมว่า ‘วันของชายหนุ่ม’ แต่สาวๆ เองก็เข้าร่วมกิจกรรมในวันนั้นได้เหมือนกันนะ เพียงแต่ทางร้านอยากจะให้ทุกท่านสวมวิญญาณความเป็นชายเข้าไปในร้านให้สมกับชื่อกิจกรรมเสียหน่อยเท่านั้นเอง คาเฟ่แมวสาขานี้กินพื้นที่ตึก Osaka Neko Building ทั้ง 5 ชั้นเลย แต่ละชั้นก็จัดทำเป็นคาเฟ่แมวในธีมที่แตกต่างกันไป ลองไปชมกันเลยว่าในร้านจะเป็นอย่างไรบ้าง ชั้นที่ 1 . ในชั้นแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับ Apple…
-
หนาวสะท้าน!! โตเกียวเผชิญหิมะถล่มหนัก รุนแรงสุดในรอบ 4 ปี นักท่องเที่ยวติดค้างเพียบ
ดูเหมือนสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นของบ้านเราจะสวนทางกับสภาพอากาศในญี่ปุ่นเอามากๆ เลยทีเดียว เพราะในขณะนี้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกำลังประสบภัยหนาวและพายุหิมะ ที่ว่ากันว่าหนาวและรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Japantoday ได้รายงานเกี่ยวกับสภาพอากาศในกรุงโตเกียว ว่าในขณะนี้ชาวเมืองต้องเผชิญกับชั้นหิมะที่สูงถึง 21 เซ็นติเมตร จนเหล่าผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ต้องแนะนำให้พนักงานของตัวเองกลับบ้านก่อนเวลา ตามรายงานบอกว่าพายุหิมะจะตกในช่วงเที่ยงๆ และน่าจะหยุดในช่วงวันอังคาร แต่ถนนในหลายๆ แห่งยังคงมีหิมะปกคลุมและมีความลื่นมากกว่าปกติจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งในขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้วกว่า 60 คน และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกกว่า 660 ครั้ง บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า Tokyo Electric Power Company ได้กล่าวว่าขณะนี้มียอดการใช้พลังงานไฟฟ้าพุ่งสูงไปกว่า 95% ในแถบคันโต จึงออกมาขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดการใช้ไฟ เพราะหากมีการใช้ไฟฟ้าที่สูงเกินไปอาจทำให้ไฟฟ้าทั้งเมืองดับลงได้ นี่เป็นภาพของชาวเมืองในโตเกียวขณะเดินข้ามถนนในเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเมืองต้องช่วยกันตักเอาหิมะออกจากถนนเพื่อให้เกิดการสัญจรได้ และเนื่องจากพายุหิมะที่เข้าถล่มกรุงโตเกีียว ทำให้ยานพาหนะและระบบขนส่งมวลชนในหลายๆ ที่ต้องล่าช้าหรือหยุดชะงักไป อย่างเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Stuff ได้รายงานเพิ่มเติมว่ามีนักท่องเที่ยวตกค้างอยู่ในสนามบินของโตเกียวเป็นจำนวนมาก…
-
Tomioka Dance Club ชมรมนักเต้นสาวมัธยม ปล่อยคลิปเต้นเท้าไฟใหม่ “This is Me”
หากใครยังจำกันได้ เมื่อราวๆ เดือนกันยายนปีที่แล้ว เว็บไซต์ของเราได้เคยนำเสนอเรื่องราวของเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Tomioka Dance Club ที่ก่อตั้งมาจากชมรมเต้นในโรงเรียนมัธยม Tomioka เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้ Tomioka Dance Club เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกก็เพราะว่าพวกเธอได้เข้าประกวดการแข่งขันที่ชื่อว่า Nippon High School Dance Club Championship (กิจกรรมประกวดเต้นสำหรับเด็กมัธยม) พร้อมกับแต่งตัวย้อนยุคแบบสาวออฟฟิศสมัยยุค 80s แถมยังมีท่าเต้นแปลกๆ จนผู้ชมและคณะกรรมการต่างก็ฮาไปตามๆ กัน ใครนึกไม่ออกเรามีคลิปฉบับเต็มๆ ให้ดูด้วยนะ และล่าสุดทาง Tomioka Dance Club ก็ได้ปล่อยคลิปใหม่ออกมา คราวนี้เป็นเพลง This is Me ที่ใช้สำหรับประกอบภาพยนตร์ The Greatest Showman (ที่เข้าฉายในบ้านเราไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา) ดูไกลๆ อาจจะนึกว่า CG แต่จริงๆ แล้วนี่คือเหล่าบรรดานักเต้นทั้งจริงๆ กว่า…
-
โดนไปอีกหนึ่งช่อง 2 ยูทูบเบอร์มะกันอัดคลิปแกล้งลักพาตัวเด็กญี่ปุ่น โดนชาวเน็ตถล่มยับ
จากกรณีของ Logan Paul ทำวิดีโอเยาะเย้ยศพในป่า นั้นทำให้ชาวญี่ปุ่นโกรธและตระหนึกถึงพวก Youtuber ผู้ที่จะมาทำวิดีโอที่จะสร้างความเสียหายในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นบางคนก็ได้เริ่มที่จะค้นหาวิดีโอของเหล่า Youtuber ต่างๆ และก็ขุดคุ้ยจนมาเจอวิดีโอหนึ่งที่โพสต์ตั้งแต่เดือนกันยายนของคู่หู Dan Rue และ Nick Joseph ในวิดีโอนั้น จะมีฉากที่ Dan นั้นได้จับล็อบสเตอร์จากตลาดสดเล่น ขณะที่ Nick นั้นก็บรรยายแบบล้อเลียนภาษาญี่ปุ่น และตอนท้ายของวิดีโอ Dan นั้นเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินดูของอยู่กับแม่ของเธอ ก่อนที่ Dan จะไปอุ้มเด็กและวิ่งหนีแม่ของเธอ ซึ่งเด็กคนนั้นตะโกนร้องกรี๊ด ในขณะที่แม่ของเธอวิ่งไล่ตาม Dan ไป แต่การแกล้งลักพาตัวเด็กแบบในวิดีโอนี้ ไม่ได้มีแรงบันดาลใจจาก Logan Paul หรอกนะ เพราะในวิดีโอนี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีเหตุการณ์ของ Logan Paul เสียอีก ซึ่งจริงๆ วิดีโอนี้ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักซักเท่าไหร่ แต่ว่ากลายเป็นประเด็นใหญ่เมื่อชาวเน็ตญี่ปุ่นนั้นตระหนักว่า Youtuber บางคนนั้น ได้กระทำสิ่งที่เลวร้ายและก็จากไปง่ายๆ โดยที่ Dan Rue ก็ได้ออกมาทวิตว่าที่ทำไปนั่นมันเป็นการจัดฉาก โดนเขาบอกว่า “หวังว่าคุณจะรู้นะว่านั่นมันเป็นการจัดฉากร่วมมือกับครอบครัวนั้น…
-
เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!
หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008) โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…
-
อย่าเชื่อสิ่งที่เห็น…ศิลปินญี่ปุ่น ใช้ศิลปะสลับผักเป็นผลไม้ ผลไม้เป็นผัก อ้าว งงเลยดิ!?
มนุษย์ทุกคนเข้าใจกันดีว่าสายตาของเรานั้นช่วยบอกเราได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร มีรูปร่างยังไง และสีสันอะไร แต่ช้าก่อน บางทีสายตาก็อาจจะหลอกลวงคุณได้เหมือนกันนะ ถ้าอยากรู้ว่ามันจะหลอกเราได้ยังไง งั้นไปชมกัน นี่เป็นผลงานไอเดียแปลกๆ ของ Hikaru Cho วัย 23 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Musashino Art University ในญี่ปุ่น เธอมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงพืชผักผลไม้ให้กลายเป็นสิ่งอื่นด้วยสีสัน จนคุณไม่มีทางเดาออกว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรกันแน่? ดูด้วยตา นี่อาจจะเหมือนแตงกวา แต่จริงๆ แล้วข้างในเป็นกล้วย ผ่าง!? ดูข้างนอกเหมือนส้มเลยใช่ไหมล่ะ? แต่ความจริงคือมะเขือเทศ ผ่างง!? ดูยังไงๆ ก็มะเขือม่วง อ่าว ไข่นี่หว่า ผ่างงง!? ดูเผินๆ อาจจะเหมือนขนมไดฟูกุไส้ถั่วแดง อ้าวส้มนี่หว่า ผ่างงงง!? วัตถุบางอย่างที่ถูกตกแต่งเป็นหน้าคนจนดูไม่ออกว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อน… อ๋อมันฝรั่ง ผ่างงงงงง!? บางคนอาจจะรู้สึกขยะแขยงกับหนอนตัวนี้ จริงๆ ก็แค่กลีบเนื้อส้มเฉยๆ ผ่างงงงงงง!?…
-
11 มารยาททางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณต้องร้องโอ้โห มันขนาดนี้เลยรึนี่!?
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนั่นจึงทำให้วัฒนธรรมบางอย่างในประเทศนั้นออกจะแตกต่างไปจากชาติอื่นบ้างนิดหน่อยอย่างเรื่องอาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน วิถีในการใช้ชีวิตรวมถึงมารยาทต่างๆ ซึ่งมารยาทบางอย่างในประเทศญี่ปุ่นก็อาจทำให้เรางงว่าแบบนี้ก็มีด้วยหรอ หากช่วงนี้ใครมีแพลนที่อยากไปญี่ปุ่นลองศึกษามารยาทโดยทั่วไปของญี่ปุ่นแบบนี้กันดูนะไปบ้านเมืองเขาจะได้ทำตัวได้ถูก ฮ่าๆ 1. การเรียกชื่อคนต่างๆ การเรียกชื่อคนในประเทศญี่ปุ่นจะมีวิธีการเรียกที่ไม่เหมือนชาวตะวันตกที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็เรียกเพียงแต่ชื่อเฉยๆ โดยที่นี่จะมีคำต่อท้ายคล้ายๆ กับของบ้านเราโดยจะมีคำต่างๆ อย่างนี้ “-kun” ใช้สำหรับเรียกเพื่อนๆ “-chan” คำนี้เป็นคำที่อ่อนโยนสำหรับใช้เรียกเด็กๆ สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง คู่รัก รวมถึงเพื่อนสนิท “-sama” ใช้สำหรับการเรียกผู้ที่เราให้ความเคารพอย่าง ขุนนางต่างๆ แต่ในทุกวันนี้บางครั้งก็ใช้ในการเสียดสี “-senpai” ใช้สำหรับเรียกรุ่นพี่ “-kōhai” ใช้เรียกคนที่รุ่นน้อง “-sensei” ใช้เรียกแทนสำหรับ คุณครู หมอ นักวิทยาศาสตร์ นักการเมืองหรือผู้มีอำนาจ “-shi” สำหรับการเขียนที่เป็นทางการ 2. การแลกเปลี่ยนนามบัตร การแลกเปลี่ยนนามบัตรจะมีกฎง่ายๆ ดังนี้ -ยื่นด้านหน้าของนามบัตรให้เท่านั้น -ใช้สองมือในตอนที่ยื่น -ถ้าตำแหน่งของคุณน้อยกว่าคนที่จะรับ คุณต้องยื่นนามบัตรให้ต่ำกว่าคนๆ นั้น -ถ้าคุณได้รับนามบัตรต้องรีบนำมันใส่ในกระเป๋าใส่นามบัตรและใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อจ้องดูมัน -อย่าลืมคำนับ -ถ้าคุณไม่มีกระเป๋าใส่นามบัตร นั่นคือหายนะของคุณเพราะมีเยอะมากก 3. กฎการใช้ลิฟท์ต่างๆ …
-
มีจริงแล้ว!! Death Note สำหรับภรรยาที่เบื่อพ่อบ้านใจกล้า อยากแช่งให้ตายก็มาเขียนในนี้
คู่ผัวเมียที่อยู่กันมานานก็ย่อมมีเรื่องที่ไม่เข้าใจหรือบาดหมางกันบ้าง และบางทีผู้ชายอาจจะมีความกวนจนผู้หญิงอาจจะมีความคิดที่อยากจะแช่งกันให้ตายๆ จากกันไป(แหม บางทีอารมณ์มันขึ้นก็มีกันบ้างแหละเนอะ) ในวันนี้ความฝันได้กลายเป็นจริงแล้ว เพราะว่าได้มีสมุดที่สร้างขึ้นมาเพื่อคุณแม่บ้านทั้งหลายโดยเฉพาะ สมุดเล่มนี้คือสมุด Death Note สำหรับสามีที่กวนใจเหล่าภรรยาทั้งหลาย สมุดเล่มนี้ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า “Danna shine“ หรือที่แปลว่า “ตายซะเถอะผัวจ๋า” โดยในนี้จะมีตัวอย่างคำอวยพรให้เหล่าสามีตัวดีอย่าง “เมื่อฉันตื่นมาตอนเช้า ฉันหวังว่าจะพบร่างที่เย็นชืดและไร้วิญญาณของคุณ” “นี่คุณยังมีชีวิตอยู่อีกหรอ โปรดหยุดเต้นซักทีเถอะหัวใจของสามีฉันน่ะ” “คุณเป็นได้แค่ ATM ของฉันเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” “จะตายยังไงก็ได้ แต่ตายๆ ไปซักทีเถอะ” หน้าตาของหนังสือ Death Note สำหรับเหล่าแม่บ้านทั้งหลาย Takarajima ผู้ออกแบบหนังสือได้อธิบายไว้ว่าเหตุผลที่สร้างหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาก็เพราะเห็นว่าในปัจจุบันมีภรรยาที่ต้องทนทุกข์กับความโดดเดี่ยวและความเครียดมากมาย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนที่สำหรับการระบายความเครียดต่างๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นแค่ที่บ่นเล่นๆ มากกว่าที่จะอยากให้คู่ชีวิตนั้นตายจริงๆ ซึ่งตอนนี้หนังสือเล่มนี้ก็มีขายแล้วที่ Amazon ราคาก็ตกอยู่ที่เล่มละ 1,188 yen (ประมาณ 350 บาท) เท่านั้นเอง เห็นอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านใจกล้าทั้งหลายระวังตัวไว้นะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!! ที่มา: rocketnews24
-
แล้วไงใครแคร์…เจ้าเหมียวทำป่วน เข้าไป “ฝากรอยเท้า” ไว้ในเขตหวงห้ามในบ้านซามูไร
ทุกวันนี้ “แมว” กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของมนุษย์จำนวนมาก มนุษย์หลายคนถึงกับยอมเป็นทาสให้กับความน่ารักของมัน และดูเหมือนว่ามันกำลังได้ใจแบบสุดๆ เพราะมนุษย์ไม่กล้าทำอะไร มาคราวนี้มันสร้างวีรกรรมไว้ให้ชาวเน็ตถกเถียงกันอีกแล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นที่บ้านซามูไรในเมือง Fukushima ประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าไปได้ บ้านซามูไร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่นจะเรียกที่นี่ว่า “buke yashiki” หรือว่าบ้านซามูไร ซึ่งมีความงดงามเหมือนย้อนยุคไปในยุคก่อนเลยทีเดียว แต่ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า @rivesm ที่ไปพบรอยเท้าของเจ้าแมวที่เข้าไปในสถานที่ที่ไม่ให้เข้าไปโดยมีป้ายเขียนไว้ว่า “โปรดละเว้นการเข้าห้องนี้” เขาตั้งแคปชั่นอย่างติดตลกว่า “เฮ้ เขาบอกไม่ให้เข้าไปนี่” หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “แต่แมวอ่านหนังสือไม่ออกนะ” “โปรดให้อภัยแก่รอยเท้าอันแสนน่ารักนี้เถอะ” “ดูเหมือนแมวจะลังเลเล็กน้อยตอนอยู่หน้าป้ายนะ ฮ่า” และความเห็นอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาโกรธเจ้าแมวตัวนี้จริงไหม หรือแซวเล่นขำๆ แต่ถึงอย่างไรแมวน้อยตัวนี้ก็น่าจะโดนเขกกะโหลกสักทีเหมือนกันนะ ฮ่า ที่มา: en.rocketnews24
-
จะมีอะไรน่ารักไปกว่า “ชุดคลุมท้องสุดแบ๊ว” จากญี่ปุ่น ให้คุณแม่รู้สึกตัวเองยังสาวๆ ใสๆ อีกครั้ง!!
ใครว่าการเป็นคุณแม่มือใหม่นั้นต้องทิ้งความสวย ทั้งแฟชั่นออกไปจนหมด นั้นเป็นสิ่งที่ไม่จริงเลย เพราะแม้ว่าคุณแม่จะอุ้มท้องอยู่ ก็สามารถที่จะใส่ชุดคลุมท้องสวยๆ ในสไตล์ญี่ปุ่นได้ เพราะในตอนนี้แบรนด์เครื่องแต่งกายชั้นนำของญี่ปุ่นอย่าง Mocolle ได้สร้างสรรค์ชุดคลุมท้องสำหรับคุณแม่ในแบบแบ๊วๆ โลติต้า ที่ใส่แล้วจะดูเด็กและน่ารักสดใสมากๆ เลยล่ะ แบรนด์ Mocolle เคยสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายสุดชิคมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำเซ็กซี่มากมาย และในตอนนี้ทางแบรนด์ของแหวกแนวมาทำเครื่องแต่งกายแบบหวานๆ กันบ้างอย่าง Lolita Maternity One-piece หรือ “ชุดคลุมท้องโลลิตา” จุดสำคัญของการออกแบบคือการใช้งานที่แสนจะสะดวกสบาย เพราะชุดมีควายืดหยุ่นในช่วงเอว และการตัดเย็บในสวมใส่ได้แบบหลวมๆ จึงมั่นใจได้เลยว่าเสื้อผ้าจะไม่แน่นจนเกินไป . . ดีไซน์เนอร์ MerryGORound กล่าวว่าเป้าหมายของเขาคือการสร้างแฟชั่นโลลิต้าที่คุณแม่สามารถสวมใส่ได้ทั้งก่อนและหลังคลอด ดังนั้นชุดคลุมท้องนี้จึงสามารถถอดด้านหน้าได้ เพื่อง่ายต่อการให้นมน้องเบบี๋ ด้านหลังก็ยังหนีไม่พ้นความหวานด้วยโบว์น่ารักๆ อันเบ้อเริ่ม . ปัจจุบัน Lolita Maternity One-piece มีให้เลือก 3 สีคือสีน้ำเงิน สีม่วงลาเวนเดอร์และสีขาว ใครที่อยากให้ชุดนี้ทำออกมาจำหน่าย ก็ต้องไปช่วยกันระดมทุนที่เว็บไซต์นี้เลย camp-fire ที่มา en.rocketnews24
-
นี่มันเมืองศิลปะ!! 28 สิ่งปลูกสร้างทรงโมเดิร์นในสไตล์ญี่ปุ่น อยากบินไปเที่ยวซะเดี๋ยวนี้เลย
ประเทศญี่ปุ่นนี่เขามีอะไรให้เราร้อง “ว๊าว” ตลอดเวลาเลยจริงๆ นะ ทั้งวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีที่ก้าวไกลก็มาจากญี่ปุ่นทั้งนั้น แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเก่งไม่แพ้กันก็คือเรื่องการออกแบบอาคารนี่แหละ แม้ว่าพวกเขาจะประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ไปลดความสามารถในการออกแบบสิ่งปลูกสร้างเจ๋งๆ ได้เลย ถ้าไม่เชื่องั้นลองไปชม 28 อาคารและสิ่งปลูกสร้างตัวอย่างจากญี่ปุ่นกันเถอะ 1. สนามเด็กเล่นรอบต้นไม้แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น 2. โรงเรียนอนุบาลในญี่ปุ่นเปิดหลังคาโล่งกลางอาคาร เพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำฝนในบางโอกาส และถ่ายเทอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในอาคาร 3. บ้านทรงแปลกในญี่ปุ่น 4. บ้านคล้ายกระโจม สำหรับสาวปลดปลดเกษียณในญี่ปุ่น 5. แกลอรี่ในชิบุยะ 6. ธนาคาร Sugamo Shinkin เมืองคะวะงุชิ 7. Nakagin Capsule Tower กรุงโตเกียว (หน้าตาอย่างกับตู้ซักผ้า) 8. บ้านสไลเดอร์ 9. บ้านและสวนในกรุงโตเกียว 10. โบสถ์ Ribbon ในฮิโระชิมะ 11. อาคาร Acros ในฟุกุโอกะ …
-
13 เรื่องจริง เกี่ยวกับ “โดราเอมอน” ที่หลายๆ คนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน
หากเราจะพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นดังๆ สักเรื่อง การ์ตูนที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย ดูได้ไม่เบื่อตั้งแต่เด็กจนโต หลายๆ คนคงจะตอบว่าโดราเอมอน อย่างแน่นอน เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวใกล้ตัว มีของวิเศษที่ช่วยเติมเต็มความฝัน และมิตรภาพดีๆ จากเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าจนเราอยากจะมีเพื่อนแบบนั้นในชีวิตจริงเลย ถ้านับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ตอนนี้การ์ตูนเรื่องโดราเอมอนก็มีจำนวนตอนปาเข้าไปหลายร้อยหลายพันตอน รวมกับฉบับมูฟวี่อีกกว่า 37 ตอน มีข้อมูลและเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแมวสีฟ้าตัวนี้ออกมากมาย และด้วยความที่มันเป็นแมวเหมือนกับเรา #เหมียวฟิ้น เลยนึกครึ้มใจอยากจะรวบรวมข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเจ้าแมวอ้วนตัวนี้มาให้แฟนๆ ได้อ่านกัน บางข้อคุณอาจจะยังไม่เคยได้ยินมันจากที่ไหนเลยก็ได้ 1. ตามท้องเรื่องแล้วโดราเอมอนถูกสร้างโดยบริษัทที่ชื่อ Matsushiba Robot Factory เมื่อวันที่ 3 กันยายนปี 2112 หรืออีกประมาณ 95 ปีข้างหน้า 2. โดราเอมอนมีรหัสประจำตัวด้วยนะ รหัสคือ MS-903 3. หลายๆ คนคงรู้ว่าโดราเอมอนมีน้องสาวที่ชื่อโดเรมี จากข้อมูลระบุว่าเธอมีพละกำลังเทียบเท่ากับม้า 10,000 ตัว ในขณะที่โดราเอมอนมีพละกำลังเทียบเท่าม้าแค่ 129.3 ตัวเท่านั้น 4. หลายคนคงคุ้นเคยกับเพลงเปิดโดราเอมอนที่ชื่อ Doraemon no uta แต่ทางญี่ปุ่นได้มีการยกเครื่องซีรี่ส์โดราเอมอนใหม่ ปรับเปลี่ยนลายเส้นและเพลงเปิดตั้งแต่ปี…
-
ตั๊ยยแล๊วววว!! ชาวเน็ตญี่ปุ่นคลั่งไคล้ “นักเรียนสาวสวย” ก่อนจะรู้ความจริงว่าไม่ใช่ผู้หญิงนะเธอ
รูปแบบการแต่งตัวหรือแต่งหน้าเพื่อให้ตัวเองดูดีในลักษณะของเพศตรงข้ามมีมาให้เห็นได้ตามโลกอินเตอร์เน็ต จนแยกกันไม่ออกและได้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับต้องฝันสลายเมื่อความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ นางฟ้า แต่เป็น นายฟ้า นะจ๊ะเธอจ๋า เด็กหนุ่มมัธยมปลายในประเทศญี่ปุ่นคนนี้ ที่ได้ใช้ชื่อในทวิตเตอร์ ว่า @GINSYAMU แต่งตัวเป็นผู้หญิงดูน่ารักใสๆ และมีผู้ติดตามเขามากมายมหาศาล และเขาก็ได้บอกว่าไม่รู้สึกอายกับสิ่งที่ตัวเองเป็นแต่อย่างใด โดยเฉพาะภาพนี้ที่ทำให้ชาวเน็ตแชร์กันต่อเกือบ 4,000 ครั้ง.. เขาคนนี้มีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้นแต่กลับมีผู้ติดตามในทวิตเตอร์ มากกว่า 70,000 เลยทีเดียว เขา(เธอ)ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่ามันเริ่มมาจากที่เพื่อนๆ ของเขาได้ช่วยกันแต่งตัวให้ในชุดนักเรียนกะลาสีสำหรับงานๆ หนึ่ง แต่หลังจากงานนั้น เขาก็ไม่ได้แต่งตัวข้ามเพศแบบชัดแจ้งในงานอื่นๆ หรือชีวิตประจำวันเลยนะ และยังบอกอีกว่า ทุกวันที่ไปโรงเรียนจะแต่งหน้าด้วยมาสคาร่า ลิปสติก และอายไลเนอร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีผู้ชายเข้ามาจีบที่โรงเรียน (รวมถึงผู้หญิงก็ไม่มีมาจีบด้วยนะ) ครอบครัวก็สนับสนุนที่จะให้ซื้อเครื่องสำอางมาใช้ และดูเหมือนจะเข้าใจเขาเป็นอย่างดีด้วย ถึงอย่างไรเมื่อมีคนถามว่าชอบผู้หญิงหรือไม่ เขาก็ได้ตอบกลับมาว่า เขายังไม่เคยมีความรักจึงทำให้ตัวเองนั้นก็ไม่แน่ใจกับเรื่องนี้เหมือนกัน ภาพของเขาเมื่อตอนยังอยู่ชั้นประถม . ด้วยความนิยมในปัจจุบันของญี่ปุ่นที่มีให้กับผู้ชายที่แต่งตัวเป็นสาวน่ารักแล้วนั้น เด็กคนนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ทำลายหัวใจของชายหนุ่มหลายๆ คนที่หลงรักแต่แรกเห็น เมื่อรู้ความจริงแบบนี้ถึงกับอกหักดังเป๊าะกันทีเดียว หากใครชื่นชอบก็สามารถเข้าไปติดตามกันได้ในทวิตเตอร์ @GINSYAMU และอินสตาแกรม ginsyamu ที่มา: rocketnews24
-
ญี่ปุ่นจัดเทศกาล “อึ” เรื่องขี้ๆ แต่มีสาระ สามารถสัมผัส และดมกลิ่นได้เลยทีเดียว!!
หากเราชอบหรือรักอะไรมากๆ แล้วเราก็จะต้องสมารถยอมรับได้ทั้งข้อดีและข้อเสียของสิ่งนั้นๆ ซึ่งหลายๆ ที่ได้เลี้ยงหมาแมว คงจะไม่ได้มองเพียงความน่ารักของมัน แต่เราต้องรับให้ได้กับบางอย่างที่มากกว่านั้นอย่าง “อึ” ของมันด้วยแล้วละ สวนสัตว์ Tokuyama ในเมืองยามากุจิ ที่ญี่ปุ่นนั้นได้จัดงานเทศกาลอึนี้ขึ้น มันไม่ใช่เทศกาลอึของคนหรอกนะ แต่มันคืออึของสัตว์ ภายในงานได้มีการจัดแสดงอึของสัตว์ต่างๆ มากมาย รวมถึงการแสดงพิเศษอื่นๆ เพื่อทำให้เหล่าคนรักสัตว์ทั้งหลายได้ก้าวข้ามความใกล้ชิดกับสัตว์ที่ตัวเองชอบ ที่สำคัญเราไม่ต้องห่วงถึงเรื่องสุขอนามัยเลยเพราะ อุนจิที่นำมาให้เราได้สัมผัสนั้นจะเป็นอึที่แห้งแล้ว ปลอดเชื้อ และถูกเคลือบเอาไว้ทำให้ปลอดเรื่องกลิ่น ไม่ต้องกังวลว่าจะพกพาความหอมละมุนนี้กลับบ้านคุณไปแต่อย่างใด แต่ถ้าใครอยากสัมผัสแบบใกล้ชิดขึ้น ก็จะมีการจัดแสดงที่คุณสามารถดมกลิ่นได้จากอึของสัตว์จำนวน 13 ชนิดในนั้นก็จะมี เสือ ยีราฟ หรือแม้แต่เต่าแอฟริกัน โดยจะมีการให้คะแนนเอาไว้ด้วย ซึ่งสัตว์กินเนื้ออย่างเสือนั้นก็ได้อันดับหนึ่งไปครองในเรื่องของความเหม็น ตรงข้ามกับกระรอกบินยักษ์ญี่ปุ่นที่ได้อันดับความเหม็นน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามไฮไลท์ในงานนี้ก็คืออึของเจ้าแพนด้าแดงที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้บอกไว้ว่าอึของมันนั้นมีกลิ่นที่น่าหลงใหลอย่างมาก ผลพวงมาจากที่มันกินไผ่เป็นอาหารเลยดีต่อระบบย่อยของมัน หากลองจินตนาการดูก็คงจะเหมือนกับกลิ่นของเก้าอี้หวายตัวใหม่ (งานนี้จะหอมจริงไหมคงต้องไปดมเอาเองแหละนะ) และนั้นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อถึงช่วงสองสัปดาห์ในเดือนสิงหาคมนั้นจะมีมาสค็อทที่สวมใส่ชุดที่ทำจากขี้ช้าง มาเป็นพรีเซนเตอร์อีกคน . ถึงอย่างนั้นนี่ก็ไม่ได้เป็นงานแรกที่ดูแปลกของสวนสัตว์แห่งนี้ ในเมื่อปีก่อนด้เคยมีงานสัตว์ที่น่าเกลียดที่สุด หรือเทศกาลแมลงสาบออกมาให้เห็นไปแล้ว ทางสวนสัตว์ก็หวังไว้ว่างานนี้จะสามารถดึงให้มีผู้เข้าชมได้มากกว่า 30,000 คน และการโชว์อึครั้งนี้คงช่วยให้เด็กๆ ได้รับความรู้กลับไปอีกมากมาย ที่มา: rocketnews24
-
เทรนด์ใหม่ชาวญี่ปุ่น นำแตงโมมาทำเป็นชุดเดรสน่ารักๆ เติมเต็มความสดชื่นในหน้าร้อน
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน หลายคนอาจจะหาวิธีผ่อนคลายความร้อนโดยการไปเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าที่มีแอร์เย็นๆ หรือบางคนอาจจะไปเที่ยวน้ำตก หรือทะเล แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว เขากลับมีวิธีคลายร้อนใหม่ๆ โดยการนำแตงโมมาสร้างสรรค์เป็นชุดเดรสๆ น่ารักๆ เพื่อเติมเต็มความสดชื่นให้กับตัวเอง งานนี้จึงเกิดเป็นเทรนด์ยอดฮิตถึงขนาดไอดอลชื่อดังชาวญี่ปุ่นอย่าง HKT48, AKB48, Sakura Miyawaki ก็ได้เข้ามาร่วมสนุกกับเทรนด์นี้ด้วย เรียกได้ว่ากระแสชุดเดรสแตงโม ได้กลายเป็นจุดที่สร้างความสนใจให้กับชาวเน็ตทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ละคนได้สร้างสรรค์ชุดเดรสของตัวเองขึ้นมา แล้วนำมาโพสต์อวดกันลงบนอินสตาแกรม ฮิตตั้งแต่ผู้ใหญ่ ไปจนถึงเด็กทารกตัวน้อยๆ เลยทีเดียว . . น่ารักไหมละ . เพราะกำลังอยู่ในช่วงอากาศที่ร้อนชื้น เราจึงต้องมาเติมเต็มความสดชื่นกันซะหน่อย . ชุดไหนถูกออกแบบขึ้นมาได้สร้างสรรค์ที่สุดบ้าง . . . จริงๆ แล้วตอนนี้สภาพอากาศบ้านเราก็ร้อนเหมือนกันนะ ว่างๆ เพื่อนๆ ก็ลองทำชุดเดรสแตงโม แล้วนำภาพมาโพสต์อวดผลงานของตัวเองลงบนอินสตาแกรม… พร้อมติดแฮชแท็ก # スイカドレス (#WatermelonDress) ดูสิ บอกเลยว่าผลงานของคุณจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนแน่นอน อย่าลืมมาร่วมสนุกด้วยกันเยอะๆ…
-
รวมผลสำรวจ 5 ความในใจของ “สาวญี่ปุ่น” กับสิ่งที่อยากบอก “พ่อ” ตัวเองเหลือเกิน…
วันพ่อของญี่ปุ่นนั้นตรงกับวันที่ 18 มิถุนายนของทุกปี โดยในวันนี้จะเป็นโอกาสที่เหล่าคุณลูกๆได้แสดงความรักให้กับคุณพ่ออย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลอง รวมไปถึงการซื้อของขวัญให้เหล่าคุณพ่อที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยเพื่อครอบครัวมาทั้งปี และเมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทเสื้อผ้าชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Uniqlo ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของสาววัยรุ่นชาวญี่ปุ่นที่อยู่บ้านเดียวกับคุณพ่อจำนวน 200 คน โดยสอบถามในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณพ่อของพวกเธอเอง จากผลการสำรวจนี้ได้เผยถึงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เหล่าคุณลูกสาวอยากจะบอกกับพ่อของเธอเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ โดยจัดเป็น 5 อันดับได้ดังนี้ อันดับที่ 5 อยากให้คุณพ่อหวีผมบ้าง (ตอบข้อนี้ 21%) ถึงแม้ในญี่ปุ่นการอาบน้ำในตอนดึกจะเป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบตอนเช้า เหล่าคุณพ่อก็มักจะไม่สระผม เลยทำให้ผมของพวกเขานั้นชี้โด่เด่ไปในทิศทางต่างๆ อันดับ 4 อยากให้คุณพ่อจัดการเกี่ยวกับเหงื่อ (ตอบข้อนี้ 27%) ด้วยจำนวนเหงื่อที่ออกมาเยอะ เหล่าคุณพ่อก็ควรที่จะมีการจัดการอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพกผ้าซับ หรือใส่เสื้อซับเพื่อลดการเกิดเหงื่อขึ้นมานั่นเอง อันดับ 3 อยากให้คุณพ่อใส่เสื้อผ้าเท่ๆ (ตอบข้อนี้ 34%) ไม่มีใครอยากที่จะแต่งตัวเฉยๆ ไม่เข้ากับสมัย โดยเหล่าคุณลูกส่วนใหญ่นั้นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคุณพ่อควรจะใส่เสื้อผ้าที่ดูดีหรือมีความเท่บ้าง คือช่วยใส่ใจกับการแต่งตัวหน่อยเถอะ!! อันดับ 2 อยากให้คุณพ่อได้ออกกำลังกายบ้าง (ตอบข้อนี้ 36%) แม้ว่าอายุจะร่วงโรยไปตามวัย แต่ร่างกายก็ไม่ควรร่วงโรยไปตามอายุ เหล่าลูกสาวก็เลยอกกมาบอกกับเหล่าคุณพ่อว่าควรที่จะออกกำลังกายบ้างเพื่อทำให้ตัวเองมีสุขภาพที่แข็งแรง …
-
ช่างภาพญี่ปุ่นตามถ่ายภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของ ‘แมวจรจัด’ ในโตเกียว ขอบอกว่าชิลมาก
ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะชวนเพื่อนๆ ไปชมผลงานภาพถ่ายน่ารักๆ ของช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อว่านาย Masayuki Oki ในชีวิตนี้เขาชื่นชอบอยู่เพียงแค่ 2 อย่าง นั่นก็คือแมวและกล้อง Canon EOS-1DX เมื่อสิ่งที่ชอบทั้งสองอย่างเป็นแมวและกล้อง เขาจึงออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นเพื่อถ่ายภาพแมวๆ มาให้ชาวเน็ตได้ชมกันผ่าน IG @okirakuoki แต่ภาพแมวที่เขานำมาเผยแพร่นั้นไม่ใช่แมวบ้านทั่วๆ ไป แต่เป็นแมวจรจัดตามท้องถนน นาย Oki ได้ถ่ายทอดมุมมองต่อภาพแมวในแบบของตัวเอง เพื่อดึงเอาเสน่หและความสวยงามของสัตว์สี่ขาหน้าตาเจ้าเล่ห์พวกนี้ออกมา ซึ่งในแต่ละภาพนั้นคุณจะได้เห็นอารมณ์บางอย่าง ทั้งน่ารัก สง่างาม ขี้เล่น ขี้เกียจ ติงต๊อง หรือพฤติกรรมบางอย่างที่คุณเองก็ยากจะเข้าใจ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะเคยนำเสนอภาพของช่างภาพรายนี้ไปแล้ว แต่เชื่อเถอะว่ายังมีภาพถ่ายแปลกๆ ฮาๆ อีกเย๊อะ เจ้าเหมียวทัดดอกซากุระ สวัสดีโตเกียว บาทีการตื่นก็เป็นอะไรที่ยาก ยืดเส้นยืดสายหน่อยเป็นไง นอนท่านี้สบายไหมลูก? ยงโย่ยงหยก จุ๊บๆ อ้อนหน่อยๆ ฮึบ! ข่วนเล็บหน่อย…
-
แค่คิดก็ผิดแล้ว? ญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายใหม่ แค่คุณคิดจะก่ออาชญากรรม ถือว่ามีความผิดทันที
ย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อน ภาพยนตร์เรื่อง Minority report ที่นำแสดงโดย Tom Cruise ซึ่งว่าด้วยเรื่องการจับผู้ที่คิดจะก่ออาชญากรรมก่อนที่มันจะเกิดขึ้น และดูเหมือนว่าแนวคิดเมื่อ 15 ปีก่อน จะกลายมาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว Minority Report ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการเฝ้าระวังและระงับอาชญากรรมก่อนที่จะเกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2017 สภานิติบัญญัติของประเทศญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายที่มอบอำนาจให้อัยการ สามารถเฝ้าตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เข้าข่ายก่ออาชญากรรม และสามารถจับกุมได้ทันทีแม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังวางแผนก่อเหตุก็ตาม โดยผู้ต้องสงสัยจะถูกจับกุม หากเข้าข่ายการวางแผนอาชญากรรมที่มีมากถึง 277 รายการเลยทีเดียว โดยทางนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe บอกว่านี่เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะหยุดการก่อการร้าย ซึ่งกฎหมายดังกล่าวจะเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความปลอดภัย สำหรับการแข่งขันกีฬาอย่างโอลิมปิกปี 2020 ณ กรุงโตเกียว ด้วย นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ถึงแม้ว่าดูผิวเผินอาจจะเป็นกฎหมายที่ดี แต่มันก็มีผลกระทบที่ตามมาสำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไป อาจจะโดนสันนิษฐานว่ากำลังวางแผนก่อเหตุและนำไปสู่การจับกุม ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วบุคคลเหล่านั้นไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะกระทำความผิดเลย โดยกฎหมายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน Joseph Cannataci ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิในความเป็นส่วนตัวได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อนโยบายนี้ว่า “กฎหมายนี้เป็นการนำไปสู่การจำกัดสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม” …
-
เหมียวน้อยแอบงีบหลับท่าน่ารัก จนเจ้าของต้องถ่ายรูปเก็บไว้ ไปหลับตรงนั้นทำไมลูก ~
บางครั้งที่เราละสายตาจากเจ้าตูบหูตั้งไปทำธุระอะไรสักอย่าง เมื่อเรากลับมาอาจจะได้เห็นภาพน่ารักๆ และสำหรับใครที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ก็อาจจะเห็นภาพแบบที่ #เหมียวปั๊ก เอามาให้ดูแบบนี้ก็เป็นได้นะ ในวันที่เราทำงานมาอย่างหนักหน่วง เราอาจจะเพียงแค่ต้องการเอนตัวลงไปบนโซฟานุ่มๆ สักตัวและผลอยหลับไป แต่ใครมันจะไปนึกว่านอกจากมนุษย์ที่ทำแบบนั้นได้ เจ้าเหมียวก็สามารถทำได้เช่นกัน ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็ต้องเอนพักแบบนี้แหละ เมี๊ยว ~ ดูมัน… ยังไม่รู้ตัวอีก นอกจากการนอนที่น่ารักของมันแล้ว หากสังเกตให้ดีๆ ท่านอนไขว้ขาพร้อมกับการพ้อยท์มือของมันนั้น ก็เฟี้ยวฟ้าวเกินที่จะบรรยายจริงๆ และด้วยความน่ารักตะมุตะมิของมัน ทำให้เจ้าของมันไม่รอช้าที่จะทวิตผ่านชื่อผู้ใช้งาน @ahyachan โดยได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เจ้าเหมียวได้รับความสนใจและถูก Retweet เป็นจำนวนมาก นอกจากกรณีเจ้าลูกเหมียวตัวน้อยนี้แล้ว ยังเคยมีเจ้าแมวอ้วนที่เคยนอนเอกเขนกอย่างสบายใจที่สามารถเรียกเสียงฮือฮามาแล้วเช่นกัน อ่าห์ ~ สบายสุดๆ ไปเยย หลับสบายเลยนะเจ้าเหมียว เห็นแล้วก็อยากเข้าไปหยิกขาแล้วจริงจริ๊งง หมั่นเขี้ยว ~ ที่มา: rocketnews24
-
ชวนไปเที่ยวคาเฟ่ในญี่ปุ่น ท่ามกลางธรรมชาติ ราวกับว่าคุณอยู่ในโลกอนิเมะของ Ghibli !!
ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรม วัดวาอาราม หมู่บ้าน และมรดกโลกที่สวยงามแล้ว ที่ประเทศแห่งนี้ยังมีสถานที่ลับๆ ที่สวยงามราวกับวิวในอนิเมะ รอให้คุณไปพบเจอด้วยนะ สถานที่ลับๆ ที่ว่านี้คือคาเฟ่ที่ชื่อว่า Kokemushiro ตั้งอยู่ในจังหวัดเอะฮิเมะ บนเกาะชิโกะกุ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ห่างจากเมืองหลวงโตเกียวไปประมาณ 7-9 ชั่วโมง (ถ้าบินไปก็ราวชั่วโมงกว่าๆ เอง) สาเหตุที่คาเฟ่นี้เริ่มโด่งดังและเป็นที่พูดถึงของนักท่องเที่ยวก็เพราะว่ามันตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใบหญ้าเขียวชะอุ่ม และบรรยากาศสบายตา จนผู้มาเยือนที่นี่หลายคน พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าเหมือนกับหลุดเข้าไปในอนิเมะของ Studio Ghibli เลยทีเดียว หากคุณอยากรู้ว่ามันเหมือนกับภาพในการ์ตูนแค่ไหน ลองตัดสินด้วยสายตาของตัวเองเลย… จากบริเวณที่จอดรถของคาเฟ่นี้ ตามทางเดินจะมีการตกแต่งด้วยรอยเท้าของเหม่ยและโทโทโร่ (ตัวละครจากเรื่องโทโทโร่ เพื่อนรัก) ให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับพวกเขา ตัวคาเฟ่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้สีเก่าๆ ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติสีเขียว โดยที่ด้านหน้าร้านมีแผ่นไม้ข้อความเขียนเอาไว้ว่า “เปิดเพราะฉันรู้สึกดี” ในคาเฟ่แห่งนี้เสิร์ฟทั้งอาหารญี่ปุ่นและแบบตะวันตก พร้อมกับเครื่องดื่มและขนมหวานอีกมากมาย สำหรับใครที่อยากจะใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ ก็มีโต๊ะที่อยู่ด้านนอกร้านด้วย ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มในขณะที่รายล้อมไปด้วยแสงแดดและเสียงน้ำไหลผ่าน . . . . . . . .…
-
ห้องแล็บญี่ปุ่นพัฒนา ‘MetaLimbs’ แขนกลแบบสวมใส่ เพื่อช่วยให้ผู้พิการหยิบจับได้อีกครั้ง
คุณเคยรู้สึกไหมว่าการมีมือมีแขนเพียง 2 ข้างมันยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน? ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้นล่ะก็อุปกรณ์ที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้นะ สิ่งที่คุณได้เห็นอยู่นี้มันมันมีชื่อว่า MetaLimbs หรือแขนกล 2 ข้างสำหรับติดตั้งไว้ที่หลังเพื่อช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นราวกับ Dr. Octopus ใน Spider-Man เลยทีเดียว เจ้าแขนกล MetaLimbs ถูกพัฒนาโดย Inami Laboratory ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มันมีหน้าที่ในการหยิบจับสิ่งของแทนมือของเราขณะยุ่งอยู่กับกิจกรรมอื่นๆ บางคนอาจสงสัยว่ามันควบคุมได้ยังไง? จากวิดีโอโปรโมทแสดงให้เห็นว่ามันมีเซ็นเซอร์รัดอยู่ที่ริเวณหัวเข่าแล้วเท้า นั่นก็หมายความว่าการจะควบคุมมันต้องใช้เท้าขยับไปขยับมานั่นเอง ถึงแม้ว่าแขนกลนี้จะสามารถขยับได้แบบจำกัดทิศทางและไม่สามารถหมุนแบบ 360 องศาได้ (เว้นแต่ขาของคุณจะสามารถหมุนได้ 360 องศา…) แต่การทำงานของมันก็ยังคงครอบคลุมชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเปิดประตู หยิบแก้วน้ำ จับปากกา ถือโทรศัพท์ นอกจากคุณจะสั่งการแขนกลด้วยเท้าและขาของคุณได้แล้ว ในขณะเดียวกันหากแขนกลไปสัมผัสหรือโดนอะไรเข้า มันก็จะส่งความรู้สึกกลับมาที่เท้าของคุณได้อีกด้วย บางทีเจ้าแขนกลนี้อาจจะยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับคนทั่วไปสักเท่าไหร่ แต่หากพัฒนามันไปเรื่อยๆ มันก็จะกลายมาเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการหรือคนชราได้ในอนาคต เมื่อแขนกลนี้ถูกนำเสนอไปยังสื่อต่างๆ ของญี่ปุ่น มันก็ได้สร้างความฮือฮาออกไปเป็นวงกว้างทีเดียว “อย่างที่เป็นมาตลอดล่ะนะ ชาวญี่ปุ่นพัฒนาความสามารถของพวกเขาด้วยการสร้างหุ่นยนต์เสมอ” “ฉลาดมาก และผมชอบชื่อมันด้วย”…
-
อีกขั้นของประสบการณ์ ผงอาบน้ำกลิ่น “อาหาร” ยกระดับสไตล์กลิ่นตัวคุณ ให้หอมไปอีกขั้น!!
เราจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับผงอาบน้ำกลิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์ น้ำผึ้ง หรือกลิ่นวนิลา แต่ถ้าเพื่อนๆ คิดว่าเห้ย!! กลิ่นพวกนี้มันไม่พีคพอสำหรับเราเลย งั้น #เหมียวปั๊ก ขอนำเสนอผงอาบน้ำกลิ่นที่จะทำให้คุณ “มีสไตล์” ที่โดดเด่นหาตัวจับได้ยาก จากเว็บไซต์ขายสินค้าปลีกของญี่ปุ่น Village Vanguard ได้ปล่อยผงอาบน้ำรส “อาหาร” ออกมาเอาใจคนชอบของแปลก โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่าผงอาบน้ำพวกนี้จะกินไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าหากคุณใช้แล้วมันก็จะทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่น่ากินเหมือนกลิ่นอาหารที่คุณใช้” (แบบนี้ก็ได้หรอ!?) พบกัน ผงอาบน้ำกลิ่นอาหาร ~ และการอาบน้ำของเพื่อนๆ จะเปลี่ยนไป เมื่อได้ฉีกผงอาบน้ำละละเลงมันลงไปในน้ำ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำเหมือนคุณกำลังแหวกว่ายน้ำอาหารที่คุณชอบ!! กลิ่นพิซซ่าก็ดีนะ หรือจะเอาแบบผักชีก็ได้ ชอบของทอดหน่อยๆ ก็ต้องเกี๊ยวซ่านี่แหละ ถ้าฝันว่าอยากว่าย “เบียร์” ละก็ จัดไปสิครัช กลัวไม่มีกับแกล้ม งั้นเอากลิ่น “ถั่วแระไป” ไปด้วยละกัน ปิดท้ายกันด้วย “เนื้อย่าง” เผื่อบางคนคิดว่ากลิ่นหมูกระทะที่ติดมายังตอกย้ำไลฟ์สไตล์ไม่มากพอ คนไหนที่คิดว่าเห้ย มันเจ๋งมากจนอยากซื้อเป็นของฝากก็สามารถที่จะสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ…
-
สะกดทุกสายตา ด้วย “รองเท้าส้นสูงนกพิราบ” พร้อมวิธีทำ ให้ทุกย่างก้าวเหมือนดั่งนก!!
ความเป็นมาของรองเท้าส้นสูงนั้นเริ่มต้นในช่วง ปีค.ศ. 1500 ซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกคิดค้นไว้ เพื่อกันเท้าหลุดออกจากเหล็กวางเท้าในการขี่ม้า ต่อมารองเท้าส้นสูงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสูงสง่าในราชสำนัก ก่อนที่มันจะแพร่หลายในหมู่คนทั่วไป โดยปัจจุบันรองเท้าส้นสูง เป็นอะไรที่คู่กับผู้หญิงสวยๆ ซึ่งรองเท้าส้นสูงนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบและสไตล์ตามความต้องการ แต่ใครจะไปนึกว่ารองเท้าส้นสูงจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้ขนาดนี้!? มองเผินๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ เดี๋ยวนะ!? นี่มันรองเท้าส้นสูงนี่หว่า จะด้านหน้าหรือด้านหลังก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยความสวยสง่า (มั้ง) ที่ไม่สามารถซื้อขายได้ตามร้านค้าทั่วไป #เหมียวปั๊ก ก็เลยหาวิธีการทำรองเท้านกพิราบแบบคร่าวๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วย สำหรับคนไหนที่ชอบ “นก” ก็สามารถลองทำกันได้ตามวิธีนี้เลย โดยอุปกรณ์มีดังนี้ รองเท้าส้นสูง, พลาสติกแข็ง, กรรไกรหรือคัตเตอร์, ผ้าใยขนแกะคละสี, กาวลาเท็กซ์, ผ้าใยสังเราะห์คละสี, กระดาษทราย, กาวยาง, สก๊อตเทป, ลวดเหล็ก, คีมดัด และสีอะคริลิคสีแดง เริ่มต้นด้วยการนำพลาสติกแข็งมาร่างโครงตัวนกพิราบ และตัดออกมา หลังจากที่ทำการตัดแล้วเพื่อนๆ สามารถนำกระดาษทรายมาขัดให้รูปทรงนกพิราบนั้นมีความโค้งมนสมจริง อย่าลืมเหลาส่วนหลังของนกให้รับกับส้นรองเท้าที่เราจะติดด้วยนะ นำผ้าใยขนแกะมาติดที่ตัวนกพิราบตามรูปที่เราได้ร่างไว้ เมื่อทำการเหลาเสร็จแล้วก็นำผ้าใยขนแกะมาติดตามโครงร่างนกพิราบด้วยกาวลาเท็กซ์ . นำตัวนกพิราบมาติดบริเวณส้นรองเท้า นำตัวนกพิราบที่เราทำมาติดกับส้นรองเท้าด้วยกาวยาง…
-
เปิดมิติการพักผ่อนด้วย “หมอนกระเป๋า” แอบหลับแบบเนียนๆ ระหว่างเรียนหรือที่ทำงาน
#เหมียวปั๊ก เป็นเหมียวที่ชอบนอนไม่เลือกที บางทีก็นอนในที่ทำงานจนประธานเหมียวชอบดุบ่อยๆ แต่ปัญหาของ เหล่ามนุษย์ขี้เซาทั้งหลายกำลังจะหมดไป หมอนกระเป๋าดีไซน์เรียบง่ายและการใช้งานที่สะดวกนั้นถูกผลิตขึ้นมาโดยบริษัท Bibi Lab ภายใต้คอนเซ็ปของกระเป๋านักเรียนที่ตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานที่หลากหลาย รวมไปถึงสามารถที่จะใช้ได้ในทุกโอกาสและทุกสถานที่ โดยดีไซน์นั้นถูกออกแบบมาโดยมีการอ้างอิงให้สามารถเข้ากับชุดนักเรียนเรียนของญี่ปุ่นอีกด้วย มีหลากหลายแบบให้เลือกเลย ดูจากหน้าตานางแบบ คงจะรู้ว่ามันนุ่มสบายแค่ไหน ~ เอาไปโรงเรียนด้วยก็สวยอีกแบบ สีดำก็ดูลงตัวกับเสื้อสีขาว สีน้ำตาลลุยๆ ก็สวยนะ!! จะหนุนนอนหรือสะพานก็สบาย ♥ ผู้ผลิตระบุว่า มันทำมาจากผ้าและนุ่นอย่างดี เจ้าหมอนกระเป๋าที่เพื่อนๆ เห็นทั้งหมดนี่ ราคาเพียงแค่ 1,200 บาท จะคอสเพลย์เยอร์ นักเรียน หรือพนักงานออฟฟิศก็สามารถหาซื้อจากเว็บไซต์ของ bibilab หรือร้านค้าออนไลน์ amazon , vvstore , murauchi ได้เลย #เหมียวปั๊ก อยากจะลองซื้อมาสักใบ เผื่อเวลาง่วงๆ จะได้เอามาหนุนตัก เอ้ย!! หนุนหลับได้สบายๆ บ้าง ที่มา: rocketnews24
-
ฮีโร่ Catman ผู้พา 9 สมุนเหมียว ออกเที่ยวเล่นในรถเข็นเด็ก พาทักทายมนุษย์ทั่วเมือง…
การพาแมวออกมาเดินเล่นตามท้องถนนไม่ใช่เรื่องที่แปลกในปัจจุบัน แต่เมื่อเป็นการพาแมว 9 ตัวใส่รถเข็นเด็กเพื่อพาพวกมันมาเดินทำให้เราได้ภาพสุดประทับใจแบบนี้ Masahiko Suga คุณลุงวัย 55 ปีซึ่งเกษียณจากบริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งหนึ่ง เขาจึงมักจะใช้เวลาว่างในการพาแมวสุดที่รักของเขาทั้ง 9 ตัวใส่รถเข็นเด็กและพาพวกมันออกมาเดินเล่นตามท้องถนนเสมอ เข็นเบาๆ หน่อยสิเจ้ามนุษย์ เมื่อเขาถูกถ่ายรูปเอาไปลงในอินเตอร์เน็ต เขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักและโด่งดังมากขึ้น จนทุกคนขนานนามเขาว่า “Catman” หรือมนุษย์แมวนั่นเอง ระวัง!! เขาคือ Catman ผู้ผดุงความน่ารักและความยุติธรรม จุดเริ่มต้นเล็กๆ การเป็น Catman ของเขาเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ.1999 ปีที่เขาเริ่มรับเลี้ยงแมวตัวแรกแล้วก็ทยอยรับพวกมันมาเพิ่มอีก 8 ตัวในปีต่อๆ มา หลังจากนั้นเขาจึงผุดไอเดียนำพวกมันทั้งหมดมาใส่รถเข็นเด็กเพื่อเดินเล่น Catman และสมุนเหมียวทั้ง 9 ของเขา หนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun ได้รายงานว่า ในบางครั้ง Catman ก็พาแมวทั้ง 9 ตัวของเขาขึ้นรถตู้เพื่อพามาเดินเล่นในตัวเมืองของโตเกียว เขาเชื่อว่าการที่พาแมวออกไปเดินนั้น ช่วยคลายความเบื่อหน่ายของแมว สมุนเหมียวทั้ง 9 และเหมียวโมบิล…
-
ต้องยอมรับจริง!! ชาวญี่ปุ่นคือจ้าวแห่งความมีระเบียบ กระทั่งแปะสติกเกอร์ก็ไม่เหมือนใครๆเขา…
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่เจ้าระเบียบ ไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน คนญี่ปุ่นส่วนมากมักจะเป็นคนที่ทำอะไรเป็นระบบระเบียบ และค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องนี้มาก มีผู้ใช้ Twitter ชาวญี่ปุ่นคนนึงใช้ชื่อว่า Nagisa Ayu ได้โพสภาพของบอร์ดหนึ่งที่คล้ายๆเป็นผลสำรวจว่า “พวกคุณมาจากประเทศไหน?” และถ้าเป็นคนประเทศนั้นมาเที่ยวเยี่ยมชม ก็ให้แปะสติกเกอร์ลงไปในบอร์ดดังกล่าวนั่นเอง… นี่คือภาพดังกล่าว… จากภาพที่เห็นก็จะมีประเทศ ฝรั่งเศส อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน มาเลเซีย ฮ่องกง/มาเก๊า สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สเปน แคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ จากที่เราเห็นนั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าการทำผลสำรวจนี้ ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการแปะสติ๊กเกอร์สีแดงได้เป็นระเบียบอย่างมาก ซึ่งมันสื่อให้ถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี และบ่งบอกถึงความมีระเบียบวินัยไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศอื่นๆจะไม่มีระเบียบวินัยกันซะทั้งหมด เพราะเจ้าสิ่งนี้ก้ไม่ได้บ่งบอกว่าคนประเทศไหนไม่มีระเบียบวินัย เอาจริงๆแล้วของอย่างนี้มันขึ้นอยุ่ที่บุคคลซะมากกว่า แต่ด้วยประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างเคร่งในเรื่องนี้คนส่วนมากก็เลยต้องเคร่งครัดตามกันเป็นธรรมดา ที่มา : twitter
-
รวม 42 Pringles รสชาติแปลกๆ จากประเทศญี่ปุ่น ที่มันช่างมากมาย ละลานตาซะเหลือเกิน!!
สิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ และไม่สามารถหาได้จากที่ไหนง่ายๆ นั่นก็คือ รสชาติของอาหารที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ที่บางครั้งก็แปลกและชวนโอวว้าวได้อีก หลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของการเนรมิตอาหารที่มีรสชาติแปลกใหม่ขึ้นมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม ช็อกโกแลต หรือแม้แต่เบอร์เกอร์ ก็เคยถูกผลิตขึ้นมาอย่างจำกัด แถมยังไม่สามารถหาทานได้จากที่ไหนอีกด้วย และถ้าหากเราจะพูดถึง มันฝรั่งทอดกรอบ ที่มีโลโก้เป็นคุณลุงหนวดงาม ผูกหูกระต่ายสีแดง เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง Pringles แบรนด์มันฝรั่งทอดกรอบที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน สำหรับ Pringles นั้น มีขายมากกว่า 140 ประเทศ ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตก็ได้คิดค้นรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาให้ลิ้มลองกันอยู่ไม่ขาด บางรสชาติก็มีขายเฉพาะบางประเทศเท่านั้น โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่มี Pringles หลากหลายรสชาติไม่แพ้ KitKat เลยละ ครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มารับชมรสชาติสุดแหวกแนวของ Pringles ที่เคยผลิต และถูกนำมาวางขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี 2015 ถึง 2017 เรามาดูกันเลยว่าจะมีรสชาติไหนกันบ้าง (ถ้าเคยกินมาแล้วก็อย่าลืมมาบอกรสชาติกันบ้างน้า) ปี 2015 รสเกลือ รสซาวครีมและหัวหอม …
-
บริษัทแท็กซี่ญี่ปุ่น ออกนโยบายห้ามไม่ให้คนขับคุยกับผู้โดยสาร ในระหว่างการเดินทาง
ต้องยอมรับเลยนะว่า “แท็กซี่” ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในการเดินทาง ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมของคนขับ ระเบียบการจราจร รวมถึงยังมีการตั้งกฎระเบียบต่างๆ ขึ้นมา เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของแต่ละประเทศอีกด้วย และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ Rocketnews24 มีรายงานว่า Miyako Taxi บริษัทรถแท็กซี่ ในจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มดำเนินการให้บริการ Silence Taxi โดยมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้คนขับรถพูดคุยกับผู้โดยสารในขณะที่อยู่ระหว่างการเดินทาง จากการรายงานระบุว่า การบริการดังกล่าวได้มีการดำเนินการในเขตกรุงเกียวโตเป็นส่วนใหญ่ โดยภายในด้านหลังพนักพิงศีรษะของรถแท็กซี่ จะมีการแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบว่า… นอกเหนือจากการทักทายหลังจากที่ผู้โดยสารได้เข้ามาในรถแล้ว คนขับรถแท็กซี่จะไม่สามารถพูดคุยกับพวกเขาระหว่างการเดินทางได้ ยกเว้นแต่ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินเท่านั้น “สำหรับการบริการดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงทดลอง โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศระหว่างการเดินทางให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลาย และมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” ทางบริษัทกล่าว โดยปกติแล้วบริษัท Miyako Taxi จะไม่มีกฎ หรือนโยบายข้อบังคับเกี่ยวกับการขับออกมาเลย แต่ในตอนนี้ทางบริษัทกลับรู้สึกว่าในขณะที่ผู้โดยสารบางคนมักจะชอบฟัง และสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเกียวโตอยู่บ่อยๆ แต่ในทางกลับกัน ผู้โดยสารบางคนโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเกียวโตหรือบริเวณใกล้เคียง มักจะรู้สถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว ดังนั้น…
-
เปิดตำนานวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของ “เกอิชา” ตัวแทนความงาม ตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ
เชื่อว่าเราคงเคยได้ยินคำว่า “เกอิชา” กันมาบ้างแล้ว แต่หลายๆ คนก็อาจจะมีความเข้าใจที่ผิดกับคำคำนี้ บ้างก็หาว่าพวกเธอเป็นนางรำ หรือหนักมากถึงขนาดเข้าใจว่าเป็นหญิงขายบริการเลยทีเดียว ซึ่งนับวันอาชีพเกอิชานี้ เริ่มที่จะถูกวัฒนธรรมในปัจจุบันกลืนไปแล้ว ยังคงเหลือให้เห็นเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในญี่ปุ่น และก่อนที่ศิลปะอันงดงามนี้จะหายสาบสูญไป เรามาทำความรู้จักกับวัฒนธรรมอันเก่าแก่นี้กันดีกว่า เกอิชาทำหน้าที่ต้อนรับซามูไรผู้เป็นแขก, ประมาณปี 1880 เกอิชา เป็นอาชีพบริการที่เก่าแก่ที่สุดอาชีพหนึ่งของญี่ปุ่น ผู้ที่จะเป็นเกอิชาได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝนศิลปะโบราณต่างๆ ของญี่ปุ่นเช่น การเล่นดนตรี การเต้นรำ การจัดดอกไม้ หรือการชงชา เป็นต้น การเป็นเกอิชาถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้หญิงญี่ปุ่นภูมิใจมาก เมื่อเด็กหญิงเริ่มฝึกเป็นเกิอิชา เธอจะถูกเรียกว่า “ไมโกะ” และหลังจากอายุ 21 ปีเธอก็จะกลายเป็นเกอิชาแบบเต็มตัวและถูกเรียว่า “กิโกะ” ผู้หญิงทุกคนสามารถที่จะเป็นเกอิชาได้ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเป็นเกอิชาฝึกหัดหรือ “ไมโกะ” มาก่อน แต่อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับคนที่เป็นเกอิชามาตั้งแต่เด็กๆ นี่เป็นภาพของเกอิชาสองคน ที่กำลังฝึกฝนศิลปะการเล่น Samisen เครื่องดนตรีเก่าแก่ของญี่ปุ่น เกอิชาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นพวกหญิงขายบริการ เนื่องจากพวกหญิงโคมแดงมักจะแต่งชุดเหมือนพวกเธอและเรียกตัวเองว่าเกอิชา แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกอิชาแตกต่างจากสาวขายบริการก็คือการแต่งตัว ชุดกิโมโน ที่พวกเธอใส่นั้น จะมีการผูกผ้าคาดเอวหรือ “โอบิ” ไว้ที่เอวโดยพวกเกอิชาจะผูกโอบิของพวกเธอไว้ด้านหลัง ส่วนสาวขายบริการจะผูกไว้ด้านหน้า เนื่องจากพวกเธอต้องแกะและถอดชุดอยู่บ่อยๆ ดังนั้นการที่ผูกโอบิไว้ข้างหน้าจึงทำให้เธอถอดและผูกมันด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น การแต่งกายด้วยชุดกิโมโนของ “เกอิชา” และอีกสิ่งที่แตกต่างกันก็คือการทำหน้าที่ในการบริการ…
-
นี่คือ 8 เหตุผลที่บอกเราว่า ทำไม ‘ประเทศญี่ปุ่น’ จึงเป็นประเทศที่สะอาดมากๆ
ประเทศญีปุ่น เป็นหนึ่งประเทศที่มีระเบียบวินัยสูงมากและหากใครได้ไปเที่ยวที่เมืองอาทิตย์อุทัยนี้มาก็จะพบสิ่งที่แตกต่างกับประเทศเราโดยสิ้นเชิงอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือความสะอาด ทุกครั้งที่เห็นภาพของเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น หรือดูตามสารคดีต่างๆ มักจะเกิดคำถามขึ้นในใจของเราว่า “ทำไมบ้านเขาสะอาดจัง?” นั่นสิ หลายคนสงสัยแบบนี้ใช่ไหม วันนี้ #เหมียวฟิ้น พบข้อมูลจากเว็บไซต์ Rocketnews ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นสู่สายตาชาวต่างชาติในภาษาอังกฤษ เลยถือโอกาสแปลมาให้ได้อ่านกัน รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งแน่นอน 1. แม้ไม่มีถังขยะข้างทาง แต่(แทบ)ทุกคนถูกปลูกฝังว่า จะต้องเก็บมันไปทิ้งที่อื่น ชาวญี่ปุ่นให้ความร่วมมือกับการรักษาความสะอาดมาก เวลาที่พวกเขาไปท่องเที่ยวหรือปาร์ตี้ตามสถานที่ต่างๆ แล้วไม่มีถังขยะ พวกเขาจะเก็บมันใส่ถุงหรือภาชนะไปทิ้งที่อื่น เพราะพวกเขาถูกสั่งสอนมาว่าต้องรับผิดชอบต่อข้าวของของคุณเอง ต่อให้ตลอดทางไม่มีถังขยะเลย พวกเขาก็จะเอามันไปทิ้งที่บ้าน 2. มีถุงขยะอยู่ใต้เบาะรถประจำทาง ในรถบัสที่ออกเดินทางไปตามต่างจังหวัดหรือเดินทางระยะไกลๆ พวกเขาจะมีถุงขยะเก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งของคุณ เพื่อเก็บเอาขยะของคุณไปทิ้งที่ถังขยะ (หรือที่บ้านคุณเอง) ดีกว่าปล่อยให้มันเลอะเทอะอยู่กับพื้นหรือซุกอยู่บนเก้าอี้ของคุณเอง 3. แทบทุกหน่วยงานจะทำความสะอาดพื้นที่ของตัวเอง ส่วนหนึ่งที่ถนนหนทางของพวกเขาสะอาดปราศจากใบไม้หรือขยะก็เพราะว่าพนักงานของสถานที่นั้นๆ จะเป็นคนทำความสะอาดด้วยตัวของพวกเขาเอง ตั้งแต่พนักงานออฟฟิศไปจนถึงพยาบาลในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องให้พนักงานกวาดถนนมาเก็บกวาดให้พวกเขาเลย 4. มีศิลปะในการแยกขยะ ชาวญี่ปุ่นจะมีระเบียบค่อนข้างมากในการกำจัดขยะภายในบ้าน เวลาจะนำขยะจากในบ้านออกไปทิ้งหรือกำจัด พวกเขาจะคัดแยกทุกอย่างให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน หนังสือสื่อสิ่งพิมพ์มัดรวมด้วยกัน ขยะเปียกขยะแห้ง หรือหากจะทิ้งขวดซอสสักขวด พวกเขาก็จะเทเอาเศษๆ ที่อยู่ในขวดออกมาทิ้งให้หมดเสียก่อน 5. มีหน่วยงานอาสาสมัครบางแห่งคอยย้ำเตือนให้ชาวเมืองตื่นตัวและเก็บขยะอยู่เสมอ…
-
นักเรียนหญิงญี่ปุ่น แห่ขายเครื่องแบบหลังจบการศึกษากันรัวๆ ราคาพุ่งถึง 6 หมื่นบาท!!
หากจะบอกว่าชุดนักเรียนของประเทศไหนน่ารักโดนใจ #เหมียวฟิ้น ล่ะก็ มันคงจะหนีไม่พ้นชุดสุดคาวาอี้อย่างชุดนักเรียนสไตล์กะลาสีแบบชาวญี่ปุ่นแน่ๆ และเมื่อเหล่านักเรียน (โดยเฉพาะนักเรียนสาวๆ) จบการศึกษาแล้ว พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บชุดนักเรียนเอาไว้ให้ฝุ่นเกาะอีกต่อไป พวกเธอจึงเอามันมาประกาศขายบนอินเตอร์เน็ตซะเลย แถมได้ราคาดีด้วยนะ ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกๆ ปีจะเป็นเดือนที่เหล่านักเรียนมัธยมปลายพากันจบการศึกษาและขยับเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยกัน พวกเขาจึงพากันเอาชุดนักเรียนมาประกาศขายผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์อย่าง Mercari กันแบบถล่มทลายเลยทีเดียว ตามรายงานจากเว็บไซต์ Rocketnews บอกว่าชุดที่นำมาขายนั้นมีทั้งชุดสำหรับฤดูร้อนและชุดสำหรับฤดูหนาวรวมทั้งกระโปรง ถูกวางขายในราคามัดรวมอยู่ที่ 10,000 เยน หรือประมาณ 3,076 บาท หากพ่อแม่คนไหนจะซื้อเพื่อนำไปให้ลูกๆ ของพวกเขาใส่เรียนก็ถือว่าถูกกว่าการซื้อใหม่ชุดใหม่ทั้งเซ็ท แต่ก็ยังแพงอยู่สำหรับการซื้อชุดมือสองในสภาพที่ดูใส่มาหลายครั้งแล้ว (ราคาเต็มๆ สำหรับชุดนักเรียนเพื่อใส่ฤดูร้อน ฤดูหนาว ชุดออกกำลังกาย ทั้งเซ็ทจะอยู่ที่ราวๆ 30,000 บาท) ในประเทศญี่ปุ่นเองมีการกำหนดราคาชุดนักเรียนมือสองให้แพงขึ้นด้วย หากชุดเหล่านั้นปักชื่อของสถาบันดังๆ เอาไว้ อย่างเช่นโรงเรียนมัธยมปลายซูคากาวะ ในจังหวัฟุกุชิมะอยู่ที่ 27,691 บาท ส่วนโรงเรียนคาคูโนดาเตะ มินามิ อยู่ที่ 61,536 บาท (นี่แค่ชุดมือสองนะเนี่ยะ!!) ถึงชุดนักเรียนญี่ปุ่นจะถูกสื่อต่างๆ นำเสนอให้ดูน่ารัก (หรือบางคนมองว่าเซ็กซี่) ขนาดไหนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงนักเรียนจะต้องใส่ชุดนักเรียน 1 ชุดวนไปเรื่อยๆ ทั้งสัปดาห์…
-
สื่อนอกรายงาน ชายญี่ปุ่นเสียชีวิตภายในห้อง โดยมีกองหนังสือโป๊กอง “มหึมา” ทับร่างอยู่
เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่ามีชายญี่ปุ่นคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยมีกอง “หนังสือโป๊” กองทับถมเขาอยู่เป็นจำนวนมหาศาล… ตามรายงานบอกว่าชายชาวญี่ปุ่นรายนี้มีชื่อว่านาย Joji (สงวนนามสกุล) วัย 50 ปี อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น เจ้าตัวเป็นคนที่ชอบสะสมหนังสือโป๊และนิตยสารวาบหวิวเป็นอย่างมาก มากเสียขนาดที่ว่าจะหันไปไหนก็ต้องเจอ!! หลังจากที่ครอบครัวของนาย Joji ได้ทราบถึงการตายของเขาแล้ว พวกเขาก็ส่งทีมทำความสะอาดเข้าไปเก็บกวาดภายในห้องของเขาทันที โดยที่ญาติๆ หวังว่านิตยสารเหล่านั้นจะไม่ถูกเปิดเผยหรือมีเพื่อนบ้านคนไหนสังเกตเข้า แต่ไม่นานก็มีหนึ่งในทีมทำความสะอาดนำเอาเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อผู้อื่น ทางเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดยังได้เผยอีกว่าพวกเขาไม่แน่ใจว่าตอนที่นาย Joji เสียชีวิตนั้น เป็นเพราะขาดอากาศหายใจจากการถูกกองหนังสือทับ หรือเพราะเกิดอาการหัวใจวายระหว่างที่ถูกหนังสือล้มลงมาทับกันแน่ จากการตรวจสอบห้องของนาย Joji พบว่าแทบทุกตารางนิ้วของห้อง จะมีหนังสือหรือนิตยสารที่ว่านี้วางอยู่ทุกหนทุกแห่ง และยังมีภาพตัดจากบทความที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษด้วย เมื่อนำเอานิตยสารทั้งหมดมารวมกันแล้ว จะได้น้ำหนักราวๆ 6 ตันเลยทีเดียว!! แม้ว่านี่อาจจะดูเป็นการเสียชีวิตที่แปลกสักหน่อย แต่ยังไงการเสียชีวิตก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ของเขาอยู่ดี ยังไงแล้วหากใครสะสมหนังสือ (จะอะไรก็ตาม) ก็หาที่วางที่มันปลอดภัยและไม่ร่วงหล่นลงมาทับเราจะดีกว่านะ ที่มา metro, nikkan-spa, livedoor
-
ไปกันไหม? ญี่ปุ่นเตรียมเปิดรับเด็กจบสาขาเกษตรไปทำงานที่นู่น พักยาวๆ 3-5ปี
ถ้าการได้ไปใช่ชีวิตอยู่ในฟาร์มสักแห่ง ได้ปลูกพืชปลูกผักแบบที่ตัวเองชอบ อยู่กับธรรมชาติเขียวๆ เป็นความฝันของคุณล่ะก็ โอกาสของคุณมาถึงแล้ว เพราะตอนนี้ในประเทศญี่ปุ่นกำลังจะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติอย่างเราๆ เข้าไปทำการเกษตรที่โน่นกันแบบยาวๆ เลย เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Nikkei ของญี่ปุ่นได้รายงานว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมที่จะออกนโยบายเพื่อมองหาบุคลากรที่มีความสนใจหรือมีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมจากต่างประเทศ เข้ามาทำงานอยู่ภายในประเทศญี่ปุ่น โดยจัดแบ่งเป็นโซนพิเศษให้โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการเปิดกว้างสำหรับด้านต่างๆ มาแล้วเช่นล่าม พ่อครัว เพื่อช่วยเหลือธุรกิจต่างๆ ให้สามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านนายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ได้เสนอการทำฟาร์มรูปแบบผสมในโซนพิเศษ สำหรับชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานทางด้านเกษตรกรรม พร้อมกับอนุญาตให้พำนักอยู่ภายในประเทศได้นานตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี ภายใต้ร่างนโยบายดังกล่าวจะมีการอนุมัติคุณสมบัติและข้อกำหนดเกี่ยวกับการเข้าไปทำงานที่ญี่ปุ่น จะต้องมีประวัติการทำงาน มีรับรองคุณวุฒิการศึกษา ซึ่งหากเป็นสายงานอื่นๆ ก็สามารถยืดหยุ่นได้เพื่อรองรับกับสายงานที่กำหนด สามารถทำงานตามที่กำหนดได้ และผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบด้วย ซึ่งถ้าหากผู้สมัครผ่านการสอบรับรองมาก่อนทั้งภายในญี่ปุ่นและต่างประเทศหรือมีผลงานชนะเลิศการประกวดทางด้านการเกษตรมาก่อนก็จะผ่านรอบคัดเลือกทันที สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะสามารถพำนักอยู่ที่นั่นได้ราวๆ 3-5 ปี เพื่อทำการเกษตร และการว่าจ้างงานชาวต่างชาติของธุรกิจเกษตรกรรมของญี่ปุ่นจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่างเช่น จะต้องทำการว่าจ้างบุคลากรมาก่อนแล้วอย่างน้อย 10 คน (ชาวญี่ปุ่น) ถึงจะสามารถว่าจ้างชาวต่างชาติได้โดยตรง (เพิ่มเติม) …
-
Amakusa Airline สายการบินญี่ปุ่นที่มีเครื่องลำเดียว แต่ทุ่มเททั้งใจ CEO ก็มาช่วยบริการด้วย!!
เมื่อพูดถึงกิจการทางด้านการคมนาคมอย่างธุรกิจการบิน ที่จะต้องรองรับผู้โดยสารเป็นจำนวนมากนั้น เรามักจะนึกถึงสายการบินใหญ่ๆ ที่เติบโตมาอย่างช้านาน มีระบบการทำงานที่แบ่งหน้าที่กันชัดเจน ตั้งแต่ระดับผู้บริหารที่คอยวางแผนต่างๆ ในออฟฟิศ ไปจนถึงพนักงานต้อนรับหน้าเคาท์เตอร์เช็คอิน Amakusa Airline สายการบินโลมายิ้มจากประเทศญี่ปุ่น แต่เราไม่เคยได้ยินเรื่องราวของสายการบินที่เล็กที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาก่อนเลย ไม่เคยรู้ระบบการทำงานที่แตกต่างไปจากสายการบินใหญ่ๆ เพราะพวกเขานั้นแทบจะไม่สามารถสู้ในเรื่องของการรองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากมายเท่าไหร่ ทว่าหากคุณได้อ่านเรื่องราวของสายการบินนี้แล้ว คุณอาจจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่สายการบินนี้มอบให้ผู้โดยสารได้ก็คงจะไม่แปลกอะไรเลย สำหรับสายการบินที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่นนี้มีชื่อว่า Amakusa Airline (AMX) เป็นสายการบินในประเทศญี่ปุ่น แห่งจังหวัดคุมาโมโตะ เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่จะเดินทางระหว่างเกาะ Amakusa ไปยังหัวเมืองใหญ่ต่างๆ และกำลังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นในขณะนี้ แต่ก่อนที่ทุกคนจะรู้จัก Amakusa Airline นั้นเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน สายการบินนี้เกือบจะล้มละลายมาแล้ว เนื่องจากจำนวนเครื่องบินมีไม่เพียงพอต่อ บวกกับเกิดวิกฤติทางการเงิน จำนวนผู้โดยสารจึงลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เพิ่งเปิดให้บริการ นั่นทำให้บริษัทนั้นไม่สามารถหากำไรมาจุนเจือในส่วนที่ขาดทุนได้ หนำซ้ำยังถูกผู้บริหารในเวลานั้น ลดต้นทุนแทบทุกอย่าง รวมไปถึงการลดจำนวนพนักงาน แม้จะมีการนำเสนอแนวทางเพื่อปรับปรุงก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป แต่ก็ถูกผู้บริหารปฏิเสธทุกแนวคิดจนหมดสิ้น ทำให้ทุกคนในบริษัทหมดกำลังใจที่จะทำงาน ถึงขั้นวางแผนลาออกเพื่อหางานใหม่ เพราะถ้าอยู่แบบนี้ต่อไป…
-
ความเห็นฮาๆ ของบรรดาต่างชาติ เมื่อคนญี่ปุ่น “ซู๊ดดดดด” อาหารอย่างเอร็ดอร่อย!!
ในบ้านเราการสูดอาหารเสียงดังๆ อาจจะดูไร้มารยาท แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วมันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการสูดอาหารเสียงดังๆ อย่างเช่นการกินเส้นโซบะนั้น มันแสดงให้เห็นว่า ยิ่งสูดดังๆ ก็ยิ่งแปลว่าอร่อยนั่นเอง แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจในธรรมเนียม และวัฒนธรรมการรับประทานอาหารดังกล่าวของคนญี่ปุ่น แต่ชาวต่างชาติหลายคนอาจจะยังคงมองว่าเป็นเรื่องแปลก และเมื่อได้เห็นการสูดอาหารเสียงดังๆ ของชาวญี่ปุ่น พวกเขาจะคิดอย่างไรน้า!? และทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นฮาๆ ของชาวต่างชาติ เมื่อได้เห็นคนญี่ปุ่นโชว์การโซ๊ยและสูดอาหาร มาดูกันว่าพวกเขาจะมีความเห็นอย่างไร สองนักท่องเที่ยวจากสวีเดนที่ได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ได้บอกว่าการสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวดังๆ ของคนญี่ปุ่นนั้นฟังแล้วเหมือนเสียงของหมูเลย และไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคู่หูชาวสหรัฐอเมริกาก็คิดเช่นเดียวกัน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ที่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก บอกว่าเธอรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ข้างคนที่กำลังโซ้ยอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนหนุ่มน้อยจากอังกฤษบอกว่าถ้าเพื่อนๆ ของเขาสูดอาหารแบบนั้น เขาจะบอกให้หยุดทำซะ!! อีกหนึ่งเหตุผลที่ชาวต่างชาติไม่ชอบการสูดอาหารดังๆ ของชาวญี่ปุ่นก็คือ นอกจากจะเสียงเหมือนหมูแล้ว ยังเหมือนเสียงกดชักโครกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ในหลายๆ ประเทศอาจจะมองว่าลักษณะการรับประทานอาหารของคนญี่ปุ่นดูไร้มารยาท แต่เราก็ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมในการกินของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน . แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำตามกฎของเขาไปซะถูกอย่าง เพียงแค่อยากให้รู้ไว้ว่าลักษณะการรับประทานและมารยาทบนโต๊ะอาหารของบ้านเขาเป็นเช่นไร ถ้ามาเจอการจกข้าวเหนียวที่บ้านเราบ้าง เขาจะมองว่าไร้อารยะในการกินบ้างรึเปล่าหนอ? ที่มา : kotaku
-
ภาพพิธีจบการศึกษาจาก “มหาวิทยาลัยเกียวโต” แต่งคอสเพลย์ประชันกันสุดเหวี่ยง!!
ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมาอาจจะมีบางคนได้เห็นข่าวคราว เกี่ยวกับกรณีที่มีนักศึกษาสาวใส่ชุดครุยถ่ายแบบ จนทำให้มีชาวเน็ตบางรายไม่พอใจหยิบยกไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันไปหลากหลายแบบ บางคนมองว่าเป็นการถ่ายภาพนอกรอบที่ไม่ต้องแต่งตามระเบียบอะไรมาก แต่บางคนก็มองว่ามันคือ “ชุดครุย” จึงควรแต่งตัวให้ถูกระเบียบ ด้วยเหตุนี้เอง#เหมียวฟิ้นก็เลยแอบสงสัยว่าในประเทศอื่นๆ เขาให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายหรือพิธีการเหมือนกับบ้านเราหรือเปล่า? ล่าสุดเราได้ไปเจอกับภาพที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Sensekyoto.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการโปรโมทของมหาวิทยาลัยเกียวโต จากประเทศญี่ปุ่น ชุดภาพที่ว่านี้เป็นภาพถ่ายจากพิธีจบการศึกษาของมหาลัยเกียวโตในปี 2016 ที่เหล่านักศึกษาจะพากันแต่งชุดคอสเพลย์แบบหลุดโลกเพื่อมาประชันกันในวันจบการศึกษา อย่างกับเป็นงานปล่อยของยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะฮิเมะ มาคนเดียวไม่พอ ต้องมาเป็นบอยแบนด์ กล้วยเหรอ? เอ็กโซเดีย รถบัสแมว สนามกีฬาโอลิมปิก 2020!? สัญลักษณ์โอลิมปิก รายการทีวีในตำนาน แต่งเป็นรถโฟล์คสีเหลือง กอริลล่า หมีพูห์เวอร์ชั่นทุนน้อย เมื่อมาร์เวลและดีซีจับมือกัน ทรัมป์ก็มา พีระมิด ตัวไรหว่า? ฮาชิ? นั่นฮาชิใช่ไหม?…
-
นักเรียนญี่ปุ่นไอเดียแหวก แปลทวิตเตอร์ Donald Trump เพื่อเรียนภาษาอังกฤษและสังคม
การเปลี่ยนผ่านอำนาจจาก Barack Obama มาสู่ Donald Trump ดูจะเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมาก เพราะทุกๆ การตัดสินใจของสหรัฐจะส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไปยังประเทศต่างๆ รอบโลก ฉะนั้นนักข่าวและผู้คนทั่วโลกจึงต้องจับตามองทุกๆ ความเคลื่อนไหวของ Trump ว่ากำลังคิดหรือเตรียมจะตัดสินใจเรื่องใดต่อไป โดยเฉพาะทางทวิตเตอร์ @realDonaldTrump ที่เขามักจะทวีตความคิดของตัวเองออกมา แต่คนที่ติดตาม Trump เองใช่ว่าจะมีแต่คอการเมืองเท่านั้น คนที่สนใจเรื่องการศึกษาและภาษาอังกฤษก็ติดตามเขาอยู่เหมือนกันนะ บางคนอาจงงว่าติดตามดูประธานาธิปดีแล้วจะได้การศึกษายังไง? งั้นเรามาดูข่าวนี้กัน เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอเข้ากับทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @DonaldTrumpJPN เป็นทวิตเตอร์ที่จะหยิบเอาข้อความต่างๆ จาก @realDonaldTrump มาแปลจากอังกฤษเป็นญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้คนญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษและเข้าใจสิ่งที่ผู้นำสหรัฐผู้นี้ทวีตออกมานั่นเอง ทวิตเตอร์ @DonaldTrumpJPN ถูกสร้างขึ้นมาด้วยสโลแกนว่า Make English-learning Great Again (ทำให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษกลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง) ซึ่งเป็นการล้อข้อความของ Trump ตอนหาเสียง Make America Great Again (ทำให้อเมริกากลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง) เพราะอย่างที่รู้กันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ การสื่อสารส่วนใหญ่จึงมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น การสร้างทวิตเตอร์นี้จึงเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีทางหนึ่งเลย บัญชีทวิตเตอร์นี้ดำเนินการโดยแอดมินที่ใช้นามแฝงว่า K・T-san วัย 17 ปี เขาจะแปลทุกๆ ข้อความที่ Trump ทวีตออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้คนเข้าใจ ปัจจุบันทวิตเตอร์ @DonaldTrumpJPN มีผู้ติดตามแล้วกว่า…
-
เพราะเหตุใดประเทศอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จึงเลือกที่จะไม่ฝังสายไฟฟ้าลงใต้ดิน!?
เมื่อพูดถึงเรื่องสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราก็มักจะนึกถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก่อนเป็นอันดับแรก และจะตามมาด้วยความสวยงามของการจัดการระบบสายไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันหลากหลายประเทศก็เริ่มที่จะนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้ว (และในบ้านเราก็เริ่มทำแล้วในบางจังหวัด) ย้อนกลับไปดูสภาพของเมือง Jersey City หลังประสบกับพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ในปี 2012 แต่ทว่าการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินนั้นยังไม่อาจสามารถทำได้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ทั้งๆ ที่เราคิดว่าก็ประเทศเหล่านั้นน่าจะทำได้ แต่ด้วยเหตุใดที่ประเทศก้าวหน้า ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจึงไม่ทำ? ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นว่าประเทศเหล่านี้อยู่ในโซนที่เกิดภัยภิบัติอยู่บ่อยครั้ง อย่างสหรัฐอเมริกาจะต้องเจอกับพายุเฮอร์ริเคนและแผ่นดินไหว ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่นก็ต้องเจอพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวในทุกๆ ปี แผนภาพพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของสหรัฐอเมริกา สีแดงจะเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่ตามมาก็คือความเสียหายต่อระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งจะต้องทำการซ่อมแซมให้รวดเร็วที่สุด โดยเมื่อเทียบกันแล้ว แม้ว่าเสาไฟฟ้ากับสายไฟฟ้าที่อยู่เหนือพื้นดินจะเสียหายมากกว่า แต่สำหรับราคาการซ่อมนั้นถูกกว่าระบบสายไฟฟ้าฝังดินหลายเท่าตัว ดังนั้นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยพิบัติสูงยังคงใช้ระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินอยู่ สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายในการทำสายส่งไฟฟ้าลงดินจะแพงกว่าการทำสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินประมาณ 3 ถึง 10 เท่า ราคาของระบบสายไฟฟ้าเหนือพื้นดินจะอยู่ที่ 285,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร ระบบสายไฟฟ้าใต้ดินจะอยู่ที่ 1,000,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร (ข้อมูลล่าสุดในปี 2015)…
-
McDonald’s ญี่ปุ่นผลิตเมนูเฟรนช์ฟรายคดเลี้ยวเคี้ยวง่าย ดูๆ ไปก็คล้าย “แคบหมู” นี่หน่า
นับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของสายกินกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรักเฟรนช์ฟรายจะต้องชอบแน่ๆ ซึ่งปกติแล้วเมนูเฟรนช์ฟรายที่เรารู้จักก็จะเป็นแบบแท่งๆ หยิบจับเข้าปากรับประทานได้โดยง่าย แต่ล่าสุดนี้ทาง McDonald’s ประเทศญี่ปุ่นได้สร้างสรรค์เมนูเฟรนช์ฟรายให้ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวเมนู Curly Fries มันฝรั่งทอดสายโค้งหยิกหยักงอ ดูหน้าตาแล้วน่ารับประทานกว่าเฟรนช์ฟรายธรรมดาหลายเท่าตัว!! เมนูเฟรนช์ฟรายใหม่ล่าสุดจาก McDonald’s ญี่ปุ่น เฟรนช์ฟรายคดเลี้ยวเคี้ยวง่าย!! ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณาชัดๆ แต่มันน่าโดนนัก!! แท่น แท๊นนนน หน้าตากล่องดูสวยงามจริงๆ!! รายละเอียดของเฟรนช์ฟรายสายโค้งตัวนี้ ราคาจะอยู่ที่ 320 เยน (ราวๆ 100 บาท) มีขายเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นการนำเมนูนี้กลับมาขายใหม่ตั้งแต่ที่เคยขายในปี 2015 เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน และในรอบนี้ก็จะมีขายไปจนถึงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ เฟรนช์ฟรายสายโค้ง พร้อมรับประทาน เอาเป็นว่าหากใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ลองแวะไปลิ้มชิมรสชาติกันได้เลย อย่าลืมมาอวดด้วยล่ะว่าแตกต่างจากเฟรนช์ฟรายธรรมดามากแค่ไหนกันหนอ? ดูสีเหลืองโค้งงอนั่นสิ มันช่างยั่วยวนเหลือเกิน!! ผ่างงงงงงง!! หน้าตาดูดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ไปๆ…
-
ญี่ปุ่นคิดค้น “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” เพื่อหนุ่มสาวที่ต้องการความแปลกใหม่ ในวาเลนไทน์นี้!?
เมื่อใกล้ถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ทีไร หนุ่มสาวก็มักจะหาซื้อช็อคโกแลตมาให้กับคู่รักของพวกเขาได้กินกันแม้จะกินทุกปีจนเบื่อแล้วก็ตาม ด้วยความซ้ำซากของช็อคโกแลตรูปแบบต่างๆ #เหมียวฟิ้นก็เลยอยากจะแนะนำอะไรที่มันแปลกแหวกแนวไปบ้าง…. ภาพที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้คือผลิตภัณฑ์ใหม่จากร้านค้าที่ชื่อว่า Village Vanguard ในประเทศญี่ปุ่น มันคือ “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” เมนูนี้คือการผสมผสานระหว่างแกงกะหรี่และช็อคโกแลตหอมละมุนเอาไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนผสมหลักของมันก็คือช็อคโกแลต น้ำตาล ผงกะหรี่ พริกป่นเพื่อความเผ็ด มีกลิ่นของกล้วยติดมานิดหน่อย และมีหัวหอมผัดอยู่ในช็อคโกแลตด้วย…ให้รสชาติที่หวานและเผ็ด (ดูจะซับซ้อนทีเดียว) วิธีกินก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณนำเอาช็อคโกแลตไปอุ่นให้เหลว จากนั้นก็ราดลงไปบนข้าวสวยร้อนๆ จากนั้นก็พร้อมตักเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยได้เลย ดูเป็นอาหารมื้อเย็นที่ทั้งเร็วและง่ายมากๆ ถ้าคุณอยากลองมอบของขวัญวันวาเลนไทน์แบบไม่ซ้ำใครให้กับคนรักล่ะก็ ลอง “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” ไหมล่ะ? สนนราคาอยู่ที่ 540 เยน หรือประมาณ 165 บาท ลิ้งสั่งซื้อสำหรับคนที่อยากได้แบบจริงจัง: vvstore.jp (กดแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อความง่ายในการสั่งซื้อ) ที่มา rocketnews24
-
การทานอาหารกลางวันแบบมีคุณภาพ ของเด็กญี่ปุ่น ฝึกให้รับผิดชอบตัวเองแต่เนิ่นๆ
ลองนึกย้อนกลับไปในสมัยที่ทุกๆ คนอยู่โรงเรียนประถมกันดู ในตอนนั้นพวกคุณได้กินอาหารกลางวันแบบไหนกันบ้าง? ตอนที่#เหมียวฟิ้นเด็กๆ ที่โรงเรียนไม่ค่อยจะมีของดีๆ กินเท่าไหร่นะ ไก่ทอดน่องเล๊กเล็ก ไข่พะโล้ที่แทบจะมีแต่ไข่กับน้ำอะไรแบบนี้… แต่หากคุณได้รู้ว่าโรงเรียนในญี่ปุ่นให้เด็กๆ พวกเขากินอาหารกลางวันแบบไหนล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกอิจฉาก็เป็นได้ เพราะที่นั่นเขาพยายามให้เด็กๆ ของตัวเองกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แถมยังมีแต่ของน่ากินๆ ทั้งนั้นเลยด้วย เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอสารคดีที่น่าสนใจจากช่องยูทูบ CafCu Media ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กในโรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยม โดยเหล่านักเรียนจะผลัดเปลี่ยนเวรกันเพื่อมาตักอาหารให้เพื่อนๆ ในชั้น โดยใครก็ตามที่ทำหน้าที่นี้จะต้องใส่ชุดสีขาวและหน้ากากอนามัยตามที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ เพื่อเป็นการฝึกความมีวินัย และได้เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยในอาหารและความรับผิดชอบในตัวเอง ทางโรงเรียนจะจัดอาหารเอาไว้ให้เด็กนักเรียนเหมือนๆ กัน และทางโรงเรียนจะไม่มีตู้หยอดเหรียญเพื่อซื้อข้าวกล่องหรือขนม ฉะนั้นเด็กทุกคนจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์เหมือนกันหมด เด็กๆ ทุกคนจะนั่งกินอาหารภายในห้องเรียน ไม่มีโรงอาหารแยกต่างหาก แต่น่าแปลกที่ห้องเรียนของพวกเขาจะไม่สกปรกเลย เพราะทุกๆ คนจะถูกปลูกฝังให้รักษาความสะอาด เมื่อทานเสร็จแล้วจะต้องเก็บให้เรียบร้อย และหากเลอะเทอะก็ต้องช่วยกันทำความสะอาด ก่อนที่เด็กๆ จะเสิร์ฟอาหารให้กับเพื่อนๆ หรือนั่งรับประทานอาหารกัน พวกเขาจะต้องทำความสะอาดมือด้วยเจลก่อน เพราะสุขอนามัยของเด็กๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เด็กๆ ที่รับประทานอาหารก็ต้องใส่ชุดกันเปื้อนรวมถึงหมวกด้วยนะ ก่อนรับประทานอาหาร คุณครูประจำชั้นจะเป็นผู้สรุปว่าวันนี้เราได้อะไรมาจากไหนบ้าง อย่างในวันนี้ก็จะเป็นมันฝรั่งจากฟาร์มของโรงเรียน ปลาจากตลาดในท้องถิ่น…
-
สุนัขญี่ปุ่น “ซัจจัง” อ้วนขึ้นจนเจ้าของแปลกใจ เลยให้รายการทีวีตามสืบชีวิตมันจนพบความจริง
ถ้าที่บ้านของคุณมีสัตว์เลี้ยงหลายตัว คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมตัวหนึ่งมันถึงได้อ้วนเอาๆ ทั้งๆ ที่คุณเองก็ให้อาหารพวกมันในปริมาณที่ปกติ!? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาคาใจมากๆ ของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง จนถึงขั้นเขียนจดหมายเข้าไปยังรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเพื่อให้พวกเขาช่วยแก้ปัญหานี้ให้เธอเลย นี่เป็นเรื่องราวของคุณฮามาดะ เคย์โกะ วัย 35 ปี อาชีพแม่บ้าน จากจังหวัดวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น เธอเล่าผ่านจดหมายว่าที่บ้านของเธอมีสุนัขด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว คือซัจจัง ยชจัง และ อิชจัง เธอบอกว่าในตอนแรกเธอได้รับสุนัขที่ชื่อซัจจังมาจากช่างไฟฟ้าคนหนึ่ง แต่นานวันเข้าตัวของมันก็ค่อยๆ บวมขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สุนัขอีก 2 ตัวของเธอกลับไม่ได้อ้วนขึ้นเลย คุณฮามาดะเริ่มสงสัยว่าในแต่ละวันมันหายไปไหนบ้างเธอเลยไปถามเพื่อนบ้านบางคน พวกเขาบอกว่าเห็นเจ้าซัจจังเดินไปตามสถานนีรถไฟหรือตามบ้านคนอื่นๆ มีบางคนซื้อขนมให้กินบ้าง หรือให้อาหารบ้าง เธอเลยขอให้ทางรายการออกติดตามดูพฤติกรรมของซัจจังว่ามันไปกินอะไรที่ไหนกันแน่? ทางทีมงานจึงส่งพิธีกรภาคสนาม คุณเอจิเซ็น โฮวตะไปตามติดชีวิตของมันว่าในแต่ละวัน เจ้าซัจจังไปที่ไหน เจอใคร และกินอะไรเข้าไปบ้าง? นี่คือเจ้าซัจจังที่เราพูดถึงล่ะ ร่างกายของมันดูตุ้ยนุ้นจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว… นายเอจิเซ็นเริ่มตามดูซัจจังไปเรื่อยๆ จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของมันเท่าไหร่ เขาได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้วพบว่าซัจจังสามารถเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายๆ และเคยเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของบ้านมาแล้ว!? ต่อมาซัจจังเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ มันเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง คราวนี้นายเอจิเซ็นสังเกตเห็นว่าซัจจังเข้าไปในบ้านที่มีสุนัขสีขาว นั่นคือชิบิจัง…
-
รถไฟญี่ปุ่นช่วงหนาวเหน็บ กับน้ำใจอบอุ่นของคนแปลกหน้า ที่ฝากช่วยปลุกเมื่อถึงสถานี…
ว่ากันว่าในยุคสมัยที่คนเรามักจะมองหาแต่ความสุขของตัวเอง จนลืมที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นหลายๆ คนแล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแค่ไหน ก็ไม่อาจจะมองข้ามไปได้เลย เรื่องราวที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ameni1952 ทำการโดยสารรถไฟเพื่อไปทำงานตามปกติ ซึ่งในช่วงเช้าตรู่ขนาดนั้น ก็ยังไม่ตื่นเต็มที่ ยังคงมีอาการง่วงอยู่บ้าง ในระหว่างที่ใกล้จะหลับใหล เพราะยังไม่ถึงสถานีปลายทาง Kikuna ในเมืองโยโกฮามา เขาเว้าวอนให้ชายแปลกหน้าคนข้างๆ ช่วยปลุกหน่อย ถ้าหากว่ารถไฟถึสถานีปลายทางของเขาแล้ว เมื่อฝากให้ช่วยปลุกเรียบร้อย เขาก็ผลอยหลับไป Kikuna Station หนึ่งในสถานีรถไฟของเมืองโยโกฮามา หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นจากคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ทว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่คนที่เคยขอร้องช่วยปลุกไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากเหตุการณ์ที่ว่าคนที่เขาเคยขอช่วยปลุกไว้ในตอนแรก มีความจำเป็นที่จะต้องลงสถานีก่อนหน้านั้น และฝากหน้าที่ช่วยปลุกให้กับคนอื่นแทน สภาพของหัวขบวนรถไฟที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ในช่วงปลายปี 2016 แม้จะไม่มีการยืนยันจากชายแปลกหน้าคนนั้นว่าเขาได้ฝากหน้าที่ช่วยปลุกให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลย สิ่งเดียวที่ทำให้คุณ @ameni1952 รู้สึกไม่ดีก็คือเขาไม่สามารถกล่าวขอบคุณกับชายคนนั้นได้ด้วยตัวเอง และหลังจากที่เรื่องดังกล่าวเริ่มแพร่กระจายออกไป ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายๆ กัน…
-
ผู้บริหาร Dentsu ประกาศลาออกแสดงความรับผิดชอบ หลังพนักงานทำงานหนักจนฆ่าตัวตาย
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้#เหมียวฟิ้นได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับการทำงานในสไตล์ชาวญี่ปุ่น จนทำให้เกิดความเครียดสะสมและมีการฆ่าตัวตายนับครั้งไม่ถ้วน (อ่านบทความชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากการ “ทำงานหนัก” ได้ที่นี่เลย) ซึ่งในบทความนั้นได้มีการกล่าวถึงพนักงานสาว Matsuri Takahashi วัย 24 ปี ของบริษัทโฆษณา Dentsu Inc. ที่ฆ่าตัวตายเมื่อช่วงปลายปี 2015 เนื่องจากเธอต้องแบกภาระหน้าที่ที่หนักจนเกินไป และมีชั่วโมงการทำงานล่วงเวลามากถึง 105 ชั่วโมงต่อเดือนเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่งเช่น Dailymail, Theguardian และ Businessinsider ได้ออกมารายงานว่าผู้บริหารสูงสุดของ Dentsu Inc. อย่างนาย Tadashi Ishii ได้จัดงานแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตามรายงานบอกว่านาย Tadashi Ishii ได้โค้งคำนับต่อสื่อมวลชนและกล่าวว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งผู้บริหารในเดือนถัดไปเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยในงานนาย Tadashi ได้กล่าวว่า “การทำงานที่มากเกินไปไม่ควรเกิดขึ้นในญี่ปุ่นเลย ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งและรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และจะขอลาออกในฐานะผู้บริหารในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้” จากข่าวก่อนหน้านี้บอกว่า Matsuri Takahashi ได้รับมอบหมายงานที่เยอะมาก เธอกลับบ้านเร็วสุดคือ 4 ทุ่ม และยิ่งเมื่อเธอผ่านโปรในเดือนตุลาคม 2015…
-
แนวคิดจาก CEO บริษัทคาลบี้ เพราะการพัฒนาบุคลากรสำคัญกว่า การให้ทำโอทีจึงไม่จำเป็น…
พูดถึงในเรื่องของการทำหน้าที่การงานภายในบริษัทเอกชนต่างๆ ผู้บริหาร นายจ้างหรือหัวหน้าใหญ่ มักจะมอบหมายงานให้บุคลากรแต่ละแผนกทำอย่างแข็งขัน แบบชนิดที่ว่ายิ่งทำงานให้บริษัทมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี เพราะนั่นหมายถึงปริมาณงานที่สามารถดำเนินการได้อย่างไม่สิ้นสุด แต่ทว่าแนวคิดดังกล่าวจะนำไปสู่การทำงานล่วงเวลา โดยในปัจจุบันไม่ว่าบริษัทไหนๆ ก็มีระบบดังกล่าวเข้ามาแล้ว อาจจะเป็นการทำงานที่เร่งด่วน หรืองานสะสมคั่งค้าง แต่มองในอีกมุมหนุึ่งของคนที่ต้องทำงานล่วงเวลา การทำงานแบบนี้ส่งผลดีหรือผลร้ายกับใครกันแน่ พวกเขาเต็มใจที่จะทำหรือไม่? บังคับให้ทำงานเกินเวลาโดยไม่นึกถึงจิตใจของพนักงานเลยรึเปล่า? ด้วยเหตุนี้เองทางด้านคุณ Akira Matsumoto ประธานบอร์ดบริหาร ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทผลิตขนมในเครือคาลบี้ แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวประเด็นการทำงานล่วงเวลาและมุมมองการบริหารงานของบริษัทไว้น่าสนใจมากเลยทีเดียว เนื่องจากตัวเขาเองนั้นมีแนวคิดที่แตกต่างจากการบริหารงานบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ค่อยจะมองกัน นั่นก็คือการลงทุนกับปริมาณงานนั้น แทบจะเทียบกับการลงทุนพัฒนาศักยภาพของพนักงานไม่ได้เลย โดยเฉพาะในสังคมญี่ปุ่นที่มักจะมีภาพติดตาของเหล่าพนักงานบริษัททำงานหามรุ่งหามค่ำ กลับบ้านดึกดื่นเพราะต้องทำงานล่วงเวลา จนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคุณ Akira Matsumoto แล้วเขากลับแย้งว่า ‘เลิกซะเถอะ กับการทำงานล่วงเวลาเนี่ย’ มุมมองของเขานั้น เล็งเห็นว่าถ้าหากให้พนักงานใช้เวลาไปกับการทำงานล่วงเวลาเพียงอย่างเดียว เวลาส่วนนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเลย เพราะนั่นคือเวลาว่างของพวกเขาหลังจากการเลิกทำงานตามเวลาปกติ คุณ Akira Matsumoto ไม่กังวลในเรื่องของการจ่ายค่าโอทีเลยแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่เขากังวลมากกว่าก็คือ ถ้าให้พนักงานทำโอทีบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นคนที่ด้อยประสิทธิภาพไปเรื่อยๆ…
-
ชาวญี่ปุ่นรวมตัวกันนำเอาเศษใบไม้ที่ตกตามพื้น มาเรียงใหม่ให้กลายเป็นงานศิลปะไปทั่วเมือง
ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เกิดเศษใบไม้ร่วงลงสู่พื้นมากมาย แต่แทนที่ชาวญี่ปุ่นจะเก็บกวาดเอาไปลงถังขยะเฉยๆ พวกเขากลับเอามันมาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้อย่างเหลือเชื่อทีเดียว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยแพร่ภาพงานอาร์ตทั่วประเทศญี่ปุ่น ที่ชาวเมืองจากหลายๆ แห่งรวมตัวกันเอาใบไม้หลากสีตามพื้นถนนหรือมุมต่างๆ มาเรียงกันจนกลายเป็นภาพสวยๆ จนตอนนี้กลายเป็นกระแสที่ใครๆ ก็อยากจะมีส่วนร่วมด้วย หากใครเห็นไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นหรือเคยดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นมาบ้าง ก็น่าจะเห็นว่าต้นไม้พืชพรรณของเขานั้นมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร คุณจะเห็นได้ว่ามีใบ้ไม้ตั้งแต่สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีส้ม ในเฉดต่างๆ กันไป และเมื่อนำเอามาเรียงร้อยเข้าด้วยกันก็เกิดเป็นงานศิลปะที่ไม่อยากจะกวาดมันลงถังขยะเลยแม้แต่น้อย หัวใจกลางลานจอดรถ ใบไม้หัวใจ ใบไม้แห้ง งานศิลปะที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย รอยยิ้มจากใบไม้ คล้ายหมีอะไรเอ่ย? อันปังแมน คิตตี้ ใบไม้และเมล็คพันธุ์ก่อเกิดงานอาร์ตได้ ปิกาจู …
-
เกมสร้างเมือง!? ชวนเที่ยวญี่ปุ่นแบบ 3 มิติ ผ่าน Google Earth สวยสมจริง ฟินไปอีกแบบ
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่งของคุณ Real~Fine เข้า โดยในกระทู้เป็นการนำเอาภาพ 3 มิติจาก Google Earth มาให้เราได้ชมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว Google Earth จะแสดงผลโดยการดึงเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมมาหให้เราดู ภาพที่ได้ก็จะแบนๆ ไม่มีมิติอะไร แต่ในระยะหลังๆ มานี้ Google ได้พัฒนาระบบ 3 มิติของบ้านเรือน อาคาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดูเป็นรูปทรงโดดเด่นออกมาจากพื้นดินมากขึ้น ประหนึ่งว่าคุณกำลังเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้นเลย ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะเชิญชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Google Earth 3D ตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ลองมาดูกันว่าระบบ 3 มิติที่ว่านี้จะทำให้คุณเหมือนไปอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า? 1. พระราชวังอิมพีเรียล ภาพสถานที่จริง 2. โตเกียวทาวเวอร์ สถานที่จริง 3. ภูเขาไฟฟูจิ …
-
ญี่ปุ่นนำชุดกิโมโน ดัดแปลงเป็นลายการ์ตูนดัง “Evangelion” ความแตกต่างที่ดูงามลงตัว…
เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงจะรู้จักกับชุดพื้นเมืองของญี่ปุ่นอย่างชุดกิโมโนกันไม่มากก็น้อยล่ะนะ แม้จะเป็นเครื่องแต่งกายที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อพันกว่าปีก่อน แต่ปัจจุบันเราก็ยังเห็นผู้คนนำมาสวมใส่กันเป็นประจำ และสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งของเครื่องแต่งกายชนิดนี้ก็คือ ชาวญี่ปุ่นเองได้มีการนำมาพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับยุคเข้ากับสมัยอย่างที่เราคาดไม่ถึงกันด้วยล่ะ เมื่อช่วงวันที่ 14-31 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Otakumode ได้มีการจัดโหวตเพื่อเฟ้นหาการออกแบบลวดลายบนชุดกิโมโนลายใหม่ ที่มีการนำเอาการ์ตูน Evangelion (อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา) สุดฮิตของญี่ปุ่นมาเป็นธีมหลักในการออกแบบ และหลังจากที่มีการโหวตกัน ก็ได้ลายชนะเลิศเป็นผืนผ้าสีดำ ที่มีลวดลายสื่อถึงการ์ตูน Evangelion แต่เพียงเล็กน้อยและไม่ดูรกจนเกินไป พร้อมกันนี้ยังมีผ้าโอบิ (สายรัดผ้าคลุม) เป็นลาย 6 เหลี่ยมสีแดงกับลายจากการ์ตูนด้วย และนี่คือหน้าตาของผ้าโอบิทั้ง 2 แบบ มีการรับประกันว่าชุดกิโมโนที่เห็นทั้งหมดนี้ถูกถักทอขึ้นด้วยมือล้วนๆ จากโรงงานเก่าแก่อายุ 70 ในจังหวัดฮิโรชิม่า แต่เนื่องจากเป็นงานแฮนเมดจึงมีราคาที่แพงพอสมควรเลยทีเดียว สนนราคาต่อชุดเริ่มต้นที่ 69,235 (อื้อหือออ) หากสนใจก็เข้าไปกดสั่งซื้อได้ที่ otakumode.com บอกตรงๆ ว่า#เหมียวฟิ้นเองก็ไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนเรื่อง Evangelion อะไรมากมายนะ แต่มันน่าสนใจตรงที่ประเทศเขาไม่ยอมให้วัฒนธรรมหยุดอยู่กับที่นี่แหละ ทำให้คนรุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าถึงวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้ง่ายและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมไปด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่มา rocketnews24
-
ระทวย…ญี่ปุ่นจัดแสดงนิทรรศการ “ขาอ่อน” เพื่อคนที่ชื่นชอบศิลปะแบบขาวๆ โอโม่ๆ
ศิลปะสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย การปั้น การประดิษฐ์ หรือแม้แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นศิลปะได้อย่าง “ขาอ่อน” ก็สามารถทำให้กลายเป็นศิลปะได้เช่นกัน… เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัทเบค่อนจำกัดมหาชน (ชื่อนี้จริงๆ) ในประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมจัดงาน The World of Thigh Photography 2016-2017 หรือว่าง่ายๆ ก็คือนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายขาอ่อนประจำปี 2016-2017 นั่นเอง นิทรรศการครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยการนำเอาภาพถ่ายของช่างภาพที่ชื่อว่า Yuria ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพขาอ่อนของสาวๆ มาจัดแสดงให้ผู้ที่ชื่นชอบขาอ่อนเหมือนกัน (และมองว่าเป็นศิลปะ) ได้เข้ามาชื่นชมกันอย่างเปิดเผย ภาพถ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่แกลอรี่ TODAYS GALLERY STUDIO ที่เขตอซาคูซะบายาชิ เมืองโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2016 ถึง 22 มกราคม 2017 เก็บค่าเข้าชม 500 เยน หรือราวๆ 160 บาทเท่านั้น มองให้เป็นศิลปะนะหนุ่มๆ รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก… …
-
วิจารณ์ ‘อควาเรียม’ ในญี่ปุ่น ใช้ซากสัตว์น้ำ 5,000 ตัว แช่แข็งใต้ลานไอซ์สเก็ต เพื่อความแปลกใหม่!?
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของอควาเรียมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่เปลี่ยนให้ลานไอซ์สเก็ตให้กลายเป็นลานน้ำแข็งสุดสะพรึง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SpaceWorld ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว หลังจากผู้สนับสนุนสิทธิสัตว์ได้วิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ เกี่ยวกับการดำเนินการของพวกเขา ตามรายงานบอกว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง SpaceWorld ได้นำเอาปลากว่า 5,000 ตัว มาแช่แข็งไว้ใต้น้ำ แล้วลดอุณหภูมิเพื่อเปลี่ยนให้ผิวน้ำกลายเป็นลานสเก็ตขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ภาพลานไอซ์สเก็ตดังกล่าวถูกแชร์ลงใน Facebook, Twitter และสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่งอย่างรวดเร็ว แต่ไอเดียนี้กลับไม่ปังอย่างที่ทีมงานคิดกัน เพราะหลังจากที่เปิดให้บริการไปได้เพียง 2 สัปดาห์ ก็ถูกผู้คนก่นด่าอย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากมันเป็นภาพที่น่าสลดใจเกินกว่าจะเล่นสนุกบนตัวปลาที่ไร้ชีวิตเหล่านั้นได้ ภาพสัตว์น้ำที่เราเห็นมีตั้งแต่ปลาทั่วๆ ไป หรือแม้แต่ปลากระเบน นอนแผ่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็ง สร้างความหดหู่ให้แก่ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ข่าวนี้ถูกพูดถึงในหมู่ชาวเน็ตของญี่ปุ่นกันอย่างแพร่หลาย เช่น @TK074HAKUTAKA “คุณยังสนับสนุนการเล่นไอซ์สเก็ต แม้ว่าจะเล่นอยู่เหนือปลาพวกนั้นน่ะเหรอ? ฉันคิดว่านั่นเป็นรสนิยมที่แย่มาก” @g28z0 “คุณรู้สึกสนุกกับการไม่ให้ความเคารพสิ่งมีชีวิตงั้นเหรอ?”…
-
สาระมีอยู่จริง… เปิดหนังสือเก่าญี่ปุ่น ‘คู่มือสอนรักหนุ่มสาว’ ตั้งแต่จับมือ จนขึ้นเตียง!?
ตามพื้นฐานของคนไทยแล้ว พวกเรามักจะเหนียมอายที่จะสอนลูกหลานถึงเรื่อง เพศ หรือกระทั่งมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีไม่งาม จึงต้องปกปิดเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมกับเพศตรงข้าม การปฏิบัติตัวต่อเพศตรงข้าม หรือแม้แต่เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายยังไงล่ะ แต่การที่พวกเราไม่ค่อยบอกหรือสอนอะไรพวกเขา วันหนึ่งพวกเขาอาจจะไปลองทำมันด้วยตัวเองแบบผิดๆ ถูกๆ ก็ได้นะ ด้วยเหตุนี้เองญี่ปุ่นจึงได้เขียนคู่มือการปฏิบัติต่อเพศตรงข้ามขึ้นมาในช่วงยุค 60 เพื่อให้วัยรุ่นที่ไม่ประสีประสาได้เอาไปปฏิบัติอย่างถูกวิธี ในคู่มือเล่มนี้จะไล่มาตั้งแต่วิธีการเกี้ยวพาราสี มีการให้คำแนะนำอย่างละเอียดว่าควรจะจับมือยังไง พูดแบบไหน การแตะเนื้อต้องตัวสามารถทำตรงไหนได้บ้าง ไปจนถึงการเล้าโลมและการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง สอนจับมือแบบทั่วๆ ไป ในที่สาธารณะ วิธีปฏิบัติต่อเพศตรงข้าม ที่แสดงให้เห็นว่าเราสนใจในเพศตรงข้าม แน่นอน คำว่าสอนแบบละเอียด ยังมีไปถึง วิธีการ…เล้าโลม แม้ว่านี่อาจจะดูทะลึ่งตึงตังไปหน่อยสำหรับคนยุคนี้ แต่มันก็ช่วยให้ความรู้และทำให้หนุ่มสาวยุคนั้นรู้จักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องนะ ที่ #เหมียวฟิ้น เอามานำเสนอก็เพื่อเปิดหูเปิดตาให้กับทุกคน ได้เห็นว่าต่างชาติเขามีการสอนวัยรุ่นแบบไหนเท่านั้นเอง กับประเทศเรา ที่ว่าเรื่องเพศไม่ดีไม่งาม แต่กลับมีคดีละเมิดทางเพศ (และที่ไม่เป็นคดี) อีกเยอะมาก รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่ตามมาจากการขาดความรู้เรื่องเพศ…
-
พาชมสถานที่จริง แรงบันดาลใจสู่แอนิเมชั่น Your Name สวยจนอยากไปเที่ยวตามรอย
นับว่าเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จมากๆ เรื่องหนึ่งเลย สำหรับ Your Name ผลงานการกำกับของ มาโกโตะ ชินไค จนทำรายได้ถล่มทลายขึ้นแท่นแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดในปี 2016 แถมยังเป็นแอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับ 7 ของญี่ปุ่นด้วย โดยตัวเลขอยู่ที่ 157 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 5,500,000,000 ล้านบาท (อ่านบทความวิจารณ์ภาพยนตร์ได้ที่นี่เลย) และเพื่อเป็นการสานต่อความอินความฟินที่เพิ่งครุกรุ่นจากโรงภาพยนตร์ วันนี้#เหมียวฟิ้น เจอข้อมูลดีๆ จากเว็บ fastjapan ที่จะชวนทุกๆ คนไปดูภาพสถานที่จริงๆ ที่ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแอนิเมชั่นเรื่องนี้ล่ะ สาเหตุหนึ่งที่ทางทีมงานและผู้กำกับต้องสร้างสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนให้เหมือนกับโลกในความเป็นจริง ก็เพื่อให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมกับภาพยนตร์และเกิดความคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆ นั่นเอง มีที่ไหนคุ้นตาบ้างลองไปชมกัน 1. ตึก NTT DOCOMO YOYOGI กรุงโตเกียว นี่คือภาพจากในการ์ตูน เกือบจะแยกไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะ 2. สะพานลอยบริเวณสถานีรถไฟชินาโนะมาชิ โตเกียว ที่เรามักจะเห็นพระเอกมาเดินบ่อยๆ และนี่คือภาพจากการ์ตูน ต่างกันแค่พื้นทางเดินเท่านั้น 3. บันไดเดินขึ้นศาลเจ้าสุกะ โตเกียว ในการตูนได้มันการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม 4. บริเวณชินจูกุ…
-
อยากลองมั้ยยย!! 5 เมนูแกงกะหรี่หน้าตาแปลก หาทานที่ไหนไม่ได้ นอกจากญี่ปุ่นเท่านั้น
เมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงเมนูแกงกะหรี่ อย่างข้าวหน้าแกงกระหรี่ญี่ปุ่น บวกหมูทอดทงคัตสึสุดฟิน ก็ชวนยั่วน้ำลายซะเหลือเกิน แต่เมื่อ “ญี่ปุ่น” ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความครีเอท และสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาอยู่เสมอ มีหรือที่เค้าจะอยู่เฉย เพราะไม่เพียงแต่สิ่งประดิษฐ์เท่านั้น ที่มีความแปลก อาหารยอดฮิตอย่างแกะกะหรี่ ก็ถูกดัดแปลงให้แปลกกว่าเดิมเช่นกัน วันนี้ #เหมียวขี้อ้อน ได้นำเอาเมนูแกงกะกรี่หน้าตาไม่คุ้นเคยมาให้ได้เชยชม ซึ่งบางคนอาจจะเคยเห็นกันมาแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย 1.Maje Maje Curry (Mix-Mix Curry) เริ่มจาก Maje Maje Curry (Mix-Mix Curry) แกงกะหรี่ที่มีความแปลกใหม่ แกงนี้มีลักษณะจะเป็นสีชมพูและสีฟ้าสดใสสวยงาม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก การ์ตูนอนิเมะ Mahou Shoujo (สาวน้อยเวทมนตร์มาโดกะ) นั่นเอง เป็นแกงกะหรี่สำเร็จรูปที่ถูกนำออกมาวางขายในร้านหนังสือ Village Vanguard ใน 1 แพคเกจจะมีถุงแกงสองถุงแยกกัน และเมื่อนำมาผสมกันแล้ว ทำให้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในโลกเวทมนตร์เลย สำหรับ Maje Maje Curry…
-
24 ภาพถ่ายแนวสตรีทจากญี่ปุ่น ในมุมมองแปลกๆ อีกด้านของแดนอาทิตย์อุทัย!!
มีสถานที่ในโลกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่จะสามารถดึงดูดให้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเที่ยวชมได้เหมือนกับญี่ปุ่น ในตอนกลางวันสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่จะดูสวยงามราวกับในหนังหรือซีรี่ส์ที่เราเคยดู พอตกตอนกลางคืนเองก็สวยไม่แพ้กัน เช่นตามตรอกซอกซอยของกรุงโตเกียว โอซาก้า หรือเมืองอื่นๆ จะเต็มไปด้วยแสงนีออนที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพยามค่ำคืนมาก แต่อย่างหลังผู้คนจะไม่ค่อยได้เห็นกัน #เหมียวฟิ้นก็เลยขอนำภาพของช่างภาพชาวญี่ปุ่น 2 คนอย่าง Masashi Wakui และนาย Takeshi Yasui ที่มีมุมมองในการถ่ายภาพที่แปลกแตกต่างกับคนอื่น จนเหมือนว่าภาพทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นในญี่ปุ่น แต่เป็นสถานที่ชวนฝันที่ไหนสักที่ หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นมาก่อนล่ะก็ ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณอยากแพ็คกระเป๋าแล้วเดินทางไปเดือนหน้าเลยล่ะ ภาพถ่ายยามค่ำคืน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่อง Blade Runner . มินิมอล . . ในยามที่สัตว์ต้องหลบหิมะ ความต่างระหว่างชนชั้น เมืองแห่งร่ม . . . . . เมืองซากุระ . . ถือกันไปยาวๆ . . . . .…
-
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์!! ญี่ปุ่นผลิตชุดเครื่องสำอาง “เซเลอร์มูน” แด่สาวแฟนคลับทุกคน
บริษัทผู้ผลิตของเล่นหลายแห่งมักจะมีวิธีในการดูดเงินออกจากกระเป๋าของเราได้ แม้ว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม… เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Premium Bandai ได้คิดหาวิธีดูดตังค์จากสาวๆ…ด้วยของใช้ที่เป็นลวดลายแบบเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูน Sailor Moon และ Sailor Moon S ของใช้ที่ว่านั่นก็คือเครื่องสำอางรูปแบบต่างๆ นั่นเอง เครื่องสำอางแต่ละชิ้นถูกออกแบบให้เหมือนกับอุปกรณ์แปรงร่างของตัวละคร ประหนึ่งว่าคุณคืออุซางิ กำลังแปรงร่างเป็นเซเลอร์มูนยังไงยังงั้นเลย อุปกรณ์ในเซ็ทที่ถูกปล่อยออกมามีตั้งแต่จอกพระจันทร์สายรุ้ง, เซเลอร์มูนสติ๊ก และคฑาเซเลอร์มูน ทีนี้ล่ะมันจะทำให้พวกคุณเสียเวลากับโต๊ะเครื่องแป้งมากขึ้นไปอีก (เพราะมัวแต่ยืนวาดลวดลายแปรงร่างอยู่นานสองนาน) ตอนนี้คุณสามารถพรีออเดอร์สินค้าต่างๆ ได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ p-bandai.jp (จอก และ คฑา) แน่นอนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ใครอ่านไม่ออกก็คงต้องใช้วิทยายุทธกันนิดนึงนะ ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1,170 บาท ถึง 1,700 บาท โดยจะเริ่มจัดจำหน่ายและส่งให้กับลูกค้าในช่วงเดือนธันวาคม ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเซเลอร์มูนไม่ควรพลาดเด็ดขาด ที่มา rocketnews24
-
ลองไหม!? ญี่ปุ่นนำกระแสเซ็กซี่ “Tawawa Challenge” วางโทรศัพท์ลงบนหน้าอกตามการ์ตูน
ต้องขอขอบคุณการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่กำลังออกอากาศที่ญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย เพราะมันได้สร้างปรากฏการณ์ “ดูมๆ” ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ การ์ตูนเรื่องนั้นมีชื่อว่า Getsuyoubi no Tawawa เป็นหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่โด่งดังจนถูกนำไปสร้างเป็นแอนิเมชั่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างสั้นๆ ออกมาให้ชมกันแล้ว ซึ่งในแอนิเมชั่นตัวนี้ก็ได้มีฉากๆ หนึ่ง ที่เผยให้เห็นภาพตัวละครหญิง (ที่มีหน้าอกค่อนข้างใหญ่) กำลังวางมือถือลงบนหน้าอกของเธอแล้วดูหน้าจอ จนสาวๆ หลายคนในโลกออนไลน์อดไม่ได้ที่จะทำตาม และเกิดเป็นกระแส “Tawawa Challenge” ขึ้นมา กิจกรรม Tawawa Challenge ที่ว่านี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่สาวๆ วางมือถือลงบนหน้าอก (หรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเอามาใช้) แล้วทรงตัวไว้ให้ดีๆ ไม่ให้มันหล่น เกิดเป็นปรากฏการณ์ดูมๆ ในเครือข่ายสังคมของญี่ปุ่นเลย นอกจากสาวๆ แล้ว ยังมีหนุ่มๆ ออกมาทำกิจกรรมนี้ผ่านทวิตเตอร์กันด้วย เช่นชายหนุ่มบางคนที่เล่นกล้ามจนมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแบบนี้ แต่ก็มีสาวๆ หลายคนออกมาแสดงความสนุกสนานเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ โดยที่ไม่ได้โชว์ความเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว เช่นสาวคนนี้ ที่หาวิธีวางมือถือลงบนหน้าอก (เหรอ)…
-
แทบจำไม่ได้ “ลุงกะลาสี” นักคอสเพลย์ชาวญี่ปุ่น ถูกจับมาใส่สูท นึกว่าเป็นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์
ใครที่ติดตามดูรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (หรือแค่เล่นอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ) ก็น่าจะเคยเห็นภาพคุณลุงหนวดเฟิ้มคนหนึ่ง ที่แต่งชุดคอสเพลย์เป็นชุดกะลาสีคล้ายกับเด็กนักเรียนสาวม.ปลายญี่ปุ่น จนกลายเป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว ลุงคนนั้นก็คือ Kobayashi Hideaki วัย 53 ปี แม้มันจะดูขัดกันมากแต่ก็กลายเป็นของดีของญี่ปุ่นไปแล้ว ว่ากันว่าหากใครได้ไปที่เที่ยวกรุงโตเกียวแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับคุณลุงกะลาสีในตำนานล่ะก็ ถือว่าไปไม่ถึงโตเกียวเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้จับเอาคุณลุง Kobayashi มาแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ เพราะที่ผ่านๆ มาทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยเองจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาจากการเป็นนักเรียนม.ปลาย แต่แทบจะไม่เคยเห็นเขาในชุดอื่นๆ เลย เริ่มแรกทางทีมงานได้จับเขามาแต่งหน้าให้เนียน แกะหนังยางที่มัดหนวดและเล็มออกเล็กน้อย ยืดมันให้ตรง จากนั้นก็จับให้เขาใส่สูท แท่นแทน!! นี่คือลุคใหม่ของลุงกะลาสีที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนคล้ายกับคุณครูใหญ่จากโรงเรียนประถมที่ไหนสักที่ แม้จะดูเขินๆ ไปหน่อย แต่เมื่อเขาถือหมวกหรือดอกไม้ มันก็ทำให้ดูหล่อเข้มประหนึ่งว่าเป้นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์ยังไงยังงั้นเลย แต่…ก็ยังไม่ลืมความแบ๊วแบบตอนที่เป็นลุงกะลาสีนะเออ… ถึงจะเป็นผู้ชายสีชมพูด แบ๊วๆ ขนาดนี้ แต่จริงๆ…
-
ฆ่าคนได้จริงๆ? สื่อนอกรายงาน 1 ใน 5 ของชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากการ “ทำงานหนัก”
ในชีวิตการทำงานมันช่างแตกต่างจากชีวิตในมหาวิทยาลัยเสียจริงๆ เพราะไม่มีใครมาคอยชี้นำคุณว่าควรใช้ชีวิตยังไง เก็บเงินเท่าไหร่ ทำงานยังไงให้ไม่กระทบสุขภาพ หรือควรจะทุ่มเทให้กับงานมากน้อยแค่ไหน ทุกอย่างล้วนเกิดจากการตัดสินใจของตัวเองแทบทั้งสิ้น แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ควรนึกถึงประสิทธิภาพตัวเองก่อน แล้วใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองให้มากๆ นะ เพราะหากคุณทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตาล่ะก็ คุณอาจจะเสียสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เพราะในเว็บไซต์ต่างประเทศเช่น Emirates-business ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจจากรัฐบาลญี่ปุ่น ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นกว่า 1 ใน 5 กำลังเสี่ยงที่จะเสียชีวิต เนื่องจากการทำงานหนักและสังคมการทำงานที่เคร่งเครียดมากเกินไป มีรายงานว่าผู้ที่เสียชีวิต 100 คนจากการสำรวจครั้งนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก พวกเขาจะมีอาการเช่นหัวใจวาย หลอดเลือดในสมองแตก หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งในแต่ละปีจะมีคนฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลนี้ราวๆ 200 คน แต่ในปีล่าสุดกลับพุ่งสูงถึง 392 คน เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก และเริ่มจะมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นที่ทำงานหนักจนตายหลายรายแล้ว เช่นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2016 เว็บไซต์ Washingtonpost ได้นำเสนอเรื่องของนาย Kiyotaka Serizawa ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 34 ปี พนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ทุ่มเทเวลาการทำงานให้บริษัทของเขากว่า 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยิ่งกว่าเจ้าของบริษัทจริงๆ เสียอีก เป็นเหตุนำเขาไปสู่ความเครียม…
-
“โทโรโร่” เซเลปเหมียวญี่ปุ่น ยืดตัวยาวจนชาวเน็ตคลั่งไคล้ นี่สินะที่เรียก.. ขี้เกียจสันหลังยาว!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นสัตว์เลี้ยงหน้าขนอย่างเจ้าแมวเหมียว ชอบทำตัวแปลกประหลาดให้มนุษย์ได้ฉงนกันอยู่เรื่อย บางทีก็ชอบเข้าไปสิงอยู่ในกล่องใบเล็กๆ ที่แคบแสนแคบ บางครั้งก็ชอบทำตัวแปลกๆ สามารถแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นแมวยืดหยุ่นได้ และนี่คือ โทโรโร่ เจ้าแมวสีขาวส้ม สายพันธุ์สก็อตติช แต่ไม่อยู่ในสก็อตเพราะอยู่ในญี่ปุ่น จริงๆ แล้วมันก็เป็นแมวที่มีความน่ารักเหมือนแมวทั่วๆ ไปนั่นแหละ แต่สิ่งที่ทำมันกลายเป็นแมวที่มีชื่อเสียง และโด่งดังไปโลกโซเชียลก็คือ เจ้าโทโรโร่ตัวนี้ มักจะชอบทำตัวยืดยาวววววเหมือนกับชื่อของมันนั่นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าชื่อของมันคืออะไร จริงๆ แล้ว “โทโรโร่” เป็นครีมที่มีลักษณะเหนียว มีสีขาวทำจากมันเทศดิบขูด โดยปกติมักจะถูกนำมาวางไว้ด้านบนหรือด้านข้างของโซบะหรือข้าว ตามรูป ทำตัวยืดเหมือนชื่อเลยนะเอ็ง ฮร่าๆ สำหรับน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวทั้งหมดนี้ ทางผู้ใช้ที่ชื่อว่า @tsuji5jp ได้นำไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ พร้อมระบุข้อความว่า “เราได้เห็นเจ้าโทโรโร่ ผ่านหน้าต่างของร้านขายสัตว์เลี้ยงเป็นครั้งแรก จริงๆ แล้ว เราไม่ได้ตั้งใจคิดอยากจะเลี้ยงแมวมาก่อน แต่เจ้าเหมียวตัวนี้มันทำให้ฉันต้องไปที่ร้านนั้นเป็นประจำทุกวันใน 1 อาทิตย์” ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน มันก็ชอบทำตัวยืดยาวเหมือนชื่อของตัวเอง ท่าทางดูจริงจังไปนะ ยืดอีกยืดดดดดด …
-
ล้ำไปอีก!! ญี่ปุ่นคิดค้นเก้าอี้เข้าคิวไฟฟ้า “ProPILOT” เลื่อนไปต่อคิวอัตโนมัติ โดยไม่ต้องลุกเปลี่ยนที่
ร้านอาหารดังๆ หลายแห่งที่คนชอบไปต่อคิวรอกันนานๆ เช่นชาบู หมูจุ่ม หมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์ มักจะมีเก้าอี้ไว้ที่ด้านนอกร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่มาต่อคิวได้นั่งรอกัน เมื่อถึงคิวเรียกลูกค้าก็จะลุกเข้าไปในร้าน และคิวต่อๆ ไปก็จะต้องลุกจากเก้าอี้เพื่อขยับไปนั่งตัวถัดไป แต่การรอที่นอกร้านอาหารเหล่านั้นจะกลายเป็นเรื่องสนุกทันที เมื่อคุณได้รู้จักเก้าอี้ไฟฟ้า ProPILOT ที่เป็นผลงานการประดิษฐ์จาก Nissan ประเทศญี่ปุ่น อยากรู้ว่าเจ้าเก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้มันทำงานยังไงน่ะเหรอ? ลองไปชมคลิปการทำงานกันก่อนเลย จากคลิปคุณจะเห็นว่าเก้าอี้ ProPILOT นั้นสามารถเคลื่อนที่เองได้ เมื่อถึงคิวของคุณที่จะต้องลุก เจ้าเก้าอี้กตัวนี้ก็จะขยับออกมาจากแถว แล้วเลื่อนไปต่อคิวด้านท้ายเพื่อให้ลูกค้าคนใหม่มานั่ง โดยที่ไม่ต้องมีใครลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเองเลย หลักการทำงานของเจ้าเก้าอี้ตัวนี้ก็คือ ทางทีมผู้พัฒนาจะทำการติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ (เทคโนโลยีเดียวกับที่ Nissan ใช้กับรถยนต์) ไว้ที่ด้านล่าง ทำให้เก้าอี้รู้ระยะห่างของตัวเองกับเก้าอี้ตัวถัดไป เมื่อมีการขยับเกิดขึ้น ตัวต่อๆ ไปก็จะขยับตามโดยอัตโนมัติ ขยับได้เองโดยไม่ต้องลุกเลย ตอนนี้ทาง Nissan ได้ส่งเก้าอี้ของตัวเองไปให้กับร้านอาหารและร้านขายของต่างๆ ที่ต้องต่อคิวเพื่อทดลองใช้ โดยแลกกับการที่ทางร้านโพสต์ภาพและคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดียวแล้วติดแฮชแท็ก #NissanProPilotChair แม้ว่าเสียงตอบรับจากลูกค้าและผู้ใช้ส่วนใหญ่จะชื่นชอบเก้าอี้ตัวนี้ แต่ก็มีบางคนกังวลว่ามันจะทำให้ผู้คนเกิดความขี้เกียจมากเกินไป จนอาจกลายเป็นเก้าอี้แบบเดียวกับที่เคยปรากฏในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Wall-E ก็เป็นได้ …
-
เจอหัวหน้าแล้ว!! รู้จักตัวจริงของ Pico Taro ผู้อยู่เบื้องหลังเพลง PPAP จริงๆ ไม่ได้เป็นอาจารย์?
โด่งดังกันภายในชั่วข้ามคืนเลยจริงๆ สำหรับเพลงมึนๆ “Pen-Pineapple-Apple-Pen” โดยศิลปินที่ชื่อว่า Pico Taro ที่ติดหู (หรือบางคนอาจจะไม่ติด) ไปทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งหลังจากที่เพลงนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ ก็มีการรายงานกันออกมาว่าเขาเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ที่กำลังทำการทดลองเกี่ยวกับ Earworm หรืออาการที่เพลงๆ หนึ่งติดอยู่ในหูจนเอาออกไม่ได้ แต่หลังจากที่#เหมียวฟิ้นพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตา Pico Taro มาได้สักพัก ก็พบว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้เป็นอาจารย์อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ (และอาจจะไม่ได้ทำการทดลองอะไรเลยด้วยซ้ำ) ชื่อ Pico Taro เป็นเพียงชื่อที่เขาตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวละครสมมติเท่านั้น ชื่อจริงๆ ของเขาคือ Kazuhiko Kosaka เป็นพิธีกร ดีเจ นักแสดงตลกจากญี่ปุ่น นาย Kazuhiko Kosaka เกิดที่จังหวัดอาโอโมริเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1973 ปัจจุบันอายุ 43 ปี เคยผ่านผลงานการแสดงมาบ้างในภาพยนตร์เรื่อง By Rule of Crow’s Thumb เมื่อปี 2012 อย่างที่บอกไปว่าเขาทำอาชีพเป็นดีเจด้วย และเมื่อเข้าสู่วงการดีเจเขาก็เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น DJ Kosaka Daimaou และที่มาที่ไปของคาแรคเตอร์ Pico Taro เกิดมาจากการที่เขาแต่งตัวแปลกประหลาดในงานโชว์งานหนึ่งของเขา แล้วตั้งชื่อเล่นๆ…
-
กลุ่มคุณย่าสุดเฟี้ยวจากญี่ปุ่น รวมตัวตั้งทีม “เชียร์ลีดเดอร์” โชว์ลีลาจนได้เปิดงานใหญ่!!
เมื่อนึกถึงเชียร์หลีดเดอร์ หลายคนก็คงจะเห็นเป็นภาพของกลุ่มวัยรุ่นสาวสวย ที่มาเต้นเชียร์ และให้กำลังใจเหล่านักกีฬาที่กำลังทำการแข่งขัน แต่สำหรับแก๊งเชียร์ลีดเดอร์สไตล์ปอมปอมจากญี่ปุ่น ที่เราจะพาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ บอกเลยว่าพวกเธอนั้นไม่ธรรมดา เพราะแก๊งนี้เขามีอายุเฉลี่ยอยู่กันที่ 70 ปีเลยนะ เรียกได้ว่ารุ่นใหญ่กันทั้งน้านนนน สำหรับเชียร์หลีดเดอร์กลุ่มนี้ มีกำเนิดขึ้นมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยมี ฟุมิเอะ ทานาโกะ คุณย่าในวัย 80 ปี ผู้เป็นหัวหน้าและผู้ก่อตั้งกลุ่มเชียร์หลีดเดอร์ขึ้นมานั่นเอง ย้อนกลับไปในวัย 53 ปี คุณย่าฟุมิเอะได้ไปศึกษาที่รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้เห็นสาวๆ เชียร์หลีดเดอร์อเมริกัน นั่นทำให้เธอเกิดนึกถึงอดีตขึ้นมา และอยากย้อนกลับไปเป็นเชียร์หลีดเดอร์อีกครั้ง ดังนั้น คุณย่าจึงได้ชวนเพื่อนวัยเดียวกันที่ชอบการเชียร์ มาร่วมเข้าแก๊งเชียร์หลีดเดอร์รุ่นใหญ่ โดยประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมดกว่า 28 คนเลยทีเดียว แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 20 ปี แต่เชียร์หลีดเดอร์กลุ่มนี้ก็ยังคงสตรองสุดๆ นอกจากความสนุกแล้ว กิจกรรมดีๆ ที่คุณย่าได้ก่อตั้งขึ้นมานี้ ยังช่วยส่งผลให้สุขภาพ และจิตใจของผู้สูงอายุดีขึ้น โดยในแต่ละสัปดาห์เหล่าสมาชิกจะมารวมตัวกัน พร้อมกับแต่งชุดเชียร์สวยๆ มาโชว์พลังการเชียร์กันอย่างสนุกสนาน …
-
‘น้องมอส’ กับผลงานการทดลองอวกาศ ได้รับคัดเลือกและชื่นชมจากญี่ปุ่น แต่คนไทยไม่ค่อยรู้
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนักศึกษาไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อของญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าว NHK และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่านักศึกษาผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรายนี้มีชื่อว่า นายวรวุฒิ จันทร์หอม หรือ น้องมอส เป็นนักศึกษาปี 2 จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สิ่งที่ทำให้น้องมอสกลายเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นก็เพราะว่าเขาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทดลอง “การโค้งของผิวของเหลวในอวกาศ (Capillary in Zero gravity)” เข้าร่วมในโครงการ Asian Try Zero-G 2016 ที่จะนำแนวคิดการทดลองวิทยาศาสตร์ส่งให้มนุษย์อวกาศญี่ปุ่น จนในที่สุดผลงานของน้องมอสได้รับการคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้นำขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ (ISS) ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลที่นำการทดลองของเขาไปทดสอบก็คือมนุษย์อวกาศที่ชื่อนาย Onishi Takuya ซึ่งน้องมอสเองก็ได้มีโอกาสได้ชมการทดลองและพูดคุยกับมนุษย์อวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ผ่านระบบสื่อสารจากห้องบังคับการที่ศูนย์อวกาศสึคุบะด้วย . . .…
-
ญี่ปุ่นปล่อยคลิปโปรโมท Pokemon ภาคใหม่ เปลี่ยนลายเส้นจนซาโตชิหน้ามนขึ้นเป็นกอง…
เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการ์ตูนแต่ละเรื่อง ที่พอออกฉายมานานหลายปีก็อาจจะมีการปรับปรุงลายเส้นกันบ้าง ที่เราจะเห็นได้ชัดเลยก็อย่างเช่น Doraemon, Dragon Ball หรือ One Piece ที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ (ไปจนมากๆ) ในการ์ตูนภาคหลังๆ แต่ที่ดูจะฮือฮาที่สุดในหมู่แฟนๆ การ์ตูนตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้นการ์ตูน Pokémon ภาคใหม่อย่าง Sun and Moon เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการปล่อยคลิปน้ำจิ้มสั้นๆ มาให้ชมกัน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา จากภาพเราจะเห็นได้ว่าทางทีมงานในภาคนี้ได้ปรับหน้าตาของตัวละครแต่ละตัวให้ดูมีความโค้งมนมากขึ้น (จนบางคนแซวว่าเหมือนตัวละครจาก Ghibli) และที่เห็นได้ชัดเลยคือ “ซาโตชิ” พระเอกของเรานี่แหละ ที่มีใบหน้ากลมดิ๊กประหนึ่งไปเหลาหน้ามาจากโรงพยาบาลศัลยกรรมยังไงยังงั้น อันที่จริงแล้ว การที่ตัวละครจะมีการปรับเปลี่ยนลายเส้นบ้างนั้น ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะตัวการ์ตูน Pokemon เองก็ออกฉายมาตั้งแต่ปี 1997 เป็นเวลากว่า 19 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมามีการปรับลายเส้นประมาณ 5 – 6 ครั้งเลย ดูเหมือนว่าหลังจากที่คลิปโปรโมทถูกแชร์ออกไป จะทำให้แฟนๆ บางกลุ่มเกิดความไม่พอใจ และเรียกร้องให้นำเอาลายเส้นแบบเวอร์ชั่นก่อนกลับมาใช้…
-
Hoippu เจ้าเหมียวผู้ชอบนั่งดูทีวีกับเจ้านายเป็นชีวิตจิตใจ แถมนั่งคล้ายกับคนเลยด้วย…
แมวเป็นสัตว์ที่ฉลาด พวกมันรู้ว่าควรจะเรียกร้องความสนใจตอนไหน รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้อาหารกินหรือมีคนเล่นด้วย หรือรู้แม้กระทั่งการใช้มนุษย์เป็นโซฟาสำหรับพวกมัน… นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียวจากญี่ปุ่นตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Hoippu มันมักจะชอบมานอนอยู่บนตักของเจ้านาย ประหนึ่งว่าเจ้านายของมันกลายเป็นโซฟานุ่มนิ่มอุ่นๆ ให้กับมันเลยก็ว่าได้ แต่ที่มันยิ่งแปลกไปกว่าการใช้ตักเจ้านายเป็นโซฟาก็คือ มันไม่ได้นั่งแบบเดียวกับแมวทั่วไปนะ แต่นั่งท่าเดียวกับคน แถมยังชอบดูทีวีกับเจ้านายตลอดเวลาด้วยนะเออ!! เจ้านายของ Hoippu จึงแอบถ่ายภาพแมวของเขามาเผยแพร่ในโลกทวิตเตอร์ จนมีผู้คนหลงในความน่ารักและแปลกประหลาดของมัน และกดแชร์ไปกว่า 3,700 ครั้งแล้ว แถมยังมีคอมเม้นอีก เช่น “ฉันอยากจะมีแมวแบบนี้มากเลย!!” “โอ้ว Hoippu แกช่างน่ารักอะไรขนาดนี้” “ขอบคุณสำหรับภาพนี้มาก มันทำให้ฉันยิ้มได้ทั้งวันเลย” “วันหน้าทำเมนูนี้ให้ข้ากินหน่อยนะเจ้ามนุษย์” “โซฟานี้นุ่มจริงๆ” . “เล่นกับข้าหน่อยเจ้าโซฟา” . . . “ไปนอนดูทีวีต่อละ บาย” ที่มา rocketnews24
-
อร่อยด้วยสวยด้วย!! ศิลปินญีปุ่นสร้างงานโมเดล “คิงกิโดราห์” จากกระดูกไก่ KFC
หลายๆ คนชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะไก่ทอดของ KFC และเมื่อเรากินเสร็จแล้วเราก็จะต้องนำกระดูกไปทิ้ง หรืออย่างมากก็เก็บเอากลับไปให้สุนัขที่บ้านแทะเล่นใช่ไหมล่ะ (แต่นั่นไม่ดีนะ เศษกระดูกอาจไปสะสมจนกระเพาะของมันฉีกได้) แต่กับศิลปินสาวชาวญี่ปุ่นรายนี้กลับมีความคิดสร้างสรรค์ นำกระดูกเหล่านั้นกลับมาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้ด้วยนะเออ ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นของ “ศิลปินกระดูก” ที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่านาย @honeoyaji เขามักจะชอบสั่งไก่ทอด KFC มากินที่บ้าน แต่วันหนึ่งไอเดียสุดบรรเจิดก็แล่นเข้ามาในหัวของเขา เลยลองหยิบเอากระดูกแต่ละชิ้นมาคัดแยกแล้วต่อกันคล้ายกับตัวต่อโมเดล และในช่วงนี้เองหนัง Shin Godzilla ก็กำลังดังมากๆ ในญี่ปุ่น เขาเลยเอาตัวละคร King Ghidorah ตัวละครที่มีลักษณะคล้ายมังกร 3 หัวมาเป็นต้นแบบ หลังจากที่เขานำเอากระดูกมาประกอบร่างจนกลายเป็น King Ghidorah แล้ว เขาก็ถ่ายภาพกล่องไก่ทอด KFC ทั้งหมดที่เขากิน…กว่าจะมาเป็นตัวขนาดนี้ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะนั่น นอกจากมังกร 3 หัวแล้ว นาย @honeoyaji ยังสามารถนำเอากระดูกไก่ไปทำเป็นรูปร่างอื่นๆ ได้ด้วยนะ เช่นโตเกียวสกายทรี ที่เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นศิลปินกระดูกนี่ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยจริงๆ เพราะเขายังสามารถสร้างโครงกระดูสัตว์ชนิดใหม่ขึ้นมาใหม่ได้จากเศษกระดูก…
-
คิดเห็นอย่างไร!? เปิดตัวขบวนการฮีโร่ไทย Miraigar T1 ที่ชาวเน็ตกำลังวิจารณ์การดีไซน์
เรียกได้ว่ากลายเป็นกระแสดราม่าเล็กๆ ในโลกของซุปเปอร์ฮีโร่ไปสะแล้ว สำหรับขบวนการ Miraigar T1 ฮีโร่ไทย (สัญชาติญี่ปุ่น) ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น แล้วนำตัวละครมาดัดแปลงให้มีเอกลักษณ์แบบไทยๆ ซึ่งจุดที่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็คงจะเป็นเข็มขัด/ข้อมือ/ข้อเท้าของตัวละคร ที่มีลวดลายคล้ายกับธงชาติไทย จนทำให้ชาวเน็ตบางคนถึงกับแสดงความไม่พอใจ ที่นำเอาธงชาติมาออกแบบเป็นชุดของตัวละคร เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาเช่น ทำไมฮีโรไทย มันมักออกมาโทนนี้ มีลายกนก มีสีธงชาติ มีอะไรๆที่ทำให้นึกถึงชุดละครรำ ใส่ความเป็นไทยเอาไว้ในเนื้อเรื่องดีกว่าไม่ต้องเอามาใส่ในตัวชุดหรอก ดีไซน์รกไปนิด ที่ควรแก้คือสีเข็มขัด มั่นใจระดับไหนว่าตอนถ่ายคิวบู๊ไอ้เงี่ยงๆตรงไหล่จะไม่ทิ่มหน้าคนใส่ แต่คนที่ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องการออกแบบก็มีเช่นกัน นักมวยต่างประเทศใช้รูปแบบธงชาติมาออกแบบกางเกงใส่ขึ้นชกไม่เห็นมีปัญหา รายละเอียดมันไม่ค่อยลงตัวอะ น่าจะออกแบบให้มันแมชกันมากกว่านี้ ยังไงก็ให้กำลังใจทีมงานครับถึงชุดจะไม่ถูกใจ แต่อย่างน้อยก็ขอให้เป็นก้าวแรกที่จะเดินต่อไป ผมชอบนะ 555 เท่ดี เดิมทีแล้วตัวละครฮีโร่ Miraigar มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญีปุ่่นในช่วงที่ประเทศของพวกเขาประสบกับแผ่นดินไหว ทำให้เกิดไอเดียการให้กำลังใจชาวญี่ปุ่นด้วยการสร้างฮีโร่ท้องถิ่นขึ้นมา โดยออกแบบให้มีความเกี่ยวโยงกับเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆ เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกเข้าถึงได้ง่าย แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการร่วมทุนกันระหว่างไทยและญี่ปุ่นจนเกิดเป็น Miraigar T1 และเพิ่งจะมีการบวงสรวงไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 กันยายนที่ผ่ามา…
-
นี่แหละที่รอคอย!! ญี่ปุ่นผลิต “เบาะซับเสียงและกลิ่นตด” ที่พนักงานออฟฟิศทั่วโลกอยากให้มี
ในชีวิตประจำวันของชาวออฟฟิศ พวกเราต้องทนทรมาณกับการอั้นตดอยู่บ่อยๆ เพราะจะปล่อยออกมาก็กลัวจะมีเสียง บางคนควบคุมเสียงได้ แต่ควบคุมกลิ่นไม่ได้ ยิ่งพอเจองานประชุมยาวๆ ยิ่งไปกันใหญ่เพราะจะลุกออกไปกลางคันก็เสียมารยาทซะอีก ด้วยเหตุนี้เองบริษัทผู้ผลิตเบาะของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งจึงได้คิดค้นเบาะชนิดใหม่ Silent Cushion ที่สามารถซึมซับกลิ่นเหม็นและเสียงรบกวนจากการตดได้ ตามรายงานบอกว่าเจ้าเบาะตัวนี้ทำมาจากโฟมที่สามารถซับเสียงตดได้มากถึง 80% นอกจากนี้ในเบาะรองนั่งยังมีแผ่นคาร์บอนที่ช่วยบล็อคกลิ่นที่จะตามมาด้วย เบาะรองนั่ง Silent Cushion จะช่วยให้คนที่นั่งมันสามารถตดได้อย่างสบายใจ (แต่ต้องอยู่ในองศาที่เหมาะสมนะ นั่งเอียงเกินไปก็มีกลิ่นและเสียงเหมือนเดิม) เช่นพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานในที่ที่มีคนอยู่เยอะ หรือนักเรียนที่อยู่ในห้องสอบแต่ดันปวดท้องขึ้นมากะทันหัน หากใครอยากเป็นเจ้าของเบาะรองนั่งตัวนี้ล่ะก็ สามารุกดเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ onara-pants.com ได้เลยนะ สนนราคาอยู่ที่ชิ้นละ 8,500 เยน หรือประมาณ 2,830 บาท (แอบแพงอยู่เหมือนกันนะเนี๊ยะ) ตัวอย่างวิธีการนั่งเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ลองชมการทำงานของเจ้าเบาะตัวนี้ได้เลย โอ้ย #เหมียวฟิ้นล่ะอยากจะได้มาไว้ครอบครองเหลือเกิน จะได้ไม่ต้องอั้นตดนานๆ มันมวนท้อง ที่มา rocketnews24
-
ไปส่องกันว่านักโทษใน ‘เรือนจำญี่ปุ่น’ กินอะไร ผ่านร้านอาหารเรือนจำ ที่คุณก็ลองกินได้…
เมื่อคนเรากระทำความผิด เราก็จะถูกนำตัวเข้าสู่งกระบวนทางกฎหมายและส่งไปยังเรือนจำ ที่นั่นคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบไร้อิสระ แทบไม่มีความสะดวกสบาย แถมยังต้องกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้อีกด้วย แต่หากว่าคุณเป็นคนดีที่ใช้ชีวิตแบบสุจริต แล้วดันอยากลองชิมอาหารแบบในเรือนจำ คุณเองก็สามารถหากินได้นะ แม้จะไม่เคยเข้าคุกเข้าตารางมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมร้านอาหาร Prison Cafeteria ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ความแหวกแนวของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ตรงที่พวเขาจะนำเอาส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเดียวกับที่ใช้ทำอาหารให้กับนักโทษในเรือนจำมาทำเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าได้กินกัน อย่างเช่นเมนู้ที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้ เป็น Set A ราคา 800 เยน (ประมาณ 270 บาท) จะประกอบไปด้วยซุปมิโซะ ปลาแม็คเคอเรลทอด หัวไชเท้าสไลส์ ฮารุซาเมะ (บะหมี่สลัด) ข้าวเปล่า ส่วน Set B ประกอบไปด้วยซุปมิโซะ มันเทศจีน ผัดผักญี่ปุ่น ปลาแม็คเคอเรลทอด ข้าวเปล่า แม้จะเป็นอาหารของผู้ต้องขัง แต่ทางญี่ปุ่นเองก็คำนึงถึงเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน . . . . หากใครอยากจะลองชิมอาหารแบบเรือนจำสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็ ตามไปได้ที่ร้าน Prison Cafeteria (หรือ Kangoku…
-
ดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่นออกแบบหมวกไหมพรม “พระพุทธเจ้า” ขายผ่านเว็บ-จัดแสดงงานพุทธศิลป์
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานข่าวผลงานใหม่ ซึ่งดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้นมา เป็นลักษณะของหมวกไหมพรม ที่มีความแปลกไปมากกว่าหมวกทั่วไป สำหรับหมวกไหมพรมนี้ ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับเศียรพระพุทธเจ้า มีจุกตรงกลางและมีติ่งหูห้อยลงมาเล็กน้อย ทำให้ผู้สวมใส่มีลักษณะคล้ายกับพระพุทธเจ้า หลายคนสงสัยว่าออกแบบมาให้คล้ายเพื่ออะไร!? เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติญี่ปุ่น จะมีการจัดแสดงนิทรรศการพุทธศิลป์ญี่ปุ่น ซึ่งภายในงานก็จะมีการจัดแสดงวัตถุต่างๆ และสินค้าไอเดียเกี่ยวกับทางด้านพุทธ ก็จะมีจำหน่ายภายในงานนี้เช่นกัน หมวกไหมพรมพระพุทธเจ้านั้นมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี คือสีเทา สีขาว สีน้ำเงิน สีแดง และสีมัสตาร์ด สนนราคาอยู่ที่ใบละ 920 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านเว็บไซต์ felissimo นอกจากจะวางขายบนเว็บไซต์ออนไลน์แล้ว ยังมีการวางขายในงานเฉลิมฉลองนิทรรศการพุทธศิลป์ญี่ปุ่น ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ถึง 11 ธันวาคม ปี 2016 ด้วย แต่แน่นอนว่า เนื่องจากเป็นเรื่องศาสนา ก็ย่อมจะต้องมีความเห็นเข้ามาหลากหลาย และหลังจากที่มีการวางขายเจ้าหมวกไหมพรมนี้ได้ไม่นาน ก็ทำให้เกิดความเห็นที่หลากหลายทีเดียว เช่น “ฉันเป็นชาวพุทธและนี่มันแย่มากที่เห็นคนตะวันตกมีเศียรพระพุทธเจ้าในสวนของพวกเขา เชื่อในพระเยซูมากเกินไปจนลืมว่าอะไรดีอะไรไม่ดี อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ” “ฮ่าๆๆ…
-
สุดยอด.. หนังสือแนะนำอาชีพให้นักเรียนญี่ปุ่น ทำเป็นการ์ตูนเหมือนตัวละครในเกม RPG!!
เชื่อว่าในวัยเด็กของทุกๆ คน น่าจะเคยถูกคุณครูที่โรงเรียนถามคำถามแนวๆ ว่า “โตไปอยากเป็นอะไร?” ซึ่งในวัยเด็กของหลายๆ คนก็มักจะตอบคำถามนี้ด้วยอาชีพซ้ำๆ เดิมๆ เช่น ครู ทหาร ตำรวจ หมอ พยาบาล วิศวะกร ฯลฯ เนื่องจากในตอนนั้นองค์ความรู้ของพวกเรายังมีไม่มากพอที่จะเข้าในถึงอาชีพอื่นๆ อีกมากมายในสังคม มันคงจะดีไม่น้อยเลยหากมีใครสักคนคอยบอกเราเมื่อตอนนั้นว่ามันยังมีอาชีพอีกล้านแปดให้เราได้ทำกัน เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอเข้ากับเว็บไซต์ kyuryobank.com เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลฐานเงินเดือนในแต่ละสายอาชีพต่างในญี่ปุ่นมาสรุปสั้นๆ พร้อมกับใส่การ์ตูนในสไตล์เกม RPG ลงไปด้วย ทำให้อ่านง่ายและน่าติดตามสุดๆ เราลองไปดูกันไหมว่าที่ญี่ปุ่นเขาทำอาชีพอะไรบ้าง? แล้วแต่ละอาชีพเขาได้เงินเดือนเท่าไหร่? *รายได้เฉลี่ยทั้งหมดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อปี 1. โปรดิวเซอร์รายการทีวี รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 20: 180,475 บาท รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 30: 115,777 บาท รายได้เฉลี่ยช่วงวัย 40: 122,587 บาท 2. หัวหน้าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ รายได้เฉลี่ย: 623,152 บาท 3. สาวเมดคาเฟ่…
-
ล้ำไปอีกขั้น… ญี่ปุ่นเตรียมรีไซเคิล “ขยะอิเล็คทรอนิกส์” ให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิกปี 2020
ต้องบอกเลยว่าหลังจากที่ได้เห็นการรับไม้ต่อของชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในพิธีปิดริโอเกมส์ 2016 ทำเอาคนทั่วโลกถึงกับตื่นเต้นในไอเดียการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาตัวการ์ตูนและเกมมาเป็นตัวหนึ่งของการโปรโมท ไปจนถึงการเปลี่ยนอาเบะให้กลายเป็นมาริโอ้มาโผล่ในงานที่เราได้เห็นกัน… แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เท่านั้น เพราะพวกเขายังมีอะไรเจ๋งๆ เตรียมไว้เซอร์ไพรส์คนทั้งโลกอีกมากก่อนจะถึงปี 2020 ที่พวกเขาได้เป็นเข้าภาพแบบเต็มตัว…และการเคลื่อนไหวแรกของ Tokyo Olympic ก็มีมาให้เราได้ฮือฮากันแล้ว เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Asia.nikkei ได้รายงานว่า ทางผู้จัดงานโอลิมปิกมีไอเดียที่จะนำเอาซากสมาร์ทโฟนและเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายมาเปลี่ยนให้กลายเป็นเหรียญโอลิมปิก ทั้งทอง เงิน และทองแดง เพื่อรีไซเคิลและลดจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศลง ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างขาดแคลน “แร่” ต่างๆ พอสมควร พวกเขาจึงแก้ปัญหานี้โดยการนำเอาเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์มาแปรรูป ซึ่งในขยะเหล่านั้นมีทองและเงินมากถึง 16 – 22% ตามลำดับ อันที่จริงแล้วเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้บรรจุเหล็กมากพอสำหรับการนำมาหลอมให้กลายเป็นเหรียญอยู่แล้ว ซึ่งตามรายงานบอกว่าทีมผู้จัดโอลิมปิกและรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการหารือเรื่องนี้กันมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา การหารือครั้งที่ผ่านมาใช้ชื่อหัวข้อว่า “อนาคตที่ยั่งยืน” โดยผู้ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ กระทรวงสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ NTT DoCoMo และบริษัทรีไซเคิลอีกหลายแห่ง…
-
มือในเงินถึงกับสั่น!! ลองดู Nike Pokemon ออกแบบเอง ใครชอบตัวไหนก็ซื้อลายนั้นเลย
เกม Pokémon Go ที่กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้ เชื่อว่าคนที่เล่นหรือไม่ได้เล่นก็ตาม น่าจะรู้กันว่ามันคือเกมที่เราต้องออกไปไล่จับโปเกมอนในชีวิตจริง ต้องมีการเดิน การยืนรอเป็นเวลานานๆ อาจจะทำให้กล้ามขาปูดหรือเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าของคุณได้ก็คือรองเท้าดีๆ สักคู่ ที่เดินแล้วสบายเท้า แต่จะยิ่งดีเข้าไปอีก หากรองเท้าคู่นั้นทั้งนุ่มสบายแล้วมีลวดลายโปเกมอนด้วย!! ภาพที่คุณได้เห็นทั้งหมดนนี้เป็นรองเท้า Nike ที่ถูกดีไซน์ให้เข้ากับตัวโปเกมอนแต่ละตัว มีตั้งแต่ปิกาจู เซนิกาเมะ โกดัก ฮิโตะคาเงะ หรือแม้แต่เนี๊ยส และอีกมากมาย ซึ่งคุณเองก็สามารถออกแบบรองเท้าโปเกมอนในแบบของคุณเองได้ด้วยเหมือนกันนะ โดยการกดเข้าไปที่เว็บไซต์ pokeid.tumblr จากนั้นก็ออกแบบรองเท้าด้วยตัวของคุณเอง เลือกสี เลือกโปเกมอน เลือกรุ่นรองเท้าแล้วแต่งเติมสีสันลงไปได้เอง (ตามสีสันของโปเกมอนแต่ละตัว) จากนั้นลวดลายที่คุณและคนอื่นๆ ออกแบบก็จะถูกอัพโหลดไปอยู่บนเว็บไซต์ tumblr หากถูกใจหรืออยากจะได้รองเท้าคู่นั้น (หรือเท้าที่คนอื่นออกแบบไว้อยู่แล้ว) ก็แค่นำเอาภาพนั้นไปสั่งกับเว็บไซต์ของ Nike ที่มีการเปิดบริการออกแบบรองเท้าในสไตล์ของคุณอยู่แล้ว เพื่อให้เขาผลิตตามแบบที่เราดีไซน์ได้เลย จากนั้นมันก็จะถูกส่งมายังบ้านของคุณทันที ง่ายสุดๆ ไปเลย!! (แต่ต้องมีทักษะภาษาอังกฤษสักเล็กน้อย) ลองไปชมผลงานการออกแบบรองเท้า ที่ชาวเน็ตคนอื่นๆ เคยมีการออกแบบมาก่อนหน้านี้แบบเต็มๆ . .…
-
ญี่ปุ่นเผย 10 รายชื่อนักแสดงหนัง AV ที่เล่นหนังจำนวนมากที่สุด สูงสุด 2,000 เรื่อง!!
เราคงจะเคยเห็นการจัดอันดับนักแสดง AV ที่คุณไม่ควรพลาด นักแสดงที่มาแรงที่สุดในเดือน ฮอตที่สุดแห่งปี แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นไม่ได้จะพาคุณไปดูการจัดอันดับแบบใหม่บ้าง โพลที่ว่านี้ก็คือ…จัดอันดับ 10 นักแสดง AV สาว ที่มีผลงานออกมามากที่สุด!! การจัดอันดับครั้งนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Avcollectors โดยจะเป็นผลสำรวจที่อัพเดทล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปี 2016 โดยจะนับเฉพาะผลงานที่วางขายในรูปแบบแผ่น DVD ไม่นับผลงานที่ส่งลงอินเตอร์เน็ตให้ดาว์นโหลดนะ ลองดูกันว่าใน 10 อันดับนี้คุณรู้จักใครบ้าง? 10. Maki Hojo – 1,232 เรื่อง 9. Hibiki Otsuka – 1,259 เรื่อง 8. Rio Hamasaki – 1,271 เรื่อง 7. Ryoko Murakami – 1,282 เรื่อง 6. Misa Yuuki – 1,454…
-
แปลกดี… IKEA ญี่ปุ่น จ้าง “แพะ” ไว้ในสนามหญ้า เพื่อช่วยดูแลสวนตลอด 24 ชั่วโมง
หากเราเดินเข้าไปยังห้าง Ikea แน่นอนว่าเราจะได้เจอกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อกัน แต่ถ้าคุณไปที่ Ikea สาขาหนึ่งในกรุงโตเกียวล่ะก็ คุณอาจจะเหวอได้เลยทีเดียว เพราะที่นั่นคุณจะได้พบ…แพะ!! ใช่แล้วที่นั่นเลี้ยงแพะเอาไว้ด้วย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าที่ด้านหน้าห้าง IKEA แทบชานเมืองของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีการเลี้ยงแพะเอาไว้จำนวนหนึ่ง ทำให้ผู้มาใช้บริการและคนที่ผ่านไปผ่านมาเกิดความรู้สึกงุนงงมาก ว่าทำไมถึงมีแพะมาเดินป้วนเปี้ยนแถวนั้นด้วย แต่เมื่อเข้าไปอ่านป้ายกำกับที่ติดเอาไว้ก็พบว่าแพะเหล่านี้ไม่ใช่ทรัพย์สินของห้าง IKEA แต่เป็นของบริษัท Tachihi Holdings ที่ถูกจ้างมาอีกต่อหนึ่ง และไม่ได้เลี้ยงเอาไว้เพื่อความสวยงามหรือเอาไว้กินเนื้อนะ แต่พวกมันกำลังทำงานหนักอยู่ งานที่ว่านี้ คือการตกแต่งสนามหญ้าให้โล่งเตียนนั่นเอง (ก็กินหญ้านั่นแหละ) ในป้ายมีข้อความเตือนผู้คนไม่ให้คนเข้าไปรบกวนแพะหรือให้อาหารพวกมัน เพราะหากพวกมันกินจนอิ่มก็จะทำให้พวกมันไม่สามารถกินหญ้าได้ และพวกมันอาจจะเสียใจที่ทำงานของตัวเองไม่เสร็จ สงสัยจะรุมกินแถวนี้เยอะไปหน่อย โล่งจนเป็นดินเลย ฮร่าาาา ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้พวกมันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ และจะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อจ้างคนดูแลสนามหญ้าด้วย ทีนี้คุณก็จะได้คนดูแลสนามหญ้าตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ผิดกฎหมายแรงงานแล้ว ที่มา rocketnews24
-
ไอเดียกระฉูด!! 4 จังหวัดญี่ปุ่นผนึกกำลังผู้พัฒนา Pokémon GO ฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ซบเซา
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงมาแล้วถึง 5 ครั้ง ส่งผลให้จังหวัดต่างๆ เช่นจังหวัดคุมะโมะโตะ จังหวัดมิยางิ จังหวัดอิวะเตะและจังหวัดฟุกุชิมะ ได้รับความเสียหาย อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ดูเหมือนว่าหลังจากการเปิดตัวของเกม Pokémon Go จะทำให้จังหวัดต่างๆ ได้ไอเดียดีๆ ในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กับพวกเขาแล้ว… เพราะเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews ได้รายงานว่าผู้นำจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ได้ผนึกกำลังกับบริษัท Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go เพื่อเพิ่มจำนวนโปเกมอนลงไปตามที่ต่างๆ เป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง ตามรายงานบอกว่าทางผู้บริการของ Niantic ได้เผยแพร่ภาพงานแถลงข่าวประมาณ 45 นาที โดยมีเนื้อหาคร่าวๆ ว่าทางผู้พัฒนาจะมีการเพิ่มจำนวนโปเกม่อน ยิม โปเกสต็อปและไอเท็มต่างๆ เข้าไปยังพื้นที่การท่องเที่ยวของ คุมะโมะโตะ, มิยางิ , อิวะเตะและฟุกุชิมะ ให้มากกว่าพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้จะมีกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นเฉพาะที่นั่น เพื่อดึงดูดผู้เล่นจากต่างจังหวัดด้วย ในระหว่างการถ่ายทอดสด ผู้ว่าราชการจังหวัดมิยางิ โยชิฮิโระ มูราอิ…
-
ใหญ่พอป๊ะ!! San-X เปิดจอง ‘หมีริลัคคุมะ’ ไซส์จัมโบ้ ราคาเบาๆ ก็แค่ 22,000 บาทเอ๊ง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบตัวการ์ตูนหมีริลัคคุมะมาก ไม่ว่าร้านสะดวกซื้อจะเอาของแถมหรือสแตมป์อะไรมาล่อ คุณก็จะต้องขวนขวายสะสมแล้วนำไปแลกของรางวัลให้จงได้ หากคุณคลั่งไคล้ในระดับนั้นล่ะก็ คุณอาจจะอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ก็ได้นะ นี่คือตุ๊กตาหมีริลัคคุมะไซส์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับคนจริงๆ สาเหตุที่มันต้องใหญ่ขนาดนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของสาวๆ ที่บางคนอาจจะไม่เคยพอใจกับอะไรเล็กๆ เลย ทางเว็บไซต์ San-x ผู้ผลิตตุ๊กตาตัวนี้ก็เลยจัดให้ คุณจะใช้ให้มันจะเป็นเพื่อนทานอาหาร เพื่อนยามคุณทำงาน หรือในทุกๆ เวลาที่คุณต้องการ จะกอดจะหนุนนอนก็เต็มไม้เต็มมือ ถ้าหนุ่มๆ คนไหนที่กำลังมองหาของขวัญสักชิ้นให้กับสาวๆ นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะมัดใจพวกเธอนะ สนนราคาก็อยู่ที่ตัวละ 66,343 เยน หรือประมาณ 22,730 บาทเอ๊งงงงง… สินค้าตัวนี้ยังไม่มีวางจำหน่ายจริงนะ ใครอยากได้ต้องพรีออเดอร์กับทางเว็บไซต์ san-x ซึ่งเขาเปิดให้สั่งกันแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมไปจนถึงในวันที่ 4 กันยายน และจะเริ่มส่งสินค้าจริงในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป สาวๆ คนไหนขี้เหงา ลองไปซื้อมาไว้ที่ห้องนอนสักตัวสิ รับรอง…โดนแย่งที่นอนหมดแน่ๆ ที่มา san-x
-
ระวังด้วย!! ชาวญี่ปุ่นพบป้ายจราจร “กวางติดล้อ” กลายเป็นเรื่องฮาทั่วโลกออนไลน์
ป้ายสัญลักษณ์จราจรต่างๆ บนท้องถนนนั้น ถูกทำขึ้นมาเพื่อใช้สื่อสารกับผู้สัญจรไปมา มีทั้งป้ายบอกให้เลี้ยวไปทางทิศต่างๆ บอกสถานที่ บอกความเร็วที่ควรใช้ หรือเตือนอันตรายต่างๆ บนถนน แต่ดันมีป้ายบางแบบเหมือนกัน ที่ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่ามันหมายถึงอะไร… เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @hideo1680 ได้ไปเจอกับป้ายจราจรสุดงง ที่เจ้าตัวพในจังหวัดชิซุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น มันเป็นป้ายสีเหลือง มีรูปกวางอยู่ในป้าย แต่ที่ชวนงงก็คือตรงตัวกวางดันมีล้อจักรยานอยู่ด้วย!? เมื่อพิจารณาแล้วว่ายังไง ป้ายนี้ก็ไม่ใช่ป้ายจราจรธรรมดาๆ แน่นอน เขาก็เลยนำภาพมาโพสต์ในโลกออนไลน์แล้วให้ชาวเน็ตช่วยกันดูว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ จากนั้นเพื่อนๆ ของเขาก็เข้ามาช่วยกันตอบคำถามยกใหญ่ เช่น… @azucha2 “หรือคนทำป้ายจะให้ระวังเจ้านี่?” @hakkaq “นี่คือหน้าตาของพวกเขาเมื่ออยู่ในป่าสินะ” @t_sas “หรือคุณชอบแบบนี้” ส่วนชาวทวิตเตอร์คนอื่นๆ ให้ความเห็นว่า @BeatyTom “หรือจะเป็น Rumble Ball อันใหม่ของ Chopper” @CRESTIndustria “นี่มันกำลังโชว์ให้เราเห็นว่ากวางกระโดดออกมาด้วยความเร็วสูง งี้อะเหรอ?” @oubaha_ahmed “เพื่อน นี่มันโปเกมอนเจเนอเรชั่นใหม่หรืออะไรกัน” แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะว่าความหมายที่แท้จริงของป้ายสุดฮานี้ ก็เพียงเพื่อนให้นักปั่นจักรยานทั้งหลายลดความเร็วลงเท่านั้น…
-
สัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อ “หนัง AV” หลายเสียงบอก “ฝั่งตะวันตกดีกว่า” !?
มีหนุ่มๆ คนไหนกล้าปฏิเสธกันไหมว่าไม่เคยดูหนังโป๊? อาจจะมีแต่คงเป็นส่วนน้อยมากๆ ล่ะนะ บางคนดูบ่อยจนถึงขั้นจำชื่อค่าย ชื่อนักแสดง แถมยังรู้ด้วยว่าเคยเล่นหนังมาแล้วกี่เรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่น่าจะยังไม่รู้กันก็คือ ชาวญี่ปุ่นเองมีความคิดยังไงเกี่ยวกับหนังโป๊ญี่ปุ่น? วันนี้ #เหมียวฟิ้น จะพาทุกคนไปชมคลิปการสัมภาษณ์ตัวหนึ่งจากช่องยูทูบ Asian Boss กัน พิธีกรในรายการชื่อว่านาย Kei เขาได้ออกไปสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนหนุ่มสาว เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า พวกเขาคิดยังไงกับหนัง AV ญี่ปุ่นบ้าง? คำถามแรกที่เขาถามขึ้นมาเลยก็คือ “เคยดูหนังโป๊กันไหม?” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “เคย” บางคนบอกว่าดูบ่อยเกือบทุกวันเลยด้วยซ้ำ อย่างพ่อหนุ่มคนนี้ตอบว่า “มันช่วยผ่อนคลาย บวกกับผู้ชายบางคนมีความต้องการ มันเลยต้องมีอะไรมารองรับตรงนี้ ส่วนเธอคนนี้บอกว่า “ฉันคิดว่าหนังโป๊สะท้อนความแฟนตาซีในเรื่องเซ็กของผู้ชาย” ส่วนผู้หญิงอีกคนบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เราไม่สามารถหาได้จากในชีวิตจริง ฉะนั้นมันจึงต้องมีตัวแทน เมื่อถูกถามว่าหากไม่ได้ดูหนังโป๊จะเป็นอะไรหรือเปล่า? หนุ่มๆ เลยตอบว่า มันไม่ถึงกับทำให้คลั่งอะไรมาก แต่การดูหนังโป๊ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น ต่อมาพวกเขาทั้งสองคนได้อธิบายถึงมุมมองที่มีต่อดารา AV โดยบอกว่าพวกเขาก็เหมือนกับคนดังคนหนึ่ง หากได้เจอกันตัวเป็นๆ คงจะตกใจมากแน่ๆ พิธีกรเลยถามต่อไปว่าหากมีโอกาสพวกเขาจะเดทกับดารา AV ไหม? เจ้าตัวกลับตอบว่าไม่อยากให้ใครเห็นเรือนร่างของแฟนสาวบนอินเตอร์เน็ต ส่วนหนุ่มๆ คนอื่นก็ให้ความเห็นไปในแนวเดียวกัน …
-
พาทัวร์โรงพยาบาลทำคลอดในญี่ปุ่น หรูหราเกินบรรยาย ให้สาวๆ รู้สึกเหมือนเป็นจักรพรรดินี!?
หากคุณกำลังมองหาโรงพยาบาลดีๆ สักแห่ง แต่ไม่อยากจะใช้บริการโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนแบบคนอื่นๆ เขา และอยากจะได้อะไรที่มันพิเศษที่ “หรูหรา” กว่าปกติล่ะก็ โรงพยาบาลแห่งนี้คือสำตอบสำหรับคุณล่ะ โรงพยาบาลแห่งนี้มีชื่อว่า Tokyo’s Mizuguchi Hospital ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น หากดูจากภาพโปรโมทแล้ว คุณอาจจะคิดว่าที่นี่ให้บริการเรื่องศัลยกรรม ความงามหรือลดความอ้วนล่ะก็คุณคิดผิดนะ เพราะที่นี่คือโรงพยาบาลที่ให้บริการด้านสูติศาสตร์และนรีเวชกรรม ที่โรงพยาบาล Mizuguchi นั้นมีแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาอยากจะให้ผู้ป่วยหรือคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย ได้สัมผัสความอลังการงานสร้างของห้องพัก เพื่อให้พวกเธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังเป็นเจ้าหญิงหรือจักรพรรดินีของดินแดนที่ไหนสักแห่ง จนคุณรู้สึกกระดากปากที่จะเรียกผู้เข้ามาใช้บริการว่า “ผู้ป่วย” ภายในห้องพักถูกตกแต่งด้วยชุดโต๊ะและเก้าอี้แบบในพระราชวัง มีโต๊ะเครื่องแป้ง กระจก เตาผิง โคมไฟระย้า ที่เน้นสีทองเป็นหลัก . . นอกจากนี้เมนูอาหารต่างๆ ที่ทางโรงพยาบาลนำมาเสิร์ฟให้คุณ ก็ไม่ใช่อาหารหน้าตาธรรมดาๆ รสชาติจืดชืด แต่เป็นเมนูแบบในภัตตาคาร 5 ดาว มีเนื้อย่างแบบต่างๆ แถมยังมีน้ำชาที่เสิร์ฟมาในชุดเครื่องเงินสุดไฮโซ ให้คุณได้จิบยามบ่ายด้วยนะ . . ทั้งนี้ตามเว็บไซต์ของญี่ปุ่นไม่ได้มีการระบุเรื่องค่าใช้จ่ายต่อคืนหรือค่าบริการทั้งหมดว่าต้องจ่ายเท่าไหร่กันแน่…
-
นักวิจัยญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ในการค้นคว้า “หัวหอมไร้น้ำตา” หมดปัญหาร้องไห้ฮือๆ
ทุกคนคงเคยประสบปัญหากับการหั่นหัวหอมแล้วทำซึ้ง (น้ำตาเล็ดนั่นแหละ) แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณมี Smile Ball หัวหอมสายพันธุ์ใหม่ ที่ไม่ทำให้คุณร้องไห้อีกต่อไป!! ในหัวหอมนั้นเต็มไปด้วยก๊าซระเหย เมื่อเราปอกหรือหั่นมัน แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะนักวิจัยในญี่ปุ่นได้ศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 20 ปี ลองผิดลองถูก จนได้มาเป็นหัวหอมสายพันธุ์ใหม่ ที่แทบจะไม่หลงเหลือก๊าซที่ทำให้ระคายเคืองดวงตาอีกเลย!? เจ้าหัวหอมไร้น้ำตาพันธุ์นี้เริ่มทดลองขายกันในร้านค้าบางแห่งและร้านขายของออนไลน์ในโตเกียว ตอนนี้สามารถขายออกไปได้มากกว่า 5 ตันแล้ว ตามรายงานบอกว่าหัวหอมไร้น้ำตาจะเริ่มวางขายทั่วประเทศในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือเดือนกันยายนนี้ โดยจะขายในราคา 450 เยน หรือประมาณ 150 บาท ต่อ 2 ลูก ซึ่งถือเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงซักเล็กน้อย แต่ก็นั่นแหละ มันทำให้เราไม่ต้องเสียน้ำตาอีกต่อไป นอกจากมันจะทำให้เราไม่เสียน้ำตาแล้ว ความพิเศษของเจ้าหัวหอมลูกนี้ยังอยู่ที่รสชาติด้วย เพราะทางนักวิจัยบอกกันว่าหากกินดิบๆ รสชาติของมันจะออกหวานหน่อยๆ คล้ายกับแอปเปิ้ลหรือสาลี่บ้านเรา ไม่รู้ว่าบ้านเราจะมีโอกาสได้ลองชิมหัวหิมไร้น้ำตาหรือไม่นะ แต่มันคงจะดีไม่น้อยเลยล่ะที่เราไม่ต้องร้องไห้ ฮือออออ ที่มา rocketnews24
-
ร้านอาหารญี่ปุ่นคิดค้น “โคล่าจากข้าว” สีขาวๆ รสหวานๆ แต่โอ้ว มันขายแค่ในญี่ปุ่น!!
ถ้าจะพูดถึงเครื่องดื่มโคล่า ทุกคนน่าจะเห็นภาพของเครื่องดื่มสีดำๆ รสชาติหวานซ่า กินกับอาหารช่วยเพิ่มความอร่อยและสดชื่น แต่ถ้า#เหมียวฟิ้นจะบอกคุณว่าโคล่าไม่จำเป็นต้องเป็นสีดำอย่างเดียว แต่มีสีขาวแถมทำมาจากข้าวด้วย คุณจะเชื่อเราหรือเปล่า? วันนี้เราจะพาคุณไปชมเครื่องดื่มสุดพิเศษจากร้านอาหารจากญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kura Zushi กัน ที่ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านซูชิสายพานที่เปิดทำการมานานนับ 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าวัตถุดิบที่พวกเขาเชี่ยวชาญและคุ้นเคยมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ข้าว แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็อยากจะต่อยอดให้กับข้าว ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขา ด้วยการนำมันมาทำเป็นโคล่าที่ชื่อว่า Shari Cola สูตรลับเฉพาะที่มีแค่ที่ร้านของพวกเขาเท่านั้น ด้วยความพยายามที่จะสร้างเครื่องดื่มที่ไม่ซ้ำใคร ทางร้านจึงนำข้าวมอลต์ที่ปลูกในญี่ปุ่นมาหมัก การหมักนั้นจะช่วยเพิ่มรสชาติหวานๆ แถมยังมีการเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสดชื่น อันที่จริงแล้วเครื่องดื่มโคล่าข้าวนั้น ดัดแปลงมาจากเครื่องดื่ม Amazake ที่มีชื่อเสียงของเมืองเกียวโตอีกทีหนึ่ง ซึ่งทำมาจากข้าวมอล์ทเหมือนกัน ในอดีตนั้นเครื่องดื่มชนิดนี้จะเป็นที่นิยมมากในหน้าร้อน เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน และให้กรดอะมิโน 9 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ หากคุณอยากจะลองชิมเครื่องดื่ม Shari Cola ล่ะก็ อาจจะต้องใช้วิทยายุทธนิดนึง เพราะมันมีขายเฉพาะที่ร้าน Kura Zushi ในเกียวโตเท่านั้น ราคาอยู่ที่แก้วละ 65 บาท (ใครได้ไปแถวๆ นั้นฝากซื้อมาให้ #เหมียวฟิ้นสัก 2…
-
ช่างภาพญี่ปุ่นถ่าย “เปิดห้องสาวญี่ปุ่น” โชว์ให้หนุ่มๆ เห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตกันยังไง?
หากคุณเป็นหนุ่มเนิร์ด ใส่แว่นหนาๆ วันๆ ไม่ค่อยได้ออกไปเข้าสังคมกับเพื่อนที่ไหน และโหยหาที่จะได้ใกล้ชิดกับสาวน่ารักๆ สักคน แต่ในชีวิตนี้ยังไม่เคยเข้าใกล้พวกเธอเลย และอยากจะรู้ว่าพวกเธอมีความเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง งั้นลองตาม#เหมียวฟิ้นมาดูอัลบั้มภาพนี้กัน นี่เป็นผลงานภาพถ่ายของศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Shiori Kawamoto เธอเกิดไอเดียแปลกๆ ที่อยากจะแสดงให้คนทั่วไปได้เห็นว่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นนั้นมีความเป็นอยู่อย่างไรภายในห้องนอน ซึ่งพื้นที่ส่วนตั๊วส่วนตัวของพวกเธอ Kawamoto จึงติดต่อไปยังสาวๆ ทั่วญี่ปุ่น เพื่อขอเข้าไปถ่ายภาพห้องนอน มีทั้งเป็นระเบียบสุดๆ และรกจนไม่มีที่จะยืน แม้มันจะดูแปลกไปสักหน่อยแต่สาวๆ เหล่านั้นก็ยอมให้เข้าไปถ่ายและเผยแพร่ได้ จากนั้นสมุดภาพของเธอก็เสร็จสมบูรณ์ เธอตั้งชื่อมันว่า Onago Room ที่มีขนาดความหนาอยู่ที่ 250 หน้า นั่นหมายความว่าเราจะได้เห็นห้องนอนของสาวๆ กว่า 200 คนเลยทีเดียว!? ภาพห้องนอนของสาวๆ นั้นบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง ทั้งความชื่นชอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไลฟ์สไตล์ หรือความคิดความอ่านในการจัดการห้องนอนของเธอ อย่างเช่นห้องนี้ คุณน่าจะเดาได้ว่าชีวิตของหญิงสาวคนนี้น่าจะยุ่งพอๆ กับเตียงและหน้าจอคอมของเธอนั่นแหละ หญิงสาวผู้ชื่นชอบงานหัตถกรรม โปสเตอร์อนิเมะ หนังสือ ดนตรี และขนม นางฟ้าในห้องสุดรก!? …
-
ติ่งมาเต็ม!! สาวรัสเซียโชว์ไอซ์สเก็ต พร้อมแปลงร่างเป็น “เซเลอร์มูน” ผู้ชมปรบมือเกรียวกราว
กลายเป็นข่าวโด่งดังในญี่ปุ่น จนตอนนี้ลามมาถึงไทยแล้ว สำหรับคลิปของนักเต้นระบำไอซ์สเก็ตสาวชาวรัสเซียคนหนึ่ง ที่ออกลวดลายบนลานน้ำแข็ง แต่จู่ๆ กลับแปลงร่างกลายเป็นเซเลอร์มูน ตัวการ์ตูนโปรดของเธอ ทำเอาผู้ชมปรบมือกันเกรียวกราวไปทั้งฮอลล์เลยทีเดียว สาวที่เรากำลังพูดถึงนี้ เธอมีชื่อว่า Evgenia Medvedeva เป็นนักเต้นระบำไอซ์สเก็ตชาวรัสเซียวัย 16 ปี ที่ตอนนี้เธอกลายเป็นที่พูดถึงของชาวญี่ปุ่นไปทั่ว หลังจากที่เธอได้เปิดการแสดง Dreams On Ice ในจังหวัดนากาโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในโชว์ของเธอได้มีการนำเอาตัวการ์ตูนที่เธอชื่นชอบอย่างเซเลอร์มูนมาผสมผสานเข้ากับชุดการแสดงด้วย ซึ่งตอนแรกชุดที่เธอใส่เพื่อทำการแสดงเป็นเพียงชุดกะลาสีแบบนักเรียนญี่ปุ่นธรรมดาๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถอดชุดนักเรียนออก ดึงถุงน่องขึ้น จนกลายร่างเป็นเซเลอร์มูนในพริบตา ก่อนจะจบการแสดงด้วยท่าเดียวกับที่เซเลอร์มูนชอบทำในการ์ตูน ผู้ชมประทับใจมากและปรบมือให้เธอยาวนานเกือบ 1 นาทีเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากจบการแสดง เธอยังได้เจอกับ Naoko Takeuchi ผู้ให้กำเนิดตัวละครเซเลอร์มูนแบบใกล้ชิดด้วย แถมยังได้รับของขวัญเป็นภาพวาดตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบอีก ขอบอกว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้วล่ะ อย่างรู้ว่าเธอติ่งเซเลอร์มูนขนาดไหนลองไปชมได้ที่ด้านล่างเลย ตัวแทนแห่งจันทรา จะลงทัณฑ์แกเอง!! ที่มา Ice Skating World , crunchyroll
-
แม่ชาวญี่ปุ่น เขียน 14 ข้อแตกต่างระหว่าง ‘คนรัก และ คู่สมรสที่ดี’ ชาวเน็ตแชร์นับแสนครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอข้อคิดดีๆ จากทวิตเตอร์ของชาวญี่ปุ่นมาล่ะ ข้อคิดที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ที่ชื่อว่า @ar_baby64 เป็นคุณแม่ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่พยายามสอนลูกสาวของเธอถึง 14 ข้อแตกต่างระหว่างคู่รักทั่วๆ ไป กับคู่สมรสที่แต่งงานแล้ว หลังจากที่เธอแชร์เรื่องนี้ มีคนถูกใจนับแสนครั้ง และรีทวิตต่ออีกกว่า 70,000 ครั้งทีเดียว เพื่อชี้ให้เธอเห็นว่าการใช้ชีวิตคู่นั้นมันไม่ได้สวยงามราวกับฝัน แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวอีกมากมายทั้งดีและไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนตอนนี้โด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นแล้ว เราลองไปดูกันไหมว่าคุณแม่รายนี้สอนลูกสาวไว้ว่าอย่างไรบ้าง? 1. กับคู่รัก คุณต้องต่อสู้กับความไม่แน่นอน แต่กับคู่สมรสคุณต้องสู้กับความขัดใจในกันและกัน 2. กับคู่รัก คุณมีความสัมพันธ์ที่น่าตื่นเต้น แต่คู่สมรส คุณมีความสัมพันธ์ที่ต้องมีความเชื่อใจและมั่นคง 3. กับคู่รัก คุณมีความสุขความยินดี แต่คู่สมรสจะมีความอดทนและความเอื้ออาทร 4. กับคู่รัก คุณไม่ต้องมีความรับผิดชอบมากเท่าไหร่ แต่คู่สมรสต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก 5. กับคู่รัก คุณมีความฝัน แต่คู่สมรส คุณต้องอยู่กับความเป็นจริง 6. คนรักของคุณจะเป็นคนละคนกับคุณ แต่คู่สมรสของคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของคุณและเกือบจะเป็นคนเดียวกับคุณ 7. คุณสามารถอยู่กับคนรักของคุณได้นานตราบเท่าที่คุณยังมีความรู้สึกให้กันและกัน แต่ถ้าเป็นคู่สมรส คุณจะต้องเปิดรับทุกสิ่งและทุกคนที่มากับเขาด้วย 8. การเชื่อมต่อกับคนรักของคุณคือจุดที่พวกคุณใช้ร่วมกัน แต่การเชื่อมต่อระหว่างคู่สมรสนั้นเป็นสิ่งที่ยาวนานและยังคงดำเนินไปไม่รู้จบ 9. กับคู่รัก ความหลงไหลในอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่คู่สมรส ความรักของพวกเขาจะก่อเกิดจนเอ่อล้นออกมาเอง 10. กับคู่รัก คุณสามารถมองหาใครสักคนที่สมบูรณ์แบบ แต่กับคู่สมรส…
-
อู๋ววว!! พาทัวร์ม่านรูดในประเทศญี่ปุ่น มีห้องพักทุกสไตล์ รองรับความต้องการทุกแบบ
“เพศสัมพันธ์” ได้ก่อเกิดวัฒนธรรมแปลกๆ มากมายทั่วโลก เช่นอุปกรณ์บำบัดความใคร่ สื่อในรูปแบบของหนัง AV หรือบริการห้องพักแบบแปลกๆ ที่ช่วยให้คู่รักสามารถเติมเต็มบางสิ่งที่พวกเขาขาดหายได้ และห้องพักเหล่านี้เองก็เป็นเหมือนสถานที่นัดพบให้คู่รักได้มาเจอกันเพื่อสัมผัสความตื่นเต้นที่ไม่อาจหาได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้เองช่างภาพอย่างนาง Misty Keasler จึงได้ออกเดินทางไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อเก็บภาพจากโรงแรมม่านรูดกว่า 30,000 แห่งมาทำเป็นหนังสือ Love Hotels: The Hidden Fantasy Rooms of Japan ให้เราชมกันว่าดินแดนปลาดิบนี้เองมีห้องพักแบบไหนกันบ้าง!? ส่วนหนึ่งที่นาง Misty ออกถ่ายภาพม่านรูปก็เพื่อบันทึกเป็นภาพสารคดี ถ่ายทอดให้คนที่ไม่เคยเห็นได้เห็นกัน มีภาพแปลกตาให้ผู้ชมได้เห็นกันจนต้องร้องเหวอเลยทีเดียว “ช่วงที่ฉันถ่ายภาพเหล่านี้ในปี 2004 ตอนนั้นมีโรงแรมม่านรูดกว่า 30,000 แห่ง ในญี่ปุ่น” Misty กล่าว ในโรงแรมเหล่านั้นจะมีมากกว่าห้องพักธรรมดาๆ เพราะคุณสามารถเลือกที่จะเข้าห้องพักแปลกๆ ได้ เช่นห้องพักที่มีธีมเป็นม้าหมุน เป็นห้องเรียนมัธยม มีธีมคริสต์มาส ห้องพยาบาล ห้องบนรถไฟ (เพิ่มความตื่นเต้น) บ้านน้ำแข็งแบบชาวเอสกิโม หรือเฮลโหลคิตตี้ก็มีให้เลือกนะ และในห้องเหล่านี้เองก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์สัปดนมากมายเช่น ชิงช้าสำหรับร่วมรักในท่าแปลกๆ กุญแจมือ ผ้าปิดตา แซ่ หรือเครื่องจำหน่ายไวเบรเตอร์ก็มีเช่นกัน . ห้องสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความซาดิสและมาโซคิสม์ บางที่มีต้นไม้ปลูกตามทางเดิน…
-
เรื่องล้ำๆ ยกให้เขา!! ญี่ปุ่นสร้าง “ตู้น้ำอัดลมเกล็ดน้ำแข็ง” หยอดเหรียญ เปิดปุ๊บเป็นน้ำแข็งปั๊บ
ตอนนี้เครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็งอย่างเสลอปี้ที่ขายกันตามเซเว่นนนั้นกลายเป็นเครื่องดับร้อนที่ทุกๆ คนรู้จักกันดี มีบางคนพยายามที่จะทำกินเองที่บ้านโดยการเอาไปแช่ในช่องฟรีซให้เย็นจัดๆ แล้วออกมาเขย่าเล็กน้อย ซึ่งก็มีบางคนทำสำเร็จบางคนทำไม่สำเร็จ และเพื่อให้ได้อารมณ์มากกว่าแค่การกดจากตู้กดมากิน ทาง Coca-Cola จึงได้ทำตู้โค้กแบบหยอดเหรียญขึ้นมา โดยความพิเศษของมันอยู่ที่อุณหภูมิ -4 องศาในการแช่เครื่องดื่ม ทำให้เวลาที่คุณเปิดฝาโค้กออกมาแล้วเทลงในแก้ว มันจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งภายในพริบตา . เจ้าตู้หยอดเหรียญนี้จะเริ่มตั้งไว้ในเซเว่นอีเลเว่น 1,000 สาขา ในเขตโตโฮกุ จังหวัดอากิตะ เกาะชินโกคุ ประเทศญี่ปุ่น ขั้นตอนในการซื้อเครื่องดื่มจากตู้นี้ ไม่ใช่ว่าคุณจะหยอดหรียญแล้วได้เครื่องดื่มมาเลยนะ คุณจำเป็นจะต้องจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ซะก่อน จากนั้นคุณก็จะได้ตั๋วสำหรับเอามาหยอดใส่ตู้เครื่องดื่ม เมื่อหยอดตั๋วลงไปแล้ว เจ้าเครื่องนี้ก็จะปล่อยขวดโค้กออกมา 1 ขวด มองจากภายนอกแล้วอาจจะเหมือนขวดน้ำอัดลมธรรมดาๆ แต่เมื่อคุณเปิดฝาออกมา จิบเล็กน้อย แล้วปิดฝาใหม่ พลิกขึ้นลง แค่นั้นน้ำอัดลมข้างในก็จะค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งในทันที ตอนนี้เจ้าตู้หยอดเหรียญที่ว่านี้ยังมีให้เห็นแค่ในบางพื้นที่เท่านั้น ยังไม่มีแพลนจะขยับขยายออกไปยังเมืองใหญ่ๆ หรือในต่างประเทศนะ . แม้ว่าบางคนอาจจะมองว่าไปซื้อสเลอปี้ตามเซเว่นน่าจะง่ายกว่า แต่#เหมียวฟิ้นมองว่านี่แหละวิถีแบบชาวญี่ปุ่น ชอบอะไรที่มีขั้นมีตอน มันดูเจ๋งในแบบพวกเขาดีนะ ที่มา rocketnews24
-
ช่างภาพญี่ปุ่นพบสัตว์ประหลาด คล้ายสัตว์เลื้อยคลานมีขน หรือนี่จะเป็นงูสายพันธุ์ใหม่!?
กลายเป็นที่ฮือฮาในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของญี่ปุ่นในขณะนี้เลย สำหรับภาพของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่โผล่ออกมาจากพื้นทราย มีลักษณะเป็นเส้นยาวพร้อมกับขนปกคลุมไปทั่ว!? ภาพนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า @Hanamomoact เป็นช่างภาพชาวญี่ปุ่น ที่ตอนนี้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองอัล ไอน์ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาได้ถ่ายภาพของหางประหลาดในทะเลทราย เพื่อแกล้งให้คนหัวหมุนว่าสิ่งมีชีวิตนี้คืออะไรกันแน่ แต่ดูยังไงแล้วเจ้านี่ก็ไม่น่าจะใช่งูอย่างแน่นอน แต่มันคือสัตว์เลื้อยคลานแบบใหม่ที่มีขนปุกปุยเหรอ? เชื่อว่าทุกๆ คนคงจะรู้แล้วแหละว่ามันคืออะไร แต่เราอยากให้คุณลองไปดูภาพเคลื่อนไหวกันว่ามันคืออะไรกันแน่… @hanamomoact 新種の砂漠のヘビ。 pic.twitter.com/RqG6ehGRao — はなもも (@hanamomoact) 29 มิถุนายน 2559 แน่ล่ะ เบื้องหลังเจ้าสิ่งมีชีวิตคล้ายสัตว์เลื้อยคลานตัวนี้ แท้จริงแล้วมันคือแมวนั่นเอง!! ถือเป็นการลวงตาที่น่ารักซะเหลือเกิน อันที่จริงแล้ว ภาพแมวนอนในทะเลทรายแบบนี้ถือเป็นภาพธรรมดาๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปของช่างภาพรายนี้เลย เพราะเนื่องจากบ้านของเขาตั้งอยู่ในแทบทะเลทรายและมักจะมีแมวมาป้วนเปี้ยนแถวนั้น เขาก็เลยเกิดไอเดียฮาๆ ในการถ่ายภาพอย่างที่เห็นนี้แหละ . พวกแมวแถวนั้นชื่นชอบการอาบแดดมากๆ พวกมันมักจะออกมานอนบนทรายอุ่นๆ ทีนี้พ่อหนุ่มช่างภาพรายนี้ก็เลยเอาทรายมาโรยบนตัวมันแล้ววาดเป็นรูปเป็นร่างซะเลย . . . หากใครชอบผลงานภาพถ่ายฮาๆ แนวนี้ล่ะก็ ลองไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่ @hanamomoact นะ แลดูพี่แกจะมีหัวครีเอททางด้านนี้ล่ะ ที่มา rocketnews24
-
น่ารักง๊ะ!! พานักซูโม่ไปกระโดดร่ม พร้อมทำท่าร่ายรำกลางอากาศ ทั้งสวยทั้งเสียว
“นักซูโม่สามารถที่จะกระโดดร่มกลางอากาศแล้วแสดงท่าทางการปล้ำซูโม่ไปด้วยได้หรือไม่?” นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่ #เหมียวฟิ้นได้ชมโฆษณาเครื่องปริ้นภาพไร้สายตัวใหม่จาก Fujifilm ล่ะ เจ้าเครื่องปริ้นที่ว่านี้มีชื่อว่า Instax SHARE SP-2 แต่สิ่งที่ทำให้เจ้านี่น่าสนใจก็เพราะว่ามันสามารถปริ้นภาพจากสมาร์ทโฟนของคุณได้แบบทันทีแบบกล้องโพลารอยด์ หรือจะสั่งปริ้นภาพจาก Facebook และ Instagram เลยก็ย่อมได้ เนื่องในโอกาสที่พวกเขาเปิดตัวปริ้นเตอร์ใหม่ ทาง Fujifilm ก็เลยจ้างนักซูโม่มาทดลองใช้เจ้าเครื่องปริ้นที่ว่านี้ แต่จะถ่ายธรรมดาๆ ก็ไม่น่าสนใจ พวกเขาเลยให้นักซูโม่นั่งเครื่องบินขึ้นไปบนความสูง 4,000 เมตร แล้วกระโดดร่มลงมา แต่มีกติกาอยู่ว่า นักซูโม่จะต้องแสดงท่า “พิธีการก้าวขึ้นสู่สังเวียน” (คล้ายๆ กับพิธีไหว้ครูของมวยไทย) จากนั้นก็ให้เพื่อนของเขาถ่ายภาพในช็อตที่คิดว่าดีที่สุด เพื่อส่งข้อมูลลงมายังเครื่องปริ้นที่อยู่บนพื้นดินแล้วปริ้นภาพนั้นออกมา . แลดูถ่ายยากมาก . . หลังจากเสร็จพิธีการก้าวขึ้นสู่สังเวียนกลางอากาศแล้ว พวกเขาก็เลือกช็อตที่ดีที่สุดส่งไปยังเครื่อง Instax ข้างล่าง และภาพนี้แหละที่พวกเขาเลือกมา ว่าแล้วก็ไปชมพิธีก้าวขึ้นสู่สังเวียนแบบหวาดเสียวกันเลยจ้า อรู๋ววว ดูแล้วหวาดเสียวน่าดูเลยนะเนี๊ยะ ที่มา rocketnews24
-
นั่งดูวนไปค่ะ!! ญี่ปุ่นประดิษฐ์โรงงานคัดแยกลูกบอลจิ๋ว จาก “Lego” ชมกันตาแฉะเลย
ในช่วงวัยเด็ก เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนน่าจะซื้อของเล่นอย่าง Lego ให้ได้เล่นกันแน่ๆ (หรือถ้าใครไม่เคยเล่นก็น่าจะผ่านหูผ่านตามาบ้าง) เจ้าของเล่นชนิดนี้เป็นที่นิยมของเด็กๆ มากเพราะว่ามันเป็นตัวต่อที่สามารถจะต่อเป็นรูปอะไรก็ได้ตามจินตนาการ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กได้ดีทีเดียว เจ้าตัวต่อนี้ได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น จนถึงขั้นมีการจัดงาน Japan Brickfest 2016 ขึ้นที่เกาะโกเบ เมื่อวันที่ 4-5 มิถุนายนที่ผ่านมา ภายในงานมีการเวิร์คชอปสำหรับการต่อตัวต่อให้กับเด็กๆ มีการจัดแสดงผลงานตัวต่อที่ทำเป็นฉากหนังดังๆ สร้างเป็นเมืองขนาดเล็ก หรือแม้แต่เครื่องจักรขนาดย่อมๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน อย่างเช่นภาพด้านล่างนี้เป็นภาพของตัวต่อ Lego ที่สร้างขึ้นให้คล้ายกับฉาก House of Blue Leaves ในหนัง Kill Bill ภาคแรก เป็นไง เหมือนไหมล่ะ? . แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดภายในงานนี้เห็นจะหนีไม่พ้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Great Ball Contraption (GBC) หรือเครื่องคัดแยกลูกบอล (#เหมียวฟิ้นตั้งชื่อเอง) เจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้ถูกสร้างโดยปรมาจารย์ด้านการต่อ Lego ถึง 4 คน โดยผสมผสานตัวต่อในแบบต่างๆ ตั้งแต่เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมธรรมดา ไปจนถึงข้อต่อรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นแบบวงกลม แถมยังมีการเอาระบบไฮโดรลิคเข้ามาใช้ด้วย ทำให้ตัวต่อสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ…
-
ญี่ปุ่นเตือนปชช. ไม่ซื้อยาลดความอ้วนจากไทย เผยเสียชีวิตแล้ว 4 ราย ป่วยหนักอีกเพียบ
กลายเป็นข่าวดังที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับกรณีที่มีสาวๆ ชาวญี่ปุ่นสั่งซื้อยาลดความอ้วนจากไทยไปกิน แล้วปรากฏว่าตัวยาทำให้หญิงสาวเสียชีวิตจำนวน 4 ราย และอีกหลายๆ รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Hattori Fanta Tanako โดยเจ้าตัวเล่าว่าตอนนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในญี่ปุ่นได้นำตัวยาลดความอ้วนไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีตัวยาอยู่ 3 ชนิดที่เข้าข่ายเป็นยาอันตราย และมีตัวยาที่ไม่ทราบส่วนผสมที่แน่ชัดอีก 4 ตัว ซึ่งตัวยาทั้งหมดนี้ ถือเป็นชนิดของตัวยาที่ยังไม่ได้รับการยอมรับในญี่ปุ่น แถมยังมีผลด้านลบต่อร่างกายทั้งสิ้น รายงานระบุว่าผู้ที่กินยาลดความอ้วนเหล่านี้เข้าไปจะมีอาการมือสั่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ท้องเสีย สับสน มึนงง ตาพร่ามัว ความอยากอาหารลดลง ประจำเดือนมาไม่ปกติ บางคนมีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียนไม่หยุดจนอาจเสียชีวิตได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการกินยาตัวนี้เข้าไปจะส่งผลต่อการทำงานของระบบในร่างกายเช่นต่อมหมวกไตและฮอร์โมนต่างๆ ในระยะยาว สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับหญิงสาวชาวญี่ปุ่น โดยบอกว่าเธอนั้นกินยาเข้าไปแต่กลับมีอาการแย่ลงจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอต้องเข้าออกโรงพยาบาลนานเป็นปีเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งเธอกล่าวว่าเธอนั้นซื้อยามาจากตัวแทนจำหน่ายของโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพราะได้รับคำแนะนำจากเพื่อนชาวไทยคนหนึ่ง แม้ว่าทางรายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นจะพยายามติดต่อไปยังตัวแทนจำหน่ายยาในประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือสักเท่าไหร่ ทั้งนี้ทางรัฐบาลและวงการแพทย์ของญี่ปุ่นได้ออกมาเตือนประชาชนเกี่ยวกับการสั่งซื้อยาจากต่างประเทศมากิน เพราะเป็นยาที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนที่ถูกต้อง อาจเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจจากคุณ Narongratch Sappataweeboon ที่ได้อธิบายเกี่ยวกับตัวยาแคปซูลสีขาว น้ำเงินเพิ่มเติมว่า ตัวยานั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Reduce® หรือ Reductil®…
-
เติมเต็มข้าวของในกระเป๋าด้วย “กระเป๋าแฮมสเตอร์แก้มตุ่ย” ยิ่งใส่ของ เยอะยิ่งน่าร๊าก!!
เป็นที่รู้กันดีว่าเจ้าสัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างเจ้าหนูแฮมสเตอร์นั้น มีวิธีการกินที่แตกต่างจากสัตว์ทั่วๆ ไป เพราะเวลามันกินอะไรเข้าไปก็ตาม มันจะเอาไปยัดไว้ในกระพุ้งแก้มจนบวมตุ่ย เพื่อเก็บเอาไว้กินในมื้อต่อๆ ไป (ตะกละเหลือเกิน) . ด้วยไอเดียนั้นเองบริษัท YOU+MORE! ผู้ผลิตและออกแบบกระเป๋าในประเทศญี่ปุ่นจึงได้นำเอาไอเดียนี้มาทำเป็นกระเป๋าใส่ของลายแฮมสเตอร์ในชื่อคอลเลคชั่นว่า “กระเป๋าพ่อแม่ลูกแก้มตุ่ย” เพื่อให้คุณใส่ข้อของต่างๆ ลงไปในกระเป๋า ประหนึ่งเป็นเจ้าของหนูแฮมสเตอร์ยักษ์ผู้หิวโหยยังไงยังงั้นเลย . . . กระเป๋าเหล่านี้จะถูกวางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกอย่าง Felissimo มีให้เลือกซื้อด้วยกันหลากหลายลายและจะผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละเดือน มีตั้งแต่แฮมสเตอร์, กระรอก และชิพมังค์ หากใครสนใจอยากจะเป็นเจ้าของล่ะก็ สามารถกดเข้าไปดูได้ที่นี่เลยนะจ๊ะ แบบกระเป๋าใส่เศษเหรียญก็มีนะเออ เห็นแล้วมันน่ารักเหลือเกิน อยากจะใส่ของเข้าไปเยอะๆ ให้แก้มมันตุ่ยออกมาจริงๆ ที่มา rocketnews24
-
ภูมิใจนำเสนอ!! บ.ญี่ปุ่นวางขาย “กางเกงในที่ตากในฮาวาย 2 วัน” ช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและสบายสุดๆ
ทุกครั้งที่เราจะเลือกซื้อกางเกงในหรือชุดชั้นในสักชิ้น สิ่งที่คนส่วนใหญ่น่าจะคำนึงถึงก็คือความนุ่มสบายและราคาที่เหมาะสม แต่จะดีขึ้นไหมหากคุณรู้ว่าชุดชั้นในที่คุณซื้อมานั้น เคยผ่านการสัมผัสกับอากาศอันบริสุทธิ์ในฮาวายมาก่อน? เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่า บริษัท Seiren ผู้ผลิตชุดชั้นในจากประเทศญี่ปุ่นได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ Deoest เป็นกางเกงในชายขาสั้นสีน้ำเงิน ดูภายนอกอาจจะเป็นกางเกงธรรมดา แต่ความพิเศษของมันอยู่ที่กระบวนการซักก่อนที่จะมาถึงมือเรา เพราะหลังจากที่พวกเขาเย็บขึ้นรูปแล้วเรียบร้อย พวกเขาก็จะนำมันไปตากที่ประเทศฮาวายเป็นเวลา 2 วัน เพื่อให้ชุดชั้นในซึมซับอากาศสดชื่นที่สุดที่นั่น โดยหวังว่าอากาศสดชื่นเหล่านั้นจะช่วยให้ผู้สวมใส่รู้สึกสดชื่นแบบเดียวกัน ก่อนจะเก็บลงในแพคเกจที่เป็นขวดโหลแก้วป้องกันอากาศรั่วไหลอย่างดี วัสดุที่นำมาทำนั้นก็ประกอบไปด้วย ผ้าคอตตอน 95% พอลียูรีเทน 5% และจะวางขายในร้านค้าออนไลน์ของญี่ปุ่นเท่านั้น หนึ่งโหลจะบรรจุ 2 ชิ้น สนนราคาอยู่ที่ 6,580 เยน หรือประมาณ 2,230 บาท ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 ชุดเท่านั้นนะ ใครสนใจก็กดไปได้ที่นี่เลย . . . ลองชมคลิปโฆษณาของเขาได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ ไม่รู้ว่าพอสวมใส่จริงๆ แล้วจะสดชื่อหรือเปล่านะ…
-
ลองไหม!? ญี่ปุ่นเปิด ‘ร้านอาหารเปลือย’ แห่งแรก ใครอ้วน-อายุเกิน ก็เข้าไม่ได้นะ….
การที่เราจะตัดสินใจออกไปทานร้านอาหารนอกบ้านนั้นมีด้วยหันหลายปัจจัย เช่นการกินอาหารรสชาติใหม่ๆ อาหารที่เราอาจจะทำไม่เป็น หรือต้องการบรรยากาศใหม่ๆ ที่แตกต่างจากการทานอาหารอยู่กับบ้าน หากคุณเป็นคนประเภทหลังล่ะก็ คุณน่าจะชอบร้านอาหารแห่งนี้… เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมที่จะเปิดตัวร้านอาหารร้านใหม่ ที่ออกจะมีกฎระเบียบอยู่สักเล็กน้อยคือทุกคนจะต้องแก้ผ้าให้หมด และหากใครที่มีพุงหรือตุ้ยนุ้ยเกินไปจะถูกเชิญออกจากร้านทันที (บร๊ะ) ตามรายงานบอกว่าร้านนี้มีชื่อว่า The Amrita (ภาษาสันสกฤตแปลว่าอมตะ) เคยเปิดสาขามาแล้ว 2 แห่งนั่นก็คือที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่ออสเตรเลีย โดยพวกเขายังมีข้อจำกัดในเรื่องของอายุด้วย ว่าจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 60 ปี แต่ใช่ว่าทางร้านจะให้คุณโป๊เปลือยเสียทีเดียว เพราะหลังจากที่พวกเขาให้คุณถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว พวกเขาก็จะให้คุณสวมใส่ชุดชั้นในกระดาษที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ แถมยังตรวจสอบด้วยว่าคุณมีน้ำหนักที่เกินจากมาตรฐานส่วนสูงหรือเปล่า? หากน้ำเกินมาตรฐานไป 15 คุณก็จะไม่มีสิทธิ์เข้าไปนั่งในร้านแน่นอน ร้านอาหารคอนเซ็ปต์แปลกแห่งนี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ หากใครจะลองล่ะก็ ต้องจองโต๊ะผ่านทางหน้าเว็บไซต์และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น จะไม่มีการคืนเงินในทุกกรณี นอกจากนี้ยังมีกฎยิบๆ ย่อยๆ…
-
เผยการบ้านแสนประทับใจ จากครูญี่ปุ่นให้นักเรียน ‘กอดพ่อแม่ 1 นาที’ แล้วบรรยายความรู้สึก
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กๆ มาก เพราะในช่วงวัยนี้พวกเขาจะปลูกฝังความคิดให้กับเด็กๆ รู้จักการเคารพกฎระเบียบ การมีวินัย มีความรับผิดชอบ นอกเหนือจากความรู้ในเรื่องวิชาการต่างๆ อย่างเช่นเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Marie เธอมีลูกสาวที่ยังเรียนอยู่ในชั้นประถมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เธอบอกว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลูกสาวคนเล็กของเธอได้กลับมาจากโรงเรียนพร้อมกับการบ้านสุดแปลก ลูกสาวบอกกับแม่ว่าไม่มีการบ้านอะไรเลย แต่ได้รับคำแนะนำจากคุณครูมาอย่างหนึ่ง ที่บอกให้เธออธิบายการแสดงความรักผ่านการสัมผัสภายนอก ลูกสาวจึงกลับมาบ้านพร้อมกับกอดคุณแม่ฟอดใหญ่ประมาณ 1 นาที แล้วนำไปเขียนรายงานส่งคุณครู ทำเอาคุณแม่ถึงกับน้ำหูน้ำตาไหลเลยทีเดียว หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตในญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย หลายๆ คนแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างหลากหลาย เช่น “แม่ของฉันตายตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถม และแม้ว่าเราอยากจะกอดเธออีกสักกี่ครั้งเราก็ไม่มีโอกาสแล้ว ฉะนั้นพวกคุณต้องแน่ใจว่าพวกคุณได้กอดพวกเขามามากพอแล้วนะ” “ฉันรอให้ลูกกลับมาที่บ้านไม่ไหวแล้ว ฉันจะได้กอดลูกสักที” “ฉันคิดว่านี่คือการศึกษาที่พวกเราต้องการ” “ฉันเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลย เพราะฉันเสียแม่ไปตอนที่อยู่ป.6” . และนี่คือการสั่งการบ้านแบบสร้างสรรค์ของคุณครูในญี่ปุ่น ที่ไม่ได้เอาแต่ยัดเยียดหนังสือและการบ้านกองโตๆ ให้พวกเขาเพียงอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงความรักความอบอุ่นที่เด็กๆ จะได้รับจากพ่อแม่ของพวกเขาด้วย เยี่ยมไปเลย!! ที่มา rocketnews24
-
ชวนตะลุย Nara Dreamland สวนสนุกอันเคยสวยงาม แต่ถูกทิ้งร้างมากว่า 10 ปี!!!
“ผมไม่คิดว่านี่เป็นสิ่งผิดกฏหมาย ผมเคยได้ยินว่ามีสวนสนุกในประเทศญี่ปุ่นเมืองนาราได้รับการถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ไม่มีผู้คนหลงเหลืออยู่และไม่มีใครมาแตะต้องที่นี่มานานหลายปี” คือคำพูดของนักเดินทางที่จะมาเล่าเรื่องของสถานที่ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ เขาชื่อว่า Michael Turtle เขาได้ออกเดินทางจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ออกท่องเที่ยวและเขียนเรื่องราวต่างๆมากมาย และสถานที่ที่เขาจะมาเล่าในวันนี้คือสวนสนุก Dreamland นี่คือแผนที่ของสวนสนุกที่กล่าวไว้ ผมได้มาถึงที่สวนสนุกแห่งนี้ตอน 6 โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะอย่างมากเนื่องจากจะได้แสงที่สวยงามสำหรับการถ่ายภาพ ในแผนที่ออนไลน์นั้นไม่ได้แสดงให้เห็นลวดหนามตรงทางเข้า ผมพบว่าส่วนหนาวลวดนั้นมีสนิมมากเกินไป… ทำให้ยากที่จะเข้าไป แต่ก็ถือว่าโชคดีที่มีรูเล็กๆพอที่ผมจะลอดผ่านไปได้ และผมได้เข้ามาข้างในแล้ว หัวใจของผมมันเต้นเร็วกว่าปกติ มันเป็นที่ที่หนาวเย็นและเวลาหายใจนั้นเหมือนมีหมอกออกมาจากลม ผมเดินไปเงียบๆ กระทั่งโผล่มาตรงรถไฟเหาะตีลังกาขนาดใหญ่ และจากนั้นผมก็เริ่มถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ขึ้น Nara Dreamland ถูกสร้างขึ้นในปี 1961 เป็นแรงบันดาลใจที่ได้จาก Disneyland ใน แคลิฟอร์เนีย ซึ่งคุณจะเห็นภูเขา Matterhorn, ปราสาทเทพนิยาย รถไฟโมโนเรล และถนนสายหลัก ซึ่งสวนสวนสนุกแห่งนี้ถูกปิดไปเมื่อปี 2006 เนื่องจากมีผู้เข้ามาใช้บริการน้อย แต่แทนที่จะขายทิ้งไปมันกลับถูกปล่อยทิ้งไว้แบบรกร้าง ขนาดบูธขายตั๋วยังคงอยู่ติดกับทางเข้า รถม้า และพวกเครื่องเล่นต่างๆก็ยังอยู่ครบดี ซึ่งหากคุณมาเห็นละก็คงนึกว่าเมืองนี้ประชากรได้หลบหนีไปหมดเพราะหายนะนิวเคลียร์บางอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ผมได้ใช้ประมาณ 1…
-
คือล้ำอ่ะ!!! Toshiba ผลิตหุ่นยนต์สาว ‘ฝ่ายประชาสัมพันธ์’ พร้อมช่วยเหลือคุณ ไม่เหวี่ยงไม่วีน
เดี๋ยวนี้วงการหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องจริงจังที่สามารถนำออกมาให้บริการมนุษย์ได้มากกว่าแค่ให้เสิร์ฟอาหาร หรือเป็นหุ่นยนต์ในห้องทดลองแล้วนะ อย่างเช่นที่ห้างสรรพสินค้า Aqua City เกาะโอไดบะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้มีการนำเอาหุ่นยนต์สาวมาทำหน้าที่ตอบคำถามลูกค้า เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ภายในอาคารแล้ว!? หุ่นยนต์สาวที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้มีชื่อว่า Chihira Junco หากมองเผินๆ คุณอาจจะเห็นเป็นสุภาพสตรีท่านหนึ่ง สวมชุดเรียบร้อย และเป็นพนักงานที่พูดคุยกับคุณเป็นอย่างดี แต่หากมองใกล้ๆ คุณจะพบว่าเธอนั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตโดยบริษัท Toshiba Corporation ประเทศญี่ปุ่น ตามรายงานบอกว่า Junco นั้นเป็นชื่อที่ได้มาเพราะเธอถูกสร้างขึ้นในเดือนมิถุนายน (June) เธอถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายกับสาวอายุราวๆ 26 ปี มีความสูงอยู่ที่ 165 เซ็นติเมตร และพูดได้ 3 ภาษา คือญี่ปุ่น อังกฤษ และจีน ทาง Toshiba ได้เริ่มเปิดตัวเธอเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เธอสามารถแสดงออกทางสีหน้าได้หลายรูปแบบ สามารถเคลื่อนไหวมือได้อย่างอิสระ ทำให้ผู้คนสนใจและเข้ามาหยุดดูเธอทำหน้าที่อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีหน้าจอทัชสกรีนให้คุณสามารถสื่อสารปัญหาหรือตอบคำถามหรือภาษาที่ต้องการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ Junco…
-
น่ากิ๊นน่ากิน!! Sanrio ผลิตผลเมล่อนลาย “เฮลโหลคิตตี้” นำประมูลได้เงินเกือบล้าน!!
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา#เหมียวฟิ้นได้มีการรายงานเกี่ยวกับชาวสวนไทย ที่นำเอาเมล่อนมาแกะลวดลายจนกลายเป็นผลไม้ปีศาจโกมุโกมุจนโด่งดัง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชาวสวนไทยลูกละหลายร้อยทีเดียว ล่าสุดดูเหมือนว่าทางญี่ปุ่นเองก็เล็งเห็นช่องทางการสร้างรายได้แบบนี้เหมือนกัน เพราะเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัท Sanrio ได้ออกแบบลวดลายบนผลเมล่อน 2 ลูกให้เป็นตัวการ์ตูนคิตตี้อันโด่งดัง แล้วนำออกประมูลแบบลิมิเต็ด เมล่อนที่เห็นนี้มาจากเมืองฟุระโนะ จังหวัดฮอกไกโด จังหวัดที่เต็มไปด้วยภูเขาและสภาพอากาศสดชื่น เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ การประมูลที่ว่านี้จัดขึ้นที่เมืองฮอกไกโดเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีการเปิดประมูล ปรากฏว่ามีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลามทีเดียว โดยผู้ที่ชนะการประมูลครั้งนี้ ให้ราคาสูงสุดที 3 ล้านเยน หรือประมาณ 982,524 บาท!! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่ Sanrio ได้มีการนำเอาตัวละครเฮลโหลคิตตี้มาใส่ไว้ในผลไม้ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาก็เคยมีการปลูกเมล่อนและทำลวดลายเป็นคิตตี้มาแล้วในราคาลูกละประมาณ 100 บาท โดยจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์โดยไม่คิดค่าจัดส่ง แถมยังมีแพ็คเกจน่ารักๆ ใส่ไปให้ด้วยนะ . . รู้ทั้งรู้นะว่ามันเป็นแค่ลวดลายภายนอก แต่เห็นแล้วก็น่ากินอยู่ดี ที่มา rocketnews24
-
ชวนชมศิลปินสุดแปลก ชอบการ “มัดเชือกแบบวิตถาร” ตอนนี้โด่งดังมากในญี่ปุ่น
[คำเตือน บทความต่อไปนี้อาจไม่เหมาะจะเปิดอ่านขณะอยู่ในที่ทำงาน แม้คุณจะทำงานในโรงงานเชือกก็ตาม…] ทุกๆ คนมักจะมีสิ่งที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ แม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับคนอื่นก็ตาม บางคนอาจจะชื่นชอบการซื้อของเล่น บางคนอาจจะชอบกินอาหารแปลกๆ แต่กับสาวญี่ปุ่นรายนี้เธอชอบอะไรที่แปลกกว่านั้นเยอะ เพราะเธอชอบ “ถูกมัดด้วยเชือก” !? วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kinoko Hajime ศิลปินหนุ่มผู้มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เกี่ยวกับการเป็นศิลปินที่ถูกพันธนาการด้วยเชือก (มันก็คือการผูกเชือกแบบวิตถารที่หนุ่มๆ มักจะได้เห็นจากในหนัง AV นั่นแหละ) ก่อนหน้านี้นาย Hajime มีชื่อเสียงมากในการนำเอาการจัดดอกไม้มาผสมผสานกับการมัดเชือก แต่เขาก็เริ่มหันเหความสนใจมาที่การมัดเชือกแบบเต็มตัว ซึ่งดูๆ ไปแล้วมันก็มีความสวยงามและสุนทรียภาพแบบแปลกๆ อยู่นะ ที่ตอนนี้ภาพของเขากำลังถูกแชร์อยู่ในโลกออนไลน์ก็เพราะว่าเขาได้สร้างบัญชี IG @hajimekinoko ขึ้นมา และแชร์รูปเหล่านั้นให้กับแฟนๆ ที่ติดตามได้ดูกัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย . . . . . . แม้แต่คุณลุงโคบายาชิ เน็ตไอดอลของญี่ปุ่ที่ชื่นชอบการแต่งคอสเพลย์เป็นนักเรียนผู้โด่งดังยังเอากับเขาด้วยเลยนะเนี๊ยะ!? เอิ่ม ดูแล้วมันก็แปลกดีจริงๆ ล่ะนะ…
-
วินาทีคุณแม่รู้ว่า ลูกที่เพิ่งคลอดมี ‘หรรมส์’ และเป็นเด็กชาย ทั้งที่อัลตร้าซาวด์เป็นผู้หญิงมาตลอด
การจะมีลูกสักคนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ เพราะคุณต้องมีความพร้อมทั้งทางด้านการเงิน วัยวุฒิ คุณวุฒิและอีกหลายๆ อย่าง แต่จะเป็นอย่างไรล่ะ หากลูกที่เกิดมาดันเป็นคนละเพศกับที่คุณได้ทราบในตอนแรก? เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Huffingtonpost ได้เปิดเผยภาพและเรื่องราวน่ารักปนฮา ของคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า โคโตะ นากามูระ ที่กำลังเบ่งลูกน้อยในห้องผ่าตัด ซึ่งในตอนแรกเธอและสามีชาวออสเตรเลียได้รับแจ้งว่าลูกน้อยเป็นเพศหญิง เลยตั้งชื่อว่า ฮินาตะ แต่เรื่องราวทุกอย่างก็กลับตาลปัตร เพราะเมื่อลูกน้อยกลับไม่ใช่เพศหญิง แต่เขาดันมีอวัยวะเพศชายติดตัวออกมาด้วย!? ใช้แล้ว จากที่เคยคิดว่าจะได้ลูกสาวมาตลอด กลับเป็นลูกชายแทนทำเอาคุณแม่ถึงกับตื่นตะลึงสุดๆ เลยทีเดียว โชคดีที่ในวินาทีนั้นมีช่างภาพที่ชื่อว่านาย เจส แจ็คสัน อยู่ในห้องคลอดอยู่ด้วย ทำให้เราได้เห็นภาพวินาทีประหลาดใจนี้กัน นายเจสให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ภาพใบหน้าของคุณแม่สุดล้ำค่า ที่ได้รับทราบว่าเธอได้รับลูกชายแทนที่จะเป็นลูกสาว” ทางด้านคุณแม่โคโตะกล่าวว่า “ฉันนึกว่าทุกคนเล่นมุกตลกใส่ฉัน ฉันไม่รู้จะพูดว่าอะไรเลย และฉันแทบไม่อยากจะเชื่อจนกระทั่งได้เห็นอวัยวะเพศของเขา ฉันตกใจไปหลายวินาทีเลย แต่จากนั้นฉันก็ไม่สนแล้วว่าเขาจะเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง” . เป็นอะไรที่เซอร์ไพรซ์มากเลยนะเนี๊ยะ แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นชายหรือหญิง เราก็ยังรักเขาอยู่ดีล่ะนะ ที่มา huffingtonpost
-
เจอแล้ว!! เด็กญี่ปุ่นที่ถูกพ่อแม่ทิ้งไว้ในป่า เผยรอดมาได้เพราะเจอบ้านพักทหารและกินน้ำประทังชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา#เหมียวฟิ้นได้รายงานเกี่ยวกับเด็กชายชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ ยามาโตะ ทาโนกะ วัย 7 ขวบ เขาได้ถูกพ่อและแม่ทำโทษโดยการปล่อยให้เขาลงจากรถ ขณะที่ขับเข้าไปในป่า แต่เมื่อพ่อและแม่ขับรถย้อนกลับไปดูก็พบว่าลูกของพวกเขาหายตัวไปเสียแล้ว (อ่านข่าวได้ที่นี่) หลังจากที่ใช้เวลาตามหาเด็กชายอยู่นานถึง 6 วัน ล่าสุดสื่อท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นได้รายงานว่าเจอตัวเด็กชายแล้วเรียบร้อย โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 มิถุนายน ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Hattori Fanta Tanako ได้โพสต์ข้อความ เจอตัวเด็กแล้วเมื่อเวลาประมาณ 7.50 นาฬิกา ตามรายงานบอกว่าทหารได้พบตัวเด็กชายยามาโตะที่บ้านพักของค่ายทหาร ห่างจากจุดที่เด็กชายถูกทิ้งจากรถประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งบ้านหลังนี้จะเปิดใช้ก็ต่อเมื่อมีการฝึกซ้อมเท่านั้น เมื่อเข้าไปในบ้าน ทหารพบว่าเด็กชายนอนหลับอยู่กับพื้นโดยใช้พรมห่มร่างกายเอาไว้ เมื่อเห็นดังนั้นทหารจึงเข้าไปพูดคุยเพื่อยืนยันว่าใช่เด็กชายคนเดียวกับที่เคยหายตัวไป แถมยังใส่เสื้อผ้าตรงตามที่เคยได้รับรายงานมาด้วย จากการสอบถามพบว่าเด็กชายสามารถพูดคุยได้ปกติ เจ้าตัวบอกว่ากินน้ำประทังชีวิตมานานกว่า 6 วัน โดยที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย เด็กชายได้บอกกับทหารว่า “หิวข้าว” พวกเขาจึงเอาขนมปัง ข้าวปั้นและน้ำดื่มที่ติดตัวมาให้เด็กชายกิน และเรียกรถพยาบาลให้มารับไปเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด จากการสอบถามเด็กชายยามาโตะพยายามไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ด้านนักข่าวท้องถิ่นวิเคราะห์กันว่าร่างกายของเด็กนั้นมีความแข็งแรงกว่าผู้ใหญ่ หากไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย สามารถอยู่ได้นานแบบเหลือเชื่อทีเดียว …
-
พบกับผลงาน Self-Portraits ของคุณยาย ‘คิมิโกะ’ วัย 87 ปี ทั้งฮาทั้งน่ารักซะเหลือเกิน…!!
การจะเป็นช่างภาพนั้นไม่ได้จำกัดเพศ อายุ และวัยจริงๆ เราอาจเห็นช่างภาพมากมาย ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นถึงผู้ใหญ่ ซึ่งช่างภาพผู้หญิงนั้นอาจจะเห็นบ้างแต่ก็มีน้อยหน่อยที่จะเห็น แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีช่างภาพที่นอกจากจะเป็นผู้หญิงแล้วยังเป็นช่างภาพรุ่นเก๋าที่มีอายุถึง 87 ปี ซึ่งก็เกือบจะ 90 ละแหล่ะ แต่บอกเลยว่าฝีมือนั้นสมกับความเก๋าเลยนะ… เธอคนนี้ชื่อว่า Kimiko Nishimoto สาววัย 87 ปี ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปแนวชีวิต และรูปธรรมชาติ และเธอก็มีภาพชุดสุดฮาในการถ่ายตัวเอง ที่คุณแล้วจะต้องชื่นชอบ ความน่าสนใจคือเธอเริ่มเรียนรู้การใช้กล้องตอนอายุ 71 ปีและพัฒนาทักษะโดยการเรียนหลักสูตรดิจิตอลในการตัดต่อแก้ไขภาพอีกด้วย สิ่งที่ถนัดของเธอ คือการสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับคนที่ได้ชมภาพ… คนแก่ที่ไม่ยอมแก่แต่ตัว ความสร้างสรรค์ไม่แพ้วัยรุ่นกันเลย… . . บอกเลยว่าเก๋าจริงๆและต้องยอมรับในฝีมือและเทคนิคในการถ่ายภาพของเธอเลยล่ะ ช่างภาพคนอื่นๆเห็นแล้วคงอึ้งล่ะสิว่า วัยขนาดนี้ทำได้ไงนะ นอกจากภาพแนวฮาๆ แล้ว ผลงานแนวสวยๆ งามๆ ของเธอก็มีมาให้ได้ชมตลอดเช่นกันนะ และเพื่อนๆสามารถติดตามผลงานของเธอคนนี้ได้บล็อก kimikosan ได้เลย ฮร่าาาา ที่มา : booooooom
-
ได้เวลาเลือกทีม!! พาทัวร์ร้านราเมนในโตเกียว ที่มาพร้อมธีม Captain America ปะทะ Iron Man
หลังจากที่ภาพยนตร์ Captain America: Civil War เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปทั่วโลก ก็ก่อเกิดกระแสซุปเปอร์ฮีโร่ฟีเวอร์กันอย่างล้นหลาม ทำให้มีสินค้าและบริการต่างๆ ขนเอาตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่จาก Marvel มาขายกันเพียบ ล่าสุดมีร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้นำเอา Captain America และ Iron Man กลับมาปะทะกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นการโต้เถียงหรือดวลหมัดอะไรทั้งนั้น แต่พวกเขาจะมาในรูปแบบของราเมนและอาหารคาวหวานต่างๆ เพื่อประชันความอร่อยกันต่างหาก ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Ippudo เป็นร้านราเมนที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในร้านตกแต่งทุกอย่างให้ออกมาเป็น Marvel เริ่มตั้งแต่รูปปั้นหน้าร้าน ภาชนะที่ใส่อาหาร หรือแม้แต่ตัวอาหารเอง ก็ล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศของซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ฝาถ้วย มีสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของ Captain America และ Iron Man ข้างในมีไข่เป็นรูปตัว A และแผ่นชีสเล็กๆ รูปดาว และเนื่องจากในเรื่อง Ant-Man อยู่ทีมเดียวกับ Captain ทางร้านจึงมีการโรยพริกไทยลงไปเล็กน้อย เพื่อให้สื่อว่า มีซุปเปอร์ฮีโร่ตัวเล็กแอบแฝงอยู่ในถ้วยของคุณ (!?)…
-
พบกับ Ikuta Hana สาวที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘คนขับแท็กซี่’ ที่สวยสุดในประเทศญี่ปุ่น…!!
หลายคนหากพูดถึงคนขับแท็กซี่แล้วคงต้องนึกภาพเป็นคุณลุง หรือผู้ชายวัยกลางคนที่หน้าตาดูขรึมๆ หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคนซักหน่อยที่หน้าตานั้นไม่ได้สวยอะไรขนาดนั้น (ตั้งแต่นั่งมายังแทบไม่เจอคนขับผู้หญิงเลย ฮ่าๆ) แต่ในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ได้มีแท็กซี่สาวที่จัดว่าสวยที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเธอคนนี้จะเป็นคนขับแท็กซี่จริงๆ!! เธอคนนี้ชื่อว่า Ikuta Hana เกิดปี 1991 (อายุตอนนี้ก็ราวๆ 25 ปี) สูง 150 เซนติเมตร ซึ่งเธอได้รับความสนใจจากประเทศญี่ปุ่นและจีนเป็นอย่างมาก ณ ตอนนี้ ผ่านทางหนังสือพิมพ์หลายๆฉบับที่ยกย่องให้เธอเป็น “คนขับแท็กซี่ที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น” หลายคนอาจจะสงสัยว่า สวยแบบนี้ไม่ได้เป็นพริตตี้หรือนางแบบเหรอ จะบอกว่าตอนแรกน่ะเธอนั้นก็มีงานนางแบบอยู่แล้วแหละ แต่เพราะมันดูเป็นงานไม่ค่อยมั่นคงซักเท่าไหร่ เธอเลยมาขับแท็กซี่เป็นรายได้เสริมอีกทาง งานนี้คงไม่เหมือนบ้านเราที่ว่าใครจะมาขับก็ได้นะ เธอบอกว่าต้องผ่านการทดสอบจากหน่วยงานแท็กซี่ ซึ่งรับสมัครเพิ่มเพียงแค่ปีละ 2% เท่านั้น นี่คือตัวอย่างผลงานถ่ายแบบของเธอ ไหนลองมาดูเธอในชุดของ Taxi Driver กันมั้ง ถ้าประเทศไทยบ้านเรามีคนขับแท็กซี่สวยแบบนี้ #เหมียวฮานะ จะนั่งเหมาทั้งวันเลยล่ะขอบอก เสียเท่าไหร่ก็ยอมงานนี้ ฮร่าาาา ที่มา : vbnmagazine
-
ทำไปด๊ายยย!! รายการทีวีของจีนทำมาสคอตเลียนแบบหมีคุมะมงชื่อ “Lucky Bear” !?
เชื่อว่าตอนนี้ตัวมาสคอตหมีคุมะมงของญี่ปุ่นคงจะโด่งดังไปทั่วโลกแล้วเรียบร้อย เพราะด้วยความน่ารักบวกกับลีลาสุดกวนโอ๊ย ทำให้มันกลายเป็นที่รักของผู้คนไปทั่วโลก แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะมีคู่แข่ง…ที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าตอนนี้รายการทีวีรายการหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ Anhui television ในประเทศจีนได้มีการเปิดตัวมาสคอตของรายการที่ชื่อว่า Lucky Bear (หมีโชคดี) ที่ดูยังไงก็คือหมีคุมะมงชัดๆ เจ้า Lucky Bear ตัวนี้มีใบหน้า ดวงตา หู แก้มที่เหมือนกับคุมะมงจนเหมือนถ่ายเอกสารกันมาเลย ต่างกันก็ตรงที่สีดำเป็นน้ำตาลเข้มเท่านั้น หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ก็ทำให้ชาวเน็ตถึงกับเดือดดาล เพราะเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวจนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 49 ราย จากนั้นเจ้ามาสคอตหมีคุมะมงเองก็ขอหยุดการทำหน้าที่ไปสักระยะ แต่รายการทีวีของจีนกลับใช้โอกาสนี้ในการนำรูปลักษณ์ของคุมะมงไปใช้ในเวลาที่ไม่เหมาะสม ชาวเน็ตบางคนบอกว่า “หมีตัวจริงยังอยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติ ที่ผู้คนและบ้านช่องถูกทำลายโดยแผ่นดินไหว และคุณยังทำแบบนี้อีกเหรอ? ไร้ยางอายอะไรขนาดนี้” และ “เราจะให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นของเรารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด!!” และแน่นอนว่าภาพของเจ้าหมี Luky Bear ก็เริ่มถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์ จนตอนนี้หนังสือพิมพ์และรายการทีวีที่ญี่ปุ่นเริ่มรับรู้แล้วว่าหมีมาสคอตของพวกเขาถูกรายการทีวีก็อปปี้ไป จนมีชาวเน็ตคนหนึ่งตอบรับกับเรื่องอื้อฉาวนี้ว่า “คุณยังจะละเมิดลิขสิทธิ์แบบนี้อีกเหรอ? ศีลธรรมพวกคุณหายไปไหนหมด?” …
-
อร๊าย!! ญี่ปุ่นเปิดตัวขนมโดราเอมอนไว้กินกับน้ำชา หน้าตาน่ารักจนไม่อยากกินเลย
การดื่มชาของชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นมากกว่าการดื่มเครื่องดื่มนะ เพราะพวกเขาถือว่ามันเป็นสุนทรียะอย่างหนึ่ง ที่ต้องมีความละเมียดละไม ค่อยๆ ทำค่อยๆ ดื่ม และหากได้ขนมอร่อยๆ มากินคู่กับชาด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มสุนทรียะให้แก่ผู้ดื่มด้วย ล่าสุดบริษัท Bandai ผู้ผลิตของเล่น ฟิกเกอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับบริษัท Tabe Masu บริษัทผู้ผลิตขนมตัวการ์ตูนหน้าตาน่ารักๆ นำเอาตัวการ์ตูนโด่งดังที่เด็กๆ ทั่วโลกรู้จักกันดีอย่างโดราเอมอนมาทำเป็นขนมให้คุณสามารถซื้อไปกินคู่กับชาอร่อยๆ แล้ว เจ้าโดราเอมอนสีฟ้ามาในรูปแบบขนมไซส์พอดีคำ สอดไส้คัสตาร์ดและถั่วเขียว ทำหน้ายิ้มแป้นแล้น โดยที่ผู้ผลิตใส่ใจในรายละเอียดให้เหมือนกับในการ์ตูน ทั้งหน้าตาปลอกคอ หาง และกระเป๋าหน้าท้อง นอกจากนี้นยังมีโดราเอมอนสีแดง จากตัวการ์ตูนโดราเอมอนจิ๋ว ที่มักจะโผล่ออกมาช่วยเหลือโดราเอมอนตอนที่เกิดวิกฤติต่างๆ เจ้าตัวนี้จะสอดไส้นมและถั่วแดง ต่างจากตัวแรกนะ หากใครอยากจะเป็นเจ้าของ (หรือเอามากิน) ก็คงต้องไปตามหาซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่นกันล่ะ โดยเขาสนนราคาอยู่ที่ตัวละ 280 เยน หรือประมาณ 91 บาทนั่นเอง ใครมีเพื่อนเดินทางไปที่นั่นก็ฝากซื้อกันโลด น่ารักจนไม่กล้ากินเลย ที่มา rocketnews24
-
สักคู่ไหมล่ะ? ชม 12 แบรนด์รองเท้าดังในญี่ปุ่น พร้อมใจกันวางขาย “รองเท้านินจา”
เราคงเคยเห็นนินจาในภาพยนตร์หรือตามประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมาแล้วมากมาย พวกเขาเป็นนักรบที่ถูกฝึกฝนมาให้เคลื่อนไหวด้วยความว่องไวในเงามืด ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะต้องเงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการจะกระโดดไปมาตามหลังคาให้เกิดเสียงที่เบาที่สุดก็จำเป็นที่จะต้องใช้รองเท้าแบบพิเศษ ที่ทางญี่ปุ่นเรียกกันว่า jika-tabi รองเท้าที่ผ่าตรงกลางเพื่อแยกนิ้วโป้งออกมาจากนิ้วอื่นๆ ช่วยให้เกิดการยึดเกาะได้ดีกว่ารองเท้าทั่วๆ ไป ซึ่งตอนนี้แบรนด์รองเท้าดังๆ หลายเจ้าในญี่ปุ่นได้มีการผลิตรองเท้าในสไตล์นี้ออกมาให้ลูกค้าผู้อยากจะสัมผัสความเป็นนินจาได้หาซื้อมาใส่กันแล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีแบรนด์ไหนบ้างที่มีรองเท้าแบบนี้? ASSABOOTS S-Time 15 ราคา 5,090 บาท ASSABOOTS Black 15 VI ราคา 5,090 บาท KIDS Tabi ราคา 1,680 บาท tabi x tabi + Relax ราคา 2,700 บาท Choufu Jika Tabi ราคา 2,600 บาท Running Tabi Muteki Black ราคา 1,680 บาท…
-
มันจะเก่งเกินไปแล้ว!! ช่างฝีมือญี่ปุ่นเปลี่ยนหนังสือเก่าให้กลายเป็นหนังสือใหม่กริ๊บ
หนังสือเป็นสื่อสิ่งพิมพ์อันล้ำค่าที่มีวันเก่าและฉีกขาดได้ และเมื่อมันเสื่อมสภาพเราก็ไม่สามารถไปหาซื้อมาทดแทนได้ (หากมันตีพิมพ์มานานแล้ว) มันคงจะดีมากหากเราชุบชีวิตหนังสือเก่าๆ ให้กลายเป็นหนังสือใหม่ได้ ความคิดนั้นได้กลายเป็นจริงแล้วล่ะ เพราะที่ญี่ปุ่นมีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Nobuo Okano เปิดร้านซ่อมหนังสือ Okano ในกรุงโตเกียว เพื่อให้เหล่าคนรักหนังสือที่มีหนังสือเก่าๆ ที่ไม่อยากจะซื้อใหม่ หรือเป็นหนังสือพิเศษมากๆ ได้นำเอาหนังสือเก่าๆ เยินๆ มาซ่อมให้เหมือนใหม่อีกครั้ง นาย Nobuo ให้สัมภาษณ์กับรายการทีวีของญี่ปุ่นว่าเขาทำอาชีพนี้มานานกว่า 30 ปีแล้วไม่ว่าหนังสือคุณจะเก่าหรือฉีกขาดแค่ไหนเขาก็ซ่อมได้ (แต่คงไม่สามารถกู้คืนตัวอักษรที่ขาดหายไปได้) ในตอนที่รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นตามไปถ่ายรายการที่บ้านเขา นาย Nobuo ได้โชว์การซ่อมหนังสือพจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่น ที่ลูกค้าได้รับมันมาตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มเรียนม.ต้นจนจบการศึกษา หนังสือเล่มนี้มีสภาพเละเทะมาก ทั้งเป็นรอยพับย่นๆ ตรงมุมหนังสือ มีรอยแหว่งๆ ตามขอบ และตัวสันหนังสือเองก็แทบจะไม่เหลือกาวอยู่เลย แต่เขาอยากจะมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับลูกสาวเพื่อใช้มันต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขาเลยนำมันมาซ่อมที่ร้าน Okano เมื่อนาย Nobuo เห็น ก็เริ่มนำหนังสือมาคลี่ออก และค่อยๆ แกเอามุมหนังสือที่พับย่นออกมาทีละหน้าๆ จากนั้นก็ใช้ลมร้อนเป่าไปที่มุมหนังสือ เพื่อให้มุมหนังสือตึงและไม่กลับมาย่นอีก ต่อมาเขาก็เริ่มเฉือนขอบหนังสือออกทีละหน่อยๆ และดึงเอาหนังสือบางหน้าที่ขาดวิ่นเกินไปมาติดกาวเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะใช้เครื่องตัดกระดาษขนาดใหญ่ตัดให้ขอบหนังสือทั้งเล่มเท่ากันและติดหน้าปกเข้าไปใหม่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย …
-
พบกับ ‘Nishiyama Onsen Keiunkan’ โรงแรมเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,300 ปี และเปิดบริการถึงปัจจุบัน…!!
หากพูดถึงโรงแรมที่พักแล้ว หลายๆคนคงคิดว่าที่พักที่ดีต้องเป็นโรงแรมใหม่ๆทันสมัย ซึ่งไม่ค่อยมีใครอยากจะพักโรงแรมเก่าๆที่มีอายุมากๆหรอกจริงมั้ย? แต่หารู้ไม่ถึงจะเก่าแต่ก็ยังเก๋าสำหรับโรงแรมของที่แห่งนี้ที่มีชื่อว่า ‘Nishiyama Onsen Keiunkan’ ซึ่งที่นี่จัดว่าเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก!! เป็นโรงแรมที่มีอายุมากกว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่ในภูเขาใกล้เกียวโต เมืองฮายากาว่า จังหวัด ยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น มันเปิดให้บริการตั้งแต่ ค.ศ. 705 มาจนถึง ณ ตอนนี้ มีผู้สืบทอดกิจการนี้มาแล้วกว่า 52 รุ่น ซึ่งเยอะจริงๆ ผู้ก่อตั้งโรงแรมนี้คือ Fujiwara Mahito ลูกชายของ Fujiwara Kamatari ได้รับความช่วยเหลือจากจรรคพรรดิ Tenji ในศตวรรษที่ 17 และเปิดให้บริการมายาวนานมากอย่างที่บอก จนปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่… ที่นี่เป็นโรงแรมสไตล์ที่เรียกว่า ‘เรียวกัง’ มีจุดชมวิวที่สามารถมองลงไปในหุบเขาได้ และมีแม่น้ำมิโนบุ ไหลผ่านด้านหลังของโรงแรมอีกด้วย (เรียวกัง คือ โรงแรมขนาดเล็กในญี่ปุ่น ที่มีจุดเด่นคือ ห้องพักปูเสื่อ อ่างอาบน้ำรวม และบริเวณสาธารณะที่ผู้เข้าพักจะต้องใส่ชุดยูกาตะ) …
-
หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวผ่านมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หมู่บ้าน ‘Yufuin Floral’ กลับมาเปิดให้บริการแล้ว
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นที่ผ่านมาเมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง ทำให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่องต่างๆ พังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี ซึ่ง หมู่บ้านยูฟุอินฟลอร์รัล (Yufuin Floral Village) ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวหมู่บ้านสไตล์วินเทจทรงยุโรป ก็ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน แต่เมื่อวานที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. เพจอย่างเป็นทางการของ Yufuin Foral Village ได้ออกมาประกาศว่าได้เปิดให้บริการปกติแล้ว!? พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “ขอขอบคุณข้อความที่ส่งมาให้กำลังใจ จนทำให้เราสามาถเปิดให้บริการ ได้เร็วกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก เหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อตอนเช้าในวันที่ 16 ที่ผานมา ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งทางเดิน และร้านค้าต่างๆ อย่างไรก็ตามพวกเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อกลับมาเปิดบริการให้กับทุกคนให้เร็วที่สุด อย่างน้อยภายใน 4 วันหลังจากวันเกิดเหตุ เหตุการณ์ Aftershock ค่อยๆ ลดลงไป และตอนนี้ทางโรงเรียนใน Yufuin ก็กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว ขอขอบคุณสำหรับทุกแรงใจ ซึ่งมันมีความหมายสำหรับพวกเราเป็นอย่างมาก พวกเราจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อทำให้ทุกๆ คนมีความสุขขณะที่มาเยือนที่นี่ สุดท้ายนี้ อยากจะขอวอนให้ทุกๆ ท่านกลับมาเยี่ยมเยียนที่นี่อีกครั้งด้วย” …
-
แบบนี้ต้องลอง!! เว็บไซต์ญี่ปุ่นเผยสูตรหุงข้าวกับ “กาแฟ” รสชาติแปลกใหม่อร่อยแหวกแนว!?
กาแฟนอกจากจะเป็นเครื่องดื่มอร่อยๆ ที่ช่วยให้เราตื่นตัวแล้ว มันยังสามารถเป็นส่วนผสมในการหุงข้าวแทนน้ำเปล่าได้ด้วยนะเออ!? เมื่อวันที่ 18 เมษายน ทีมงานเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้ทำการทดลองนำเอากาแฟเย็นมาใช้หุงข้าวแทนน้ำเปล่า เพื่อดูว่ามันจะมีรสชาติออกมาเป็นยังไง? มันอาจจะออกมาเป็นรสชาติที่อร่อยแปลกใหม่หรือเลวร้ายจนกลืนไม่ลงเลยก็เป็นได้ หลังจากที่หุงเสร็จแล้วก็ได้เวลาเปิดหม้อหุงข้าวล่ะ เมื่อเปิดออกมาก็พบกับข้าวสวยสีน้ำตาลแปลกตา ส่งกลิ่นหอมแบบอโรม่าคล้ายกับขนมปังข้าวไรย์ จากนั้นเมื่อทีมงานลองชิมก็พบว่ารสชาติมันไม่ได้แย่อย่างที่คิด พวกเขาบอกว่ามันมีรสชาติขมหน่อยๆ (แต่ไม่ได้ขมจนกินไม่ได้นะ) และมีความคล้ายกับ Sekihan ข้าวเหนียวถั่วแดงโรยงาของญี่ปุ่นมาก จากนั้นทางทีมงานก็ลองโรยเกลือลงไปหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติ ปรากฏว่ามีรสชาติที่ดีขึ้นด้วย!! ทั้งนี้ใช่ว่ารสชาติของมันจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของทีมงานทั้งหมดนะ เพราะบางคนบอกว่ามันอร่อยดี บ้างก็บอกว่ามันรสชาติธรรมดาๆ บ้างก็บอกว่ามันมีความคล้าย Sekihan แต่ยิ่งเติมเกลือและน้ำมันงาลงไปก็ยิ่งทำให้มันมีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้น มีใครสนใจอยากเอาไปลองทำมั่งไหมเอ่ย? ที่มา rocketnews24
-
สุดยอด!! ถึงแม้จะลำบากจากการประสบเหตุแผ่นดินไหว แต่ผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่นก็ยังคงความเป็นระเบียบไว้
เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอกสำหรับแผ่นดินไหวหรือไม่ว่าจะภัยธรรมชาติใดใดก็ตาม แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วเราก็ไม่สามารถเลี่ยงมันได้จริงๆ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2016 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกาะคิวซูทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งมีความรุนแรงอย่างมาก และทำให้เกิดความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้ชาวบ้านหรือผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกนั้นต้องทำการอพยพออกไปอาศัยอยู่ที่อื่นชั่วคราว ซึ่งสร้างความลำบากให้แก่ประชาชนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไรที่น่าประทับใจคือผู้ที่อพบพเหล่านี้ยังมีความเป็นระบบระเบียบกันอย่างมาก บอกเลยเห็นแล้วต้องประทับใจ มีการแบ่งเป็นบล็อคๆ การจัดข้าวของก็ดูเป็นระเบียบจริงๆ เหมือนเป็นห้องเช่าเลยว่ามั้ย? เห็นอย่างงี้แล้วนับว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีเลยล่ะ ถึงเขาจะลำบากมากแค่ไหนแต่ก็ยังคงความเป็นระเบียบเอาไว้ ซึ่งดีมากจริงๆ และ #เหมียวฮานะ ขอเป็นกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยทั้งหลายด้วยน๊าาา… ที่มา : Hikachu V2
-
อนิเมชั่นโปรโมตเมือง Tsurugashima ของญี่ปุ่น เรื่องราวของสองชายหญิงอันซึ้งกินใจ!!
ประเทศญี่ปุ่นมีความคิดสร้างสรรค์ที่สูงมาก สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างอยู่หมัด ใครต่อใครที่ได้ไปเยือนต่างก็หลงใหลในเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น และที่ญี่ปุ่นเองก็ได้ทำการโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย แต่ในคราวนี้มาในรูปแบบของอนิเมชั่นสั้นไร้บทพูด เพื่อโปรโมตเมือง Tsurugashima ในจังหวัด Saitama เป็นเรื่องราวของเด็กชายและเด็กสาวที่เติบโตมาด้วยกัน หลังจากที่เด็กชายย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งฝ่ายผู้หญิงจำเป็นที่จะต้องย้ายออกไปแทน เริ่มจากเด็กชายไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่หลังจากที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมืองนี้ จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่เป็นใจ เขาวิ่งมาจนกระทั่งเจอกับตุ๊กตาที่ตกอยู่บนพื้น ที่แท้ก็เป็นของเด็กหญิงคนนี้นี่เอง จนกระทั้งฝ่ายเด็กหญิงก็เริ่มแนะนำว่าเมืองแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจมาก อย่างเช่นปลาคาร์ปในวันเด็ก ซากุระบานสะพรั่ง ขบวนพาเหรดแห่มังกร อ้าว!! ที่แท้ก็เป็นเพื่อนบ้าน อยู่ข้างๆ กันนี่เอง ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน จนกระทั่งตกหลุมรักกันในที่สุด และแล้ววันหนึ่ง เธอก็ได้รู้ความจริงว่าจะต้องย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่น เธอยังไม่พร้อมที่จะจากไปในตอนนี้ หัวใจยังไม่พร้อมที่จะจากลา แล้วจะต้องทำอย่างไรล่ะ? ตอนจบจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้เลย!! ที่มา : 鶴ヶ島市, rocketnews24
-
หนุ่มญี่ปุ่นแฉ!! เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิแอบขโมยเงินนทท. จนกลายเป็นข่าวดังในญี่ปุ่น
นี่ถือเป็นเรื่องที่ทำให้#เหมียวฟิ้นถึงกับหน้าชาเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หนุ่มญี่ปุ่นชื่อดังอย่างคุณ Akihiro Koki Tomikawa หรือที่บางคนเรียกว่าคุณโกกิ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก โดยบอกว่าตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังมีการรายงานข่าวถึงเจ้าหน้าที่สนามบินของไทยด้วย ซึ่งข่าวที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ข่าวด้านดีสักเท่าไหร่ เพราะเจ้าหน้าที่สนามบินรายนี้ดันไปขโมยเงินของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น แทนที่จะอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้พวกเขาซะอย่างงั้น!? ทั้งนี้คุณโกกิได้เล่าว่าเว็บไซต์ญี่ปุ่น 2channel ซึ่งโด่งดังพอๆ กับเว็บไซต์พันทิปบ้านเรา กำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย ในระหว่างตรวจกระเป๋าเจ้าหน้าที่รายหนึ่งบอกให้นักท่องเที่ยวนำกระเป๋าตังค์วางลงในเครื่องเอ็กซเรย์ หลังจากที่กระเป๋าผ่านการตรวจสอบแล้ว เขาก็พบว่าเงินในกระเป๋าของเขาหายไปถึง 20,000 เยน หรือเกือบๆ 6,500 บาท เมื่อนักท่องเที่ยวรายนี้แจ้งไปยังพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำหนิด้วยถ้อยคำหยาบคายและบอกว่าเงินน่าจะหายจากที่อื่น หลังจากที่ใช้เวลาโต้เถียงกันอยู่สักพัก นักท่องเที่ยวรายนี้ก็ได้ขอให้เจ้าหน้าที่สนามบินเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบภาพในระหว่างที่นำกระเป๋าตรวจด้วยเครื่องเอ็กส์เรย์ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับชะงักและคืนเงิน 20,000 เยน ให้กับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นทันที อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย 日本社会でスワンナブーム空港の話題がまたあがっている。 โซเชียลในญี่ปุ่นมีข่าวเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิอีกแล้วครับ 添付の記事以外にも、匿名掲示板2chで以下の報告がされている。 เร… โพสต์โดย Akihiro Koki Tomikawa บน 10 เมษายน 2016 ถึงกับหน้าชาเลยทีเดียว…
-
Nissan ออกโฆษณาใหม่ พร้อมเพลงที่สามารถกล่อมเด็กให้หลับได้ใน 1 นาที!?
นับเป็นเรื่องที่น่าหนักอกหนักใจจริงๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องพาลูกๆ ตัวน้อยเดินทางไปไหนมาไหนบนรถด้วย เพราะเนื่องจากพวกเขาอาจจะยังไม่ชินกับการเดินทางด้วยรถ ทำให้มีอาการร้องไห้งอแงบ้าง ซึ่งเสียงร้องไห้ของพวกเขาก็สามารถทำลายโสตประสาทและสมาธิในการขับรถของเราได้เลย ล่าสุดทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่นได้ปล่อยโฆษณาตัวเองออกมา โดยนำเอาเด็กเล็กและคุณแม่มาทดลองนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งในระหว่างนั้นเด็กๆ ก็จะร้องไห้งอแงตามประสา แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือเมื่อเหล่าคุณแม่เปิดเพลงๆ หนึ่งให้เด็กๆ ฟัง ปรากฏว่าพวกเขากลับเงียบสงบและหลับปุ๋ยภายในไม่ถึง 1 นาที!? เปิดเพลงที่ทาง Nissan นำมาเปิดให้เด็กๆ ฟังนั้น เป็นเพลงจากนักประพันธ์เพลงที่ชื่อ Osamu Suzuki เป็นเพลงที่ออกแบบมาให้เด็กๆ โดยเฉพาะ ตัวเพลงจะประกอบไปด้วยเสียงน่ารักๆ ที่ช่วยปลอบประโลมเด็กๆ ให้สงบสติอารมณ์ลง เพลงกล่อมเด็กที่ว่านี้มีด้วยกัน 2 เพลง เพลงแรกชื่อว่า “Isshoni iru yo” (อยู่ข้างๆ คุณ) และเพลง “Papipupepororin” ชมคลิปโฆษณาได้ที่ด้านล่างเลย หากใครสงสัยว่าเพลงนั้นคือเพลงอะไร ลองไปฟังได้ที่ด้านล่างเลยจ้า…
-
หนุ่มๆ ลุกเฮ!! ญี่ปุ่นผลิตเครื่องช่วยตัวเองแบบสมจริง ‘Full-body VR suit’
ปัจจุบันมีการพัฒนาทางเทคโนโลยีมากมายเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องของการกิน การเดินทาง งานบ้าน และสิ่งบันเทิงเริงใจต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองต่อความสุขและความสะดวกสบายของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality ที่จะทำให้เราได้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริง โดยสามารถเนรมิตเรื่องราวในจินตนการมาให้เราได้สัมผัสตรงหน้าแบบสมจริง!! และเจ้าเทคโนโลยี VR นี้ก็ได้ถูกนำมาใช้ในเรื่องของ ‘การช่วยตัวเอง’ ด้วย จะเป็นอย่างไรลองไปชมกัน… บริษัท Tenga (เป็นบริษัทผลิตของเซ็กส์ทอยชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น) ได้ทำการผลิตเซ็กส์ทอยแบบใหม่เรียกว่า Full-body VR suit ที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์เสียวแบบใหม่ได้สมจริงยิ่งขึ้น โดยเจ้าอุปกรณ์นี้จะมี 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือกล้อง VR ที่จะทำให้เราเห็นภาพ ที่ดูเสมือนจริง ส่วนที่สองถัดลงอมาก็คือเจ้าซิลิโคนนุ่มนิ่ม ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนจับหน้าอกจริงๆ ส่วนที่ 3 ลงมาล่างสุดก็จะขยับเขยื้อนให้เข้ากับ VR ที่รับชม (ส่วนที่ขยับนั้นก็คือ กระป๋องแห่งความสุข นั่นเอง) ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ กันได้เลย แหม่….งานนี้หนุ่มๆ ทั้งหลายนี่คงจะทำหน้าฟินกันถ้วนหน้าเลยทีเดียวเชียว โดยตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่นะจ๊ะ ส่วนจะออกมาวางขายเมื่อไหร่นั้นก็ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน แต่ที่แน่ๆ…
-
หนุ่มมะกันในญี่ปุ่นขอสมัครเข้าเป็น ‘นินจา’ แสดงโชว์ผาดโผน ใช้ดาวกระจาย และอีกสารพัด
หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เหมียวได้เคยรายงานไปว่าที่ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่ง ‘นินจา’ เพื่อให้มาแต่งตัวเป็นนินจา กระโดดไปมา และทำหน้าที่ช่วยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นด้วย ล่าสุด#เหมียวฟิ้นจะมาบอกว่าตอนนี้พวกเขาได้นินจาคนแรกแล้วนะ แถมไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่เป็นหนุ่มชาวอเมริกันตาน้ำข้าวด้วยล่ะเออ!! เมื่อวันที่ 4 เมษายน เว็บไซต์ rocketnews24 ได้รายงานว่าเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการการท่องเที่ยวในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศตามหาหนุ่มหน่วยก้านดี จำนวน 7 คน เพื่อมาทำหน้าที่เป็นนินจา โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติสามารถแสดงกายกรรมแบบนินจาได้ เช่นกระโดดไปมา กระโดดม้วนหน้าม้วนหลัง ใช้อาวุธดาวกระจายได้ และยืนให้เหล่านักท่องเที่ยวถ่ายภาพด้วย ทั้งนี้หลังจากที่มีการประกาศรับสมัครออกไป ก็ทำให้ผู้คนส่งเรซูเม่เข้ามาอย่างมากมาย โดยหนึ่งในนั้นที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่นส่งใบสมัครเข้ามาด้วย พ่อหนุ่มรายนี้มีชื่อว่านาย Chris O’Neill ชาวอเมริกันวัย 29 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองโตเกียว เขาทำงานเป็นนายแบบ และตัวประกอบในภาพยนตร์ต่างๆ ตอนนี้ทางทีมงานได้ตัดสินใจรับนาย Chris เข้ามาร่วมทีมนินจาแล้วเรียบร้อย โดยหน้าที่ของเขาก็คือ ต้องฝึกการวิ่งข้ามสิ่งกีดขวาง (Freerunning) ฝึกความแข็งแรงของร่างกาย และการแสดงแบบผาดโผน หลังจากนี้เขาจะต้องไปประจำการอยู่ที่แถวๆ ปราสาทนาโกย่า ในจังหวัดไอจิ ที่มีชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยว โดยเขาจะได้รับค่าเหนื่อยราวๆ 5…
-
เด็กสาวญี่ปุ่นหายตัวไปจากบ้านนาน 2 ปี พร้อมข้อความ “ไม่ต้องตามหา” ที่แท้โดนลักพาตัวไป
กลายเป็นเรื่องราวสุดแปลกอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับกรณีของเด็กสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ที่หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่เมื่อปี 2014 พร้อมกับทิ้งข้อความไว้ว่า “ไม่ต้องออกตามหา” เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่าเมื่อช่วงมีนาคมปี 2014 เจ้าหน้าที่ตำรวจในญี่ปุ่นไรรับแจ้งว่าเด็กหญิงนาคาโนะ วัย 13 ปี ได้หายออกไปจากบ้านอย่างปริศนา พร้อมกับกระดาษข้อความที่เขียนไว้ว่า “ไม่ต้องออกตามหา” แม้จะไม่มีเบาะแสหรือรายงานใดๆ ก็ตาม แต่ทางด้านพ่อแม่ของเธอก็ได้แจ้งความเอาไว้ แต่เวลาผ่านไปก็ไม่พบตัวเธอสักที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระบุให้เธอกลายเป็ยผู้สูญหาย หลังจากผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวไป 2 ปี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับสายจากนาคาโนะ เด็กสาวที่หายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบตามไปช่วยเหลือเธอและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นาคาโนะบอกว่าเธอถูกลักพาตัวไปโดยนายคาบู เทระอุชิ ซึ่งวันที่เกิดเหตุมีรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและพาเธอขึ้นรถไป จากนั้นก็พาเธอไปขังไว้ในอนาร์ทเม้นแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวเป็นเวลา 2 ปี แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็สบโอกาสในการหนีออกมาจากที่นั้น เพราะนายคาบูดันลืมล็อคห้องระหว่างออกไปซื้อของช่วงกลางคืนทำให้เธอสามารถหลบหนีออกมาได้สำเร็จ เธอให้การกับตำรวจในภายหลังว่า “ปกติแล้วประตูจะล็อคเอาไว้จากด้านนอก แต่วันนั้นไม่ได้ล็อคเอาไว้” จากนั้นเธอก็รีบพุ่งไปยังตู้โทรศัพท์เพื่อโทรหาพ่อของเธอและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ คืนต่อมา…
-
ชุดคอสเพลย์ยูนิฟอร์มนักเรียนที่ดูธรรมดาๆ แต่มันออกแบบมาสำหรับขาย ‘ผู้ชาย’
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า มีผู้ชายหลายๆ คนหันมาแต่งชุดคอสเพลย์เลียนแบบหญิงสาวเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ ทั้งนี้อาจจะเป็นรสนิยม ความชอบส่วนบุคคลอะไรก็ว่ากันไป จึงทำให้หนุ่มๆ ต้องไปหาซื้อเสื้อผ้าแบบหญิงสาวมาใส่ แต่เนื่องจากเสื้อผ้าของผู้หญิงมันถูกออกแบบมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ทำให้ผู้ชายที่มีโครงใหญ่ไม่สามารถใส่ได้ (หรือใส่ได้แต่คับเกินไป) เลยทำให้การแต่งตัวคอสเพลย์แบบ “สลับเพศ” เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่า บริษัท BIBI LAB ผู้ออกแบบเสื้อผ้าชั้นนำในญี่ปุ่นได้ออกแบบชุดกะลาสีของนักเรียนญี่ปุ่นแบบใหม่ที่ชื่อ “Boku Sera” ให้เหล่าผู้ชายที่ต้องการจะคอสเพลย์ (หรือะไรก็แล้วแต่) สามารถสวมใส่มันได้แบบสบายๆ นั่นเอง ในภาษาญี่ปุ่น Boku แปลว่า “ฉัน” ส่วน Sera แปลว่า “กะลาสี” เมื่อรวมกันแล้วจึงกลายเป็น “ฉันคือกะลาสี” นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่า ชุด Boku Sera นี้จะถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับอวัยวะทุกส่วนของเพศชาย แถมยังมีน้ำหนักเบาสบายระบายอากาศได้ดีอีกด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า ชุด Boku Sera…
-
ภาพวาดบอกเล่าชีวิตและความเป็นอยู่ในโตเกียว สวยสดงามวิจิตรตามสไตล์ญี่ปุ่น!!
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างออกไปจากประเทศอื่นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะในเรื่องของวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ แล้ว การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ก็เช่นเดียวกัน จึงทำให้หลายคนหลงใหลและอยากจะไปสัมผัสชีวิตในญี่ปุ่นด้วยตัวเองซักครั้ง ถึงแม้ว่าคุณจะเคยไปหรือไม่เคยไปเยี่ยมชมเมืองโตเกียว #เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าภาพวาดชุดนี้ก็สามารถกระตุ้นให้คุณอยากออกไปสำรวจเมืองโตเกียวแน่นอน เป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ความแตกต่างของตัวเมืองและชุมชนโดยรอบ ธรรรมชาติที่ยังคงความสวยงาม เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นศิลปินชาวญี่ปุ่น Shinji Tsuchimochi วัย 37 ปี ผู้จบการศึกษาจาก Tama Art University ได้ถ่ายทอดมุมมองชีวิตของเมืองโตเกียวผ่านซีรีส์ภาพวาด Tokyo 100 Views ตั้งแต่ช่วงเวลาเช้าจนถึงเวลาพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ดูมีชีวิตชีวาอย่างน่าอัศจรรย์ ผลงานของ Tsuchimochi ชุดนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Vincent van Gogh ผลงานภาพวาดยุคเอโดะ Hiroshige ศิลปินการ์ตูนฝรั่งเศส Moebius และผลงานของ Studio Ghibli ผสมผสานทั้งหมดด้วยการใช้ลายเส้นที่อ่อนโยนแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียด บวกกับจินตนาการเข้าไปอีก จึงกลายมาเป็นผลงานชั้นเยี่ยมชุดนี้ …
-
ชาวเน็ตเปรียบเทียบ ‘Wi-fi FREE’ ของประเทศไทย vs ประเทศญี่ปุ่น อะไรมันจะต่างขนาดน๊าน!!
สิ่งที่สำคัญในโลกปัจจุบันนั้นคงไม่พ้นไปจากพวก 3G, 4G และ WiFi ที่ใช้ในทั้งเรื่องการติดต่อต่อสื่อสาร เล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ หรือการส่งเอกสารสำคัญและงานต่างๆ จะสังเกตได้ว่าเดี๋ยวนี้บ้านเราจะไปไหนมาไหนก็ต้องมี Free Wifi ให้ได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเหล้าก็มี ซึ่งร้านค้าที่กล่าวมาแทบจะทุกร้านสมัยนี้มีหมด หลายคนคงคิดว่า ‘เดี๋ยวนี้ประเทศเรามีที่บริการ FreeWifi เยอะแล้วใช่มั้ย ?’ แต่หารู้ไม่ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นแตกต่างจากเรามากขนาดไหน!! ในทวิตเตอร์นั้นได้มีการแชร์ภาพ Free Wifi ตามจุดต่างๆในประเทศของประเทศไทยกับญี่ปุ่น WiFiฟรี ในญี่ปุ่นกับไทย #ร้องไห้หนักมาก pic.twitter.com/O70JLOoPNs — ☻ (@imqnana) May 2, 2015 แตกต่างกันจริงๆ ฮ่าๆ ชาวเน็ตบางท่านก็ได้มาคอมเม้น ซึ่งแต่ละท่านก็มีความคิดที่แตกต่างกันไป @imqnana @RTthaitrend wifi ฟรีๆ มีที่เมืองใหญ่ๆ แค่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต (บ้านผม) พัทยา ไป…
-
รปภ.สาวหน้าตาดีถูกหนุ่มๆ รุมถ่ายภาพกันยกใหญ่ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าแต่งชุดคอสเพลย์!?
กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ปนน่ารักไปเลย สำหรับเรื่องราวของรปภ.สาวรายหนึ่งในงานคอสเพลย์ ที่ดันหน้าตาดี ไปหน่อย ทำให้หนุ่มๆ เข้าใจผิดว่าเป็นคนแต่งชุดคอสเพลย์ เลยแห่ไปรุมถ่ายรูปกันใหญ่!? เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เว็บไซต์ C-lab.link ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา มีการจัดงานคอสเพลย์ Street Festa ที่บริเวณเมืองโอซากาทำให้เหล่านักคอสเพลย์มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง และเนื่องจากในงานนี้มีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมาก ทางผู้จัดงานจึงต้องจ้างรปภ.มาดูแลความปลอดภัยในงาน แต่กลับมีรปภ.สาวรายหนึ่ง ที่หน้าตาดีเกินหน้าเกินตาไปหน่อย ทำให้ตากล้องพากันไปถ่ายภาพเธอ จากคนสองคนค่อยๆ เพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ จนผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นต้องเข้าไปถามเธอแบบซีเรียสเลยว่า เธอใช่คนแต่งชุดคอสเพลย์หรือเปล่า? ซึ่งเธอก็พยายามปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่คนแต่งชุดคอสเพลย์ แต่เป็นรปภ.จริงๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเท่าไหร่ เพราะผู้คนพากันล้อมเข้ามาถ่ายภาพเธอกันแบบมืดฟ้ามัวดินมาก ตอนนี้ชาวเน็ตต่างพากันโพสต์รูปภาพของเธอกันอย่างมากมาย แถมยังกลายเป็นประเด็นร้อนในโลก Twitter ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ストフェスにてかわいい警備員さん撮って帰って、Twitter見たら凄いみんな撮ってたんやな朝はガラガラやったのに。#ストフェス pic.twitter.com/uYS2NSwgVA — わっくん_FTE…
-
บริษัททัวร์ออกโรงเตือนชาวไทย ไม่ควรลงไปถ่ายภาพบนรางรถไฟที่ญี่ปุ่น เพราะอาจถูกตำรวจจับได้
การจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไหนก็ตาม เรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การไปกินไปถ่ายรูปก็คือเรื่องของกฎเกณฑ์มารยาทนี่แหละนะ เพราะในแต่ละที่มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันไป หากเราอยากจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีก็ควรจะศึกษาเรื่องที่ “ควรทำ” และเรื่องที่ “ไม่ควรทำ” ก่อนจะเดินทางไปด้วยนะจ๊ะ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที 21 มีนาคม เฟซบุ๊กเพจ Black Hat ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของหญิงสาวรายหนึ่งที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองคาวางุชิโกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นภาพที่เจ้าตัวลงไปยืนถ่ายภาพบนรางรถไฟความเร็วสูง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความบรรยายว่า “เมืองคาวางุชิโกะเป็นเมืองที่อยู่เชิงเขาฟูจิ นั่งรถไฟจากโตเกียวมาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นี่เป็นจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยมาก มาพักค้างซักคืนเพื่อดื่มด่ำกับฟูจิซักครั้งกันครับ” ต่อมาเพจ I Love Japan Tours – ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ไพรเวท ทัวร์วีไอพี ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนชาวไทยว่าห้ามลงไปเดินเล่นที่รางรถไฟทุกกรณี เพราะการลงไปยืนอยู่บนรางรถไฟแบบนี้ถือเป็นข้อห้ามของประเทศญี่ปุ่น หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจถูกตำรวจสอบสวนได้เลยทีเดียว ช่วงนี้รู้สึกว่าคนไทยจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์คงจะมากที่สุดในรอบปีอย่างแน่นอน โอทารุจึงฝากมาเตื… โพสต์โดย I Love Japan Tours – ทัวร์ญี่ปุ่น ทัวร์ไพรเวท ทัวร์วีไอพี…
-
น่ากิน เอ้ย น่าใช้มาก!! ญี่ปุ่นผลิตผ้าขนหนูลาย “ข้าวห่อสาหร่าย” เหมือนจนอยากหยิบมาเคี้ยว
ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่เป็นเจ้าแห่งไอเดียในการประยุกต์สิ่งต่างๆ ให้ออกมาเป็นของใช้น่ารักๆ อยู่ตลอดเวลา อย่างเช่นล่าสุดมีข้าวห่อสาหร่ายลายผ้าขนหนู เอ้ย! ผ้าขนหนูลายข้าวห่อสาหร่ายออกมาวางขายด้วยนะ!? ผ้าขนหนูที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Norimaki Sushi Roll Towel หรือผ้าขนหนูโนริมากิน (ข้าวห่อสาหร่าย) นั่นเอง เจ้าผ้าขนหนูชนิดนี้เมื่อม้วนให้เป็นทรงกลม มันจะเหมือนกับข้าวห่อสาหร่ายจริงๆ เลย หากใครหิวจนหน้ามืดอาจเผลอหยิบเข้าปากก็เป็นได้ รายละเอียดสินค้า – กล่องหนึ่งมีผ้า 3 ผืน – ขนาดความกว้าง 250*250 มิลลิเมตร – มาพร้อมกล่องไม้ไผ่สไตล์ข้างกล่อง – ทำจากผ้าคอตตอน 100% ทั้งนี้ ผ้าขนหนูลายโนริมากิถูกทำออกมาด้วยกันถึง 3 แบบ ทั้งนัตโตะมากิ (ไส้ถั่วนัตโตะ), กัปปะมากิ (ไส้แตงกวา) และ เท็กกะมากิ (ไส้ทูน่า) สนนราคาอยู่ที่ 57 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,988 บาทล่ะ ดูซิแค่เติมไอเดียเล็กๆ…
-
เปิดมิติใหม่แห่งความเมาและความงาม ‘เบียร์คอลลาเจนไร้แอลฯ’ วางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นแล้ว
‘เบียร์’ คงเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของเพื่อนๆหลายคน เพราะมันทั้งหอม ซ่า และมีรสชาติที่อร่อย แต่กลับกันบางคนก็บอกว่าขม แล้วก็มีกลิ่นเหม็น (อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมแล้วล่ะเนอะ) บางคนก็อยากลิ้มลองรสชาติของเบียร์ แต่ไม่ชอบตรงที่ว่าเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดอาการมึนเมา แล้วจะเป็นอย่างไรถ้ามีเบียร์ที่มีแอลกอฮล์ 0% ขายล่ะ? คงจะเจ๋งไม่น้อยไปเลยใช่มั้ยล่าาา เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนในปีที่ผ่านมา บริษัท Suntory ได้ทำการผลิตเบียร์ไร้แอลกอฮล์ออกมา โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า All-Free Collagen เป็นเบียร์ที่ไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ แคลอรี่ และน้ำตาล แต่อุดมไปด้วยคอลลาเจน กว่า 2,000 มิลลิกรัม ต่อ 1 กระป๋อง นอกจากนี้ทาง Suntory ยังออกแบบกระป๋องที่ใช้บรรจุเจ้าเบียร์นี้ ให้ออกมาดูสดใสแถมยังน่ารักอีกด้วย โดยคอลลาเจนที่ในการผลิตนั้นเป็นเป็ปไทด์คอลลาเจน ที่ร่างกายของเราสามารถดูดซึมได้ไวกว่าคอลลาเจนปกติธรรมดาถึงประมาณ 6 เท่า Suntory ยังเปิดเผยถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต All-Free Collagen อีกด้วย ประกอบไปด้วย ข้าวบาร์เลย์ที่ใช้ในการหมักเบียร์จริงๆ กลิ่นหอมของเมล็ดฮอปที่ให้รสชาติขมนิดๆ และน้ำจากแหล่งน้ำบาดาลธรรมชาติ และหัวเชื้อที่ได้จากการหมักมอลต์ ทั้งหมดนี้รวมกันทำให้รสชาติออกมาคล้ายกับน้ำผลไม้ที่จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นนน …
-
จองตั๋วกันยัง!?? ‘อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย’ หนึ่งในอุโมงค์ดอกไม้ที่สวยสุดของโลก กำลังจะผลิบานแล้ว
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับฤดูหนาว และตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดอกไม้และพืชพรรณกำลังจะเบ่งบานออกดอกออกผลในไม่ช้านี้ เนื่องจากว่าฤดูหนาวของต่างประเทศนั้นส่วนมากมักจะมีหิมะตก จึงทำให้การเจริญเติบโตของเหล่าพืชพรรณนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก แตกต่างกับฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ผลินั่นเอง และที่แน่นอนเหล่าสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีให้เห็นปีละครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ก็จะกลับมาโชว์ความงดงามให้พวกเราได้เห็นเช่นกัน #เหมียวหง่าว มีข่าวดีมาฝากเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบความงดงามของธรรมชาติและดอกไม้ด้วยล่ะ!! ไปชมกันเลยยย นั่นก็คือ!! อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอุโมงค์ดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก กำลังจะเบ่งบานอีกครั้ง ในสวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น อยู่ที่เมืองเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีกำหนดการอยู่ที่ราวๆ ช่วงปลายเดือนเมษายน ยิงยาวไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าต้น วิสทีเรีย นี้ถูกปลูกให้เลื้อยขึ้นไปตามโครงเหล็กคล้ายอุโมค์ จึงทำให้ดอกของมันห้อยระย้าลงมาอย่างสวยงาม สิริรวมแล้วมีกว่า 150 ต้น และมีมากกว่า 20 สายพันธุ์ด้วยกัน นอกจากนี้ยังเปิดให้ชมต้นวิสทีเรียเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปีอีกด้วย บอกเลยว่าห้ามพลาดด!! เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ หากใครไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วง ปลายเมษายน – กลางพฤษภาคมก็อย่าลืมแวะไปด้วยล่ะ พร้อมกับถ่ายรูปมาอวด #เหมียวหง่าวกันด้วยนะ เพราะเก๊าไม่มีตังค์จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินนน T T (เพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารการเบ่งบานของเจ้าดอกวิสทีเรียได้…
-
เมื่อ ‘ซูชิ’ อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นถูกทำเป็นเบอร์ริโต้ ชาวนิวยอร์กแห่กินอย่างล้นหลาม!!
ว่ากันด้วยเรื่องของอาหารแล้ว ประเทศญี่ปุ่นเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารการกินเช่นกัน โดยเฉพาะอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างซูชิ ที่มีลักษณะเป็นข้าวปั้น และวางหน้าด้วยปลาดิบ กลับกันหากเป็นอาหารของทางแถบยุโรป ที่จะเป็นอาหารแนวแบบสะดวกในการรับประทานซะมากกว่า อย่างเช่นเบอร์ริโต้ของเม็กซิโก ที่นำแป้งมาห่อไส้วัตถุดิบไว้ข้างใน แล้วก็เคี้ยวกร้วมๆอย่างเดียวเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องมีการจัดใส่จานหรือภาชนะอะไรสักอย่าง และจะเป็นอย่างไรเมื่ออาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิถูกนำมาฟิวชั่นกับเบอร์ริโต้? #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆไปชมการผสมผสานของวัฒนธรรมอาหาร ที่บอกได้คำเดียวว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เลยล่ะ!! และนี่คือโฉมหน้าของ Sushi Burrito ซูชิเบอร์ริโต้ที่ว่า ผลงานความครีเอทนี้เป็นของร้าน Pokéworks ในนิวยอร์ค โดยเริ่มต้นด้วยการใส่ข้าวเข้าไปในเครื่อง แล้วมันก็ออกมาเป็นแผ่นอย่างสวยงาม จากนั้นก็เลือกหน้าได้เลย เอาผักอะไรบ้างจ๊ะ? แล้วก็มาถึงคิวปลาดิบเรามั่งล่ะ มีทั้งทูน่า แซลม่อน และปลาดิบอื่นๆอีกมากมาย จากนั้นก็ม้วนนน!!! ปริ๊งงงงงง ออกมาเป็นแบบนี้เลย!!! ผ่าครึ่งให้ดูซะหน่อย โอ๊ยยยน้ำยายไหยยยย กินโชว์ซักหน่อยยย อ้ามมมมมม ไปชมคลิปเพิ่มเติมกันได้ที่ข้างล่างนี้เลย… The ‘Sushi Burrito’ has hit NYC and it’s amazing. Posted by…
-
‘Phodographer’ โปรเจคสุดเจ๋ง เอาน้องหมามาถ่ายรูปเจ้าของตัวเอง งานนี้ต้องมีน้ำตาซึม!!
สำหรับเพื่อนๆที่เลี้ยงน้องหมานั้นมักจะมีนิสัยที่คล้ายกันหมดทุกคนคือ ชอบถ่ายรูปพวกมัน!! ซึ่งเราจะมีรูปพวกมันอยู่ในโทรศัพท์มือถือ หรือในการ์ดความจำกล้องเป็นสิบๆโหลเลยทีเดียวเชียว จะทำไงได้ก็มันทั้งน่ารัก น่าหยิก น่าหยอก จนเราต้องการที่จะเก็บภาพความทรงจำเหล่านั้นไว้นี่เนอะ และนอกจากนี้เราก็อยากจะแชร์ความน่ารักของมันไปให้คนอื่นๆได้เห็นบ้างเช่นกัน แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อเจ้าหมากลับมาถ่ายรูปคุณบ้างล่ะ? ‘PHODOGRAPHER’ เป็นโปรเจคโฆษณาของบริษัท Mars ที่ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุนัขชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำการเปลี่ยนบทบาทมาให้น้องมาเป็นฝ่ายกดชัตเตอร์แล้วให้เหล่าเจ้าของของมันเป็นคนที่อยู่ในเฟรมบ้าง เห็นครั้งแรกนี่ถึงกับเหวอเลยทีเดียว!! ซึ่งรูปที่จะได้ออกมานั้นจะเป็นรูปภาพที่สวยงามเกินคำบรรยาย เพราะความประทับใจจะถูกส่งออกมาทางสายตาและมองตรงมาที่กล้อง ที่ซึ่งน้องหมาของตนกำลังยืนกดชัตเตอร์อยู่ เอาล่ะไปชมโฆษณาเต็มๆกันได้เลยยย รับรองว่าเพื่อนๆจะต้องประทับใจฝุดๆ >< สายสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงเป็นอะไรที่สวยงามจริงๆ เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วเค้าก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเรานั่นแหละ ทั้งความรักความผูกพันธ์ที่มีให้กันมันมากเกินกว่าที่จะเป็นแค่ เจ้าของ กับ สัตว์เลี้ยง ฉะนั้นก็จงดูแลเหล่าเพื่อนๆตัวน้อยของเพื่อนๆให้ดีกันด้วยน๊าาา เพราะพวกเค้าไม่มีวันเลิกรักเพื่อนๆอย่างแน่น๊อนนนน 😀 ที่มา : rocketnews24
-
ครีเอทมาก!! ชาว Twitter ในญี่ปุ่นขอให้ช่วยกันวาดนิ้วมือแบบง่ายๆ แต่กลับถูกวาดและตัดต่อกันไปใหญ่โตทีเดียว
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ Toshihiro Anzai ที่เตรียมจะแต่งงานในเร็วๆ นี้ เขาเลยโพสต์ภาพวาดรูปมือ (ที่เว้นว่างไว้ตรงนี้วชี้) แล้วให้เพื่อนๆ ของเขาวาดเติมในส่วนของนิ้วชี้ลงไป มีให้เลือกสองทิศทางก็คือ “ไป” หรือ “ไม่ไป” แทนที่จะได้คำตอบธรรมดาๆ เพื่อนของนาย Anzai กลับเห็นว่ามือมันค่อนข้างจะเอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย พวกเขาก็เลยวาดให้ชี้ไปทางซ้าย ซึ่งก็คือการตกลงว่าจะไปงานนั่นแหละ แต่เนื่องจากมันเป็นภาพวาด ทำให้คนอื่นๆ เริ่มเห็นช่องทางในการครีเอท จึงเปลี่ยนมันให้กลายเป็น…ภาพฮาๆ… ตกลงพี่เลือกอันไหนอะ ยาวไป๊!! มีเลี้ยว… แหนะ มีเป่ายิงชุบ ไปแน่นอนนนน ซ๊วบ!! ออพติมัสก็มา สงสัยจะคิดหนักเลย สู้ๆ!! เลือกอันนี้นะ มือ “ปลา” ก็มี!? ขอคาราวะไอเดียแต่ละคนจริงๆ นี่ซิที่เขาเรียกว่าคิดนอกกรอบ ที่มา rocketnews24
-
5 ปีผ่านไปกับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องของโทโฮะกุ หลังประสบเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
ด้วยลักษณะภูมิประเทศของญี่ปุ่นที่เป็นเกาะ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิได้ เพราะในหนึ่งปีอาจจะต้องเจอมากกว่าหนึ่งครั้ง ทางการจึงต้องมีการเตรียมแผนรับมือเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และจะต้องทำการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ในช่วงเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 2011 โทโฮะกุหนึ่งในอนุภูมิภาคทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ได้ประสบกับภัยธรรมชาติร้ายแรงอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้ทั่วทั้งบริเวณได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ถึงแม้จะร้ายแรงแค่ไหน ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ทำการฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 มาจนถึง 2015 รวมแล้ว 5 ปีผ่านไป ตลอดทั้งอนุภูมิภาคค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพัง แต่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยเหมือนเดิมแล้ว โดยโปรเจคนี้ทำการเก็บภาพถ่ายตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดิน The Great East Japan Earthquake เป็นการเก็บภาพถ่ายผ่าน Google Street View ของญี่ปุ่น จากหลายๆ พื้นที่ในอนุภูมิภาคโทโฮะกุ เห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงมีร่องรอยของภัยพิบัติหลงเหลืออยู่เช่นกัน ที่มา : googlejapan, rocketnews24
-
โปรเจคภาพนอนหลับพักเอาแรงของบรรดาแท๊กซี่ในโตเกียว เพราะการพักงีบคือแหล่งพลังงานที่ดีที่สุด!!
หากใครที่เคยได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว ก็อาจจะคุ้นเคยกับสภาพของผู้คนที่หลับงีบอยู่บนระบบขนส่งสาธารณะเป็นอย่างดี แต่หากใครที่เคยไปเป็นครั้งแรกอาจจะรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าทำไมชาวญี่ปุ่นถึงหลับงีบแบบนี้เป็นจำนวนมาก!? นั่นก็เป็นเพราะว่าในระหว่างการเดินทาง เป็นช่วงเวลาที่มีเวลาว่างพอสำหรับการพักผ่อนเอาแรง ซึ่งหากเป็นช่วงเช้า ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นทั้งนักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยทำงาน จะต้องอาศัยระบบขนส่งมวลชนตั้งแต่เช้าตรู่ เนื่องจากมีระยะทางที่ไกลจากที่พัก และด้วยการตื่นเช้ามากๆ อาจจะยังทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่จึงจำเป็นที่จะต้องงีบหลับเพื่อชาร์จพลังส่วนที่เหลือให้เต็ม จะได้มีพอใช้ในระหว่างวัน ไม่น็อคกลางทาง อีกทั้งหากในระหว่างวันนั้นๆ พลังงานดันใกล้จะหมด เกิดอาการง่วงเฉียบพลัน ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไม่หันไปพึ่งเครื่องดื่มมีคาเฟอีน แต่จะเลือกใช้วิธีการงีบเช่นเดียวกัน เพราะว่าการนอนหลับพักสายงีบเพียงไม่กี่นาที จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นได้ดีที่สุด และทรงพลังที่สุด นอกจากจะมีผู้โดยสารที่หลับงีบบนระบบขนส่งสาธารณะแล้ว อีกหนึ่งกลุ่มบุคคลที่งีบบ่อยๆ ก็คือเหล่าพนักงานขับแท๊กซี่ในโตเกียว ซึ่งพวกเขาจะต้องเจอกับการจราจรที่หนาแหน่ตลอดทั้งวัน ขับรถนานๆ ก็เมื่อย ก็เลยจอดข้างทาง นอนงีบเพื่อชาร์จพลังซักหน่อย โดยผลงานเหล่านี้เป็นภาพถ่ายชุด Tokyo Taxi Drivers ผลงานของช่างภาพ William Green จากประเทศอังกฤษ เกิดจากความบังเอิญที่เขามาถ่ายทำโปรเจคถ่ายรูปอื่นๆ ในโตเกียว แต่ดันมาสะดุดตากับเหล่าบรรดาพนักงานขับแท๊กซี่ที่พากันงีบข้างทาง เผยให้เห็นช่วงจังหวะส่วนตัวของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี…
-
ภูมิใจเถิดชาวสยาม!! ไอศกรีม KitKat รสชาเขียว ที่ญี่ปุ่นไม่ทันวางขาย แต่คนไทยได้กินก่อนนะฮะ
หลายๆคนคงจะรู้จัก KitKat ในรูปของซองสีแดงกับแท่งสีน้ำตาลเข้มและมีรสชาติช็อคโกแล็ตที่หวานและหอมอร่อย แต่เพื่อนๆหลายคนคงทันเหตุการณ์ที่ KitKat ได้ทำรสชาติชาเขียวมัจฉะออกมา และมีวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวเท่านั้น !! วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องน่าแปลกมาเล่าให้เพื่อนๆฟังกัน เมื่อ KitKat เพิ่งผลิตไอศกรีมรสชาติชาเขียวออกมาใหม่ ซึ่งหลายๆคนอาจจะเข้าใจว่าเห้ย!! มันจะต้องมีขายแต่ที่ญี่ปุ่นอย่างเดียวแน่ๆเลย แต่กลับกลายเป็นว่าวางขายในประเทศไทยเป็นที่แรกเมื่อปีที่ผ่านมา Wihiii…barusan nemu Green Tea KitKat Ice Cream! Ada yg pernah coba? #ChiangMai pic.twitter.com/WKfFhKyatM — Adam & Susan (@PergiDulu) 11 พฤศจิกายน 2015 นอกจากนี้ก็ยังมีขายที่มาเลเซียอีกด้วย ถึงกับแจกฟรีกันเลยทีเดียว Free green tea kit kat ice cream here (@ Pavilion Kuala Lumpur – @pavilion_kl) https://t.co/JgDLED10uE…
-
เจ็บใจเหลือเกิน!! คู่รักชาวจีนจ้างช่างภาพพรีเวดดิ้งกว่า 6 หมื่น แต่รูปที่ได้กลับห่วยบรม!!
การจ้างช่างภาพสักคนมาถ่ายภาพวันสำคัญๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็นงานรับปริญญาหรืองานแต่งงาน หากผู้ว่าจ้างพอใจที่จะจ่ายเงินตามที่ตกลงกับช่างภาพ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยยังไงมันก็คือความสะดวกใจของทั้งสองฝ่ายล่ะนะ แต่งานต้องออกมาสมกับจำนวนเงินที่จ่ายไปด้วยนะ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ค่าจ้างมันดูไม่สมกับผลงานเอาซะเลย เหมือนอย่างกรณีที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของคู่รักชาวจีนคู่หนึ่ง ที่อยากจะมีภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสวยๆ เอาไว้ดูเป็นที่ระลึก จึงลงทุนจ้างช่างภาพในราคา 190,000 เยน หรือประมาณ 60,000 บาท ให้มาถ่ายภาพพวกเขา เมื่อตกลงกันเสร็จสรรพแล้ว ทั้งคู่และช่างภาพก็เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อถ่ายภาพกัน แต่เมื่อได้เห็นภาพถ่ายทั้งคู่ก็ถึงกับอึ้งกิมกี่เลยทีเดียว เพราะภาพที่เห็นนั้นมันช่างไม่สวยซะเหลือเกิน ดูไม่ออกเลยว่าที่นั่นคือญี่ปุ่น (เพราะเลือกถ่ายแต่อะไรไม่รู้) แถมสัดส่วนของภาพก็ยังดูแปลกๆ อีกด้วย หลังจากที่ภาพเซ็ทนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ของจีน ก็มีชาวเน็ตพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เช่น “มือถือของฉันยังถ่ายภาพได้ดีกว่านี้เลย แต่ปัญหาใหญ่น่าจะอยู่ที่ทั้งคู่มากกว่า” ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งความบอกว่า “พวกเขาอาจจะไม่ได้ดูสวยดูหล่อเท่าไหร่ แต่งานของช่างภาพคือทำยังไงให้พวกเขาออกมาดูดี และนี่เห็นได้ชัดเลยว่ามันเลวร้ายสุดๆ” . . แต่โชคยังดีที่ช่างภาพได้ตกลงกับคู่รักคู่นี้ว่าจะถ่ายซ่อมให้พวกเขาใหม่ เอาเป็นว่าขอให้ออกมาดูดีกว่าภาพเซ็ทนี้ก็แล้วกันนะ ที่มา shanghaiist
-
ชวนรำลึกความหลังไปกับ Leah Dizon ไอดอลสาวจากญี่ปุ่นที่เด็กรุ่นใหม่อาจไม่เคยรู้จัก
ต้องยอกเลยว่าเมื่อสมัยสัก 10 ปีที่ก่อน ก่อนที่กระแสเน็ตไอดอลจะเกิดขึ้นมา เธอคนนี้เคยเป็นไอดอลสาวญี่ปุ่นคนแรกๆ ที่#เหมียวฟิ้นรู้จักและหลงรักเลยทีเดียว ไอดอลสาวที่กำลังพุดถึงอยู่นี้เด็กรุ่นใหม่บางคนอาจจะไม่รู้จก เธอก็คือ Leah Dizon นั่นเองงงงง Leah Dizon ถือเป็นไอดอลสาว นางแบบ ดารา และนักร้องที่มีชื่อเสียงมาในช่วงหนึ่ง และด้วยความน่ารักแบบญี่ปุ่นผสมลูกครึ่ง ทำให้หนุ่มๆ ต่างพากันหลงไหลและหารูปของเธอมาเซฟเก็บไว้ในคอมมากมาย (บางคนยังมีรูปเธอเก็บไว้ในฮาร์ดดิสอยู่เลย ไม่เชื่อไปค้นดูซิ) ด้วยความคิดถึงความหลังเก่าๆ ที่มีต่อเธอ (แหม่) วันนี้เลยอยากจะพาเพื่อนๆ กลับไปลำลึกความหลังเกี่ยวกับเธอซะหน่อย ส่วนใครที่ไม่ทันได้รู้จักหรือไม่คุ้น ก็ลองมาทำความรู้จักกับเธอไปพร้อมๆ กันได้เลยนะ Leah Dizon มีชื่อเต็มๆ ว่า Leah Donna Dizon เกิดเมื่อปี 1986 ปัจจุบันอายุ 30 ปี เป็นลูกครึ่งมีเชื้อสายจีน ,ฟิลิปปินส์และฝรั่งเศส (อ้าวนึกว่าสาวญี่ปุ่นมาตลอดเลยนะเนี๊ยะ) เธอเกิดที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา มีพี่ชาย 2 คนพี่สาว 1 คนน้องชาย…
-
‘ตัดขนหมา’ ให้หน้าดูเหลี่ยม เทรนด์ใหม่ของคนรักสุนัขจากญี่ปุ่น ผลลัพธ์ที่ได้ก็ตามภาพเลยฮะ…
ณ จุดจุดนี้ เรียกได้ว่าเทรนด์การตัดขนหมาขนแมว นับวันจะยิ่งพัฒนาไปไกลมากจริงๆ บางทีก็ตัดออกมาได้แปลกหลุดโลก บางทีก็เล่นเอาซะรูปลักษณ์ของบรรดาสัตว์เลี้ยงไม่หลงเหลือความดูดีกันเลยทีเดียว และอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่า คนญี่ปุ่นมักจะทำอะไรตามเทรนด์อยู่แล้ว งานนี้เมื่อเทรนด์การตัดขนไปถึงน้องหมาที่การแสดงสุนัข พี่แกก็ไม่รอช้า รีบดัดแปลงจัดแต่งขนกันยกใหญ่ และผลที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร เชิญชม… เอิบ!! ตัดขนหมาให้เป็นสี่เหลี่ยม เอาจริงดิ… จะว่าน่ารักมันก็จริงอยู่ แต่ก็ดูแปลกพิกลยังไงไม่รู้ พวกมนุษย์นี่จริงๆ เลย จะทำอะไรหัดปรึกษากันหน่อยได้ไหม ถามพวกเราสักคำก็ยังดี ดูสิ…เล่นเอาซะตรูกลายเป็นตัวตลกไปเลย เฮ้อ…เพลีย แม้จะตัดออกมาในรูปแบบไหน แต่หมาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่น่ารัก ไม่ว่าจะตัดทรงไหนเอ็งก็ยังดูดี ไม่ต้องกังวลไปเมี๊ยวววว ที่มา : mtv
-
จะทนเมื่อยมืออีกทำไม!? บ.ญี่ปุ่นออกแบบตุ๊กตา “รองข้อมือ” ช่วยให้การทำงานของคุณสบายยิ่งกว่าเดิม
เรื่องล้ำๆ น่ารักๆ ต้องยอมพี่ญี่ปุ่นเขาเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือสิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ใหม่ๆ อะไรก็ตาม มักจะเกิดขึ้นที่นี่ที่แรกเสมอ อย่างล่าสุดมีบริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ผลิตตุ๊กตาสำหรับรองข้อมือ ช่วยให้การทำงานหน้าคอมนานๆ เป็นเรื่องที่สบ๊ายสบาย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเว็บไซต์ rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัทผลิตตุ๊กตาในญี่ปุ่น ได้นำเอาตัวละครจากวิดีโอเกมสุดน่ารักที่มีชื่อว่า Kapibara-san และ Komasan มาทำเป็นตุ๊กตาและหมอนรองข้อมือสำหรับการทำงาน เพื่อให้เหล่าพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งแช่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ได้รู้สึกผ่อนคลายและไม่ต้องทนกับอาการปวดข้อมมือมากนัก หลังจากที่ตุ๊กตาและหมอนรองข้อมือชุดแรกได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด พวกเขาก็เลยออกแบบตุ๊กตาชุดใหม่ที่มีลวดลายเป็นเจ้า Yokai Watch และเจ้าหมีซุปตาร์ Rilakkuma มาทำเป็นหมอนด้วยเช่นกัน งานนี้ใครมีเพื่อนๆ กำลังจะไปล่ะก็ ฝากหิ้วเลยจ้า หากใครอยากจะเป็นเจ้าของล่ะก็ เขาก็สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 47 ดอลลาร์หรือประมาณ 1,670 บาทนะจ๊ะ ที่มา boredpanda , rocketnews24
-
โรงเรียนประถมญี่ปุ่นกับคอนเซ็ป ‘ช่วงทานอาหารกลางวันก็คือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้’
ระบบการศึกษาที่ดี ย่อมหล่อหลอมให้เยาวชนเป็นอนาคตที่ดีของชาติได้ เพราะฉะนั้นการให้ความรู้และความถูกต้องกับเด็กๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ร่วมปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้ตั้งแต่ยังเล็กๆ ทั้งนี้หนึ่งในประเทศที่มีคุณภาพอย่างญี่ปุ่นนั้นจึงให้ความสำคัญทุกจุด ไม่เว้นแม้แต่เวลารับประทานอาหารกลางวันของนักเรียน โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนประถมขนาดเล็กในจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น การเตรียมอาหารกลางวันของโรงเรียน จะนำวัตถุดิบมาประกอบอาหารทั้งจากฟาร์มภายในของโรงเรียน และวัตถุดิบท้องถิ่นจากนอกโณงเรียน สำหรับฤดูกาลเพาะปลูกก็จะแตกต่างกันไป อย่างในตอนนี้ทำการปลูกมันฝรั่ง และมันฝรั่งเหล่านี้จะมาเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารกลางวันของเด็กๆ มีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนมาก สำหรับมันฝรั่งที่ปลูกไว้ นักเรียนจะเป็นผู้ที่เก็บมา และส่งให้กับโรงครัว ภายในโรงครัวเองก็จะมีพ่อครัวแม่ครัวรับช่วงต่อปรุงอาหาร ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 คนด้วยกัน เตรียมอาหารสำหรับนักเรียน 720 คน ภายในเวลา 3 ชั่วโมง เมื่อมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยก็จะนำมาวางเรียงไว้ แยกเป็นแต่ละชั้นปี แต่ละห้อง รอเวลาให้นักเรียนมารับไปรับประทาน สำหรับนักเรียนเองก็ต้องมีการเตรียมตัวก่อนที่จะไปรับอาหารกลางวัน โดยแต่ละคนจะมีผ้ารองโต๊ะ แก้วน้ำ ตะเกียบและแปรงฟันเป็นของตัวเอง อีกทั้งจะต้องสวมผ้าคลุมกันเปื้อนพร้อมกับหมวกเก็บผมให้เรียบร้อย และมีการตรวจเช็คสุขภาพก่อน มีใครป่วยบ้าง สวมใส่ชุดเรียบร้อยมั้ย ล้างมือหรือยัง เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เข้าแถวเรียงหนึ่งไปรับอาหารกลางวันจากโรงครัว ทุกครั้งที่เข้ามารับอาหารกลางวัน…
-
สุโก้ยเน๊!! เหมียวรวบรวม 14 ภาพความความแปลก+ครีเอท จากญี่ปุ่นมาให้ชมกัน
ญี่ปุ่น ประเทศแห่งเทคโนโลยี ความมีวินัย ความคิดสร้างสรรค์และอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มักจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ไปซะหมด และด้วยความคิดของพวกเขาเอง ก็ทำให้ชาวญี่ปุ่นเองสร้างสรรค์อะไรเจ๋งๆ มาให้ชาวโลกได้ชมกันตลอด และเมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเห็นเข้ากับอัลบั้มภาพจากเว็บไซต์ Ebaumsworld ที่ทำการรวบรวมเอาภาพกิจกรรมแปลกๆ สิ่งประดิษฐ์แปลกๆ ทั้ง 14 ภาพมาให้เราได้ชมกัน จะเป็นไงต้องไปดูด้วยตัวเองเลย… 1. ไม่ต้องพึ่งตักสาวๆ อีกต่อไป 2. นอนได้อย่างแนบเนียน (มือห้ามปล่อยเด็ดขาดนะ) 3. ก้นบ่ะล่ะหึ่ม!! 4. ระเบิดพลัง บรึ๊ม!! 5. ล็อกเกอร์จอมดูด 6. เอ่อ นี่มันรายการอะไรเนี๊ยะ!! 7. ถ่ายภาพแนวใหม่ มีใครอยากลองบ้างไหม? 8. ต่อสู้แบบพ่อมดแม่มด 9. ตู้มมมมมมมมมม!! 10. เดี๋ยวนะๆ นี่โฆษณาอะไรอะ!? 11.…
-
ฮาก๊ากไปกับ 22 ภาพเจ้าเหมียวในญี่ปุ่น ที่พยายามจะหาที่ซุกตัวลงนอนรับไออุ่น
อย่างที่รู้ๆ กันว่าในช่วงนี้นั้น ประเทศญี่ปุ่นอยู่ในช่วงฤดุหนาว ทำให้อากาศที่นั่นหนาวจัด แต่ถึงแม้อากาศจะหนาวยังไงมนุษย์อย่างเราๆ ก็สามารถเอาเครื่องนุ่งห่มมาปกปิดร่างกายเพื่อเพิ่มความอบอุ่นได้ แต่กับพวกสัตว์เลี้ยงอย่างแมวๆ ล่ะ มันจะทำยังไงให้ร่างกายอบอุ่น? วันนี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับอัลบั้มภาพชุดหนึ่งจากเว็บไซต์ Livedoor ในประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นการรวบรวมเอาภาพเจ้าเหมียวตามท้องถนนหรือในบ้าน ที่พยายามจะหาที่อบอุ่นให้กับตัวเอง ลองไปดูกันดีกว่าว่าในช่วงที่อากาศหนาวๆ แบบนี้ พวกมันชอบไปรวมตัวอยู่ที่ไหนบ้าง? รับรองยิ่งดูยิ่งฮา 1. ขอเข้าไปหน่อยน้าาา แหงะ… 2. ฉันจะนอนนี่แหละ นี่คือที่ของฉัน 3. อย่าได้ขยับเข้ามาเชียวนะเจ้าหมา 4. ตรงนี้อุ่นจางเยย 5. ข้างในดูท่าจะอุ่นเนาะ 6. ที่ต้องเป็นลมอุ่นแน่ๆ 7. ขอเข้าไปหน่อยจิ 8. โอ้โห เมนูใหม่ เป็นแมวทั้งตัวเลยเหรอ!! 9. ไม่อยากลุกไปไหนเลยยย 10. อย่าลุกไปไหนนะเจ้ามนุษย์ 11.…
-
ช่างภาพชาวญี่ปุ่นออกย่ำราตรีถ่ายภาพเมืองโตเกียว สวยอย่างกับหนังฟิล์มนัวร์!!
หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับภาพเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงตอนกลางวัน ที่จะมีหนังญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องไปถ่ายทำที่นั่น หรือแม้แต่หนังจากฝั่งฮอลลีวูดเองก็ยังชื่นชอบในความสวยงามและวัฒนธรรมในเมืองนี้เช่นกัน แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามหานครโตเกียวในช่วงกลางคืนเองก็สวยงามไม่แพ้กัน จนช่างภาพชาวญี่ปุ่นอย่างนาย Masashi Wakui ผู้เก่งกาจด้านการถ่ายภาพยามค่ำคืนและแสงไฟนีออน หลงไหลจนต้องออกไปเก็บภาพของเมืองนี้มาให้เราได้ชมกันเลย นาย Masashi ได้ออกเดินสำรวจเส้นทางและตรอกซอกซอยต่างๆ ในชิบูย่า, ชินจูกุ และเขตใกล้ๆ เขาใช้กล้องคอมแพ็คในการเก็บภาพต่างๆ มา จากนั้นก็ปรับสีเล็กน้อย จนเหมือนกับบรรยากาศในภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์เลย (ภาพยนตร์ที่ใช้โทนสีหม่นๆ มืดๆ และอาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชญากรรม) สวยงาม น่าหลงไหลจนเหมียวอยากจะแพ็คกระเป๋าเดินทางไปเดี๋ยวนี้เลย!! ที่มา boredpanda
-
ทำไมดูแล้วสยอง? บ.ผลิตตุ๊กตายางในญี่ปุ่นผลิตตุ๊กตายางเด็ก เพื่อลดปัญหาเด็กโดนข่มขืน!?
เรื่องของอุปกรณ์สำหรับให้หนุ่มๆ ได้ปลดปล่อย (18+) นี่ต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ เพราะเขามีการคิดค้นอุปกรณ์หรือของเล่นล้ำๆ ที่ช่วยให้คู่รักสามารถโจ๊ะพรึมๆ กันได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น ล่าสุดมีข่าวว่าพวกเขาได้ผลิตตุ๊กตายางเด็กออกมา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของหนุ่มๆ (บางคน) ด้วยนะ เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่า นาย Shin Takagi ผู้บริหารแห่งบริษัทผลิตตุ๊กตายาง Trottla ในประเทศญี่ปุ่นได้ผลิตตุ๊กตายางที่มีลักษณะคล้ายเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เพื่อช่วยให้หนุ่มๆ ได้สามารถปลดปล่อยกับตุ๊กตา และช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับเด็กหญิงถูกข่มขืน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ภาพของตุ๊กตาเด็กตัวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง โดยมีบางความเห็นบอกว่า “แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรสำหรับพวกคนโรคจิต เพราะพวกเขาจะฝึกการทำอย่างว่ากับตุ๊กตา แล้วค่อยไปทำกับเด็กๆ มากขึ้นไปอีก” อีกทั้งยังมีนักจิตวิทยาจากคลีนิคบางแห่งให้ความรู้ว่าตุ๊กตาแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนรสนิยมและพฤติกรรมของพวกที่มีปัญหาทางจิตได้ เพราะคนกลุ่มนี้จะต้องได้รับการรักษาหลายอย่างทั้งการบำบัดทางจิต ทางประสาท หรือแม้แต่การกินยาที่ช่วยลดความรู้สึกทางเพศด้วย หนุ่มๆ คิดว่าการสร้างตุ๊กตาแบบนี้จะช่วยลดปัญหาเด็กถูกข่มขืนได้จริงไหม ลองแชร์ความเห็นกันมาได้นะ ที่มา mirror
-
ตำรวจญี่ปุ่นรวบหนุ่มสุดหื่น ขโมยชุดชั้นในสาวๆ กว่า 600 ชิ้นมาสะสมไว้ที่บ้าน!?
ถือเป็นภาพชวนให้เพลียจิตเลยทีเดียว เพราะนี่คือชุดชั้นในกว่า 600 ชิ้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นสามารถยึดมาได้จากหนุ่มโรคจิตรายหนึ่ง ที่ชื่นชอบการโขมยชุดชั้นในสาวๆ เป็นว่าเล่นนั่นเอง เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นได้เข้าจับกุมนาย Shoya Imada วัย 25 ปี ที่แอบเข้าไปขโมยชั้นในบนแฟลตของหญิงสาวรายหนึ่ง ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่พบว่านาย Imada เป็นผู้ว่างงาน ได้ออกทำร้ายร่างกายหญิงสาวและยังบังคับให้พวกเธอถอดชั้นในออกมาในระหว่างที่พวกเธอเดินอยู่บนถนนในเมือง Nankoku ด้วย สุดท้ายนาย Imada ยังถูกกล่าวหาว่าบีบคอหญิงสาววัย 20 ปี จนหายใจไม่ออก ก่อนจะหนีจากที่เกิดเหตุไป ใครรู้เห็นหรือถูกคนโรคจิตแบบนี้คุกคามอยู่ล่ะก็ อย่าปล่อยให้ลอยนวลเด็ดขาดนะ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจัดการทันที ที่มา metro
-
โฆษณากระแทกจิตของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น บอกเล่าความจริงว่าชีวิตนักศึกษามันไม่ง่ายเลย!!
เป็นที่ทราบกันมาบ้างแล้วว่าวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ชิว สโลว์ไลฟ์เหมือนคนไทย ตั้งแต่ชีวิตวัยเรียนยันวัยทำงาน ต่างก็มีความกดดันที่สูงมาก ไม่ว่าจะทั้งเรื่องของครอบครัว การเรียน และการทำงาน จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเครียด อย่างเช่นในระบบการศึกษาของญี่ปุ่น ความเข้มข้นของการเรียนในระดับอุดมศึกษานั้นไม่ได้สวยหรูเลย กว่าจะฝ่าฟันการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจากคู่แข่งนับร้อยพันคนมาได้ ได้เข้าเรียนตามสถาบันที่ฝันแล้วก็ใช่ว่าจะจบออกไปภายในสี่ปี เพราะจะต้องเจอกับการเรียนที่หนักกว่าระดับมัธยม ไหนจะมีกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการเล่นกีฬาอีก ทั้งนี้มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็มักจะนำเสนอโฆษณารับนักศึกษาเข้าเรียนในด้านบวกเป็นส่วนใหญ่ ใช่แล้วล่ะ การโฆษณาใครๆ ก็ต้องเผยให้เห็นด้านที่ดีกันทั้งนั้น แต่ทว่ามหาวิทยาลัย Komazawa กลับเลือกที่จะบอกความจริงให้นักศึกษาหน้าใหม่ได้รับทราบว่าชีวิตมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด โดยการบอกผ่านข้อความดังต่อไปนี้ ‘อาจารย์บอกว่าให้กลับไปเขียนรายงานใหม่ ทั้งๆ ที่ตั้งใจทำทั้งคืน ฉันถูกไล่ออกจากทีมกีฬาที่เคยร่วมซ้อมด้วย ส่วนแฟนของฉันก็บอกว่าเริ่มที่จะมองหาคนใหม่มาแทนแล้ว แต่วันนี้ก็เป็นวันที่ดี มันเป็นโอกาสที่จะได้รับมือกับความท้าทายเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง สี่ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเลยแต่ได้โตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิ’ ถือว่าเป็นข้อความที่ทำให้ได้แง่คิดอีกด้าน กับการเข้ามาร่ำเรียนหาความรู้ในระดับมหาวิทยาลัย ที่ไม่ใช่การมองที่ใบปริญญา แต่เป็นการได้เรียนรู้ชีวิตเพื่อให้พร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ที่มา : rocketnews24
-
โฆษณารณรงค์ไม่เล่นมือถือในสถานีรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่น ‘ใครเผลอเล่นเรียกให้รู้ตัวทันที’
ในยุคที่ใครๆ ต่างก็สนใจแต่สิ่งที่อยู่ในหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ของตน โดยที่ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างเลยนั้นก่อให้เกิดอันตรายมานักต่อนักแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ก็ยังประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอยู่บ่อยๆ อันเกิดมาจากการเล่นสมาร์ทโฟน อย่างเช่นในกรณีการใช้บริการรถสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเช่น รถไฟและรถไฟใต้ดินนี้ เมื่อเดินทางมาถึงสถานี เข้าสู่ชานชาลาเพื่อรอขบวนต่อไป มักจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเล่นในระหว่างที่กำลังเดินไปด้วย โดยไม่สนใจอะไรเลย มีสมาธิจดจ่ออยู่แค่หน้าจอ ลักษณะเดินก็เหมือนหุ่นยนต์ อาจจะเดินชนคนข้างหน้าหรือไม่ก็เดินตกลงไปในชานชาลาก็เป็นได้ ในการนี้ทางบริษัทรถไฟใต้ดิน Hanshin Electric Railways ก็ได้ทำการจัดทำโฆษณารณรงค์ชุดนี้ขึ้นมา โดยที่ทำการติดตั้งกล้องและไมโครโฟนเอาไว้ในบริเวณชานชาลา เพื่อทำการเตือนสติให้กับผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการแบบไม่ระวังตัวมัวแต่เล่นสมาร์ทโฟน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่ามีผู้โดยสารกระทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายปุ๊บ ก็จะประกาศเตือนให้รู้ตัวทันทีเลย อย่างเช่น ‘คุณที่ใส่เสื้อสีชมพู การเดินแล้วพิมพ์ข้อความไปด้วยมันอันตรายนะ!’ และ ‘ในขณะนี้มีคุณแม่กำลังเข็นรถเข็นเด็กแล้วก็เล่นสมาร์ทโฟนไปด้วยในบริเวณชานชาลา’ เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตือนสติให้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายให้เลิกทำซะ อาจจะเป็นการเตือนที่รุนแรงทำให้ขายหน้า แต่ก็ได้ผลดี ทำให้รู้สึกละอายใจและไม่ทำแบบนี้อีก ที่มา : rocketnews24
-
ชมผลงานศิลปะสุดเกรียนของเหล่านักเรียนญี่ปุ่น ปลดปล่อยจินตนาการใส่ ‘หนังสือเรียน’ !!
เชื่อว่าหลายๆ คนคงผ่านประสบการณ์มือบอนลงหนังสือแบบเรียนมาไม่มากไม่น้อย อย่างเวลามีรูปภาพประกอบกับเนื้อหาในบทเรียน ก็มักจะลงไม้ลงมือแต่งภาพ เสริมจินตนาการเข้าไปตามใจฉัน ฮ่าฮ่า!! ก็คงจะเป็นเหมือนกันทั่วโลกแหละ เพราะเวลาเรียนมันน่าเบื่อเหลือเกิน ฉะนั้นก็หาอะไรสนุกๆ ทำซักหน่อย นักเรียนญี่ปุ่นนึกสนุกเอาปากกาน้ำยาลบคำผิดมาลบในส่วนที่ไม่ต้องการออกไปในแบบเรียน แล้วก็วาดส่วนใหม่เข้าไปแทน ผลก็เลยออกมาเป็นภาพคนละความหมายเลย ลองกินสิ ลองเลย โบ้มมมมมม!! มัวแต่ลีลาชื่นชมอยู่นั่นแหละ ไม่กินซักที พลังตบเหลือล้น ทักทายกันซักหน่อย จากท่าออกกำลังกาย กลายเป็นโดนชกทะลุท้อง ท่าจูงหมาเท่มาก!! นี่กะจะมาตีกันใช่มั้ย กลายเป็นเกมโปเกม่อนไปซะแล้ว ใช้เครื่องดูดฝุ่นยังไงให้ถูกวิธี เค้าให้ใช้สี ไม่ได้ให้มาใช้ตีกันนะแกร๊!! อิ่มจนเลือดออกปาก เดี๋ยวๆๆ มาได้ไง อุ้ย ปืนลั่น เฮ้ เธอเป็นยังไงบ้าง ป๊าบบบบ!! นี่เล่นสกีลีลากันใช่มั้ย …
-
‘พี่หมีดำหน้าบาก’ มาสคอตหมีจากญี่ปุ่น ทั้งหล่อ ทั้งคูล จนสาวๆ พร้อมยอมเป็นเหยื่อ
ในตอนนี้หลายๆ คนต่างก็รู้สึกชอบในความน่ารักและความเกรียนของเจ้าหมีดำเพศผู้คุมะมง มาสคอตที่สร้างโดยรัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดคุมะโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงไปไกลทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยอีกด้วย แต่ว่าตอนนี้ได้มีหมีดำตัวใหม่ออกมาประกาศชิงพื้นที่จากคุมะมง โดยเจ้าหมีตัวนี้มาจากการประกวดมาสคอตในจังหวัดคะโงะชิมะ แต่งตัวในสไตล์ชายชุดดำมาดเข้ม เป็นหมีดำหน้าบาก สไตล์พี่แกขอบอกเลยว่าทั้งหล่อ ทั้งคูลสุดๆ เปิดตัวมาสคอตที่ร้อนแรงที่สุดจากการประกวดในจังหวัดคะโงะชิมะ ท่ามกลางงานประกวดมาสคอตที่ว่านี้ มีตัวละครเข้าร่วมมากมายแต่ส่วนใหญ่จะออกมาในแนวน่ารักคาวาอี้ แต่พี่หมีดำของเรามาแหวกกว่าใคร หล่อกินขาดบาดใจขนาดนี้ สาวๆ ถึงกับยอมพลีกายเป็นเหยื่อให้ทันที (ว่าไปนั่น) พี่หมีชุดดำหน้าบากของเรานั้นยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งในตอนนี้ทวิตเตอร์ของชาวญี่ปุ่นก็แพร่กระจายภาพพี่หน้าบากไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเรียกเขาว่า Ikébear เป็นการเล่นคำมาจาก ikemen ที่แปลว่าผู้ชายหล่อนั่นเอง สำหรับที่มาที่ไปของเขานั้นก็มาจากเรื่อง Tales of Greboo โดยเขาจะเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของเรื่อง ซึ่งปัจจุบันก็ได้จบซีซั่นแรกไปเป็นที่เรียบร้อยและจะออกซีซั่นที่สองในเดือนมกราคมปีหน้า คุณพี่ดูไม่มุ้งมิ้งเหมือนตัวอื่นเลยเนอะ แต่ที่แน่ๆ ความเท่จัดของพี่แกนั้นแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีฐานแฟนคลับมากขึ้นแล้ว แถมยังมีแฟนอาร์ตตามออกมาอีก โอ้โห่!! อีกไม่นานเหมียวว่าน่าจะสู้กับคุมะมงได้อย่างแน่นอน นี่เอ็งคิดจะมาแย่งฐานแฟนคลับไปจากชั้นงั้นเรอะ ไม่มีทาง!! ที่มา : rocketnews24
-
แฟนตาซีเกิ๊น!! ชมตัวอย่างแรกของหนังซอมบี้ญี่ปุ่น “สาวเลื่อยไฟฟ้าฝ่าดงซอมบี้” สยองปนอึ้งปนเซ็กซี่
หากคุณชอบความสยองขวัญสั่นประสาทในหนังแนวซอมบี้ไล่กินคนแล้วล่ะก็ คุณอาจจะชอบหนังญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Chimamire Sukeban Chainsaw เรื่องนี้ก็ได้นะ เพราะหนังเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของแก๊งค์นักเรียนสาวในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ พวกเธอจึงต้องร่วมมือกัน เพื่อฝ่าดงซอมบี้ออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้ขายความน่ารักเซ็กซี่ ปนความซาดิสม์ เลือดสาดแบบแปลกๆ เพราะตัวละครมีความบ้าพลัง ถืออาวุธแบบแปลกๆ แถมบางตัวละครยังสามารถปล่อยมิสไซล์ออกมา (จากจุดนั้น) ได้เองด้วย!? ส่วนคนที่มารับบทนางเอกในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Rio Ujida นางเอกสาวจากเรื่อง Kamen Rider Drive นั่นเอง ชมตัวอย่างได้ที่ด้านล่างเลย ใบปิดอย่างเป็นทางการของ Chimamire Sukeban Chainsaw หนังมีกำหนดฉายในญี่ปุ่นเดือนมีนาคมปี 2016 ไม่รู้ว่าจะมีบริษัทไหนในไทยนำเข้ามาฉายหรือเปล่านะ ใครอยากลองของแปลกต้องติดตามให้ดีๆ ที่มา J-HERO.COM , vap official
-
ญี่ปุ่นมาแหวก!? ผุด “กาชาปองพระพุทธรูป” ขนาดจิ๋ว อยากบูชาแค่หยอดเหรียญแล้วแกะ
ถ้าคุณเป็นชาวพุทธ ที่ชื่นชอบการซื้อของเล่นแบบกาชาปองแล้วล่ะก็ คุณอาจจะอยากได้สิ่งนี้มาตั้งที่ชั้นวางของเล่นหรือโต๊ะทำงานของคุณก็ได้นะ เพราะนี่คือพระพุทธรูปจิ๋ว ที่มาในแบบฟิกเกอร์ไข่กาชาปอง ให้คุณหยอดเหรียญเอาไปตั้งที่บ้านได้แบบง่ายดาย เว็บไซต์ Rocket News 24 ได้เผยแพร่ภาพของเล่นชุดใหม่จากบริษัท Kaiyodo เป็นกาชาปอง (โมเดลขนาดเล็กที่อยู่ในบอลพลาสติก) ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวการ์ตูนจากที่ไหน แต่เป็นโมเดลพระพุทธเจ้าในแบบต่างๆ นั่นเอง โดยโมเดลที่ถูกผลิตออกมานั้นจะมีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ Ashura , Fujin และ Raijin ตามรายงานบอกว่า Ashura นั้นจะมีจิตวิญญาณที่สูงส่งกว่ามนุษย์ แต่จะอยู่ในระดับต่ำสุดของเทพองค์อื่นๆ มีแขนทั้งหมด 6 แขน และมี 3 หน้า จะมีด้วยกัน 3 สี คือสีไม้ สีเงิน และแบบลงสีทั้งตัว ส่วน Fujin และ Raijin นั้นจะเป็นเทพแห่งลมและเทพสายฟ้า มีเพียง…
-
Infographic ฉบับเที่ยวเกียวโต กับกฏข้อห้ามต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรและไม่ควรทำ!!
ประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปท่องเที่ยวกันมากเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ แต่ด้วยเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน บางครั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ทั้งไม่รู้และทั้งที่รู้แต่ก็ยังทำ อาจทำให้เจ้าบ้านรู้สึกไม่ดี และมองนักท่องเที่ยวชาตินั้นให้แง่ลบ ส่งผลภาพรวมไปในระดับประเทศกันเลยล่ะ ทั้งนี้เองหากเราคนไทยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ทำตามกฏระเบียบต่างๆ ที่เขามี ก็คงไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาสร้างชื่อเสีย(ง) ในการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยซักเท่าไหร่ อย่างเช่นทุกๆ เมืองและจังหวัดก็จะมีกฏที่แตกต่างกัน อย่างในเมืองเกียวโต ที่ได้ทำ Infographic การ์ตูนที่เข้าใจง่ายเพื่อบอกให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ศึกษาก่อนที่จะไปเที่ยวและนำไปปฏิบัติก็จะส่งผลดีต่อตัวเราและเจ้าบ้านจ้า สำหรับ Infographic ชุดนี้มีชื่อว่า AKIMAHEN of Kyoto (京都のあきまへん) แปลว่า ข้อห้ามของเกียวโต เป็นกฏเฉพาะของเมืองเกียวโต ไม่ว่าจะเป็นการเข้าแถวให้เป็นระเบียบ, ห้ามขับขี่จักรยานขณะไม่ได้สติ (เมาแล้วปั่น ปรับ 1 ล้านเยน หรือจำคุก 5 ปี) อย่ายกเลิกรายการอาหาร ณ วินาทีสุดท้าย, เอื้อเฟื้อที่นั่งให้กับผู้หญิงตั้งท้อง คนชรา ผู้บกพร่องทางกายภาพ และผู้ที่มากับเด็กเล็ก รักษาความสะอาดของห้องน้ำ, อย่าจอดจักรยานนอกพื้นที่ที่จัดไว้ให้, อย่าถ่ายรูปใกล้รางรถไฟ, ห้ามถ่ายรูปในสถานที่ที่ห้ามถ่าย…
-
ชี้เป้า 11 เกาะแมวแห่งประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากเจอแมว แม๊ว แมว ก็เก็บกระเป๋าไปเลย!!
อาการของทาสแมวที่มักจะเรียกร้องความสนใจจากเจ้านายผู้ไม่สนโลก วันๆ ก็เอาแต่นอนอย่างเดียว พอตื่นก็หิว กินอิ่มก็นอนต่อ ฮ่าฮ่า!! ไม่ใช่อะไรหรอก หากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวที่ชีวิตนี้ได้ถวายทั้งกายและใจให้แมวไปแล้ว หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ ‘เกาะแมว’ ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี และเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีเกาะที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวนี่แหละ นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย ว่าแล้วก็ขอแนะนำ 11 เกาะแมว ที่ควรไปเที่ยวซักครั้ง รับรองว่าทาสแมวต้องฟินแน่นอน!! 1. Enoshima, จังหวัด Kanagawa สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด : Katase Enoshima แถมที่นี่ยังมีศาลเจ้าสวยๆ และชายหาดที่เหมาะแก่การปาร์ตี้มากๆ แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อนกันนะจ๊ะ 2. Okishima, จังหวัด Shiga ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด : Horikiri เกาะนี้ไม่ได้อยู่ในทะเลสาบ Biwa ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นล่ะ 3. Sanagishima, จังหวัด Kagawa ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด :…
-
นี่ก็ด้วย!? จวกยับ Justin Bieber หอมแก้มสาว AKB48 ทำเอาแฟนคลับญี่ปุ่นถึงกับปรี๊ดแตก
กลายเป็นข่าวดังในญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับกรณีของนักร้องหนุ่มอย่าง Justin Bieber ที่เดินทางไปสัมภาษณ์ในรายการหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ดันไปหอมแก้มไอดอลสาวเข้า ทำเอาแฟนๆ ถึงกับคลั่งและต่อว่านักร้องหนุ่มกันยกใหญ่ทีเดียว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Animenewsnetwork ได้รางานว่า Justin Bieber ได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อออกรายการ Music Station ซึ่งเป็นรายการที่จะเชิญนักร้องดังๆ จากทั่วโลกมาพูดคุยในรายการ หลังจากที่ถ่ายทำรายการจบแล้ว Bieber ก็ได้พบกับ 2 นักร้องสาวอย่าง Minami Takahashi และ Haruna Kojima จากวง AKB48 ซึ่งทั้งคู่ก็ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้พบกับ Bieber เป็นอย่างมาก แต่ในระหว่างที่กำลังถ่ายภาพร่วมกันนั้นเอง Bieber ก็ได้ก้มลงไปหอมแก้มทั้งสองสาว ทำให้แฟนคลับของวง AKB48 ต่างไปพอใจ และแสดงความเห็นในเชิงต่อว่านักร้องหนุ่มที่ทำตัวไม่เหมาะสม และนี่คือความเห็นบางส่วนจากโลกออนไลน์ “เขาทำกับเธอเหมือนเป็นสาวในบาร์ เหมือกันเขาคิดว่าจะทำกับคนเอเชียยังไงก็ได้” “ถ้า Bieber ทำแบบนี้กับไอดอลในเกาหลี ผู้คนน่าจะกลายร่างเป็นนักฆ่าตามล่าเขาทันที”…
-
เหลือเชื่อมาก เชฟญี่ปุ่นทำซูชิคล้ายปลาคราฟ ว่ายน้ำอยู่ในจานอาหาร งานศิลปะที่น่าอร่อย
ซูชิถือเป็นอาหารรสชาติอร่อยที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และปลาคราฟก็ถือเป็นสัตว์น้ำที่สวยงามน่าทึ่ง ทำไมเราถึงไม่ลองเอาทั้งสองอย่างมารวมกันล่ะ? วันนี้เหมียวจะพาคุณไปชมผลงานการผสมผสานระหว่างอาหารและงานศิลปะล่ะ นี่เป็นศิลปะที่เกิดจากการนำซูชิมาปั้นแต่งให้มีหน้าตาคล้ายกับปลาคราฟกำลังเวียนว่ายอยู่ในจานอาหารของเรา สวยงามน่าทึ่งจนคุณไม่อยากกินมันเลยทีเดียว ผลงานนี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ JunsKitchen เมื่อวันที่ 7 พฤษจิกายนที่ผ่านมา โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการทำก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ นอกจากข้าว ไข่ปลา กุ้ง สาหร่าย แตงกวา หัวไชเท้า และปลาหมึก (ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างงานศิลปะครั้งนี้เลย) เมื่อนำทุกอย่างมากรวมกันจะมีหน้าตาเป็นยังไงลองไปชมกันเลย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย จะว่าสวยก็สวย จะว่าหิวก็หิว เอาเป็นว่าเหมียวขอตัวไปหาไรกินก่อนนะ ที่มา boredpanda
-
มาไกลขนาดนี้แล้ว? ชาวเน็ตเผย ร่างทรงยุคใหม่ “พ่อปู่ไจแอนท์” จากโดราเอมอน ค่าบูชาครู 599 บาท
ต้องบอกเลยว่าชาวไทยนั้นเป็นชนชาติที่เชื่อเรื่องโชคลางหรือการทำนายทายทักมาก จนทำให้เหล่าหมอดูและนักดูดวงทั้งหลายเริ่มกลายเป็นอาชีพที่แพร่หลายมากขึ้น จนเราสามารถสังเกตเห็นได้ตามหน้าสื่อต่างๆ แต่เหมียวก็ไม่คาดคิดเลยว่าวงการหมอดูและนักทำนายทายทักจะมาไกลได้ถึงเพียงนี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊กเพจ “รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น” ได้เผยแพร่ภาพของร่างทรงยุคใหม่ ที่อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นร่างทรงจอง พ่อปู่ไจแอนท์ หรือ โกดะ ทาเคชิ จากโดราเอมอนด้วย!? ทั้งนี้ หากใครอยากจะเข้าพบพ่อปู่ไจแอนท์ล่ะก็ ต้องมีค่าบูชาครูสักเล็กน้อยอยู่ที่ 599 บาท และขอให้เตรียมสุราขาว ดอกไม้ และธูปเทียนมาเองด้วย เอาเข้าไป!! หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันฮาหงายเงิบเลยทีเดียว อย่างเช่นคุณ Gunsinee Subphakitthanapa “เดี๋ยวกูจะแปลงร่างเป็นแม่ของไจแอนท์ ไปปราบเอง” และคุณ Joopjang Burjet “ถ้ามีร่างทรงณเดชน์ขึ้นมาเมื่อไร เราเป็นต้องขำกลิ้ง” เอ้า งานนี้ใครอยากฟังเสียงเพลงเพราะๆ ของไจแอนท์ก็ลองไปตามหากันได้นะจ๊ะ (ประชด) ที่มา รวมพลังต่อต้านคอร์รัปชั่น
-
พาเที่ยวเทศกาลแปลกที่ญี่ปุ่น Bakeneko Festival เชิญชาวเมืองมาแต่งคอสเพลย์แบบแมว!?
สำหรับเหล่าทาสแมวแล้ว นี่อาจจะเป็นเทศกาลหนึ่งที่คุณควรไปเยือนสักครั้งก่อนตายก็เป็นได้ เพราะวันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวยังเทศกาล Bakeneko Festival (เทศกาลแมวผี) ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่เหล่าหนุ่มสาวและคนชราจะพากันแต่งตัวเลียนแบบปีศาจแมวกันอย่างสนุกสนาน เป็นเวลากว่าศตวรรตแล้วที่ชาวเมืองในญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าแมว Bakeneko มีอำนาจวิเศษลึกลับ ที่สามารถเดินสองขาได้ และสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่ไหนก็ได้แบบเงียบๆ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม แต่ผู้คนในยุคนี้ก็ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของแมวผีตัวนี้อยู่ไม่จางหาย เทศกาล Bakeneko นี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเจ้าแมวปีศาจเป็นประจำทุกปี โดยที่ผู้คนทุกเทศทุกวัยจะพากันแต่งตัวเลียนแบบแมวกันอย่างคึกคัก พร้อมกับพากันเดินขบวนพาเหรดไปตามที่ต่างๆ คล้ายกับเทศกาลวันฮาโลวีนของฝั่งอเมริกาเลยล่ะ โดยในระยะหลังมานี้ เทศกาล Bakeneko เริ่มจะโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น ทำให้ชาวต่างชาติที่สนใจเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่น อยากรู้ว่าสนุกสนานแค่ไหนลองไปชมภาพบางส่วนจากงานกันเลย สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปร่วมกิจกรรมกับเขาแล้วล่ะก็ เทศกาล Bakeneko เขาจะจัดขึ้นทุกๆ วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม ตั้งแต่เวลา 10.00 –…
-
น้ำตาหลั่งริน… ดาราเอวีสาว Ai Uehara ประกาศอำลาวงการ เหตุ “ขาดแรงกระตุ้น”
ทำเอาหนุ่มๆ น้ำตาตกกันเป็นแถวๆ เลยทีเดียว เพราะเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ญี่ปุ่น Ahmike ได้รายงานว่าในงาน Japan Adult Expo ที่เป็นงานนิทรรศการสำหรับผู้ใหญ่ในญี่ปุ่น ได้มีดาราเอวีสาวดาวรุ่งอย่าง Ai Uehara วัย 23 ปี ออกมาประกาศอำลาวงการ ทำเอาหนุ่มๆ ถึงกับเสียดายไปตามๆ กัน โดยเธอให้เหตุผลในการอำลาวงการครั้งนี้ของเธอว่า เธอนั้นขาดแรงกระตุ้นที่จะอยู่ในวงการนี้ต่อไป และเธอก็ทำในสิ่งที่ต้องการครบหมดแล้ว จากนี้ต่อไปเธออยากจะทำงานในวงการบันเทิงแบบเต็มตัวดูบ้าง สำหรับใครที่ไม่รู้จักเธอ เหมียวจะเล่าสั้นๆ ว่า Ai Uehara นั้นเริ่มเข้าวงการ AV ครั้งแรกเมื่อช่วง 4 ปีที่แล้ว และเริ่มสั่งสมชื่อเสียงมาเรื่อยๆ จนในปี 2556 ผลงานภาพยนตร์ AV ที่เธอถ่ายไว้ก็สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดจนติดอันดับ 1 เลยทีเดียว หนุ่มๆ คนไหนที่อยากจะชมผลงานของเธอแล้วล่ะก็ ไม่ต้องมาขอวาร์ปเหมียวนะ ไปหากันเองเด้ออ ที่มา ahmike
-
งามไส้!! รวบหนุ่มไทย แอบงัดบ้านที่ญี่ปุ่น เผยทำมาแล้วกว่า 50 ครั้ง
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Yahoo.co.jp ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดชิบะประเทศญี่ปุ่นได้จับกุมชายไทยวัย 21 ปี ในข้อหาลักทรัพย์ไว้ได้ ทราบภายหลังว่าชื่อนายคมสิทธิ์ หรือนายแม๊ก อ้างว่าทำอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง หลังพยายามงัดบ้านเรือนและกวาดเอาทรัพย์สินอย่างเงินสด สร้อยคอ และของมีค่าอีกหลายอย่าง นายแม๊กเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกและลักทรัพย์ในบ้านหลังหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เงินสดราว 70,000 เยน (20,090 บาท) สร้อยคออีกกว่า 16 รายการ คิดเป็นเงินราว 45 มัง (129,150 บาท) นอกจากนั้นยังมี นาฬิกาโรเล็กซ์ และทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ ทั้งนี้นายแม็กเผยกับตำรวจว่าเคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 50 ครั้ง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและทำการขยายผลต่อไป เนื่องจากได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีคดีที่คล้ายกันนี้ถึง 70 ครั้ง ท้ายนี้นายแม็กได้สารภาพกับตำรวจถึงสาเหตุที่ลงมือ เป็นเพราะว่า “ไม่มีเงิน” นั่นเอง ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่น่ารักประเทศหนึ่งที่ชาวไทยมักจะเดินทางไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ แถมยังเปิดวีซ่าให้ไปเที่ยวกันง่ายๆ เลย หากคนไทยทำแบบนี้บ่อยๆ ภาพลักษณ์ของเราอาจจะแย่ในสายตาของพวกเขาก็ได้นะ ที่มา kapook , tv-asahi , Roongtonkit…
-
เลิกแล้วนะครับ!! เจ้าของน้องหมาชิบะที่เฝ้าร้านขายของชำอันโด่งดัง ประกาศพักงานให้น้องชิบะแล้วจ้า
หากใครยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้มีการแชร์ทั้งภาพและวิดีโอคลิปอันน่ารักน่าชังของน้องหมาชิบะตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าร้านขายของชำในญี่ปุ่น โดยที่ร้านขายของชำนี้ก็คือร้าน Suzuki Tobacco Shop หรือร้านขายบุหรี่ที่มีน้องหมาชิบะชื่อว่า ‘ชิบะ’ อีกทีเป็นพนักงานขายนั่นแหละ ซึ่งในตลอดปีที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของเจ้าชิบะนั้นเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวมากๆ ไม่ว่าใครผ่านมาเห็นก็ต้องแวะซักหน่อย เพราะความน่ารักและแสนรู้ของมัน แต่ทว่าล่าสุดนี้เจ้าของน้องชิบะนั้นได้ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมของตัวเองว่า ร้านขายบุหรี่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้ว และน้องชิบะก็จะได้ใช้ชีวิตวัยเกษียณเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป สงสัยว่าต่อจากนี้ไปคงได้ไปนอนแทะแตงกวาทั้งวันแน่ๆ เลย ที่มา : thechive
-
นักท่องเที่ยวนิรนามไปเที่ยวทั่วเกาะญี่ปุ่น กับเป้าหมายในการเก็บภาพแมวเหมียวจากที่ต่างๆ
การได้ออกไปท่องเที่ยวนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ติดด้วยปัญหาอยู่ 1 หรือ 2 อย่าง นั่นก็คือ เงินกับเวลา มีเวลาแต่ไม่มีเงิน หรือ มีเงินแต่ไม่มีเวลา เป็นต้น ฮ่าฮ่า!! แต่เอาเป็นว่าพอมีทั้งเวลาและเงินก็จะออกไปท่องเที่ยวทันที ไม่จำเป็นต้องเป็นต่างประเทศก็ได้ เที่ยวในประเทศก็ฟินได้เหมือนกัน อย่างเช่นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นนิรนามรายนี้ ที่มีเป้าหมายในการท่องเที่ยวไปทั่วเกาะญี่ปุ่น แค่ในประเทศก็เที่ยวไม่หมดแล้ว ใช่ว่าเกาะของญี่ปุ่นจะเล็กๆ ซึ่งในแต่ละที่ก็จะมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และหนึ่งสิ่งที่เขาจะเก็บกลับมาด้วยก็คือภาพความประทับใจของเหล่าแมวเหมียวที่เขาได้เจอตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแมวเลี้ยงหรือแมวจร และไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในอิริยาบทไหน เขาก็ได้เก็บภาพมาหมด ทั้งตอนเผลอและหันหน้าให้กล้อง ดูแล้วก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักและพร้อมที่จะพลีกายเป็นทาสแมวทันทีเลยจ้า …
-
ลุ้นระทึก!! คุณหมอถูกยากูซ่ามาบุกรีดไถ่เงินถึงหน้าห้องพักโรงแรมในญี่ปุ่น โชคดีที่ยั้งไว้ทัน
การออกไปยังต่างแดนยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม อันตรายนั้นรายล้อมเราอยู่ทุกที่ อย่างประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอย่างญี่ปุ่น ก็ยังคงมีผู้มีอิทธิพลอยู่ แถมยังน่ากลัวมากๆ ซะด้วย!! เรื่องราวสุดระทึกนี้ เปิดเผยโดยคุณหมอ Shane Cardio ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกบุกรุกเพื่อรีดไถเงินจากยากูซ่าญี่ปุ่น อุกอาจถึงขั้นมาเคาะถึงประตูห้องพักในโรงแรม Meriken Oriental Hotel กันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าที่จะมียากูซ่ามาถึงหน้าห้อง เขาได้รับโทรศัพท์จากโอเปอเรเตอร์โรงแรม พูดแต่ภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ซึ่งก็ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด ก็เลยวางหูไป จนกระทั่งมีชายใส่สูท ผูกไทด์ มากดกริ่งหน้าห้องพัก ซึ่งเขาก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นพนักงานของโรงแรม มีสมุดจดบันทึกมาด้วย ก็เลยแง้มประตูนิดหน่อยเพื่อพูดคุยด้วย แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะอีกฝ่ายซัดมาเป็นภาษาญี่ปุ่นรัวๆ สภาพของประตูที่ยื้อกันไว้นานแสนนาน พอจะปิดประตูปุ๊บ ชายผู้นั้นก็ใช้เท้ากั้นประตูเอาไว้ไม่ให้ปิด แถมตะคอกเสียงใส่ จับใจความได้ว่าเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง และเปิดสมุดเล่มดังกล่าวให้อ่าน เต็มไปด้วยภาษาญี่ปุ่น แต่ที่เห็นชัดๆ ก็คือจำนวนเงิน 38,000 เยน คราวนี้ก็แน่ใจแล้วล่ะว่าเขาต้องโดนยากูซ่ามารีดไถเงินอย่างแน่นอน!! หากปล่อยให้เข้ามาได้ต้องมีอันตราย ซึ่งทั้งสองก็ได้ยื้อกันอยู่หน้าประตูซักพักใหญ่ ในที่สุดก็กระทืบเท้ายากูซ่าออกไปได้ ใช้แรงดันเพื่อปิดประตูและล็อคได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็รีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากทางโรงแรมและส่งไลน์ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มหมอที่มาประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยทันที…
-
รวม 14 ภาพแฟชั่นสุดแปลก ที่ยิ่งดูก็ยิ่งฮา แถมยังหาดูได้เฉพาะใน ‘ประเทศญี่ปุ่น’ เท่านั้นนะจ๊ะ
‘ญี่ปุ่น’ นอกจากจะเป็นประเทศที่ชอบสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ ให้คนทั้งโลกได้ตะลึงจนอ้าปากค้างอยู่ตลอดเวลาแล้ว เทรนด์แฟชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว แต่งหน้า การถ่ายรูป และอีกมากมาย ก็ยังแปลกกว่าประเทศไหนๆ อีกด้วย และ 14 ภาพที่เราได้คัดสรรมาให้ชมในคราวนี้ บอกเลยว่ามันจะทำให้คุณทั้งอึ้ง และฮา จนหลายคนต้องพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ทำไปได้’ เหมียวก็ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกัน แต่ดูแล้วก็แปลกตาไม่น้อย แฟชั่นทรงผมสไตล์นี้ ดูเหมือนจะฮอตฮิตสุดๆ เลยนะเนี่ย และนี่คือ เทรนด์แฟชั่นขนตาปลอม ที่ดูหลอนเกินเหตุ สิ่งแปลกตาเหล่านี้ คุณสามารถพบเจอได้ในประเทศญี่ปุ่น ถึงจะดูแปลกๆ แต่ก็สามารถกระตุกต่อมฮาไม่น้อย มันอาจจะเป็นเทรนด์ หรือแฟชั่นอะไรสักอย่าง ที่หลายคนเข้าไม่ถึง เพราะแต่ละชุดดูล้ำไปไกลมากจริงๆ ความแปลกที่ไม่เหมือนใคร และคงไม่มีใครกล้าเหมือน ต้องยกให้ญี่ปุ่นซะแล้ว แต่บางผลงานก็ทำออกมาได้สร้างสรรค์เหมือนกันนะเหมียว เรื่องความมั่นใจต้องยกให้คนญี่ปุ่นเค้าละ แต่งตัวแปลกๆ ฉายเดี่ยวมันจะไปสนุกอะไร ต้องยกแก๊งมาเลย เอิบ!! นี่มันตัวอะไรกันละเนี่ย…
-
มรดกของชาติ!! รวม 10 การ์ตูน ที่ชาวญี่ปุ่นโหวตแล้วว่า อยากให้ลูกหลานได้ดู
แอดเหมียวเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการดูการ์ตูนญี่ปุ่นมาก นอกจากเรื่องราวที่สนุกสนานแล้ว ยังได้เห็นถึงขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมต่างๆ ของญี่ปุ่น แถมในหลายๆ เรื่องยังให้ข้อคิดกับเรามากมายจนอยากจะเก็บไว้ให้ลูกหลานของเราได้ดูเลย และเมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Charapedia ของประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลสำรวจเกี่ยวกับหัวข้อ แอนิเมเรื่องไหนที่อยากแนะนำให้ลูกหลานของคุณได้ดูมากที่สุด และให้เหล่าสมาชิกในเว็บไซต์ที่ชื่นชอบการดูการ์ตูนกว่า 10,000 คน โดยแบ่งออกเป็น ชาย 54.1% และหญิง 45.9% จากผลสำรวจทำให้ทีมงานสามารถจัดลำดับ 10 แอนิเมชั่นได้ดังนี้ อันดับที่ 10 Kuroko no Basuke 158 คะแนน อันดับที่ 9 Haikyu!! 165 คะแนน อันดับที่ 8 Shigatsu wa Kimi no Uso 175 คะแนน อันดับที่ 7 Sword Art Online 181 คะแนน อันดับที่ 6 Doraemon 193 คะแนน อันดับที่…
-
เรดาร์ทำงานไหม? ญี่ปุ่นจัดประกวดหนุ่มหน้าสวย สวยซะจนแยกไม่ออกเลยว่าไม่ใช่หญิงแท้!!
เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียวได้มีการจัดประกวด Mister Bishoujo เพื่อเฟ้นหา ‘หนุ่มสวย’ โดยจะเปิดให้มีการโหวตผ่านอินเตอร์เน็ต ทำเอาสาวๆ และหนุ่มๆ ในโลกออนไลน์ให้ความสนใจกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว ในการประกวด Mister Bishoujo ได้มีผู้เข้ารอบทั้งหมด 4 คนด้วยกัน 1. Akari (มัธยมศึกษาปีที่ 4) 2. Irru Mina (มัธยมศึกษาปีที่ 6) 3. Asagiri (อายุ 28 ปี) 4. Haruka (อายุ 24 ปี) และหลังจากการโหวตทั้งหมด รางวัลของผู้ชนะก็ตกเป็นของ……….หมายเลข 1. Akari นั่นเอง หลังจากที่เจ้าตัวรู้ผล เขาก็ได้กล่าวว่า “การประกวด Mister Bishoujo จบลงแล้ว! ขอขอบคุณทุกๆ คนมาที่ช่วยสนับสนุน ผมชนะ! ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตและคำชมที่ส่งมา นี่คือภาพของผมและเพื่อน ที่ประกวด…
-
การ์ตูนก็มีสาระ!! ประเทศญี่ปุ่นจัดสรรการ์ตูนกว่า 100 เรื่องให้เป็นหนังสือเรียนอ่านนอกเวลา
พื้นฐานของการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญ หากเด็กๆ ได้รับการศึกษาที่ดีแล้วจะสามารถช่วยพัฒนาให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน และด้วยตามประสาของวัยเด็กที่สนใจอ่านการ์ตูนเพื่อเป็นความบันเทิงนั้น ผู้ใหญ่มักจะมองว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ทั้งที่จริงแล้วการ์ตูนบางเรื่องก็ได้เสริมความรู้ให้กับผู้อ่านไปในตัว ทางด้านองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Nippon Foundation ของประเทศญี่ปุ่นจึงได้ริเริ่มโครงการคัดสรรการ์ตูนเสริมสร้างความรู้สำหรับเด็กขึ้นมาในชื่อ This is Also a Learning Manga ~World Discovery Project~ โดยจะนำการ์ตูนกว่า 100 เรื่องมาใช้เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กๆ ทั้งนี้ทางองค์กรก็ได้เชิญบุคลากรทางการศึกษาจาก 2 แห่งนั่นก็คือศาสตราจารย์ Yukari Fujimoto ผู้วิจัยด้านการ์ตูนญี่ปุ่นจาก Meiji University และศาสตราจารย์ Ichiya Nakamura จาก Keio University ร่วมกับนักเขียนการ์ตูนอาจารย์ Machiko Satonaka และบุคคลอื่นๆ อีก 4 ท่าน รวมทั้งสิ้นเป็น 7 ท่านมาร่วมกันคัดสรรการ์ตูนเพื่อใช้เป็นหนังสือเรียนอ่านนอกเวลา มีการเปิดเผยรายชื่อของหนังสือการ์ตูนที่ได้รับการคัดเลือกกว่า 100 เรื่องผ่านทางเว็บไซต์…
-
แมวเป็นสัตว์ขี้สงสัย เมื่อไหร่ที่มันอยากจะเข้าไป มันก็จะเข้าให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม!!
ความซนหรือว่าความขี้สงสัยนั้นมักจะมาคู่กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ รวมไปถึงความทะเยอทะยาน ความพยายามอันสูงส่งที่จะเข้าไปในที่ๆ มันเข้าไปไม่ได้ มันก็จะวนเวียนอยู่แถวๆ นั้น และเริ่มจะออกอาการตะกุยให้เห็นอยู่เป็นประจำ ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @gentlerain0 ผู้เป็นทาสของเจ้าเหมียวอายุ 1 ขวบที่มีชื่อว่า Zoi ได้เผยภาพพฤติกรรมขี้สงสัยของมัน ดูไปดูมาก็เอ็นดูเหลือเกิน แต่การปล่อยให้เจ้าเหมียวได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ก็ถือว่าน่ารักไปอีกแบบ เมื่อเจ้าเหมียวมาเจอกับลิ้นชัก และพยายามที่จะเข้าไปให้ได้ ตะกุยใหญ่เลยนะลูก!! 引き出しを開けようとしている。 pic.twitter.com/TwMH56mJcU — ame (@gentlerain0) 7 ตุลาคม 2015 น่าสงสารตรงที่ว่ามันไม่สามารถเอื้อมเข้าไปดันลิ้นชักออกมาได้ นอกจากลิ้นชักแล้ว ถังขยะก็ไม่รอดสายตาของมันเช่นกัน ว่าแต่มันเปิดยังไงล่ะเนี่ย? 開けたい。 pic.twitter.com/S0JKP8tJzv — ame (@gentlerain0) 29 กรกฎาคม 2015 หลังจากที่ใช้ความพยายามและเรียนรู้ซักพัก ก็สามารเปิดฝาถังขยะได้สำเร็จ ได้เวลาเข้าไปสำรวจแล้ว 開けた。オレンジの蓋のゴミ箱は猫専用になった。いつでも中に入れるように空っぽにしてる。 pic.twitter.com/iVcfji3xa9 — ame (@gentlerain0)…
-
แจกความสดใส!! กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น นำนางแบบกราเวียร์ขึ้นปกนิตยสารน่ารักภายใต้เครื่องแบบ
เรื่องของกองกำลังทหารหรือกองทัพประมาณนี้ ก็ทำให้อดนึกคิดไม่ได้ว่าจะต้องมีแต่ผู้ชายในเครื่องแบบเต็มไปหมด แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว อัตราส่วนของผู้ชายและผู้หญิงในกองทัพก็เริ่มจะมีเท่ากันแล้วล่ะ และล่าสุดนี้ทาง กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (JSDF) ก็ได้เผยภาพของหญิงสาวในเครื่องแบบขึ้นปกนิตยสารของตนเอง คือจังหวะแรกที่เห็นนี่ถึงกับร้องกันเลยทีเดียว เพราะว่าหญิงสาวในเครื่องแบบนี่น่ารักมาก มาครบกันแทบทุกเหล่าไม่ว่าจะเป็นทั้ง ทัพบก ทัพนาวี และทัพอากาศ นิตยสารของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า MAMOR ได้นำนางแบบกราเวียร์มาแต่งชุดทหาร และถ่ายแบบเพื่อนำไปขึ้นบกด้วยอิริยาบทการตะเบ๊สุดแบ้ว โอ้ยยยย เห็นแบบนี้แล้วใจละลายเลย ผู้หญิงในเครื่องแบบนี่น่ารักเหลือเกิน!! ที่มา : rocketnews24
-
เหตุผลที่ว่าทำไมพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นจึงปล่อยให้ลูกอายุเพียง 6-7 ขวบเริ่มพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก!?
หากเราได้เคยสัมผัสหรือรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าเด็กเล็กอายุเพียงแค่ 6-7 ขวบโดยประมาณ เดินไปไหนมาไหนคนเดียว ใช้บริการรถสาธารณะเพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทางนั่นก็คือโรงเรียนนั่นเอง เหมือนกับผู้ใหญ่ที่เดินทางไปทำงานในแต่ละวัน ไม่เหมือนกับวัฒนธรรมในบ้านเราที่จะต้องมีพ่อแม่พาไปส่งโรงเรียนในทุกๆ เช้า แตกต่างกับนักเรียนญี่ปุ่นในวัยประถมศึกษาที่จะเห็นได้ว่ามาด้วยตัวคนเดียว และเลือกที่จะเดินเท้าไปขึ้นรถไฟเพื่อไปโรงเรียน แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ? คุณพ่อคุณแม่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะฝึกให้ลูกๆ ของตนรู้จักที่จะพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย และไม่ว่าจะเป็นครอบครัวไหนก็จะพยายามฝึกให้ลูกของตัวเองรู้จักที่จะไปไหนมาไหนและทำอะไรด้วยตนเองให้ได้ อย่างเช่นหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบนามว่า ไคโตะ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ citylab ในกรณีนี้ว่าเขาเริ่มนั่งรถไฟด้วยตัวเองมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ‘ครั้งแรกของผมเป็นอะไรที่รู้สึกกังวลมาก แม้ว่าผมจะสามารถนั่งรถไฟไปเองได้แต่ก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย’ ซึ่งปัจจุบันเรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับเขาอีกต่อไป แต่ก็ใช่ว่าทางพ่อกับแม่จะไม่รู้สึกเป็นห่วง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็แอบกังวลอยู่บ้าง แต่พอปล่อยให้เขาได้ลองซักครั้งเนื่องจากคิดว่าโตแล้ว ก็ควรที่จะทำได้เพราะเด็กคนอื่นๆ ก็ทำได้เหมือนกัน โดยที่ทางด้านแม่เลี้ยงของไคโตะเปิดเผยว่า ‘เพราะฉันคิดว่ารถไฟนั้นปลอดภัยและตรงเวลามาก ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าเขาจะกลับบ้านไม่ตรงเวลา แถมเขายังเป็นเด็กที่เก่งด้วย’ ‘ฉันนั่งรถไฟด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมีอายุน้อยกว่าเขาซะอีก แถมตอนนั้นก็อยู่ในโตเกียวด้วย ในสมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ยังสามารถไปถึงจุดหมายจากจุด A ไปถึงจุด…
-
ยอมแล้วจ้า!! เหมียวพาไปรู้จัก Saki Akai นักมวยปล้ำร่างเล็กสุดสวยจากญี่ปุ่นกัน
หากจะพูดถึงนักมวยปล้ำ แอดเหมียวเชื่อว่าทุกคนคงจะจินตนาการถึงภาพนักมวยปล้ำร่างหมี ที่มีกล้ามเป็นมัดๆ โดดรัดฟัดเหวี่ยงร่างกาย พร้อมกับละอองเหงื่อที่กระเด็นเซ็นซ่าน คงจะไม่มีใครคิดว่านักมวยปล้ำก็มีสายแบ๊วขาวโอโม่เหมือนกัน วันนี้เหมียวขอเอาใจหนุ่มๆ ด้วยการพาไปรู้จักกับนักมวยปล้สาวำคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Saki Akai จากประเทศญี่ปุ่นกัน เห็นหน้าตาน่ารักแบบนี้ เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ว่าเธอทำอาชีพนักมวยปล้ำจริงๆ นะ หากไม่เชื่อล่ะก็ลองไปชมภาพของเธอกัน เห็นแบบนี้แล้วใช่ว่าเธอจะเป็นนักมวยปล้ำธรรมดาๆ นะ เพราะดีกรีของ Saki อยู่ในสมาคม DDT เปิดตัวมาถึง 2 ปีแล้ว แม้ว่าฝีมือจะยังไม่เทพเท่าไหร่ แต่เธอก็สร้างสีสันให้กับทุกๆ งานที่เธอไปเลยล่ะ แม้ร่างกายของเธอจะเพรียวบางขนาดนี้ แต่ก็สามารถล้มหนุ่มๆ บนสังเวียนผ้าใบมาแล้ว และด้วยความน่ารักสดใสของเธอ ทำให้มีโมเดลลิ่งหลายเจ้าพากันมาติดต่อเธอ ให้ช่วยไปเป็นนางแบบมาแล้วด้วยนะ นอกจากงานถ่ายแบบแล้ว Saki เองก็เคยโดดไปรับงานแสดงมาแล้ว อย่างเช่นซีรี่ย์เรื่อง Muscle Girl ที่ว่าด้วยเรื่องของสาวสวยคนหนึ่งที่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นเจ้าของค่ายมวยปล้ำที่กำลังจะเจ๊ง แฮ่กกกกกกๆๆๆๆๆๆ ที่มา ettoday , kapook
-
น่าร้ากกก!! ชมคลิปการขายของ จากพนักงานขายสี่ขา ที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่นกัน
หากคุณชื่นชอบสุนัจสายพันธุ์ชิบะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เหมียว่าคุณอาจจะคลั่งได้เลยล่ะ เพราะวันนี้แอดเหมียวจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวญุี่ปุ่นกัน ไปเจอกับเพื่อนเหมัยวตัวหนึ่งที่ชื่อว่าเจ้า Shiva มันเป็นสุนัขที่ฉลาดมากๆ เลยล่ะ เพราะนอกจากจะฟังภาษาคนรู้เรื่องและรับคำสั่งเป็นแล้ว มันยังสามารถเฝ้าร้านขายของ และขายของแทนเจ้านายได้ด้วยนะเออ!! เจ้า Shiva ถือเป็นสุนัขชิบะที่มีชื่อเสียงและมีเสน่ห์ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะมันช่วยเจ้านายของมันขายของที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ไม่ว่าคุณจะสั่งสินค้าอะไรก็ได้อันนั้นเลย และด้วยชื่อเสียงอันเลื่องลืนี้เอง ก็ทำให้มันกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ และมีผู้คนจากทั่วโลกสนใจจนต้องเดินทางมาเจอมันแบบตัวเป็นๆ เลยทีเดียว ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยนะ ปัจจุบันนี้น้องเลิกทำงานแล้วนะจ๊ะ แหม่ น่าเสียดายพนักงานดีแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องของหายหรือแอบขโมยของในร้านเลยนะเนี๊ยะ ที่มา metro
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ? ชาวพันทิปแฉหนังสือสอนภาษาญี่ปุ่น แปลมั่วทั้งเล่ม!?
การเรียนรู้ภาษาที่ 3 ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะปัจจุบันการรู้เพียงภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยให้เราอยู่เหนือคู่แข่งได้ แต่การจะซื้อหนังสือมาเรียนรู้ด้วยตนเองนั้นก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไปนะ เพราะหนังสือบางเล่มก็แปลได้มั่วเสียจนมีชาวเน็ตจับได้และเอามาแฉลงในพันทิปกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า ecchanja ได้เข้ามาตั้งกระทู้แฉการแปลหนังสือภาษาญี่ปุ่นแบบผิดๆ ถูกๆ ที่เอ๋อเสียยิ่งกว่าการใช้ Google Translate เสียอีก ยกตัวอย่างเช่นรูปภาพเด็ก 2 คน พูดว่า 彼女はどうするつもりですか? ”Where are you going?” แปลได้ว่า “หล่อนจะไปไหน?” แต่ในหนังสือเล่มนี้กลับแปลเป็น “ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะทำอะไร?” รูป 4 รูป รูปแรกเป็นรูป เด็ฏผู้หญิง Girl 女の子 รูปมดก็เขียนว่า アリ Ant แต่พอเหลือบตามาดู รูปเด็กผู้ชาย กลับแปลว่า Boy 少年 ← ซึ่งคำนี้มีความหมายว่าเด็กวัยรุ่น ที่อายุระหว่าง 15-16 ปี ส่วนรูปมะเขือเทศ Tomato พอเป็นภาษาญี่ปุ่นดันเขียน イチゴ ซึ่งคำนี้มีความหมายว่าสตรอเบอร์รี่…
-
รู้สึกดี!! ชาวเน็ตญี่ปุ่นร่วมกันทวีตแสดงถึงความมีน้ำใจอันแสนอบอุ่นในประเทศญี่ปุ่น
การช่วยเหลือผู้อื่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างก็มีความสุข และนี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงสังคมไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นความมีน้ำใจจากคนแปลกหน้านั้นมีเยอะมากๆ เลยล่ะ แม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองก็ยังรู้สึกประทับใจเลย ถึงแม้จะไม่เคยรู้จักกันก็ตาม 1. คนขับรถขนขนมปังของบริษัท Yamazaki จอดรถแล้วนำขนมปังมอบให้กับผู้ที่ติดพายุหิมะ อยากได้มากแค่ไหนก็หยิบไปได้เลย 昨日、ヤマザキパンさんのドライバーの方に差入れ頂きました。 「好きなだけ持ってってよ!」と。 今は談合坂SAで規制解除待機中、大事な食事となっております。 ありがとうございました。 #ヤマザキパン #大雪 #中央道 pic.twitter.com/a6fh6CoyTG — ks59 (@kojisan0104) 16 กุมภาพันธ์ 2014 2. โน๊ตปริศนาที่แนบเงินทิ้งเอาไว้ในตะกร้าหน้าจักรยาน ‘ขอโทษที่ทำจักรยานล้มและทำให้กระดิ่งพัง’ ・ こんなにいい人が世の中にはいるんだ。 ・ pic.twitter.com/V96ftmj94y — @LEGO___TOYSに移行 (@airi0330tslove) 24 พฤษภาคม 2014 3. พนักงานบริษัทขนส่ง Kuroneko ช่วยกันดันรถของบริษัทขนส่งคู่แข่ง Segawa ที่เสียหายระหว่างทาง 京都御幸町通にて、動かなくなった佐川のトラックを一緒になって押してあげるクロネコヤマトのお兄ちゃんがオットコマエだった。 pic.twitter.com/nYpcubBM9z — コウノ@京都の妖怪の人 (@kouno0521) 15 พฤศจิกายน 2013 4. ผู้คนช่วยกันงมหาคอนแทคเลนส์ให้กับหญิงรายหนึ่งที่ทำหล่นลงบนพื้นในสถานีรถไฟ Yokohama…
-
รวม 18 ภาพชอตฮาๆ ที่คุณสามารถพบเจอได้บน ‘รถไฟฟ้าญี่ปุ่น’ เท่านั้น
‘ญี่ปุ่น’ นอกจากจะเป็นประเทศที่ชอบสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ขึ้นมามากมายแล้ว ใครจะรู้ละว่า คนญี่ปุ่นก็ชอบทำอะไรแปลกๆ ที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับเราเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราได้นำภาพชอตเด็ดบนรถไฟฟ้า ที่ทั้งแปลก และฮาในแบบฉบับของคนญี่ปุ่นมาให้ได้ชมกัน เรียกได้ว่าทำเอาคนที่เห็นต้องหงายเงิบไปตามๆ กันแน่ ท่านอนพี่แกเฟี้ยวได้ใจจริงๆ เจ้านกน้อยจะไปเที่ยวไหนหรอ แม้กระทั่งมาร์คหน้าบนรถไฟฟ้าก็ยังมี แจ๊ค สแปร์โรว์ ก็มากับเค้าด้วย สไปเดอร์แมนก็มีนะจ๊ะ ที่นอนอันแสนอบอุ่นของคนญี่ปุ่น คือรถไฟฟ้าสินะ ฮ่าๆ เอามาหมดบ้านเลยหรือเปล่าเนี่ยแม่คุณ บางทีเหมียวก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่า ทำไปเพื่ออะไร ตัวอะไรกันละเนี่ย พ่อใครเอ่ย มารับกลับบ้านที ดูจากสภาพแล้วคงดื่มมาหนักมากจริงๆ นี่ก็นอนท่าแปลกได้อีก นอนไม่เกรงใจคนข้างๆ เลย เย้ยย!! เจ้าเหมียว มาไงเนี่ย นอนบนรถไฟฟ้าสบายจังเลย แหม!! แต่ละชอตเด็ดๆ ทั้งนั้นเลยนะเนี่ย งานนี้เรียกได้ว่าทำเอาคนที่ได้เห็นถึงกับเงิบไปตามๆ เลยละเมี๊ยว…
-
โลกออนไลน์ตะลึง หนุ่มญี่ปุ่นขอให้แฟนสาวแต่งตัวเป็นการ์ตูน เพื่อออกเดทด้วย!?
กลายเป็นกรแสฮือฮาในโลกออนไลน์ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของหนุ่มญี่ปุ่นผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Menokomakiri โดยหนุ่มคนนี้ก็เป็นเหมือนผู้ชายทั่วๆไป ที่มีชีวิตและแฟนสาวเหมือนปกติ แต่ที่ดูจะแปลกกว่าคนอื่นหน่อยก็ตรงที่เขาดันตกหลุมรักเข้ากับตัวละครสาวตัวหนึ่งจากเกม Love Plus บนเครื่อง Nintendo’s DS จนถึงขั้นขอให้แฟนสาวของเขาแต่งตัวเป็นตัวละครในเกมเลยทีเดียว!! ตารายงานบอกส่าแฟนสาวของเจาสวนชุดคอสเพลย์เป็นตัวละคร Manaka Takane หนึ่งในตัวละครสาวจากเกม Love Plus โดยทั้งคู่ได้พากันไปออกเดทที่เมืองอาตามิ จังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากภาพของทั้งคู่ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมาก ต่างพากันอึ้งถึงความสัมพันธ์และรสนิยมของพ่อหนุ่มคนดังกล่าว ที่แม้ว่าเขาจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่วายต้องการเติมเต็มความฝันสุดแปลกของตนเอง จะว่าน่ารักก็น่ารักดีนะ แต่ว่า…แฟนสาวของเขาจะรู้สึกยังไงกันนะเนี๊ยะ ที่มา rocketnews24
-
อัพเดทศึกหุ่นยนต์ยักษ์สะท้านโลก ทีมอเมริกาเผย BattleBots และ NASA ร่วมพัฒนา MegaBots Mk. II
หากยังจำกันได้เหมียวเคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการท้าทายศึกหุ่นยนต์ระหว่าง MegaBots จากประเทศสหรัฐอเมริกากับ Kuratas ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันเอาไว้ว่าให้เวลาไปพัฒนา 1 ปี และจะต้องมีการต่อสู้ระยะประชิดด้วย ล่าสุดนี้ทางทีมสหรัฐอเมริกาก็ได้เปิดระดมทุนเพื่อทำการพัฒนาหุ่นยนต์ MegaBots เวอร์ชั่นสอง (Mk.II) ซึ่งจากเดิมที่มีเพียงแค่ระบบการต่อสู้ระยะไกลเพียงอย่างเดียว ทางญี่ปุ่นขอเพิ่มการต่อสู้ระยะประชิด จึงต้องมีการปรับปรุงนิดหน่อย โดย MegaBots เวอร์ชั่นพัฒนาเพิ่มเติมนี้ จะเพิ่มในส่วนของอาวุธที่แยกส่วนออกมาได้เช่น กรงเล็บ โล่ และอุปกรณ์ขับเคลื่อนอื่นๆ อีกมากที่จะต้องทำการทดสอบเพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมที่สุด และที่เพิ่มเติมมาอีกก็คือได้รับความร่วมมือจากผู้สร้าง BattleBots และนักวิทยาศาสตร์จาก NASA ที่จะมาช่วยกันพัฒนา MegaBots ร่วมกับ MegaBots Inc. ภาพร่าง MegaBots Mk.II เวอร์ชั่นสมบูรณ์ สภาพปัจจุบันของเจ้า MegaBots Mk.II ทีมสหรัฐอเมริกาปล่อยวิดีโออัพเดทล่าสุดออกมาเป็นที่เรียบร้อย จะน่ากลัวแค่ไหนรับชมกันได้เลยจ้า ไม่รู้ว่าตอนนี้ทางฝ่ายประเทศญี่ปุ่นจะพัฒนาส่วนไหนอะไรยังไงเพิ่มเติมแล้วบ้างกับเจ้าหุ่นยนต์ Kuratas จะมีการร่วมมือพัฒนาระหว่างบริษัทหุ่นยนต์ในญี่ปุ่นด้วยรึเปล่า ก็คงต้องรอติดตามกันแล้วล่ะ!! ส่วนใครที่ตามไม่ทันว่าศึกครั้งนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน ลองมาอ่านข้าวเก่าได้ที่นี่เลยจ้า ที่มา : thechive
-
ดราม่าดิ…เมื่อ Disney Japan ทวิตว่าวันครบรอบการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ “ไม่มีอะไรสำคัญ”
หากให้ยกตัวอย่างหนึ่งในบริษัทที่มีภาพลักษณ์และการตลาดที่ดีอันดับต้นๆของโลก เชื่อว่า Disney ต้องโผล่เข้ามาในหัวเป็นอันดับต้นๆแน่นอน เพราะพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องการทำตลาดเอาใจเด็กๆ รวมถึงบริการลูกค้าดุจพระเจ้าอีกด้วย แต่ว่าบริษัทอย่าง Disney ก็สามารถสร้างความผิดพลาดได้เช่นกัน อย่างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบ 70 ปีการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองนางาซากิ ทางแอคเคาท์ Twitter ของ Disney ได้โพสสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างมากลงไป โดยพวกเขาได้ทวีตว่า “สวัสดีวันที่ไม่มีอะไรสำคัญ” ทันทีที่ทวีตนี้ออกสู่สาธารณชน พวกเขาก็ได้รับเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างมากมาย เพราะวันที่ 9 สิงหาคม เมื่อ 70 ปีที่แล้ว เป็นวันที่ประชนชนชาวญี่ปุ่นต้องสังเวยชีวิตให้กับระเบิดมหาประลัยกว่า 39,000 คน จนต้องลบทวีตนี้ทิ้งไป สุดท้ายทาง Disney Japan ก็ต้องออกมาทวิตขอโทษโดยมีเนื้อหาดังนี้ 【お詫び】8月9日のディズニーTwitterアカウントからのツイートについて、皆様にご不快な思いをさせてしまう不適切な表現がありましたことを深くお詫び申し上げます。今後につきましては細心の注意を払ってアカウント運営を行ってまいります。 — ディズニー公式 (@disneyjp) August 9, 2015 “ด้วยความเคารพ พวกเราอยากจะขออภัยเป็นอย่างยิ่งหลังจากมีการทวีตถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมลงไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ในอนาคต เราจะระมัดระวังการทวีตยิ่งขึ้น และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” แหม เกือบทำลายชื่อเสียงที่สร้างมาเกือบร้อยปีซะแล้ว โลกออนไลน์สามารถสร้างชื่อเสียงให้ได้…
-
มันจ้าเหลือเกิน!! ‘ปอย ตรีชฎา’ สุดฮอต ถูกเชิญไปออกรายการทีวีญี่ปุ่น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักสาวประเภทสองสุดสวยแห่งสยามประเทศอย่างน้องปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ ที่เริ่มมีชื่อเสียงมาจากการประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนลควีนครั้งที่ 1 เมื่อปี 2004 ที่ผ่านมา และน้องปอยก็เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันเธอโด่งดังมีชื่อเสียง และได้ไปแสดงหนังในต่างประเทศมาแล้วหลายเรื่องเลยทีเดียว โดยเฉพาะในฮ่องกง ที่เธอได้มีโอกาสไปร่วมแสดงโฆษณาและซีรี่ย์มาแล้วมากมาย และด้วยความสวยและน่ารักของน้องปอย ทำให้มีรายการเกมโชว์รายการหนึ่งเชิญเธอไปออกรายการ และขอให้เธอเลือกหนุ่มที่ถูกใจคนใดคนหนึ่งในรายการ ทำเอาพิธีกรและแขกรับเชิญถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว จะฮาและวายป่วงแค่ไหน ไปชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ไม่ว่าจะอย่างไร น้องปอยจะยังคงอยู่ในใจเหมียวเสมอนะ ที่มา enjoy enjoy
-
คิขุอาโนเนะ!! สาวมุสลิมจับแฟชั่น Lolita มาผสมผสานให้เข้ากับผ้าคลุมหัวฮิญาบได้อย่างลงตัว
Lolita เป็นแฟชั่นการแต่งกายที่ได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแต่เดิมนั้นแฟชั่น Lolita ได้รับอิทธิพลจากเสื้อผ้าแบบวิกตอเรียน และเครื่องแต่งกายจากยุคโรโคโค โดยลักษณะเด่นของแฟชั่นสไตล์ Lolita จะเป็นชุดกระโปรงน่ารักๆ และประดับด้วยลูกไม้หรือโบว์นั่นเอง และนี่คือ Noor และ Alyssa สองสาวมุสลิมจากอังกฤษและอเมริกา ผู้ที่ได้ทำการผสมผสานเสื้อผ้าสไตล์ Lolita และผ้าคลุมหัวฮิญาบเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ซึ่งพวกเธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟชั่น Lolita ของญี่ปุ่น และยังเห็นว่าแฟชั่นสไตล์นี้เป็นการแต่งกายที่ดูน่ารัก แถมชุดเหล่านั้นยังปกคลุมร่างกายอย่างมิดชิด โดยที่ไม่ขัดกับหลักความเชื่อที่พวกเธอนับถืออีกด้วย สวยน่ารักจริงๆ ฟรุ้งฟริ้งมาก เรียกได้ว่าเมื่อนำชุดเหล่านั้นมาประยุกต์เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้พวกเธอกลายเป็นสาวมุสลิม Lolita ได้แบบน่ารัก และสวยหวานมากที่สุดเลยล่ะ ที่มา : boredpanda
-
มาทั้งตัวเลย!! นี่คือ ‘หมูจิ๋วทอด’ เมนูอาหารสุดสร้างสรรค์ แต่กลับกินไม่ได้ซะงั้น
หากเพื่อนได้เห็นเมนูอาหารที่เราจะนำมาให้ชมล่ะก็ หลายคนจะต้องถึงกับอ้าปากค้างไปตามๆ กัน เพราะนี่คือ ‘หมูทอดชุบเกล็ดขนมปัง’ ที่นำหมูจิ๋วทั้งตัวมาทำเป็นเมนูอาหาร เอ..ว่าแต่อาหารจานนี้มันเป็นของจริงหรือเปล่าน้า แน่นอนว่าแว๊บแรกที่ได้เห็น หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นของจริง แต่จริงๆ แล้วเจ้าหมูจิ๋วเหล่านี้ มันไม่สามารถกินได้ เพราะมันเป็นผลงานของศิลปินจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nagaosample ที่ได้สร้างสรรค์ลูกหมูปลอมขึ้นมา เพื่อนำมาโชว์ในร้านอาหารยังไงล่ะ แถมยังมีเก็บไว้ทำอาหารอย่างอื่นอีกเพียบเลย งานนี้ทำเอาอึ้งไปตามๆ กันเลยใช่ไหมล่ะ นี่ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เลยนะเนี่ยว่ามันเป็นของปลอม แหม!! ถ้ามีเมนูหมูทอดทั้งตัวแบบนี้ขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้ว่าจะมีใครกล้ากินหรือเปล่านะเหมียว ที่มา : rocketnews24