Tag: JAXA
-
ประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ในการส่งจรวดที่เล็กที่สุดพร้อมบรรทุกดาวเทียมสู่นอกโลก
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของวงการวิทยาศาสตร์อีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานว่าองค์การสำรวจอวกาศประเทศญี่ปุ่น หรือ Japanese Aerospace Exploration Agency (JAXA) ได้ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมด้วยจรวด เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา จากรายงานเผยว่าการปล่อยจรวดความเร็วเหนือเสียง SS-520 ที่บรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 13.6 นิ้ว ครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าภารกิจก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบความผิดปรกติทางเทคนิคและล้มเหลวไปก็ตาม เจ้าจรวด SS-520 ที่ทำหน้าที่ในการปล่อยดาวเทียมครั้งนี้มีความสูงด้วยกันทั้งสิ้น 10 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักรวมเชื้อเพลิงเท่ากับ 2.6 ตัน ในขั้นตอนแรกของการปล่อยจรวดดังกล่าว ตรงส่วนครีบด้านล่างของมันจะบรรจุเชื้อเพลิง Hydroxyl-Terminated Polybutadiene (HTPB) แบบแข็งประมาณ 1.5 ตัน ซึ่งจะช่วยให้จรวดดังกล่าวพุ่งขึ้นจากพื้นในมุมที่ถูกต้อง และหลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งนาที ถึงจะมีการเปิดใช้งานเชื้อเพลงในส่วนที่ 2 และ 3 วินาทีที่จรวด SS-520 กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากจะบรรทุกดาวเทียม TRICOM-1R ที่มีน้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัมแล้ว จรวดดังกล่าวยังนำอุปกรณ์ถ่ายภาพและเครื่องรับสัญญาณวิทยุไปกับมันด้วย ไปชมวินาทีที่เจ้าจรวด SS-520 กำลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…
-
องค์กรอวกาศญี่ปุ่น JASA รับสมัครคนอยู่สถานีอวกาศจำลอง 14 วัน มีเงินให้ 100,000 อีก!!
หากใครที่อายุต่ำกว่า 55 ปี สุขภาพดีและกำลังหางานพาร์ตไทม์เงินแจ่มๆ ฟังทางนี้ เพราะล่าสุดบริษัท JAXA จากประเทศญี่ปุ่นกำลังมองหากลุ่มคนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานกับพวกเขา แถมผลตอบแทนยังดีเกินคาด!! JAXA หรือ The Japan Aerospace Exploration Agency ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับการสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น (คล้ายกับ NASA นั่นแหละ) ได้ประกาศรับชายหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปี มีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพจิตต้องดีเช่นกัน เพื่อที่จะเข้าทดสอบการจำลองใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 14 วัน 13 คืน จุดประสงค์ในการทดสอบครั้งนี้ก็เพื่อจำลองสถานะการกดดันของมนุษย์เมื่อต้องไปอาศัยอยู่บนสถานีอวกาศเพียงคนเดียว ผู้ทดสอบนั้นต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเพียงคนเดียวและห้ามติดต่อกับใคร ส่วนสถานที่ทดสอบนั้นจะจัดขึ้นที่ Tsukuba Space Center หากผ่านการคัดเลือก ผู้เข้าร่วมทดสอบนั้นจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 380,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 110,000 บาท เอาเป็นว่าถ้าใครที่สนใจอยากจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบนี้ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ jcvn แต่สำหรับคนที่อยู่นอกประเทศญี่ปุ่นต้องเสียใจด้วยนะ เพราะเขาไม่เปิดรับคนที่ไม่ได้ถือสัญชาติญี่ปุ่นนั่นเอง ถ้าให้#เหมียวมู่ทู่ไปอยู่ล่ะก็คงจะอกแตกตายแน่เลย เพราะแค่ไม่ได้เล่นเน็ตเล่นมือถือแค่แปบเดียวก็จะตายแล้ว ที่มา rocketnews24
-
‘น้องมอส’ กับผลงานการทดลองอวกาศ ได้รับคัดเลือกและชื่นชมจากญี่ปุ่น แต่คนไทยไม่ค่อยรู้
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนักศึกษาไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อของญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าว NHK และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่านักศึกษาผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรายนี้มีชื่อว่า นายวรวุฒิ จันทร์หอม หรือ น้องมอส เป็นนักศึกษาปี 2 จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สิ่งที่ทำให้น้องมอสกลายเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นก็เพราะว่าเขาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทดลอง “การโค้งของผิวของเหลวในอวกาศ (Capillary in Zero gravity)” เข้าร่วมในโครงการ Asian Try Zero-G 2016 ที่จะนำแนวคิดการทดลองวิทยาศาสตร์ส่งให้มนุษย์อวกาศญี่ปุ่น จนในที่สุดผลงานของน้องมอสได้รับการคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้นำขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ (ISS) ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลที่นำการทดลองของเขาไปทดสอบก็คือมนุษย์อวกาศที่ชื่อนาย Onishi Takuya ซึ่งน้องมอสเองก็ได้มีโอกาสได้ชมการทดลองและพูดคุยกับมนุษย์อวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ผ่านระบบสื่อสารจากห้องบังคับการที่ศูนย์อวกาศสึคุบะด้วย . . .…