Tag: LGBT
-
สส.หญิงญี่ปุ่น บอกรัฐบาลไม่ควรช่วยเหลือกลุ่ม LGBT เพราะมีลูกเพิ่มคนในประเทศไม่ได้!!
เรื่องของ ‘ความหลากหลายทางเพศ’ ถือเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากชาวโลกเป็นจำนวนมากในช่วงหลังๆ มานี้ แน่นอนว่าในสังคมก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด บ้างก็ให้การยอมรับกับเพศกลุ่มเพศทางเลือก บ้างก็มองว่าเพศสภาพนั้นมีแค่ชายกับหญิงเท่านั้น!! และนี่คือเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากมายในโลกโซเชียล กับกรณีของ สส. ญี่ปุ่น ออกมาให้ความเห็นว่ากลุ่ม LGBT ไม่สมควรได้รับสวัสดิการจากรัฐ เพราะพวกเขาไม่สามารถมีลูกได้!? Mio Sugita เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทำงานเป็นผู้บัญญัติกฎหมายของพรรคประชาธิปไตยเสรีนิยม (Liberal Democratic Liberty) ของประเทศญี่ปุ่น เธอได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกลุ่มเพศทางเลือกผ่านทางรายการเมื่อปี 2015 และสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก เธอบอกว่า “ย้อนกลับไปในช่วงที่เรียนอยู่ คุณครูถามฉันว่าคิดเห็นอย่างไรกับ LGBT โดยยกข้อมูลมาให้ว่าสถิติการฆ่าตัวตายของคนเหล่านี้สูงกว่าคนปกติทั่วไปถึง 6 เท่า แล้วคุณคิดว่าพวกเขามีความจำเป็นมั้ย? ฉันก็เลยตอบไปว่าไม่เลยแม้แต่น้อย” “มีครั้งหนึ่งที่ฉันเจอผู้หญิงที่เท่มากๆ เลยส่งจดหมายรักไปให้กับเธอ แต่พอโตมาฉันก็ตกหลุมรักผู้ชาย ได้แต่งงาน และกลายเป็นแม่คน ทำให้รู้ว่าที่ฉันเคยรู้สึกไปเมื่อในอดีตนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปโดยธรรมชาติ” “หลายๆ คนที่มีอายุอยู่ในช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงที่ค่อนข้างจะมีอารมณ์อ่อนไหว ไม่แปลกที่จะมีความรู้สึกชอบพอกับเพศเดียวกัน ผู้ชายรักผู้ชาย ผู้หญิงรักผู้หญิง พวกเขาคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิด มันจะเป็นอย่างไรถ้าเราสอนเด็กๆ ให้คิดแบบนี้กันล่ะ? มันจะทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับไปเป็นปกติได้น่ะสิ” …
-
เรื่องราวของคุณพ่อลูกสอง ที่วันนี้กลายเป็น “สาวประเภทสอง” คนสำคัญของออสเตรเลีย!!
โลกที่เต็มไปการเปิดรับและอิสระย่อมเป็นโลกที่สวยงามและน่าอยู่… คุณพ่อลูกสองนามว่า Summer Day วัย 37 ปีได้สิ้นสุดความทรมานจากการเก็บซ่อนความเป็นตัวเองมานานแสนนาน หลังเปิดเผยว่าตนเองเป็น สาวประเภทสอง ลงหน้าปกนิตยสารของออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้ในช่วงวัยรุ่น Day ต้องสู้กับมรสุมต่างๆ ทางเพศที่ทำให้เขาเกิดความอึดอัดที่จะเปิดเผยตัวเอง เขาจึงใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าประกอบกับเป็นนักสเก็ตบอร์ดมืออาชีพที่รู้จักกันในนาม Michael อีกเกือบสิบปีให้หลัง เขาก็กลายเป็นพ่อคนอย่างเต็มตัว และสุดท้ายก็ได้เผยความจริงต่อภรรยาสุดที่รักของตนเองว่าตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นเป็นอย่างไร เขากล่าวว่าชีวิตก่อนหน้านี้รู้สึกราวกับเป็นนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ในร่างกายที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นหญิงได้อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ Day ในฐานะพ่อค้าและนักสเก็ตบอร์ด รู้จักกันในนาม Michael Summer Day เธอเกิดในครอบครัวแสนอบอุ่นจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในออสเตรเลีย พ่อแม่ของเธอสนับสนุนเธอทุกเส้นทางที่เธอเลือกเดิน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากเธอเข้าใจว่าอะไรที่เพศชายควรจะเป็นและอะไรที่เพศหญิงควรจะเป็น “ทุกอย่างที่ผู้ชายเป็น ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายตัว ฉันชอบเล่นอะไรแบบผู้หญิงๆ” เธอกล่าว “ราวๆ อายุ 12 หรือ 13 ปี ฉันพบว่าคนเริ่มมองฉันแปลกๆ ฉันจึงต้องทำตัวให้เนียนว่าเป็นผู้ชายในช่วงขึ้นมัธยม มีการออกไปเที่ยวกับเพื่อนชาย และบางครั้งก็ใช้ยาเพื่อให้เก็บกดความคิดสับสนของฉันเอาไว้” เธอเล่าต่อ จากนั้นเพื่อนของเขาก็แนะนำให้รู้จักกับกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เรียกกันว่า “สเก็ตบอร์ด” และมันก็เป็นเหมือนการเยียวยาความว้าวุ่นในจิตใจของ Day ได้เป็นอย่างดี…
-
ลูกค้าคอมเพลนไม่อยากให้ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ เข้าร้าน ผู้บริหารโต้กลับ ‘อย่ามาที่นี่อีก’
โดยปกติทั่วไปตามห้างร้านหรือบริษัทต่างๆ มักจะมีกล่องรับความคิดเห็นจากลูกค้าวางไว้เสมอ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อยากให้ผู้เข้ามาใช้บริการได้ออกความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงการบริการที่ดียิ่งขึ้น ในบางครั้งก็เป็นคำติชมที่เกี่ยวข้องกับทางร้านโดยตรง แต่บางครั้งก็เป็นการติชมเพื่อเอาความรู้สึกส่วนตัวของลูกค้า หวังจะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ตนไม่ชอบนอกเหนือจากการบริการของทางร้าน กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Yuto_yumi_ ผู้ทำงานอยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่ง และได้เห็นจดหมายตอบกลับจากฝ่ายบริหาร ที่มีต่อข้อเสนอแนะของลูกค้าเกี่ยวกับ ‘กลุ่มรักร่วมเพศ’ หรือ LGBT ซึ่งข้อความตอบกลับแทบจะไม่น่าเชื่อว่าจะตอบลูกค้าที่ทางบริษัทเคารพได้ถึงขนาดนี้ รายละเอียดของลูกค้าที่แจ้งเข้ามา มีใจความคร่าวๆ ว่า “อย่าให้พวกกลุ่มรักร่วมเพศเข้ามาในร้าน ระยะหลังๆ ฉันเข้ามาที่นี่บ่อยเพราะมีสินค้าราคาถูกและหลากหลาย แต่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เจอ อย่างเมื่อวานมาที่ร้านก็เห็นคู่เกย์เดินจับมือกันออกมาจากลานจอดรถชั้น 1… ปัจจุบันคนพวกนี้ยิ่งมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ ห้างร้านไม่คิดจะจัดการกับคนเหล่านี้สักหน่อยเหรอ? เห็นมามากพอแล้ว ถ้าไม่จัดการอะไรก็จะไม่มาที่นี่อีก แล้วจะแฉบนอินเทอร์เน็ตให้ด้วย” จากคำคอมเพลนดังกล่าวนั้น ถือว่าดูรุนแรงพอสมควร อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้านค้าได้ หากมีคนเห็นพ้องคล้อยตามคำขู่ แต่ทว่าผู้บริหารกลับไม่คิดแบบนั้น…เพราะจดหมายจากสำนักงานใหญ่ชี้แจงชัดเจนว่า “จากข้อสรุปทั้งหมดทางบริษัทขอชี้แจงว่า “กรุณาอย่ามาที่ร้านแห่งนี้อีก” บริษัทของเราไม่ได้คำนึงว่าลูกค้าจะมีรสนิยมรักร่วมเพศหรือไม่ แต่ทุกคนคือลูกค้าของเรา และลูกค้าทุกคนมีความสำคัญ แต่ถ้าหากดูถูกผู้อื่นแล้ว เราจึงไม่อาจต้อนรับท่านได้อีก เพราะฉะนั้นขอความกรุณาอย่ามาที่ร้านของเราอีก และที่สำคัญพนักงานของเราบางส่วนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มรักร่วมเพศ และเราไม่มีนโยบายไล่ออกจากกรณีนี้ หากท่านมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ ทางบริษัทไม่ได้ตั้งใจจะโต้แย้งท่าน… เพียงแค่ขอร้องว่าอย่าแสดงวาจาหรือกระทำการเหยียบย่ำผู้อื่นต่อหน้ากันแบบนี้ จึงขอความกรุณามาเพียงเท่านี้” …
-
ครูสาวโรงเรียนคาธอลิกถูกไล่ออก หลังแต่งงานกับเพศเดียวกัน อ้างขัดหลักความเชื่อ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีคนเปิดรับและให้การสนับสนุนกลุ่ม LGBT หรือก็คือกลุ่มผู้มีความหลากหมายทางเพศมากขึ้น จึงมีหลายประเทศอนุญาตให้คนกลุ่มนี้แต่งงานกันได้แล้ว ที่รัฐไมอามีประเทศสหรัฐอเมริกาก็ให้กลุ่มรักร่วมเพศแต่งงานกันได้ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา แต่พอครูสาวในรัฐนั้นแต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกัน เธอก็ถูกทางโรงเรียนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ทันที โดยอ้างว่าขัดต่อความเชื่อของคาธอลิก อดีตครูสาว Jocelyn Morffi สาว Jocelyn Morffi อาศัยอยู่ในรัฐไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอสอนหนังสือให้นักเรียนเกรด 1 (เทียบเท่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1) ในโรงเรียนคาธอลิก Saints Peter and Paul Catholic School มา 7 ปีแล้ว เธอเป็นคุณครูที่มีความสามารถและมีจิตใจดี เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รัก Natasha Hass ที่หาด Florida Keys ในรัฐฟลอริด้า ทั้งคู่มีความสุขกันมาก แต่เมื่อเธอกลับมาทำงานทางโรงเรียนก็ไล่เธอออกโดยไม่บอกเหตุผล เธอเพิ่งแต่งงานกับคู่รักไปเมื่อไม่นานนี้ เธอจึงโพสต์เล่าเรื่องราวลงในโซเชียลมีเดียว่า “เมื่อสุดสัปดาห์นี้ฉันเพิ่งแต่งงานกับคู่ชีวิตไป แต่โชคร้ายที่การแต่งงานครั้งนี้ทำให้ฉันถูกไล่ออก ในสายตาของพวกเขาฉันเลือกคู่ชีวิตที่ไม่ตรงตามความเชื่อของคาธอลิก …” โพสต์ของครูสาวหลังจากเธอโดนไล่ออก นอกจากตัวเธอเองแล้ว ผู้ปกครองหลายคนก็ได้รับจดหมายแจ้งข่าวจากทางโรงเรียนถึงการไล่ครูสาวออกเช่นกัน ผู้ปกครองส่วนมากรู้สึกไม่พอใจเลยกับการตัดสินใจของทางโรงเรียน เพราะในจดหมายไม่ได้แจ้งเหตุผลที่หนักแน่นพอให้ไล่เธอออก ในจดหมายมีใจความว่า…
-
โรงเรียนในญี่ปุ่นสนับสนุน LGBT เปิดให้นักเรียนแต่งยูนิฟอร์มไม่ตรงเพศกำเนิดได้
ปัจจุบันโลกของเราเปิดรับกระแส LGBT หรือก็คือกลุ่มคนที่เพศไม่ตรงเพศกำเนิดมากกว่าแต่ก่อนมาก ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของประเทศเรา ก็อนุญาตให้บัณฑิตที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศแต่งชุดบัณฑิตผู้หญิงมารับปริญญาได้แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีความเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนกลุ่ม LGBT เช่นกัน โดยโรงเรียน Kashiwanoha Middle School ได้อนุญาตให้นักเรียนชั้นมัธยมต้นทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศใด แต่งกายชุดนักเรียนของผู้ชายหรือผู้หญิงมาโรงเรียนก็ได้ โรงเรียนที่ว่านี้อยู่ในเมืองคาชิวะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นมาจากโรงเรียน Kashiwanoha Elementary School ที่เปิดเมื่อปี 2012 โดยมีการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนในชั้นประถมศึกษาเท่านั้น ในปีนี้นักเรียนกลุ่มแรกที่เข้าเรียนก็กำลังจะจบชั้นประถมศึกษา และเพื่อรองรับนักเรียนเข้ามาเรียนในชั้นมัธยมศึกษาต่อ จึงได้สร้างโรงเรียนมัธยม Kashiwanoha Middle School ขึ้นมา ความพิเศษของโรงเรียนนี้ก็คือการให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษา ใช้สระว่ายน้ำและโรงอาหารร่วมกันและยังข้ามไปใช้ตึกเรียนร่วมกันด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับนักเรียนประถมก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในระดับมัธยมนั่นเอง แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนที่กำลังจะเข้าศึกษาในระดับมัธยม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถเลือกใส่ชุดนักเรียนของอีกเพศหนึ่งได้ตามความสบายใจของนักเรียนเองเลย ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวคิดเรื่องการเปิดรับ LGBT ที่มีมากขึ้นนั่นเอง ในตอนแรกทางโรงเรียนอยากจะให้นักเรียนแต่งชุดอะไรมาเรียนก็ได้ด้วยซ้ำ ทว่าทางด้านผู้ปกครองกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มีความต้องการให้ลูกของตนสวมใส่ชุดนักเรียน ทางโรงเรียนจึงทำตามความต้องการนั้นนั่นเอง บุคลากรที่โรงเรียนเองก็พยายามเลือกชุดที่ดูเป็นกลางมากที่สุดเพื่อไม่ให้ชุดดูค่อนไปทางเพศใดเพศหนึ่งมากเกินไป จึงไม่ได้ใช้ชุดนักเรียนกะลาสีที่มีความเป็นผู้หญิง และชุดเสื้อแจ็คเก็ตคอตรงที่ดูมีความเป็นผู้ชาย สุดท้ายจึงเลือกใช้เสื้อเชิ๊ตสีขาวแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตแทน นักเรียนสามารถเลือกที่จะใส่กางเกงสแล็กหรือกระโปรงได้ตามใจชอบ และก็สามารถเลือกที่จะผูกคอเสื้อด้วยเนกไทหรือโบว์ก็ได้เช่นกัน แม้ว่าโรงเรียนบางแห่งจะให้นักเรียนหญิงผูกเนกไทได้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีโรงเรียนไหนอนุญาตให้ผู้ชายผูกโบมาก่อนเลย ทางโรงเรียนหวังว่ากฎระเบียบการแต่งกายแบบใหม่นี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างเพศ และเพิ่มความสบายใจในการแต่งตัวให้กับนักเรียนทุกคนได้ พวกเขาจะได้มาโรงเรียนด้วยความรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย…
-
ทหารแต่งงาน ณ West Point ความเท่าเทียมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเพศอะไรมันก็คือความรัก
ในขณะนี้โลกของเรากำลังหมุนไปเรื่อยๆ การรักร่วมเพศจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป และในบางพื้นที่ การจัดงานแต่งงานก็ถือเป็นการประกาศชัยชนะที่พวกเขาเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานานเช่นกัน นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องของทหาร LGBT 2 นายในสหรัฐ ที่แต่งงานกันในโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งว่ากันว่านี่อาจเป็นงานแต่งงานของกลุ่ม LGBT ครั้งแรกที่มีการจัดขี้นภายในโรงเรียนเตรียมทหารเลยก็ว่าได้ ทหาร 2 นายที่เราพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Daniel Hall วัย 30 ปี และ Vincent Franchino วัย 26 ปี พวกเขาเล่าว่าพบกันครั้งแรกระหว่างออกปฏิบัติภารกิจในปี 2009 ในช่วงแรกพวกเขาต้องอดทนกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะเนื่องจากเป็นความรักร่วมเพศจึงถูกสั่งห้ามแสดงออกทั้งคำพูดและความรู้สึกใดๆ ให้คนอื่นเห็น และยังต้องกังวลกับสายตาจากคนรอบข้างอีก สาเหตุที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเรื่องต้องห้ามในค่ายทหารก็เป็นเพราะคำสั่งของ Bill Clinton ที่เคยออกกฎห้ามมีการรักร่วมเพศไว้ในปี 1993 “พวกเราทำตามกฎเกณฑ์ทุกอย่างที่ถูกสั่ง พวกเราเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ทหารเรือที่สมบูรณ์แบบ เพื่อโกหกความรู้สึกจริงๆ ของพวกเรา” Daniel กล่าวเชิงตัดพ้อ …
-
เจ้าชายอินเดียยินดีเปิดราชวัง เพื่อต้อนรับชาว LGBT ท่ามกลางสังคมที่ไม่ยินดีกับสิ่งที่พระองค์คิด
ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นเกิดมาคู่กัน กลุ่มคนรักร่วมเพศนั้นมีความผิด นอกจากนี้คำสอนของศาสนาฮินดูและศาสนาคริสต์ที่พวกเขานับถือ ก็ระบุเช่นกันว่าพวกรักร่วมเพศนั้นเป็นคนบาป กลุ่มคนรักร่วมเพศในประเทศอินเดีย จึงไม่ได้รับการยอมรับ เมื่อคนอื่นรู้ว่าคุณเป็นคนรักร่วมเพศ ก็อาจจะถูกขับไล่ออกจากครอบครัว และกีดกันจากการหางานด้วย ประเทศอินเดียต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศถึงขนาดออกกฎหมายว่าการร่วมเพศกันของพวกรักร่วมเพศเป็นความผิดอาญาเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรักร่วมเพศในประเทศอินเดียก็ยังคงเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันอยู่เรื่อยมา และภายในกลุ่มนั้นก็ยังมีคนใหญ่คนโตอย่างเจ้าชาย Manvendra Singh Gohil คอยสนับสนุนคนรักร่วมเพศอยู่ด้วย เจ้าชาย Manvendra Singh Gohil Gohil เป็นเจ้าชายเพียงคนเดียวที่ออกมาเปิดเผยว่าตนเองมีรสนิยมรักร่วมเพศ เขาเป็นเจ้าชายของเมือง Rajpipla รัฐ Gujarat ประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีพระชนมายุ 52 พรรษา พระองค์เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมาต่อสู้เพื่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ และให้ความสนับสนุนเท่าที่จะทำได้ ล่าสุดก็ได้ออกมาบอกว่าจะเปิดพระราชวังของพระองค์เอง ให้คนเหล่าคนรักร่วมเพศที่ไม่มีที่ไป มาอาศัยอยู่ด้วย พระองค์ตรัสถึงปัญหาของกลุ่มคนรักร่วมเพศว่า “คนรักร่วมเพศที่ออกมาเปิดเผยตัวเอง ยังคงต้องรับแรงกดดันจากครอบครัวอยู่ บางคนก็ถูกบังคับให้แต่งงาน หรือบางคนก็ถูกไล่ออกจากบ้านไปเลย คนพวกนี้มักจะไม่มีที่ไป และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้” เจ้าชายจึงจะมอบห้องพัก การรักษา และชั้นเรียนฝึกฝนภาษาอังกฤษให้กับผู้ที่จะมาอาศัยอยู่ โดยหวังว่าชั้นเรียนภาษาจะช่วยให้พวกเขาหางานได้ง่ายขึ้น แล้วบอกว่า “ยังไงผมก็ไม่มีลูกอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่า…
-
หนุ่มรวบรวมความกล้า สารภาพกับแม่ว่าตัวเองเป็นเกย์ สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างงดงามเหลือเกิน
แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีการยอมรับกลุ่มคนรักร่วมเพศมากขึ้น ให้พวกเขาสามารถอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดเผยรสนิยมส่วนตัวออกมา นั่นก็คือครอบครัวนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโดยปกติแล้ว หากบ้านไหนมีลูกชาย ก็คงจะคาดหวังให้เขาแต่งงานและมีลูกมาสืบสกุล หรือถ้ามีลูกสาวก็หวังจะได้เห็นพวกเธอมีแฟนหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ดังนั้นการเปิดเผยตัวจนว่าชอบเพศเดียวกัน จึงอาจเป็นการทำลายความคาดหวังของครอบครัวตนเอง แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อและคุณแม่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะพ่อแม่มักจะใส่ใจและคอยสังเกตลูกอยู่เสมอ ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมความกล้าเข้าไปพูดคุยกับพวกเขา อาจจะพบว่าพ่อและแม่นั้นพร้อมจะคอยอยู่เคียงข้างเราทุกเมื่อ เหมือนในคลิปที่เราจะนำเสนอนี้ เพจ Humankind Stories ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งลงในเฟซบุ๊ก เป็นเรื่องราวของลูกชายที่พยายามจะบอกให้แม่รู้ว่าตนเองชอบเพศเดียวกัน โดยคลิปวิดีโอสะท้อนถึงภาพของพ่อแม่ที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ลูกได้เป็นอย่างดี ในตอนแรกนั้นลูกชายตัวลูกชายรวบรวมความกล้าที่จะบอกกับแม่ไม่ได้ ตัวคุณแม่เห็นดังนั้น จึงพยายามให้ความช่วยเหลือลูก โดยเป็นคนเปิดบทสนทนาเองเสียเลย “แม่: มีอะไรจะบอกกับแม่เหรอ” “ลูก: คือว่า … เอ่อ …” “แม่: … ลูกจะบอกแม่ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แม่รู้อยู่แล้วล่ะ แม่เข้าใจลูกนะ” “ลูก: ฮือ แม่ผมขอโทษ” “แม่: ไม่ต้องขอโทษหรอก ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด แม่รักลูกเสมอนะ” เธอยังอธิบายให้ลูกฟังได้ดีอีกด้วยว่า ทำไมพ่อแม่ทั่วไปถึงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเกลียดเกย์หรอก แต่พวกเขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชีวิตที่ลำบากต่างหาก “แม่แค่ไม่อยากให้ลูกต้องใช้ชีวิตลำบาก…
-
เค้กสุดฟรุ้งฟริ้ง เพื่องานหมั้นของชาว LGBT จะทำให้คุณเข้าใจใน “เพศทางเลือก” มากยิ่งขึ้น…
ขณะนี้คู่รักร่วมเพศในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็สามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้แล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีข่าวแว่วมาอยู่บ้าง ว่าร้านเบเกอรี่หลายแห่ง กลับปฏิเสธที่จะทำเค้กให้กับคู่รักเพศเดียวกันซะอย่างนั้น คู่รักร่วมเพศจึงยังต้องดิ้นรนเพื่อสิทธิของพวกเขาในส่วนนี้ต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าร้านเค้กทุกร้านจะปฏิเสธทำเค้กให้พวกเขาหรอกนะ บางร้านกลับรู้สึกกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะทำเค้กให้ด้วยซ้ำไป ร้านเค้ก Cake and Loft Bakery เองก็เป็นหนึ่งในร้านค้าเหล่านั้น แถมยังทำเค้กออกมาได้อลังการงานสร้างมาก เรื่องนี้เริ่มต้นจากคู่รักร่วมเพศคู่หนึ่งในเมืองฮามิลตัน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา พวกเขาคือ Chris Farias และ Jared Lenover ทั้งคู่ได้หมั้นกันมาหนึ่งปีแล้ว และต้องการจะฉลองวันครบรอบครั้งนี้ โดยทั้งคู่ต้องการเค้กที่แสดงถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศแคนาดานั้นเปิดรับและยอมรับถึงความแตกต่างในรสนิยมอย่างเต็มที่ ผมต้องการให้เค้กของผมสื่อถึงความเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ” จึงได้สั่งเค้กจากร้าน Cake and Loft Bakery ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทางร้านเค้กเองเมื่อได้ยินว่าพวกเขาต้องการเค้กแบบไหน ก็ตบปากตบคำรับทำให้ด้วยความเต็มใจทันที Chris Farias และ Jared Lenover Quinn Pallister พนักงานสาวที่เป็นคนรับผิดชอบทำเค้กชิ้นนี้ ก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยคู่รักร่วมเพศหญิงเช่นกัน การได้ทำเค้กชิ้นนี้จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ทำเค้กให้กับแค่คู่รักที่สั่งเท่านั้น แต่เธอยังได้ทำเค้กเฉลิมฉลองให้กับแม่ทั้งสองของเธอ และสังคมคู่รักร่วมเพศทั้งหมดด้วย เธอจึงได้ทุ่มเทความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อทำเค้กชิ้นนี้ และสิ่งที่ได้ออกมาก็คือ เค้กเจ็ดสีแสนสดใส ประดับด้วยช่อดอกไม้หลากสี เพิ่มเติมความฟรุ้งฟริ้งด้วยเขายูนิคอร์นสูงสง่าตั้งตรงกลางเค้ก…
-
ช่างภาพสาวสุดเซ็ง ถูกปัดงานถ่ายภาพช่วงคลอด เพราะลูกค้า ‘ไม่อยากให้ลูกคลอดมาผิดเพศ’
Faith Grace ช่างภาพสาวอายุ 21 ปี ผู้ที่มีความชื่นชอบการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก เธอได้ใช้ความชื่นชอบของเธอมาเป็นอาชีพเพื่อหารายได้นั่นก็คือการรับจ้างถ่ายรูปตามโอกาสสำคัญต่างๆ แต่ชีวิตในการทำงานของเธอก็ต้องมาเจอกับเรื่องราวที่เธอรู้สึกว่า เธอจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว โดย Faith ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ มันเป็นเรื่องที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต และหวังว่าหลายๆ คนอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะอธิบาย เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจากที่ช่างภาพสาวได้รับการติดต่อจากหญิงที่ชื่อว่า McKenna ติดต่อเข้ามาเพื่อจะว่าจ้างให้เธอไปถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญนั่นก็คือการคลอดลูก ซึ่งหลังจากที่ได้ตกลงกันเสร็จสรรพ ช่างภาพสาวก็ได้เตรียมตัวล็อกคิวไว้เพื่อจะไปบันทึกภาพในช่วงเวลาสุดแสนพิเศษของคุณแม่ท่านนี้ วันรุ่งขึ้นเธอก็ได้รับข้อความจากคุณลูกค้าคนเดิม แต่เนื้อหาข้อความทำให้เธอโมโหจนปรี๊ดแตกและยังคงสงสัยว่า นี่มันยุคไหนกันแล้วนี่ เนื้อหาข้อความบอกว่า “สวัสดี Faith ฉัน McKenna ที่ติดต่อเธอไปเมื่อคืนนะ คือว่าฉันเพิ่งจะเข้าไปค้นหาข้อมูลและดูตัวอย่างรูปภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณ แต่สิ่งที่ฉันเจอคือคุณได้โพสต์รูปภาพ Pride Flag (ธงหลากสี สะท้อนความหลากหลายทางเพศ) ฉันเลยมีคำถามว่า คุณเป็นเกย์หรือว่าคุณมีคนในครอบครัวเป็นเกย์มั้ย?” ทางช่างภาพสาวก็ได้ตอบกลับไปว่า “สวัสดี McKenna ขอบคุณที่สนใจ แต่ไม่มีใครในครอบครัวของฉันที่เป็นเกย์ แต่ฉันเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงมี Pride Flag ในไอจีของฉัน” ทางคุณลูกค้าก็ได้ตอบกลับมาทันทีว่า “จ้า…
-
Jaimie Wilson ชายข้ามเพศแชร์ภาพในอดีตและปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย
Jaimie Wilson ชาวเมือง Ann Arbor รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้มีพรสวรรค์ในเรื่องของศิลปะ เขาเป็นนักดนตรีและดีเจที่กำลังประสบความสำเร็จ ด้วยวัยเพียง 21 ปีเพียงเท่านั้น ดูภายนอกเขาก็คงจะเหมือนกับชายหนุ่มทั่วไปที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดนตรีแล้วประสบความสำเร็จ แต่รู้หรือไม่ว่าเขานั้นไม่ใช่ผู้ชายแท้ๆ เขาคือชายข้ามเพศผู้ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายสิ่งหลายอย่างก่อนที่จะมาถึงจุดจุดนี้ได้ เขาได้ออกมาเล่าเรื่องราวของชีวิตอันแสนจะสุดทรหดของเขา เริ่มมาจากที่เขาเกิดในครอบครัวที่ออกแนวอนุรักษนิยมและหัวโบราณมากๆ ทางครอบครัวค่อนข้างที่จะแอนตี้เรื่องการข้ามเพศ และเขาก็ถูกสั่งสอนให้อยู่ในระเบียบกฎเกณฑ์เสมอมา พอก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น Jaime ก็เริ่มรู้สึกว่าสภาพจิตใจของเขานั้นไม่ใช่ผู้หญิงตามสภาพร่างกายที่เป็นอยู่เมื่อเขาอายุได้ 15 ปี แต่ก็ต้องเก็บซ่อนความเป็นตัวตนของเขาเอาไว้ไม่ให้ทางครอบครัวรู้ . แต่เมื่อเขาอายุ 18 ปี เขาก็เริ่มที่จะเก็บความเป็นตัวตนที่แท้จริงไม่ไหว เขาก้าวเข้าสู่ชีวิตในช่วงมหาวิทยาลัยและได้ออกมาเผชิญกับโลกภายนอกและเริ่มรู้สึกว่าการได้อยู่คนเดียว เขาสามารถจะแต่งตัวและเป็นตัวของตัวเองได้ตามอย่างที่ต้องการ เขาเริ่มค้นหาตัวเองและพบว่าสิ่งที่เขาชื่นชอบมากที่สุดนั่นก็คือ ดนตรี มันเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาและทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับมัน เขาเริ่มเดินตามทางชีวิตของตัวเองด้วยการเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองให้เป็นตามเพศที่เขาอยากจะเป็นด้วยการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายในร่างกายและปรับบุคลิกภาพให้เป็นผู้ชายอย่างเต็มตัว แน่นอนว่าทางครอบครัวของเขาจะต้องแอนตี้เรื่องนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดูเศร้าเมื่อเขาถูกครอบครัวตัดขาดเพราะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นไม่ได้ มันรู้สึกเหมือนกับเขาสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปเพียงเพราะสิ่งที่เขาเป็น แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะถูกตัดขาดจากครอบครัวแต่เขาก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดครอบครัวของเขาเลย และหวังว่าสักวันหนึ่งครอบครัวจะยอมรับเรื่องนี้ได้และกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ว่าเขาก็ยังมีครอบครัวชาว LGBT คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ .…
-
Justin Trudeau หลั่งน้ำตาขอโทษกลุ่มข้าราชการ LGBT หลังเคยได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม…
ในปัจจุบันกลุ่มคนรักร่วมเพศนั้นเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น แต่หากมองย้อนกลับไปในอดีตแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ถูกกดขี่จากสังคมรอบตัวอย่างมาก ทำให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศแคนาดาได้เล็งเห็นถึงความน่าละอายใจที่เราเคยปฏิบัติไม่ดีต่อพวกเขา จึงได้ออกมาทำบางสิ่งเพื่อชดเชยความผิดนี้f เนื่องจากในช่วงทศวรรษที่ 1950 – 1990 รัฐบาลของแคนาดามีนโยบายกวาดล้างข้าราชการและทหารที่เป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ โดยทำการไล่ออกหรือบังคับให้พวกเขาต้องลาออกจากงาน ด้วยข้ออ้างว่าพวกเขาเป็นบุคคลมีปัญหาทางจิตและผิดเพศ กลุ่มคนที่เป็นผู้เสียหายจากการกวาดล้างของรัฐบาลในเวลานั้น รวมแล้วมีจำนวนถึงหลายพันคน พวกเขาต้องขาดรายได้ที่ควรจะมี หรือไม่มีสิทธิ์ทำงานที่พวกเขาต้องการ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน นายกคนปัจจุบันคือนาย Justin Trudeau จึงได้ออกมากล่าวขอโทษต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศ ที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไม่เป็นธรรม เขากล่าวต่อหน้าสื่อทั้งน้ำตาว่า “ที่ผมมาวันนี้ เพราะต้องการมาขอโทษต่อความผิดอันน่าละอายใจที่เราเคยทำต่อพวกคุณ พวกเราทำผิดไปแล้ว พวกเราขอโทษด้วยและอยากให้พวกคุณรู้ว่าเราเสียใจที่ทำแบบนั้น” “พวกเราทุกคนมีล้วนความผิดที่ทำให้พวกคุณถูกเลือกปฏิบัติ และก็เป็นความผิดของเราทุกคนเช่นกันที่พวกคุณเพิ่งได้รับคำขอโทษจากเราเอาป่านนี้ แม้ว่าหลายคนจะไม่มีชีวิตอยู่ทันฟังมัน อย่างน้อยก็อยากให้รับรู้ว่าเรารู้สึกผิดจากเบื้องลึกของหัวใจ” “เราขอสัญญาว่าจะดำเนินการในทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดไปให้ถูกต้อง และขอให้พวกคุณเชื่อใจเรา แล้วเราจะทำให้พูดคุณแน่ใจเองว่าจะไม่มีระบบผิดๆ นี้อยู่อีกต่อไป กลุ่มคนรักร่วมเพศในแคนาดาจะไม่ถูกเหยียดหยามและกดขี่อีกแน่นอน” คลิปการให้คำแถลงการณ์ขอโทษจาก Justin Trudeau การกระทำของ Justin Trudeau ได้รับการชื่นชมและยกย่องจากประชาชนทั่วโลก ที่เขากล้ามาเป็นตัวแทนขอโทษในสิ่งที่ทุกคนไม่มีใครกล้าออกมาพูดอย่างเปิดเผยจนถึงวันนี้ เราทุกคนควรระลึกอยู่เสมอว่าทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่การความชอบและรสนิยมตรงกัน แต่อยู่ที่คุณธรรมและจริยธรรมในจิตใจต่างหาก ที่มา: CBC, Fortune, postjung, Maclean’s
-
นักการเมืองต่อต้าน LGBT ลาออกจากตำแหน่ง หลังมีหลักฐานฉาวมีเซ็กส์กับชายในออฟฟิศ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการเผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์ Ladbible ว่า นาย Wes Goodman ได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขามีข่าวอื้อฉาวเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านี้นาย Goodman เคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเป็นนักการเมืองผู้ต่อต้าน LGBT (หรือก็คือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) แต่เขากลับถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งในสำนักงานรัฐ และนั่นจึงทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งงานที่ทำอยู่ Wes Goodman นักการเมืองผู้ลาออกไปหลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว Cliff Rosenburg ตัวแทนสำนักงานรัฐดังกล่าวได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ามีการคุยกับนักการเมืองคนนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์พฤติกรรมอันไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น และหลังจากผ่านไปไม่กี่วันนาย Goodman ก็ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งนั้น นักการเมืองผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ถูกเลือกเข้ามาทำงานในรัฐโอไฮโอเมื่อปี 2016 หลังจากที่เขาทำงานให้กับ Jim Jordan ผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้งสองคนนี้แสดงจุดยืนในลักษณะเดียวกันนั่นก็คือต่อต้านเรื่องของความหลากหลายทางเพศ ในเว็บไซต์หรือทวิตเตอร์ของ Goodman แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนยึดคติในเรื่องค่านิยมของครอบครัว เขาเคยพูดเอาไว้ว่า “ความรักของพ่อและแม่ในอุดมคติ การแต่งงานแบบธรรมชาติที่มีแค่ผู้ชายแต่งกับผู้หญิง และการเอาใจใส่ของคนในสังคม เป็นสิ่งที่ควรติดตามและปกป้องเอาไว้” Bethany ภรรยาของเขาก็มีบทบาทสำคัญในสังคม เธอคือหนึ่งในแกนนำหลักที่ต่อต้านการทำแท้งที่เดินประท้วงกันทุกๆ ปีภายใต้ชื่อ March for…
-
แก๊งนักกีฬาพายเรือรวมตัวถ่ายภาพหวิว หารายได้สมทบทุนองค์กรการกุศลเพื่อ LGBT
หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นคำว่า LGBT แล้วสงสัยไหมว่าคำๆ นี้คืออะไร จริงๆ แล้ว LGBT คือตัวย่อของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งย่อมาจาก Lesbian (เลสเบี้ยน), Gay (เกย์), Bisexual (ไบเซ็กชวล), Transsexual (คนข้ามเพศ) ซึ่งในปัจจุบันกลุ่ม LGBT ได้มีการยอมรับมากยิ่งขึ้น ผิดจากในอดีต ซึ่งชาว LGBT ก็ได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาเป็น สามารถทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นและไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร “Warwick Rowers” กลุ่มนักกีฬาพายเรือ ได้ริเริ่มโครงการระดมทุนและรณรงค์สร้างความตระหนักต่อความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมทางเพศในกีฬามาตั้งแต่ปี 2009 โดยพวกเขาได้ถ่ายภาพลงปฏิทินแบบวาบหวิว เพื่อหาเงินเข้ากองทุนแล้วนำเงินที่ได้ไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์ต่างๆ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก ปฏิทิน Warwick Rowers เป็นปฏิทินที่ประกอบด้วยภาพสุดสยิวจากนักกีฬาพายเรือในสังกัด ถ่ายทำโดย Angus Malcolm โดยที่ปฏิทินมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 447 บาทไปจนถึงหนังสือภาพราคา 11,190 บาท ซึ่งรายได้ทั้งหมดก็จะนำไปใช้เพื่อการกุศล ภาพที่ถ่ายมาทั้งหมดไม่ได้สื่อความหมายในทางอนาจารแต่อย่างใด…
-
ชมหนังสั้นสไตล์ Pixar เล่าเรื่องราวความรักของเด็กที่เป็น LGBT งดงามสมกับเป็น “ความรัก”
ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นในรูปแบบไหนก็มีความสวยงามเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่มีความหลากหลายทางเพศเช่นนี้ แม้จะยากลำบากแต่มันก็คุ้มค่ากับการทำตามเสียงเรียกของใจ และนี่คือ In a Heartbeat หนังสั้นเรื่องใหม่มาในแนวแอนิมเชั่นแบบ Pixar เป็นการเล่าเรื่องราวเส้นทางความรักของ LGBT ที่อาจจะไม่ง่ายแต่มันก็เป็นรักที่สวยงาม In a Heartbeat จัดทำขึ้นโดย Beth David และ Esteban Bravo นักเรียนจาก Ringling College of Art and Design ซึ่งทำเป็นโปรเจคจบ แต่มันมีความหมายมากกว่าการเรียนเท่านั้น หนังสั้นเรื่องนี้มีความยาวเพียง 4 นาทีเท่านั้น เป็นการนำประสบการณ์ความรักของ LGBT มาทำเป็นแอนิเมชั่น ที่แสดงให้เห็นว่าความรักไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม หนังสั้น 4 นาที ที่ควรค่าแก่การดู เนื้อเรื่องของ In a Heartbeat เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักเพื่อนชายจนไม่อาจห้ามความรู้สึกเอาไว้ได้ เขาพยายามจะฝืนตัวเอง แต่หัวใจของเขากลับเรียกร้องหาเพื่อนคนนั้นตลอดเวลา หนังสั้นดังกล่าวนี้ประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดหวังไว้ถึง 5 เท่า เพราะนับตั้งแต่เรื่องนี้ถูกโพสต์ลงในยูทูปก็มีคนเข้าดูกว่า 5 ล้านครั้ง และทุกคนก็ประทับใจเรื่องนี้มาก In…
-
Andrew Garfield เปิดเผยตัวว่าตัวเองอาจจะเป็นเกย์ แต่ไม่ถึงขั้นอยากมีอะไรกับผู้ชาย!!!
งานนี้เรียกว่าสาวๆ หลายคนที่เป็นแฟนพ่อหนุ่มสไปดี้คนที่สองคนนี้ต้องอกสั่นขวัญแขวนกันไปตามกันๆ หลังจากที่ล่าสุด Andrew Garfield ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า เขารู้สึกว่าตัวเองมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเกย์ เรื่องในครั้งนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อหนุ่ม Andrew กำลังอินกับบทนำใน Angels in America ละครเวทีเรื่องล่าสุดที่ไปแสดงมาหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วตัวเขาเป็นเกย์แต่แรก แต่ที่รู้แน่ๆ คือเขาได้ออกมาเปิดอกพูดกับนิตยสาร Gay Times เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาได้บอกว่า “ผมรู้สึกว่าตัวผมอาจจะเป็นเกย์นะ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแบบจริงจังหรือรู้สึกอยากมีอะไรกับผู้ชาย แต่ก็รู้สึกได้เหมือนกันว่าน่าจะใช่แน่ๆ” ยังไม่หมดเท่านั้น Andrew ยังเล่าถึงเบื้องหลังจากการพักกองอีกว่า “ในช่วงพักการแสดงทุกๆ วันอาทิตย์ผมและเพื่อนๆ ก็มักจะไปดู RuPaul’s Drag Race กันอยู่เสมอ ซึ่งในตอนแรกผมก็ไปดูเพื่อช่วยให้บทการแสดงของผมดีขึ้น” สุดท้ายในบทสัมภาษณ์เขาก็พูดปิดท้ายว่า “ผมอาจจะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นนะว่าผมเป็นเกย์จริงๆ ไหม แต่ผมก็เปิดรับในเรื่องของการรักเพศเดียวกันนะ ตอนนี้ผมโอเคกับสิ่งที่เป็นอยู่และยังไม่คิดถึงขั้นมีอะไรกับผู้ชายหรือคบกันใครจริงจัง” “บางทีบางส่วนนั้นในตัวผมอาจจะตื่นขึ้นมาในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตผมก็ได้ ผมมั่นใจว่ามันจะต้องสวยงามอย่างแน่นอน และผมก็จะสำรวจพร้อมกับทำความเข้าใจในส่วนนั้นที่ผมพึ่งจะค้นพบมัน” แม้ว่าเขาพึ่งจะยอมรับการเป็นเกย์ แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ให้การสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ มาเป็นเวลานานแล้ว รวมถึงยังสนับสนุนการแต่งงานของเพศเดียวกันด้วย เขายังถามกลับอีกว่าถ้าเขาเป็นเกย์จริงๆ มันจะหมายความว่า Spider-Man…
-
Justin Trudeau ร่วมเดินพาเหรด LGBT พร้อมแตะมือกับสาวน้อย เล่นเอาชาวเน็ตรุมอิจฉา
ถ้าให้พูดถึงนักการเมืองที่หล่อพอจะเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่ Justin Trudeau ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดา ก็คงจะเป็นชื่อแรกที่โผลขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน ด้วยความที่ว่าพ่อนายกคนนี้มีหมาดที่หล่อเหลาเอาการสุดๆ และยังดูเป็นมิตรกับประชาชนมากๆ ซึ่งล่าสุดเขายังได้คะแนนเสียงจากกลุ่มคนที่เป็น LGBT อีกด้วย เพราะได้เขาได้ไปเดินขบวน Pride March เพื่อยืนยันจุดยืนว่าเขาสนับสนุนคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ ไม่จบแค่นั้น ในวันงานเพียงวันเดียว Adam Scotti ผู้เป็นช่างภาพประจำตัวของ Justin ก็ได้เก็บภาพความประทับใจของเขาได้มากมายเลยทีเดียว แต่ที่จะกินใจมากที่สุดก็คงจะเป็นช็อตที่ตัว Justin ได้ไปแตะมือกับสาวน้อยผู้แต่งตัวเป็น Wonder Woman พร้อมกับใส่ถุงเท้าที่มีลายสีรุ่ง ช็อตเดียวได้คะแนนเสียงไปเต็มๆ เลยนะเนี่ยท่านนายก ยัง.. มันยังไม่หมดแค่นั้น ถุงเท้าที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สีรุ้งเพื่อใช้ในการร่วมขบวนพาเหรดเท่านั้น แต่ตัวถุงเท้ายังมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า Eid Mubarak ซึ่งเป็นคำที่ไว้เฉลิมฉลองในวันเราะมะฎอน เรียกว่านอกจากได้ใจกลุ่ม LGBT แล้วยังได้ใจชาวอิสลามอีก มันยังไม่พอ ความเอาใจใส่ของพี่ Justin ยังมีอีก เขาได้เพ้นท์ใบหน้าด้วยรูปใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติแคนาดา แต่เปลี่ยนเป็นสีรุ่งซึ่งเป็นธงประจำกลุ่ม LGBT อะไรมันจะเก็บรายละเอียดเอาใจคนทุกกลุ่มขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพี่แกตั้งใจหรือว่าฝ่ายคอสตูมดูแลมาอย่างดีกันแน่นะ ถึงทำให้การออกงานครั้งเดียวแต่ได้ใจทุกกลุ่มแบบนี้ . . แต่ที่รู้ๆ คือพี่จะหล่อไปไหนเนี่ย ยอมใจจริงๆ<3…
-
17 พ่อแม่ผู้สนับสนุนลูกที่เป็น LGBT และร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้อง ให้เกิดการยอมรับในสังคม
ในอดีตชาว LGBT ส่วนใหญ่มักจะไม่รับการยอมรับจากพ่อแม่ เพราะสังคมไม่ค่อยเปิดกว้างในเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันนี้จะเห็นว่าพ่อแม่หลายๆ คน ไม่ใช่แค่ยอมรับ แต่ยังสนับสนุนในสิ่งที่ลูกเป็นด้วย จะเห็นได้ชัดจากการเดินรณรงค์จากลอสแอนเจลิสไปยังวอชิงตัน ดี.ซี. ในเดือนแห่ง Pride เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBT ซึ่งไม่ได้มีแค่วัยรุ่นรักร่วมเพศเท่านั้น แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็มาร่วมเดินด้วย พวกเขาเหล่านี้คือพ่อแม่ที่ภูมิใจกับสิ่งที่ลูกเป็นและอยากให้สังคมให้การยอมรับความหลากหลายทางเพศด้วยเช่นกัน คุณแม่คนหนึ่งบอกว่า “วันนี้ฉันมาเดินขบวนกับลูกค่ะ เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขาและร่วมเดินขบวนไปด้วยกันจนกว่าสังคมจะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นค่ะ” ปล. Pride คือการเดินขบวนอย่างสันติเพื่อต่อต้านการแบ่งแยกและทำร้ายร่างกายชาวเพศทางเลือก 1. พ่อรวมเดินขบวนกับลูกที่เป็น LGBT 2. แม่วาดรูปเป็นสีรุ้งให้ลูก เพื่อบอกว่าเธอสนับสนุนในสิ่งที่ลูกเป็น 3. สุดยอดคุณพ่อมาเดินกับลูกเพื่อรณรงค์ให้ยอมรับ LGBT 4. คนแก่ไม่ใช่หัวโบราณอย่างที่คิด ดูอย่างคุณยายคนนี้สิยังสนับสนุนลูกที่เป็นเลสเบี้ยนเลย 5. แม่ชูป้ายด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่ลูกเป็น 6. แม่ร่วมฉลองวัน LGBT 7. เห็นพ่อหน้าโหดแบบนี้ แต่อาสาพาลูกสาวไปเดินขบวนกับ LGBT ด้วยตัวเองเลยนะ 8. ครอบครัวจัดฉลองให้ลูกในวันแห่ง Pride …
-
23 ความประทับใจ จากงานแต่งงานของ ‘คนรักร่วมเพศ’ บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความสุข
หลายๆ คนก็คงใฝ่ฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งจะต้อง ‘แต่งงาน’ และสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันโลกของเราก็ได้เกิดการยอมรับและเปิดกว้างในเรื่องของรสนิยมทางเพศกันมากขึ้น จึงทำให้ครอบครัวไม่ได้จำกัดว่าจะต้องถูกสร้างขึ้นมาโดย หญิง-ชาย อีกต่อไป สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพงานแต่งงานของเหล่าคนรักร่วมเพศ ที่อบอวลไปด้วยความรัก และความสุข ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ 1. สองคู่รักเลสเบี้ยนที่ตัดสินใจแต่งงานกันแม้จะอายุมากแล้วก็ตาม 2. สายตาแห่งความปลื้มปิติ 3. ชุดแต่งงานโทนสีขาวและดำ ที่ดูแล้วสะดุดตาเหลือเกิน 4. ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่อบอวลไปด้วยความสุข 5. สองคุณปู่ที่ดูแล้วแฮปปี้สุดๆ 6. ช่างเป็นภาพที่สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีจริงๆ 7. ชีวิตรักที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน 8. ความโรแมนติก 9. ดื่มด่ำไปกับความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน 10. ยินดีกับครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น 11. รอยยิ้มแห่งความสุข 12. ความสดใสที่ไม่มีสิ้นสุด 13. แหม่…
-
เหล่าบัณฑิตแห่เดินออกจากพิธีจบฯ หลังรู้ว่าผู้กล่าวสุนทรพจน์ เป็นพวกต่อต้านรักร่วมเพศ!!
ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2017 กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนมากมาย ในงานพิธีจบการศึกษาของมหาวิทยาลัยนอเตอร์เดม รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเหล่าบัณฑิตต่างพากันเดินออกจากงานหลังจากประกาศชื่อคนที่มากล่าวสุนทรพจน์!!? ส่วนผู้ที่มากล่าวสุนทรพจน์ในงานนั่นก็คือ Mike Pence ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐอินดีแอนา และดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนี้ แน่นอนว่าเขาเป็นคนที่เห็นด้วยกันกฎหมายต่อต้านรักร่วมเพศในอเมริกา จึงเป็นสาเหตุให้เหล่าผู้ปกครองและบัณฑิตจำนวนมากเกิดความไม่พอใจ . ถึงแม้คนจำนวนมากจะเดินออกจากงาน แต่ตัว Mike เองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขายังคงกล่าวสุนทรพจน์ต่อไป แต่ด้วยจำนวนคนที่เดินออกจากงานเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นกระแสสังคมพอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นการเดินออกจากงานระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด ทว่าทุกอย่างได้ถูกเตรียมการไว้อยู่แล้วก่อนที่งานจะเริ่ม เพราะหลังจากที่กลุ่มคนรักร่วมเพศและคนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้รู้ถึงการมาของ Mike Pence พวกเขาก็ได้คิดแผนประท้วงดังกล่าวขึ้นมาทันที Luis Miranda หนึ่งในผู้ร่วมจัดประท้วงครั้งนี้ได้บอกกับสำนักข่าว CNN ว่า เขาและกลุ่มนักศึกษาอีกมากมาย เชื่อว่ากฎหมายที่ Mike ตั้งขึ้นมาเพื่อโจมตีกลุ่มคนในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ และเป็นการพยายามทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นไม่มีความสำคัญในสังคมอีกต่อไป ซึ่งกลุ่มคนที่ว่าก็จะเป็นคนที่แตกต่างในด้านรสนิยมทางเพศ ศาสนา และชาติพันธุ์ ทางด้านครอบครัวของ Luis ก็ออกมาสนับสนุนในสิ่งที่ลูกชายตัดสินใจทำลงไป เพราะเขาบอกว่าครอบครัวของพวกเขาเดิมทีเป็นกลุ่มผู้อพยพ และตอนนี้ก็กำลังถูกโจมตีโดยแคมเปญที่ทาง Donald Trump และ…
-
ประชาชนตั้งคำถามหลังตำรวจนำรถไปเพ้นท์สีรุ้งเพื่อต้อนรับงานพาเหรด LGBT คุ้มภาษีแล้วหรือ!?
ในขณะที่หลายๆ ประเทศยังคงปิดกั้นเรื่องของเพศทางเลือกอยู่ และขณะเดียวกันอีกหลายๆ ประเทศก็เปิดรับเรื่องพวกนี้ให้เป็นเรื่องธรรมดาด้วยแนวคิดที่ว่า ‘เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปจำกัดใครได้ ทุกเพศสภาพควรมีสิทธิเท่าเทียมกัน’ เมื่อปี 2015 กรมตำรวจจากเขต Sussex ประเทศอังกฤษ ได้ตัดสินใจเพ้นท์สีรถตัวเองให้เป็นสีรุ้งเพื่องาน LGBTQ Pride ที่ผ่านพ้นไป แต่หลังจากนั้นก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างหนาหูเกี่ยวกับการนำภาษีของประชาชนมาใช้กับการตกแต่รถของตำรวจเองเช่นกันซึ่งงานนี้ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่อมาในปีนี้ กรมตำรวจจึงได้ตัดสินใจทำให้เรื่องนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยหัวหน้ากรมตำรวจ Nev Kemp ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ว่า “เราต้องการที่จะแสดงความชัดเจนว่าเราไม่สนใจในทัศนคติแง่ลบของคนที่กล่าวหาเพียงเพราะว่ามันเป็นงานของ LGBT” พวกเขาจึงนำรถตู้ขนาดใหญ่ที่สุดที่มีอยู่มาเพ้นท์สีรุ้งใส่มันซะเลยเพื่อเป็นการสนับสนุนต่อกลุ่ม LGBT และเป็นการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ต่อการแบ่งแยกกันของผู้คนในสังคม แถมเจ้ารถตู้สีรุ้งคันนี้ยังมีไว้เพื่อรองรับการช่วยเหลือด้านต่างๆ ในงาน LGBT Pride อีกด้วย รถตู้คันนี้ใช้งบประมาณในการเพ้นท์ไป 420 ปอนด์ (ประมาณ 19,225 บาท) แถมยังให้ความรู้และช่วยเหลือเหล่าเพศทางเลือกและผู้ตกเป็นเหยื่อของคนที่มีความรังเกียจต่อคนข้ามเพศอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตบางส่วนที่ดูเหมือนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำเหล่านี้ของกรมตำรวจเท่าไหร่ “ทำไมไม่ตอบคำถามผมทางทวิตเตอร์ล่ะ ว่างบประมาณสำหรับรถคันนี้มันมาจากภาษีของพวกเรารึเปล่า?” แต่กลับกันคนส่วนใหญ่ยังคงยินดีให้การสนับสนุนสำหรับการนำภาษีของพวกเขาไปใช้ในด้านนี้อย่างเต็มที่ …
-
ขนม Skittles เปลี่ยนสีซองเป็นขาวดำ เพื่อให้ “สายรุ้ง” ในงาน London Pride โดดเด่นที่สุด!!
ในช่วงอาทิตย์นี้ เราจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับขบวนสายรุ้ง London Pride ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ให้ชาว LGBT นั้นได้มาแสดงความรัก เพื่อแสดงถึงความรักที่ไม่แบ่งแยกเพศกัน โดยบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทุกวันนี้กลุ่ม LGBT ก็เป็นที่ยอมรับกันแล้ว หลายประเทศสามารถให้คนรักร่วมเพศสามารถแต่งงานกันได้ตามกฎหมาย คราวนี้ขนมชื่อดัง Skittles (ขนมคล้ายๆ M&M’S) ซึ่งปกติซองของเขาจะมีสีรุ้งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ครั้งนี้ทาง Skittles จัดสินใจที่จะเอาสีรุ้งออกจากซอง กลายเป็นสีขาวดำแทน และสาเหตุที่เขาเอาสีรุ้งออกจาไปจากซองที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ก็คือ “Only one rainbow deserves to be the centre of attention” (มีเพียง “สายรุ้ง” เดียวเท่านั้นที่ควรเป็นจุดสนใจ) นอกจากนี้เขายังทำคลิปออกมาด้วย ถือเป็นการตลาดที่ดีงามมากๆ ที่มา boredpanda
-
ชมโฆษณาสุดสะเทือนใจของชีวิตกลุ่ม “รักร่วมเพศ” ที่ต้องเจอปัญหามากมายตั้งแต่เด็ก
ในสมัยก่อนนั้น กลุ่มรักร่วมเพศเป็นเรื่องที่ต้องห้ามมาก หลายคนไม่ยอมเปิดเผยว่าตัวเองชอบเพศเดียวกัน บางครั้งก็ใหญ่โตถึงขั้นเอาตัวไปลงโทษเพื่อให้คนคนนั้นกลับมาเป็นเพศเดิมเลยทีเดียว แต่ด้วยวันเวลาที่ผ่านไป ทำให้เราตระหนักถึงความเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น หลายคนยอมรับการมีอยู่และคิดว่ากลุ่ม LGBT ก็คือคนเหมือนเรา มีสิทธิ์เหมือนกับเรา แต่งงานกันได้เหมือนกัน และสามารถขับเคลื่อนโลกนี้ไปข้างหน้าได้ ถึงแม้ว่าหลายคนจะยอมรับแล้ว แต่บางประเทศก็ยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ ทาง TBWA ปารีส จึงได้ออกโฆษณาแคมเปญตัวหนึ่ง บอกเล่าเรื่องราวของเกย์ตั้งแต่เด็กจนโตว่าเขาต้องถูกกลั่นแกล้งอะไรบ้างจากสังคมรอบกาย เห็นแล้วสะเทือนใจเป็นยิ่งนัก นอกจากเพื่อนๆ ที่โรงเรียนแล้ว พ่อและแม่ยังไม่สามารถยอมรับการที่ลูกเป็นแบบนี้ได้เลย ถือเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าใจมาก จนต้องตั้งชื่อโฆษณาตัวนี้ว่า The Obstacle Course (อุปสรรครุมล้อม) ถึงแม้มันจะดูเกินจริงไปบ้างในชีวิตคนคนหนึ่ง แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้มันก็เคยเกิดขึ้นจริงจากคนที่เคยประสบมาจริงๆ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราต้องมองคนอื่น ที่ถึงแม้เขาจะต่างเพศ ต่างฐานะ ต่างเชื้อชาติ แต่เราก็ยังเป็นคนเหมือนกัน ที่มา adweek
-
อยากให้เธอลอง!! พาเลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ พาเกย์มาพบกับหญิงแท้ ลงเอยด้วย ‘จูบ’
ในยุคสมัยที่มีความเปลี่ยนแปลงมากจนถึงมากที่สุด ซึ่งในเรื่องของเพศทางเลือกในอดีตนั้นถูกปกปิดมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าทั้งฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่มีความรู้สึกในด้านความรู้สึกชื่นชอบเพศเดียวกัน ปัจจุบันนี้ก็ได้มีการเปิดกว้างและยอมรับมากขึ้นแล้ว แต่จะว่าไปในเรื่องของความรู้สึกที่ชื่นชอบในเพศเดียวกัน หากให้พวกเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นเลสเบี้ยนหรือเกย์มาพบกับผู้ที่มีเพศเป็นปกติบ้างล่ะ พวกเขาจะรู้สึกแบบไหน!? ก็คงไม่ต่างจากคนทั่วไปนั่นแหละ ก็คือผู้คนธรรมดาเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือความรู้สึกในเรื่องแรงกระตุ้นในเรื่องเพศ ซึ่งหากให้พวกเขามาพบกับเพศที่ตรงกันข้ามแบบนี้ ปฏิกิริยาของพวกเขาก็มีความรู้สึกเขินอายเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งในงานนี้ก็ได้เชิญเลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ และเกย์มาพบกับหญิงแท้ เพื่อพิสูจน์ในเรื่องของการจูบ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ลองมาพิสูจน์กันได้ในคลิปทั้งสองด้านล่างเลยจ๊ะ เลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ เกย์มาพบกับหญิงแท้ (บางคนไม่เคยจูบผู้หญิงมาก่อนเลย) ทั้งนี้ จากการที่ได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว พวกเขาก็ยังเหมือนคนทั่วไป เพียงแต่ว่าการจูบกับเพศปกตินั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ทางด้านเพศหรือมีแรงกระตุ้นเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีที่ได้มอบให้กับฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง ที่มา : The Human Experiment