Tag: Oxford
-
14 คำศัพท์เก๋ๆ จาก “ภาพยนตร์” บัญญัติขึ้นใหม่โดย Oxford Dictionary เชียวนะ!!
เมื่อโลกเปลี่ยนไปอะไรๆ ก็ต้องเปลี่ยนตาม อย่างเช่น ภาษา ที่ต้องปรับตัวตามสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่ ภาพยนตร์ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มักอยู่ในบทสนทนาของผู้คนทั่วโลก และภาพยนตร์เองก็มีการนำเสนอความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้น ภาษาโดยเฉพาะคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากลนั้น ก็จะต้องมีการบัญญัติศัพท์บางคำเพื่อให้ประเด็นทางภาพยนตร์มีการสื่อสารที่เข้าใจได้มากขึ้นนั่นเอง และล่าสุดทาง Oxford Dictionary ก็ได้บัญญัติศัพท์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ภาพยนตร์” ลองไปชมคำศัพท์บัญญติใหม่ที่น่าสนใจเหล่านี้กันหน่อยดีกว่า 1. Altmanesque (Adj.) คำแปล: ลักษณะภาพยนตร์ที่นำเสนอตามแบบฉบับของ Robert Altman ซึ่งส่วนมากจะมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่จะแฝงมุมมองแปลกๆ และการหักมุมที่สุดโต่งเอาไว้ 2. Dutch Angle (N.) คำแปล: มุมกล้องแบบหนึ่งที่เส้นแนวตั้งของภาพจะเอียงออกข้างไปด้านใดด้านหนึ่ง คล้ายกับว่าเป็นภาพที่ผู้มองกำลังเอียงศีรษะอยู่ 3. Giallo (N.) คำแปล: ประเภทหนึ่งของภาพยนตร์ที่มีความสยองขวัญและกามารมณ์สูงโดยเฉพาะรูปแบบของ “การถ้ำมอง” ศัพท์คำนี้ได้มาจากภาพยนตร์ฆาตกรรมลึกลับสะเทือนขวัญสัญชาติอิตาลีที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ระหว่างงานศิลปะและการแสวงหากำไร 4. Groundhog Day (N.) คำแปล: สถานการณ์หนึ่งที่มีเรื่องราวน่าเบื่อหรือไม่น่าพอใจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแบบเดิมๆ 5.…
-
เหยยย มหาวิทยาลัย Oxford เพิ่มเวลาทำข้อสอบคณิตและวิทย์คอมฯ เพื่อให้นศ. หญิงมีคะแนนที่ดีขึ้น
การทำข้อสอบในเวลาที่จำกัดมักจะเป็นเรื่องที่กดดัน จนอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ จึงได้มีการวิจัยเกี่ยวกับการลดความกดดันนี้โดยมีเพศสภาพเป็นปัจจัยในการศึกษา มหาวิทยาลัย Oxford ได้ทดลองยืดเวลาในการทำข้อสอบคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยให้ผลการเรียนของนักศึกษาหญิงดีขึ้น จากเดิม 90 นาที เพิ่มเป็น 105 นาที โดยไม่เพิ่มระดับความยากหรือจำนวนข้อในตัวข้อสอบแต่อย่างใด การเปลี่ยนแปลงนี้พบว่านักศึกษาหญิงได้คะแนนที่สูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากการทดลองนี้มีเพื่อลดความกดดันจากเวลาที่จำกัด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเชื่อว่า ผลกระทบนี้จะส่งผลกับผู้หญิงมากกว่าในตัวผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เข้ามามากมาย ว่าเป็นการเหยียดเพศ เพราะคิดว่าเพศหญิงคือเพศที่อ่อนแอกว่า จากข้อมูลที่รวบรวมภายใต้กฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร แสดงให้เห็นว่าทางคณะในมหาวิทยาลัยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเพศที่มีเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมาได้ และข้อสอบนั้นก็มีไว้เพื่อทดสอบความเข้าใจของเนื้อหาที่เรียน ไม่ใช่การแข่งขันแบบจับเวลา ขณะเดียวกัน Sarah Hart ศาสตราจารย์ที่ Birkbeck มหาวิทยาลัยลอนดอนได้เสนอว่า แต่ละเพศนั้นไม่ได้มีความสามารถทางคณิตศาสตร์ที่แตกต่างกันเลย Sarah บอกว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นว่านักศึกษาหญิงนั้นจะตรวจสอบความถูกต้องและทบทวนกระดาษคำตอบก่อนที่จะส่งเลย ในขณะที่นักศึกษาชายทำข้อสอบได้ในเวลาที่รวดเร็วกว่า แต่ส่วนมากมักจะผิด ส่วนทางมหาวิทยาลัย Oxford ก็ยังคงทำการเก็บข้อมูลและจับตาดูการทำข้อสอบอย่างใกล้ชิด แต่ทางหน่วยงานกล่าวว่ายังไม่มีผลสรุปอย่างแน่ชัดจากการเก็บข้อมูลในปีแรก แต่อย่างไรก็ตาม นักศึกษาหญิงปี 3 ก็ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการจากคะแนนที่สูงขึ้นจากปีที่แล้ว ในขณะที่ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ยังต้องศึกษาอีกมาก ซึ่งทางหน่วยงานก็ได้วางแผนที่จะเก็บข้อมูลต่อไปในอนาคตอย่างระมัดระวัง ถือว่าเป็นงานวิจัยที่น่าสนใจเลยทีเดียว ถ้าหากประเทศไทยนำมาใช้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย จะได้ทำข้อสอบกันแบบสบายๆ ไม่กดดัน …
-
นักวิจัย Oxford เผยวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการ “เลิกบุหรี่” จากการทดสอบกับคน 700 คน
หลายคนที่อยากเลิกบุหรี่ อาจกำลังคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนดี ที่จะทำให้ตัวเองไม่กลับมาติดเหมือนตอนแรกอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้หาคำตอบมาให้คุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากงานวิจัยของ Nicola Lindson-Hawley ผู้วิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Oxford ได้บอกไว้ว่า วิธีการเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือให้เลิกแบบทันทีทันใด หรือที่เรียกว่าหักดิบไปเลย แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จากผลลัพธ์ของการศึกษาที่เขาได้รับ บอกได้เลยว่าวิธีการนี้จะทำให้คุณสามารถหายขาดจากอาการติดบุหรี่ได้ดีกว่าการค่อยๆ ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบ โดยเธอทำการศึกษากับสิงห์อมควันจำนวน 700 คน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนที่สูบอย่างต่ำ 15 มวนต่อวัน และเธอได้ท้าให้พวกเขาลองเลิกสูบบุหรี่ดู จึงมีการกำหนดวันสุดท้ายที่จะสูบเอาไว้ในสองสัปดาห์ข้างหน้า และได้มีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่ากันอย่างชัดเจน คือกลุ่มหนึ่งที่จะสูบตามปกติแล้วค่อยไปหักดิบเอาทีเดียว กับอีกกลุ่มที่จะค่อยๆ ลดจำนวนลงในแต่ละวัน ก่อนที่จะไปหยุดตอนวันสุดท้าย หลังจากนั้นจึงทำการเก็บข้อมูลของทั้งสองกลุ่มพบว่า เมื่อผ่านไป 4 สัปดาห์ที่พวกเขาเลิกบุหรี่ กลุ่มที่หักดิบมีผลลัพธ์ที่ดีกว่ากลุ่มที่ค่อยๆ เลิก เมื่อดูจากสถิติ 49 เปอร์เซนต์ของคนในกลุ่มแรก สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ในขณะที่กลุ่มสองทำได้เพียง 39 เปอร์เซนต์ และเมื่อผ่านไป 6 เดือน เหล่าผู้ที่หักดิบ 22 เปอร์เซนต์จากทั้งหมดไม่กลับมาสูบอีก ส่วนกลุ่มที่ค่อยๆ ลดจำนวนลง…
-
มหาลัย Oxford ถูกศิษย์เก่าฟ้อง 50 ล้าน เพราะทำเขาพลาดเกียรตินิยมอันดับ 1 จนเสียโอกาสในชีวิต!?
ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษาแล้ว มหาวิทยาลัยดังแห่งประเทศอังกฤษอย่าง Oxford ก็มักจะติดอันดับต้นๆ ของโลกเสมอ แต่ล่าสุดพวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหาแล้วล่ะ เมื่อนักศึกษาเก่าของพวกเขา ทำการฟ้องมหาวิทยาลัยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านปอนด์ หรือราวๆ เกือบ 50 ล้านบาทด้วยกัน!! เรื่องที่เขายื่นฟ้องต่อศาลนั่นก็เพราะว่า ‘การสอน’ ที่น่าเบื่อและไม่ดึงดูดของมหาวิทยาลัย ทำให้เขาพลาดได้รับคะแนนเกียรตินิยม ซึ่งทำให้เขาพลาดโอกาสได้งานดีๆ และประสบความสำเร็จในชีวิต ฟ้องมหาวิทยาลัย Oxford Faiz Siddiqui ผู้ที่เคยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาทางด้านประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ของมหาวิทยาลัยนี้ เชื่อว่าเขาจะได้รับหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ เป็นทนายด้านธุรกิจระดับนานาชาติ แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 แทนที่จะเป็นอันดับ 1 จากทางมหาวิทยาลัยเมื่อ 16 ปีก่อนตอนที่เขาเรียนจบ Siddiqui ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Sunday Times ว่า ‘ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นั้นมาตลอด และความเสียหายต่อทั้งจิตใจและรายรับที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น ประเมิณค่าได้ราวๆ 1 ล้านปอนด์’ และถ้าเคสนี้เขาเกิดชนะขึ้นมาล่ะก็ จะมีคำฟ้องร้องในกรณีเดียวกันมาอีกมากมายเลยทีเดียว ทั้งการสอนที่ไม่เพียงพอ สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอนในการให้คะแนน ซึ่งเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยก็ได้ออกมายอมรับว่าในปีที่ Siddiqui…
-
พจนานุกรมจาก Oxford เลือกให้อีโมจิ “ยิ้มน้ำตาเล็ด” เป็นคำที่คนใช้มากที่สุดในปี 2015
ในทุกๆ ปี พจนานุกรมของ Oxford จะคัดเลือกคำเด่นๆ ที่คนใช้มากที่สุดและฮิตที่สุดในแต่ละปีมาเป็นคำเด็ดในปีนั้นๆ แต่ในปี 2015 นี้กลับไม่ใช่คำพูดหรือวลีใดๆ แต่เป็นอีโมติคอน “ยิ้มน้ำตาเล็ด” (Face with Tears of Joy) นั่นเอง โดยมหาวิทยาลัย Oxford ได้ทำการสำรวจจากแอพฯ SwiftKey บนสมาร์ทโฟน เพื่อดูว่าคำไหนถูกใช้บ่อยมากที่สุด ผลปรากฎว่าอีโมจิ “ยิ้มน้ำตาเล็ด” กลายเป็นคำที่ได้รับความนิยมที่สุดในปีนี้ สาเหตุก็เพราะว่าในอังกฤษมีการใช้เจ้าสัญลักษณ์นี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20% และในสหรัฐอเมริกาก็มีผู้ใช้สัญลักษณ์นี้เพิ่มขึ้นอีก 17% เจ้าอีโมจิหรืออีโมติคอนนี้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกในปี 1990 ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายบนโปรแกรมแชทและแอพฯต่างๆ ในสมาร์ทโฟนยังไงล่ะ ที่มา oxforddictionaries