Tag: philophobia

  • 5 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรค ‘กลัวการตกหลุมรัก’ เข้าให้แล้ว

    5 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรค ‘กลัวการตกหลุมรัก’ เข้าให้แล้ว

    เชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากจะมีความรักที่ดีทั้งนั้น ดังนั้นหลายๆ คนจึงได้ลองผิดลองถูกกันมาหลายครั้งเพื่อที่จะหาความรักที่เหมาะสมกับตัวเอง และก็มีหลายครั้งเช่นกันที่ต้องพบกับความผิดหวังจนกลายเป็นโรคความหวาดกลัวไปเลยก็มี ต่อมาความกลัวได้กลายมาเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรัก โดยอาการของผู้ที่เป็นโรคนี้ก็คือ พวกเขากลัวที่จะมีความสัมพันธ์กับใครสักคนเพราะอาจจะกลัวความเสียใจที่จะตามมา ซึ่งนี่เองทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่กับใคร     ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้ไม่ใช่จะเป็นกันง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเกิดโรคต่างๆ จะต้องมีสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นและนี่คือ 5 สัญญาณหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นก่อนป่วยเป็นโรคนี้ หากอยากรู้ว่าตัวเองเข้าข่ายที่จะเป็นโรคกลัวการตกหลุมรักหรือไม่ก็ลองมาเช็กกันดูเลย   1. ความเจ็บปวดในอดีตยังคงทำร้ายคุณ   คุณยังคงไม่ลืมความปวดร้าวจากรักครั้งเก่าของคุณ บางทีคุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวดมากจากประสบการณ์ที่ได้ผ่านมาจนยากที่จะลืม ซึ่งนั่นทำให้คุณได้สร้างอคติเกี่ยวกับความรักจากประสบการณ์ที่ผ่านจนไม่อยากจะเริ่มมีความสัมพันธ์กับใครอีกเลย   2. คุณไม่สามารถเชื่อใจใครได้อีก   หากคุณเคยเชื่อคนๆ หนึ่งอย่างสนิทใจหรือว่าได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใครสักคน แล้วปรากฏว่าเขาทิ้งคุณไปหาคนใหม่ สิ่งที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้คุณนั้นก็เหลือเพียงแต่ความเจ็บปวดและได้ก่อปมขึ้นในใจของคุณ จนคุณไม่สามารถที่จะเชื่อใครได้ง่ายๆ เพราะกลัวว่าจะโดนหักหลังอีกนั่นเอง   3. คุณกลัวว่าความรักจะเป็นอุปสรรคในด้านต่างๆ   คุณกลัวที่จะตกหลุมรักเพราะทุกครั้งที่คุณมีความสัมพันธ์ คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่สามารถพาตัวเองไปทำอะไรที่ตั้งใจอยากทำได้ ทั้งเรื่องการงานหรือการประสบความสำเร็จต่างๆ อีกทั้งคุณยังกลัวข้อจำกัดที่มาพร้อมกับความสัมพันธ์อย่างความอิสระในการใช้ชีวิต   4. คุณกลัวว่าความเป็นส่วนตัวของคุณจะหายไป   คุณเคยมีความสัมพันธ์มาก่อน แต่ว่าก็ต้องจบความสัมพันธ์นั้นไปเพราะว่าคุณรู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะกับเรื่องพื้นที่ส่วนตัวที่คุณไม่ชอบแบ่งปันกับใครอย่างการใช้เตียงนอนร่วมกัน การใช้สิ่งของร่วมกัน นั่นจึงเป็นเหตุให้คุณไม่อยากที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับใครอีก   5. คุณชื่นชอบการมีเซ็กส์แต่ก็ไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์   มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบในรสชาติของเซ็กส์และต้องการเพียงสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่คนเป็นโรคนี้กลัวก็คือความสัมพันธ์ที่จะมาต่อจากนั้น เนื่องจากพวกเขาไม่อยากจะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับใคร…

  • มารู้จักกับอาการ Philophobia หรือ ‘โรคกลัวความรัก’ สำรวจตัวเองว่า คุณก็เป็นรึเปล่า!?

    มารู้จักกับอาการ Philophobia หรือ ‘โรคกลัวความรัก’ สำรวจตัวเองว่า คุณก็เป็นรึเปล่า!?

    หลายคนคงเข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ก็ยังคงมีคนบางกลุ่มที่มองว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ซึ่งบางทีอาจเกิดมาจากประสบการณ์ในอดีตที่ยังคงฝังใจเรื่อยมา และไม่กล้าที่จะมีความรักกับใครอีก หากว่าคุณเป็นคนที่คิดอย่างนั้นอยู่ มันอาจเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า คุณกำลังเป็น โรคกลัวความรัก หรือที่เรียกว่า Philophobia ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป เป็นหนึ่งในอาการความกลัวทางจิตเวชที่มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับต้นๆ วันนี้เราจึงจะพาไปให้ทุกคนรู้จักกันว่ามันคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด อาการของโรคเป็นอย่างไร และจะรักษาด้วยวิธีการใดได้บ้าง   Philophobia คืออะไร? คำว่า Philo ที่มาจากภาษากรีก แปลว่า ความรัก ดังนั้นมันก็คือ โรคกลัวความรัก นั่นเอง ซึ่งผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความรัก พยายามที่จะไม่ให้ตัวเองรู้สึกว่ารักใคร หรือรู้สึกพิเศษกับใครเลยสักคน ต่อให้ในบางครั้งจะรู้สึกดีกับใครขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายก็จะไม่ยอมเปิดใจและถอยห่างออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง? สิ่งที่สามารถทำให้เราเป็นโรคนี้ได้ อาจเกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ดังนี้ 1.เหตุการณ์ในแง่ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะคนที่โตมาในครอบครัวที่มีความแตกแยกเกิดขึ้น พ่อแม่หย่าร้าง ทะเลาะตบตีกันให้เห็น หรือคนใกล้ตัวที่มีชีวิตรักไปในทางที่ไม่ค่อยดีนัก จะทำให้เราจำภาพนั้นและฝังเข้าไปในความคิดของตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว 2.วัฒนธรรม หรือศาสนา ที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับความรัก ศาสนาหรือขนบประเพณีของบางแห่ง อาจมีข้อห้ามหรือกรอบกฎเกณฑ์บังคับเอาไว้ให้กับความรักอย่างชัดเจน เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นในละคร เวลาที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงกีดกัน ทำให้ไม่สามารถรักกันได้ สิ่งนั้นอาจสร้างความกลัวและทำให้เราไม่กล้าเสี่ยงที่จะมีความรักกับใครอีก 3.การล้มเหลวในความรักซ้ำๆ มีรักเมื่อไหร่ก็ต้องเจ็บปวดและเลิกรากันไปทุกที เมื่อต้องเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอด…