Tag: purr
-
สาวหยุดช่วยมิ้วน้อยในลานจอดรถ ทำให้แมวเหมียวป่วยได้รับโอกาสมีชีวิตที่ดีขึ้น
ในลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองเลาน์เซสตัน รัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีมิ้วน้อยตัวหนึ่งอยู่ที่นั่น มันอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีวี่แววของครอบครัวรอบๆ เลย จนเมื่อ Jacqui เดินผ่านมาเจอเจ้าเหมียวตอนกำลังจะกลับบ้าน เธอเห็นว่ามันป่วย เธอก็เลยไม่อยากหันหลังให้กับมัน หญิงสาวเลยเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อพามันไปยังศูนย์พักพิง Just Cats Tasmania ที่อยู่ในชุมชน ตอนที่เธอพามันไปส่งศูนย์พักพิง ลูกแมวตัวนี้ก็อ้อนเธอไปตลอดทาง นี่น่าจะเป็นการขอบคุณในแบบของเจ้าเหมียวที่เธอไม่ปล่อยให้มันลำบากเหมือนที่คนอื่นทำ อาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงบอกว่า “มันดูมีความสุขมากที่ได้กอดกับมนุษย์ มันครางเสียงดังด้วยความพอใจ ฉันว่ามันคงรู้ว่าตัวเองได้รับความช่วยเหลือแล้ว” สัตวแพทย์ตรวจมันดูแล้วก็รู้ว่ากระดูกเชิงกรานของมันหัก พวกเขาก็เลยเป็นห่วงมัน แต่เจ้าเหมียวไม่ได้แสดงท่าทีว่าเจ็บป่วยเลย แค่มันได้รับความรักจากคนรอบข้างมันก็มีกำลังใจสู้กับความเจ็บปวดแล้ว พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Wooly มิ้วน้อยจะถูกส่งไปอยู่กับคนดูแลในบ้านที่อบอุ่นเพื่อให้มันได้รักษาตัวในสภาพแวดล้อมที่สบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แค่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านมนุษย์ไม่ทันไรพวกเขาก็เห็นเลยว่ามันมีความสุขกว่าตอนอยู่ในลานจอดรถมาก มันชอบให้มนุษย์กอด หรือถ้ามนุษย์ไม่ว่างมันก็จะกอดกับตุ๊กตาหมีแล้วครางอย่างสุขใจ เป็นแมวที่ขี้อ้อนซะจริง อาสาสมัครและคนดูแลรู้ว่ามันต้องใช้เวลารักษากระดูกเชิงกรานอีกนาน และต้องพักฟื้นตัวด้วย แต่พวกเขาก็ตั้งใจจะดูแลมันให้ดีที่สุดจนกว่าจะหายดี เพราะคิดว่านั่นคือสิ่งที่เจ้าแมวน่ารักตัวนี้สมควรจะได้รับ ที่มา: Love Meow
-
แก๊งลูกแมวขี้กลัว รวมตัวกันเป็นก้อน พอได้รับความรักจากมนุษย์แล้วอ้อนไม่หยุดเลย
อาสาสมัครช่วยเหลือแมวจากรัฐลอสแองเจลิส เจอครอบครัวแมวจรจัดอยู่บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่งในชุมชน พวกเขาก็เลยจับพวกมันเพื่อที่จะได้หาบ้านที่ปลอดภัยให้ แต่พอจับพวกมันได้แล้ว ลูกแมวทุกตัวก็ขดตัวรวมกันเป็นก้อนเพื่อป้องกันตัวเองจากมนุษย์แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย หลังจากได้ตัวลูกแมวและแม่แมวแล้ว อาสาสมัครก็ติดต่อไปหา Jacqueline DeAmor ผู้ร่วมก่อตั้ง Friends for Life RescueNetwork ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เพื่อให้เธอพาแมวพวกนี้ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมต่อไป แม่แมวได้รับการรักษาและถูกปล่อยกลับไปสู่ชุมชนตามเดิมเพราะมันเข้ากับคนไม่ได้ ส่วนลูกแมวทั้ง 5 ตัวที่เหลือซึ่งก็คือเจ้า Harlem, Bronx, Leno, Ellis และ Hudson จะได้รับบ้านที่อบอุ่นเมื่อพวกมันเชื่องแล้ว แม้ว่าตอนนี้พวกมันจะกลัวคนสุดขีดเลยก็ตาม เบื้องต้น Jacqueline จะเป็นคนดูแลพวกมันเองก่อน โดยเธอพยายามให้อาหารและของเล่นกับพวกมันเพื่อให้พวกมันไว้ใจเธอ แล้วก็พยายามอุ้มมันเป็นประจำด้วย . แต่ถูกอุ้มได้สักพักพวกลูกแมวก็พยายามดิ้นหนีแล้วกลับไปขดตัวรวมกันเป็นก้อนทุกที พวกมันไม่ยอมไว้ใจมนุษย์ง่ายๆ เลย แต่เธอก็รู้ดีว่าจะทำให้พวกเหมียวเชื่อใจต้องใช้ความอดทน ไม่นานนักเจ้าเหมียวก็เริ่มครางออกมาอย่างมีความสุขทีละตัว ถึงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่ามันเริ่มเข้ากับคนได้บ้างแล้ว พวกมันเริ่มหยุดระแวงเธอและออกมาจากมุมที่เคยขดตัวรวมกันอยู่ แล้วก็เดินเล่นไปรอบๆ ห้อง นอกจากนี้มันยังยอมกินอาหารตอนที่เธออยู่ด้วยซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งว่าแมวเริ่มไว้ใจคุณมากขึ้นแล้ว จากนั้นเธอก็เลยส่งพวกมันไปอยู่กับครอบครัวชั่วคราวดูบ้าง เพื่อให้มันทำความคุ้นชินกับมนุษย์คนอื่น มันจะได้เข้าใจว่ามนุษย์เองก็มีคนใจดีอยู่เยอะเช่นกัน มิ้วทั้ง 5 ตัวถูกส่งต่อไปที่บ้านของ…
-
คู่รักใจดี ช่วยเจ้าเหมียวน้อยหูหนวก เปลี่ยนความเศร้า ให้เป็นแมวมีความสุขอีกครั้ง!!
เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าว่าแมวก็หูหนวกได้เหมือนกันนะ เหมือนเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ไง นอกจากมันจะหูหนวกแล้วมันยังส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้ด้วย น่าสงสารมากเลย แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมันมีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือมันแล้ว เจ้าแมวน้อยสีดำตัวนี้ถูกเก็บมาจากข้างถนนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คู่รัก Justin Caffier และ Erica Kim เห็นว่ามันสุขภาพไม่ดีก็เลยอยากช่วยเหลือมัน น้องเหมียว Whisper แมวไร้เสียง ทว่าเขาและแฟนสาวมีความจำเป็นต้องไปนอกเมืองพอดี จึงไม่สามารถดูแลมันได้ในตอนนั้น ก็เลยติดต่อไปหา Jacqueline DeAmor ผู้ร่วมก่อตั้ง Friends for Life RescueNetwork ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือและหาบ้านให้กับแมว เขาอยากให้เธอช่วยดูแลมันก่อนแล้วอาทิตย์หน้าจะกลับมาช่วยเจ้าเหมียวหาบ้านเอง ขอข้าวกินหน่อยสิมนุษย์ เค้าหิวนะ แมวน้อยตัวนี้ผอมแห้งจนหนังติดกระดูก มันมีน้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม) แม้จะมีอายุ 8 สัปดาห์แล้ว ซึ่งถือว่าตัวเล็กมากกว่าปกติ แถมยังมีเห็บหมัดเต็มไปหมด และขาดน้ำจนน่าเป็นห่วง Jacqueline และสัตวแพทย์จึงช่วยกันป้อนข้าวป้อนน้ำให้และจับมันอาบน้ำทันที อีกสิ่งหนึ่งที่เด่นชัดเกี่ยวกับแมวน้อยก็คือมันแทบจะไม่มีเสียงร้องเลย ร้องแต่ละทีเสียงเบาอย่างกับเสียงกระซิบ พวกเขาก็เลยตั้งชื่อมันว่า Whisper (เสียงกระซิบ) เค้าเรียกแล้วทำไมไม่เห็นมีใครสนใจเลย…
-
เจ้าเหมียวโชว์เซียน เนียนเข้าไปหลับในรถไฟใต้ดิน เพลินจนไปเที่ยวซะไกลเลยนะแก!!
นอกจากเรื่องกินกับเล่นซนแล้ว สิ่งที่เจ้าเหมียวรักเป็นชีวิตจิตใจอีกอย่างหนึ่งก็คือการนอน มันมักจะหามุมที่อบอุ่นและสบายไว้เป็นมุมงีบประจำเสมอ บางครั้งก็ต้องมีเบื่อแล้วออกไปหาที่งีบใหม่ๆ บ้าง แต่คงคิดไม่ถึงกับแอบขึ้นไปงีบบนรถไฟสบายใจเฉิบ ทิ้งให้เจ้าของตามหาเสียให้ทั่วแบบนี้ก็เกินไปนะเจ้าเหมียว!! ตอนกลับมาถึงบ้านก็เอาแต่จ้องเจ้าของตาแป๋วอย่างเดียวเลย ฮึ่ย… งื้อ ในนี้อุ่นจังเลย นอนมันตรงนี้แหละ เจ้าเหมียวสีส้มตัวนี้นอนหลับปุ๋ยอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารของรถไฟใต้ดินในประเทศเยอรมัน คนที่พบมันเข้าก็คือ Patrick Maurer หนุ่มที่พึ่งขึ้นรถไฟมาจากสถานีในรัฐ Baden Wurttemberg เพื่อเดินทางไปยังเมือง Kirchheim ทุกคนที่ได้เห็นมันต่างก็หลงใหลกับความน่ารักของเจ้าเหมียว นอนหลับอย่างมีความสุขไม่ยอมสนใจโลกรอบข้างเลย ไม่รู้ว่าเจ้าเหมียวจะรู้ตัวบ้างรึเปล่าว่า ขณะที่มันหลับอยู่มันก็เดินทางไปที่ไหนก็ไม่รู้แล้ว ทว่าผู้โดยสารที่ขึ้นมาก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ขึ้นรถไฟมาจากที่ไหน แล้วมันมาอยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่แล้ว เพราะไม่เห็นมีเจ้าของนั่งมาด้วยเลย พวกเขาคิดว่ามันน่าจะเดินตามใครสักคนเข้ามาแล้วไม่ยอมออก เพราะว่าอากาศในนี้อุ่นน่านอนแน่ๆ หนุ่มก็เลยถ่ายรูปเจ้าเหมียวโพสต์ในโลกออนไลน์พร้อมแคปชั่นว่า “ถ้าเกิดว่าคนรู้จักของคุณกำลังตามหาแมวที่หายอยู่ มันอาจจะอยู่บนรถไฟสาย S1 ก็ได้นะ ลองมาหาดูสิ” โพสต์ที่ช่วยตามหาเจ้าของของแมวเหมียวตัวนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก พวกเขาเข้ามาชมความน่ารักและก็ยังช่วยแชร์ตามหาเจ้าของให้มันด้วย ถูกกระหน่ำแชร์ไปกว่า 30,000 ครั้งแล้ว หลังจากที่โพสต์ตามหาเจ้าของไปแล้ว เจ้าเหมียวก็ถูกส่งไปยังสถานพักพิงสัตว์ที่อยู่ใกล้เคียงเพราะว่ายังตามหาเจ้าของไม่เจอ จนสุดท้ายเจ้าของตัวจริงก็ได้รู้ข่าวแล้วมาตามเจ้าเหมียวที่สถานพักพิงสัตว์แห่งนี้ จากนั้นเธอก็พามันกลับไปอยู่บ้านอย่างมีความสุขตามเดิม แต่หลังจากนี้คงจะจับตามองมันเป็นพิเศษแล้วล่ะ ไม่งั้นคงหนีเที่ยวอีกแน่ๆ เจอตัวจนได้นะจอมซน รู้ไหมว่าฉันตามหาจนเหนื่อยเลย มาดุเค้าทำไมมม……
-
“เสียงคราง” ของเจ้าเหมียว ไม่ได้หมายถึงความฟินเสมอไป มันยังบอกอะไรอีกหลายอย่าง..
เพื่อนๆ เคยได้ยิน “เสียงคราง” จากเจ้าเหมียวบ้างไหม ซึ่งปกติเราอาจจะได้ยินมันจากตอนที่เรากำลังลูบตัวลูบหัวมันอยู่ หลายๆ คนจึงคิดว่าเสียงครางที่ได้ยินจากเจ้าเหมียวของตัวเองเป็นเสียงแห่งความสุข ซึ่งมันก็มีส่วนถูก แต่ว่าเจ้าเสียงครางนี้ไม่ได้หมายความถึงความสุขได้เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าเราจะได้ยินเสียงครางเมื่อเจ้าเหมียวนั้นรู้สึกผ่อนคลายหรือเป็นมิตร แต่ว่ามันยังสามารถร้องครางเพื่อสื่อเวลามันหิว เครียด และรู้สึกเจ็บได้อีกด้วย Tony Buffington สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมวแห่งมหาวิทยาลัย Ohio State ได้บอกว่า “พฤติกรรมทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับบริบทและความคาดหวัง” “มันเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาที่จะคิดว่าแมวส่งเสียงครางได้เพียงเพราะหนึ่งเหตุผล แบบนั้นมันก็เหมือนคิดว่าคนหัวเราะเพราะเหตุผลเดียวนั่นแหละ” เหมือนกับที่เราตอบสนองกับเรื่องขบขันด้วยการหัวเราะ เสียงครางก็เปิดให้คนตีความด้วยเหตุผลเดียวกัน แม่แมวจะส่งเสียงครางเพื่อนำทางลูกน้อย ซึ่งเมื่อตอนเกิดใหม่ๆ พวกมันยังมองไม่เห็นและยังไม่ได้ยิน เพื่อที่จะนำพวกมันไปป้อนอาหารและให้ความอบอุ่น ในทางกลับกันสัตวแพทย์เชื่อว่าลูกแมวก็จะส่งเสียงครางตอบเพื่อแสดงให้แม่เห็นว่ามันโอเคและช่วยพัฒนาความผูกพันกับแม่แมว เสียงครางจะหลั่งสาร Endorphins ที่ทำให้รู้สึกดี ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงคิดว่าแมวใช้การสั่นสะเทือนเพื่อปลอบประโลมตัวเอง นั่นหมายความว่าหากแมวร้องครางในตอนที่มันคลอเคลียกับเจ้าของ นั่นจะช่วยมันรู้สึกผ่อนคลาย หรือช่วยบรรเทาความเจ็บปวด จากการศึกษาพบว่าร่างกายของแมวมีการสั่นสะเทือนอยู่ที่ 35 ถึง 50 เฮิร์ต ซึ่งช่วยในการรักษากระดูก และเสียงครางของเจ้าเหมียวจะมีความถี่อยู่ที่ 25 ถึง 150 เฮิร์ต และบางส่วนบอกว่าการสั่นจะช่วยให้กระดูกของแมวแข็งแรงขึ้น (ฟังดูเหมือนเพ้อเจ้อ แต่ NASA ก็ใช้การสั่นสะเทือนในการบำบัดกระดูกในอวกาศ)…