Tag: school shooting
-
สิ่งที่เหลืออยู่ของเหยื่อเหตุกราดยิงวัย 14 ในช่วงมัธยมต้นปี 2 และวันสุดท้ายในชีวิต
เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ณ โรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School เมือง Parkland รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกตื่นตัวกับปัญหาทางด้านจิตวิทยาและกฎหมายการครอบครองปืน นอกเหนือจากข้อมูลของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตแล้ว หนึ่งในผู้ปกครองของผู้เสียชีวิต Lori Alhadeff ผู้เป็นแม่ของ Alyssa Alhadeff วัย 14 ปี ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวหลังจากเกิดเหตุ ที่เหลือเพียงบาดแผลลึกในจิตใจ กับสิ่งของของลูกสาวที่ทิ้งไว้ดูต่างหน้า นาง Lori นั่งอยู่ภายในห้องนอนของลูกสาวพร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์ของเธอ และข้าวของเครื่องใช้ในช่วงชีวิตการเรียนชั้นมัธยม ทั้งตำราเรียน กระดาษโน๊ต หวี ปากกามาร์กเกอร์ พร้อมทั้งแผ่นมาร์กหน้าและน้ำยาทาเล็บของลูกสาว . คุณแม่เปิดเผยว่า ในวันก่อนเกิดเหตุลูกสาวของเธอกำลังเคลียร์ห้องนอน เพื่อจัดแจงอุปกรณ์ไปโรงเรียน จนกระทั่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ลูกสาวของเธอก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทุกวันนี้ คุณแม่นอนหลับได้เพียงวันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะยังคงคิดว่าลูกสาวยังอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน และหวังว่าเธอจะกลับมา……
-
นร. หญิงส่งข้อความ ‘ข่มขู่กราดยิงโรงเรียน’ อ้างเจตนาลงมือ เพื่อที่จะมีเวลาอ่านหนังสือสอบเพิ่ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิง (School Shooting) ขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 17 คน ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเกิดไอเดีย ที่จะใช้สถานการณ์ที่กำลังบอบบางเช่นนี้ให้เป็นประโยชน์ เธอจึงได้ส่งข้อความว่าจะก่อเหตุกราดยิงขึ้น โดยแท้จริงแล้วเธอมีจุดประสงค์เพื่ออยากจะมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นเพียงเท่านั้น โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่รัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อมีวัยรุ่นสาวมัธยมปลายชื่อว่า Emily Nicole Wilson วัย 18 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียน Vinemont High School ได้ส่งข้อความข่มขู่ว่าจะก่อเหตุกราดยิงขึ้นผ่านแอปฯ TextNow ในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และในเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ต้องถูกจับกุมตัวเนื่องในข้อหา “สร้างสถานการณ์ก่อการร้าย“ โดยข้อหานี้เป็นการกระทำผิดกฎหมายในหมวดหมู่ C ของรัฐแอละแบมา ซึ่งมีบทการลงโทษก็คือจำคุกอย่างน้อย 1 ปีแต่ไม่เกิน 2 ปี และถ้ามีการตัดสินจริงก็จะทำให้สาวน้อยคนนี้ต้องถูกปรับเงินจำนวน 15,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 470,000 บาท) อีกด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า เหตุที่ทำให้สาวคนนี้ส่งข้อความก็เป็นเพราะว่าเธอต้องการให้ลงโรงเรียนปิด เพื่อที่จะได้ซื้อเวลาสำหรับการอ่านหนังสือสอบนั่นเอง “เมื่อเราตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เรามีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้น แต่รู้อะไรไหม ผลที่ได้ออกมาคือถูกจับกุมและต้องไปนอนอยู่ในคุกด้วยข้อหาเช่นนี้แหละ” Matt Gentry นายอำเภอประจำท้องที่กล่าว …
-
‘จะต้องมีเด็กอีกกี่คนต้องตาย?’ เหล่านักเรียนกว่าพันชีวิต ร่วมประท้วงเปลี่ยนกฎหมายปืน
หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน (School Shooting) ขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 17 คน ทำให้เริ่มมีกระแสกดดันเรื่องการควบคุมอาวุธปืน ให้เข้มงวดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา และดูเหมือนกว่าตอนนี้กระแสนั้นจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีนักเรียนนับพันในหลายหัวเมืองคนตัดสินใจเดินออกจากห้องเรียนไปประท้วงเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยการประท้วงในเรื่องนี้เกิดขึ้นในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรวมตัวประท้วงครั้งใหญ่ในหลายรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง รัฐเท็กซัส รัฐแมริแลนด์ และรัฐเวอร์จิเนีย แต่จุดสำคัญใหญ่ๆ ก็คือ การที่นักเรียนกว่า 2,000 คนรวมทั้งผู้ปกครองและคุณครู ได้ร่วมจับมือกันและสวดมนต์ที่หน้าโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High โรงเรียนที่เกิดเหตุในรัฐฟลอริด้า พร้อมทั้งสวมเสื้อสีประจำโรงเรียนและกวัดแกว่งธงสัญลักษณ์ไปมาอีกด้วย และในเวลา 14.20 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้นพวกเขาก็ได้ร่วมกันสวดภาวนาให้กับผู้ที่เสียชีวิต พร้อมกับมีการสื่อความหมายไปยังรัฐบาลว่า ‘มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก’ และ ‘เราจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป’ ร่วมด้วย จากนั้นผู้คนนับพันรวมถึงผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์นั้น ก็เดินทางไปรวมตัวกันที่ศาลากลางรัฐฟลอริด้า เพื่อเพิ่มความกดดันให้ฝ่ายนิติบัญญัติออกมาตรการควบคุมปืนที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งป้ายที่ใช้กดดันก็มีข้อความอย่าง ‘ไม่อีกแล้ว’ กับ ‘เป็นผู้ใหญ่หน่อย ทำอะไรสักอย่างสิ’ ที่เขียนขึ้นจากนักเรียนของโรงเรียนที่เกิดเหตุกราดยิง …
-
ออสเตรเลียเคยยึดปืน 600,000 กระบอก ป้องกันปัญหากราดยิง และอาจเกิดขึ้นกับสหรัฐตอนนี้!!
หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียน (School Shooting) เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ทำให้ในตอนนี้ได้เริ่มมีการพูดอภิปรายเรื่องกฎหมายการควบคุมปืนเกิดขึ้นแล้ว ในประเทศสหรัฐฯ โดยผู้ต้องหาก่อเหตุดังกล่าวมีชื่อว่า Nikolas Cruz ที่ใช้อาวุธปืนไรเฟิลจู่โจม AR-15 เข้าไปกราดยิงผู้คนในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas อดีตโรงเรียนมัธยมของเขา ซึ่งได้ทำให้มีคุณครูและนักเรียนกว่า 17 คนต้องเสียชีวิตด้วยกระสุนจากปลายกระบอกปืนกึ่งอัตโนมัติกระบอกนั้น การสังหารหมู่ในวาเลนไทน์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเหตุการณ์กราดยิงที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญคือนี่เป็นการกราดยิงในโรงเรียนครั้งที่ 18 แล้วในเวลาเพียงแค่ 44 วันของการเปิดศักราชปี 2018 โดยการเกิดเหตุการณ์กราดยิงขึ้นแต่ละครั้ง ก็จะทำให้ชาวอเมริกันตื่นตัวขึ้นมาในเรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธ ซึ่งถ้าหากพูดจริงๆ แล้วก็จะสามารถแบ่งผู้คนได้เป็นสองฝั่งนั่นคือ ฝั่งหนึ่งต้องการที่จะให้มีกฎหมายควบคุมอาวุธที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งก็ต้องการอาวุธเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายต่างๆ สำหรับคนที่เรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น พวกเขาได้ชี้ไปยังประเทศอื่นอย่าง ออสเตรเลียที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเมื่อ 22 ปีที่แล้วในปี 1996 ชายชื่อว่า Martin Bryan ได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญในทำนองเดียวกันนั่นคือการกราดยิง ทว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้กลายเป็นการฆาตกรรมหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรเลีย โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 35 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกถึง 23 คน Nikolas…
-
พี่น้องส่งข้อความหากันในระหว่างเกิดเหตุกราดยิง เผยให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและเสียงปืนที่เกิดขึ้นในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า จากเหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คุณครู และนักเรียนหลายคนต้องพยายามหลบซ่อนเพื่อเอาชีวิตรอดทั้ง ในวินาทีนั้นใครหลายคนอาจจะคิดแต่เพียงว่าจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร ทว่าก็มีพี่น้องอยู่คู่หนึ่งที่ไม่เพียงแต่หาวิธีรอดเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นแสดงความแน่นแฟ้นของสายใยระหว่างพี่น้อง ด้วยการส่งข้อความถามไถ่ถึงความปลอดภัยรวมถึงบอกถึงความรักที่มีต่อกัน เพราะในเวลานั้นอาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของพวกเขาก็เป็นได้… หน้าตาของ Sam ผู้เป็นพี่ชายที่แสนดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Sam Zeif วัย 18 ปีผู้เป็นพี่ชายได้แชร์ข้อความที่เขากับน้องชาย Matthew วัย 14 ปี ได้ส่งหากันในระหว่างที่ Nikolas Cruz มือสังหารหมู่กำลังกราดยิงผู้คนในโรงเรียน ซึ่งในตอนนั้นสองพี่น้องคู่นี้ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากลูกกระสุน จึงทำให้พวกเขาต้องพลัดกันไปอยู่คนละห้อง หลังจากที่เริ่มมีเหตุการณ์ยิงเกิดขึ้น ด้วยความเป็นห่วงว่าน้องชายจะเป็นอะไรไป Sam จึงได้เริ่มส่งข้อความไปถามเขาว่า “น้องโอเคใช่ไหม” Matthew น้องชายของเขา หลังจากนั้นน้องเขาก็ส่งข้อความกลับมาว่า “หวังว่าคงเป็นอย่างนั้น” พร้อมทั้งประโยคที่แสนจะกินใจว่า “ขอให้รู้เอาไว้ว่าผมจะรักพี่ตลอดไป และพี่เป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ” หลังจากได้เห็นความรักของน้องชายแล้ว Sam ก็พยายามจะปลอบใจเขาพร้อมด้วยสร้างกำลังใจขึ้นมาด้วยการบอกกับน้องไปว่า “เราจะต้องออกไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน พี่สัญญา” Sam: โอเคใช่ไหมน้องพี่ Matthew:…
-
โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า
ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…