Tag: Soldier
-
หนุ่มรักหมาตั้งใจมาหาหมาเลี้ยง แต่เจอเสน่ห์เหมียวเข้าให้ จนต้องตกเป็นทาสมัน
แมวนี่เป็นสัตว์ที่เก่งมากเลยนะ มันสามารถทำให้คนที่ไม่ได้คลั่งไคล้แมวแม้แต่นิด หันมาตกหลุมรักกับความน่ารักของมันได้ ไม่แปลกใจเลยถ้าสักวันหนึ่งมันจะยึดโลกเราไป เหมือนที่ทหารหนุ่ม spamwisejamkey จากเว็บไซต์ Imgur ได้เล่าเรื่องของตัวเอง ที่ผันตัวจากคนรักหมากลายเป็นทาสแมวซะงั้น เขาได้พบกับเจ้าเหมียวที่เปลี่ยนชีวิตในศูนย์พักพิง Richmond Animal League ตอนแรกเขาตั้งใจมาที่นี่เพื่อรับเลี้ยงหมาสักตัวหนึ่ง แต่ตอนนั้นหมาทุกตัวมีคนรับเลี้ยงหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยแนะนำให้ลองมาดูสัตว์ตัวเล็กที่อยู่ในกรงด้านหน้าดูบ้าง เผื่อจะมีตัวไหนถูกใจเขา แต่แทนที่เขาจะเพ่งความสนใจไปที่สัตว์ตัวอื่นๆ ตาของเขาดันสะดุดเข้ากับ Marbles ลูกแมวสามสี แล้วไม่สามารถละสายตาจากมันได้เลย ทหารหนุ่มเล่าว่า “ผมไม่เคยสนใจแมวเลยสักนิด แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกยอมรับมันเข้ามาในหัวใจ ผมเลยเอามันวางไว้ในกรงเดิม กลับไปกรอกเอกสาร แล้วก็พามันกลับบ้านไปตอนนั้นเลย … ถึงพวกเขาจะไม่มีลูกหมา แต่ผมก็ได้เจอเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้ผมไม่ใช่ทาสแมว แต่ต่อจากนี้ไปผมคงเป็นทาสแมวแบบเต็มตัว” เจ้าแมวได้รับชื่อใหม่ว่า Barb ทาสของมันดูแลมันอย่างดี จนตอนนี้เจ้าเหมียวก็โตเป็นแมวตัวอ้วนกลมแล้ว แถมยังชอบกอดชอบอ้อนด้วย รู้จักโปรยเสน่ห์แบบนี้สินะถึงได้ทาสมาครอง หลังจากนั้นเขาก็รับลูกหมา Rupert มาอีกตัวหนึ่งไว้อยู่เป็นเพื่อนมัน ทว่าเจ้าหมาก็ถูกเจ้าแมวเลี้ยงให้เป็นทาสอีกตัวหนึ่งซะอย่างงั้น แต่ก็เป็นทาสที่มันสนิทด้วยนะ ถ้ามันไม่กอดกับเขา ก็จะไปนอนกอดกับเจ้าหมานี่แหละ มีทาสมนุษย์แล้ว ก็ยังได้ทาสเป็นหมาเพิ่มอีกตัว หึหึ …
-
ลูกกวางมูสหลงทางเดินหาแม่ไม่เจอ เห็นพี่ทหารก็เลยขอดูดนม เพราะคิดว่าเป็นแม่
ทหารมีหน้าที่ต้องรักษาความสงบของประเทศ และช่วยเหลือทุกชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุข ซึ่งในบางครั้งทุกชีวิตไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนเท่านั้น แต่รวมไปถึงเพื่อนร่วมโลกตัวอื่นๆ ด้วย นายทหาร Erich Jyri Prikko เป็นทหารที่ประจำอยู่แถบป่าของประเทศเอสโตเนีย เขาเป็นทหารในสังกัดที่ดูแลพื้นที่แถบทะเลสาบ Võrtsjärv เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018 ตอนที่เขาเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาที่ชิ้งฉ่อง เขาก็บังเอิญไปเจอลูกกวางมูสตัวหนึ่ง มันเดินอยู่ตามลำพังและมีท่าทางตกใจเล็กน้อย เขาไม่อยากจะทำให้มันตกใจไปมากกว่านี้ ก็เลยเดินไปหลบอยู่ตรงต้นไม้ข้างๆ แล้วหวังว่ามันจะเดินกลับไปหาแม่ของมันเอง เขาจะได้ไปทำธุระของเขาต่อสักที แต่ลูกกวางมูสกลับไม่ได้เดินหนีไป หลังจากมันลังเลอยู่พักหนึ่งมันก็เดินตรงเข้ามาหาเพื่ออ้อนเขา บางทีเขาคงดูไม่มีพิษมีภัยมันก็เลยเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ แถมมันยังเอาจมูกดันมาตรงร่องรักแร้ของเขาด้วย Prikko คิดว่ามันคงคิดว่าเขาเป็นแม่ของมัน ก็เลยมาขอดูดนมให้หายหิวล่ะมั้ง แน่นอนว่าเขาไม่มีน้ำนมให้มันดูดกินหรอก ก็เลยช่วยให้มันหายหิวไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมันไว้ตามลำพังเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะพามันกลับไปหาแม่เลย เมื่อไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไง เขาก็เลยติดต่อไปที่ส่วนกลางเพื่อแจ้งสถานการณ์ให้สัตวแพทย์ประจำสังกัดทราบ พอสัตวแพทย์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาก็เลยบอกแล้วทหารหนุ่มพาลูกมูสกลับไปยังจุดที่เจอตอนแรก แล้วคอยสังเกตการณ์ก็พอ ไม่นานนักก็มีสัตวแพทย์จากส่วนกลางมาตรงจุดที่เขาอยู่ พวกเขาเอานมใส่ขวดมาป้อนให้ลูกกวางมูสเผื่อในกรณีที่แม่กวางไม่กลับมาแถวนี้มันจะได้ไม่หิว แต่ระหว่างที่ป้อนนมลูกวางมูสพวกเขาก็พยายามทำภารกิจให้เงียบเชียบที่สุด จะได้ไม่ทำให้สัตว์ที่ผ่านไปมาตกใจกลัว Prikko ยังคงเฝ้าลูกกวางอยู่ตรงนั้นต่อไปจนค่ำ แม้จะดึกมากแล้วเขาก็ยังหลับเฝ้ามันอยู่ตรงนั้น และกลางดึกนั้นเองเขาก็ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงลูกกวางร้อง พอตามไปดูที่จุดเดิมก็เห็นรอยเท้าของลูกกวางและกวางตัวใหญ่อีกตัวหนึ่ง จึงตีความได้ว่าแม่ของมันพามันกลับไปได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ พี่ทหารเขาก็ใจดีจังเลยนะ เรียกคนมาช่วยลูกกวางแล้วก็ยังนั่งเฝ้ารอแม่ให้มารับมันไปอีก สมแล้วที่เป็นคนทำหน้าที่รักษาความสงบของประเทศชาติ…
-
งงทั้งกองร้อย เมื่อมีสาวมาถ่ายรูปกับทหารหนุ่ม นึกว่าเป็นแฟนกัน อ้าวเฮ้ย… นั่นแม่หรอกเหรอ!?
ภาพสาวสวยคนหนึ่งที่ถ่ายรูปเซลฟี่กับทหารหนุ่มนั้นกำลังเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มชาวเน็ตไต้หวัน เพราะดูยังไงก็เหมือนกับคู่รักไม่มีผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอคือแม่ของเขาต่างหาก ชาวเน็ตต่างก็ทำใจเชื่อได้ยากว่าคุณแม่อะไรจะสวยและดูอ่อนเยาว์ขนาดนี้ หลังจากที่ Ye Xinyu ( 葉芯語 ) โพสต์ภาพของตัวเองและลูกชายลงในเฟซบุ๊กแล้ว ก็ได้รับความสนใจจากความเน็ตอย่างล้นหลาม เฉพาะโพสต์หน้าเฟสบุ๊กของเธอมีคนเข้าไปกดไลค์ให้โพสต์ของเธอกว่า 12,000 ครั้ง และแชร์ต่อไปอีกกว่า 100 ครั้งแล้ว นี่ยังไม่นับที่ชาวเน็ตเอาไปเผยแพร่กันต่ออีกนะ โพสต์ของคุณแม่ ในโพสต์เฟซบุ๊กเธอกล่าวถึงหน้าตาที่สวยงามของเธอ ซึ่งเธอเองก็มีความมั่นใจในความสวยเหมือนกัน และอีกส่วนก็กล่าวถึงลูกชายของเธอที่เป็นทหารอยู่ โดยเธออยากให้ทุกคนปฎิบัติต่อลูกของเธอด้วยความเป็นมิตร ลูกชายจะได้เป็นทหารที่ช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างมีความสุข เธอยังบอกในโพสต์ไว้ด้วยว่าลูกชายเธออายุ 20 ปีแล้ว พอเห็นดังนั้นชาวเน็ตเลยลองนั่งนับอายุของเธอดู แล้วคาดว่าเธอน่าจะมีอายุเกือบๆ 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังสวยเช้งอยู่เลย ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นต่างก็ตกตะลึงในรูปลักษณ์ที่ดูเยาว์วัยของสาวคนนี้กันทั้งนั้น นอกจากรูปที่เธออัปกับลูกชายแล้ว รูปอื่นๆ ที่เธออัปโหลดลงในเฟสบุ๊กไม่ว่ารูปไหนก็ดูสวยใสทั้งนั้น ลองไปชมรูปของเธอกันเลย ถึงจะเห็นแบบนี้แต่ไม่ใช่แฟนกันนะ เป็นแม่ลูกต่างหาก ลูกชายเพิ่งเข้ากองทัพไม่นาน เลยเข้ามาให้กำลังใจทุกอาทิตย์ค่ะ รูปโปรไฟล์ของเธอช่างดึงดูดใจชายหนุ่มซะจริง พออยู่ในชุดเสื้อกันหนาวแล้วทำให้เข้าใจผิดง่ายๆ เลยว่าเป็นเด็กนักเรียน ผิวขาวเนียน ตากลมโตมีเสน่ห์ขนาดนี้ หนุ่มที่ไหนจะอดใจไม่มองได้บ้าง ยิ่งแต่งตัวชุดลำลองก็ยิ่งดูวัยรุ่นมากเข้าไปทุกที…
-
เพราะเมียใกล้คลอด ทหารหนุ่มเลยนั่งเครื่องบินกว่า 10 เที่ยวใน 2 วัน เพื่อกลับบ้านไปเจอหน้าลูก
ไม่ว่าพ่อแม่คนไหน ก็ให้ความสำคัญกับลูกเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเกิดเป็นลูกน้อยคนแรกที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แม้จะต้องเดินทางข้ามโลกมาหาลูกก็ตาม นาย Francois Clerfe ทหารของกองทัพสหรัฐอเมริกา ก็กำลังจะมีลูกสาวคนแรก แม้ว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศอิรักก็ตาม แต่เขาก็ยินดีที่จะต้องนั่งเครื่องบินข้ามฟ้า มารอเจอหน้าลูกตอนเธอเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา Francois Clerfe ในหน่วยที่ Clerfe ประจำอยู่ มีนโยบายพิเศษให้ทหารกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อไปหาภรรยาตอนเธอคลอดได้ พวกทหารจะได้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาชาติในฐานะทหาร หรือการดูแลครอบครัวในฐานะพ่อด้วย แต่ถึงจะได้รับอนุญาติให้กลับไปรอเจอหน้าลูกที่กำลังจะเกิดได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะกลับไปหาภรรยาและลูก เพราะจากประเทศอิรักไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องนั่งเครื่องบินถึง 7 เครื่อง นับดูแล้วต่อเที่ยวบินถึง 10 ครั้งด้วยกัน แต่คุณพ่อก็ไม่ได้ย่อท้อแต่อย่างใด เขานั่งเครื่องบินเครื่องแล้วเครื่องเล่า รวมแล้วใช้เวลายาวนานกว่า 2 วันกว่าเขาจะมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทหารหนุ่มและครอบครัว ทหารหนุ่มเล่าว่า “ผมต้องเดินทางยาวนานมาก จากคูเวตไปยังตุรกี จากตุรกีไปยังแฟรงค์เฟิร์ต จากแฟรงค์เฟิร์ตไปยังบัลติมอร์ และจากบัลติมอร์ไปยังแอตแลนตา” เขาต้องรีบเดินทางแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ทันเวลาที่ภรรยาจะคลอด ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากเลย เขาบอกว่า “ตอนเดินทางน่ะทั้งสนุกและก็ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันเลย” ส่วนภรรยาของเขา Svistunova Clerfe…
-
เมื่อนักท่องเที่ยวหัวเราะเฮฮาขณะเยี่ยมชม “สุสานทหารไร้ชื่อ” นายทหารจึงต้องออกมาเตือนสติ!!
สถานที่บนโลกนี้มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป บางที่เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน บางสถานที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเข้าไปแล้วก็ควรให้ความเคารพในกฎระเบียบของแต่ละสถานที่นั้นๆ หรือบางแห่งถึงจะไม่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัดอะไร แต่ก็ควรดูกาลเทศะให้เหมาะสมกับสถานที่ มิเช่นนั้นคุณอาจจะโดนต่อว่าเหมือนกับบุคคลที่ไม่ให้ความเคารพสถานที่อย่างนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสุสานแห่งนี้สร้างขึ้นใน ค.ศ.1921 โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงเหล่าทหารที่เสียชีวิตลง แต่ไม่สามารถที่จะระบุตัวตนได้ ซึ่งสุสานแห่งนี้ก็เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิต แต่ก็พบว่ามีประชาชนบางกลุ่มอาจจะไม่รู้ว่าในสุสานควรใช้ความสงบและไม่ควรส่งเสียงดังจนเกินไป เพราะว่านั่นเป็นเหมือนเป็นดูหมิ่นเกียรติของทหารที่เสียชีวิต โดยประชาชนกลุ่มหนึ่งได้ส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมา ทหารผู้ที่เข้าเวรยามเฝ้าอยู่นั้นจึงได้ออกมาตักเตือนผู้ที่มีการกระทำดังกล่าว โดยการออกมาบอกว่า “กรุณาใช้ความเงียบและให้ความความเคารพด้วย” หลังจากนั้นประชาชนกลุ่มนี้ก็ได้เงียบลงไป ซึ่งนับว่าทหารนายนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องและเหมาะสมเลยทีเดียวแหละ คลิปวีดีโอขณะนายทหารได้ออกมาตักเตือน ไม่ว่าจะไปสถานที่ใดก็ควรให้เกียรติสถานที่นั้นด้วยนะ ที่มา: warhistoryonline, chaleco86
-
รวมภาพ 10 ปีให้หลัง เหล่าทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน กับความสูญเสียจากสมรภูมิตะวันออกกลาง
สำหรับทหารที่ออกรบมาแล้วนั้น สงครามของพวกเขาก็มีทีท่าที่ไม่จบสิ้นเสียที เพราะในทุกๆ วันของพวกเขาต้องต่อสู้กับบาดแผลที่ได้รับมาจากสงครามไม่ว่าจะหนักหรือเบาเพียงใด ทั้งภายนอกทางด้านร่างกายรวมไปถึงภายในจิตใจด้วย David Jay และ James Nachtwey สองตากล้องได้บันทึกภาพของเหล่าทหารอเมริกันที่กลับจากสมรภูมิในอิรักและอัฟกานิสถาน โดยชุดภาพนี้มีชื่อว่า “Unknow Soldier” ซึ่งได้เข้ารอบสุดท้ายประเภท Portrait ของ Magnum Photography Awards ในปี 2016 ที่ผ่านมาด้วย Bobby Henline ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวหลังจากที่รถลาดตระเวนที่เขาโดยสารโดนระเบิดโจมตี Jerral Hancock เป็นพลขับรถถัง เขาเสียแขนทั้งสองข้าง ด้วยแรงระเบิดจากการปะทะของศัตรู Jason Park สูญเสียขาทั้งสองข้าง อันเป็นผลจากระเบิดแสวงเครื่อง แต่มันไม่อาจทำให้เขาสูญเสียความร่าเริงแต่อย่างใด Shilo Harris รอดชีวิตจากการลาดตระเวน เขาสูญเสียคนในทีมไป 3 คนจากแรงระเบิดครั้งนั้น Joel Tavera ตาบอด มีบาดแผลไฟไหม้ และสูญเสียขาไปจากสงครามนี้ Bo Reichenbach เคยอยู่หน่วย…
-
ทหารถ่ายรูปกับหมา ก่อนตายในสงครามอิรัก ครอบครัวทำเรื่องน่าซึ้ง ขอหมาตัวนั้นมาเลี้ยงที่บ้าน..!!
เพื่อนๆคงรู้กันอยู่แล้วว่าอเมริกาทำสงครามกับผู้ก่อการร้ายในอิรักมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่าต้องมีผู้คนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวเมือง ผู้ก่อการร้าย และทหาร และวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวที่น่าสลดใจที่เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากสงครามนี้ (แต่ไม่สลดใจที่สุดนะ ปนความสุขไปด้วยนิดๆละกัน) มาเล่าให้ได้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน เป็นเรื่องราวของ Justin Rollins ทหารหนุ่มที่สังกัดอยู่ในหน่วยรบพิเศษถูกส่งไปรบในประเทศอิรัก ซึ่งตอนนี้เขาได้เสียชีวิตลงแล้ว… …แต่ในคืนก่อนที่เขาจะเสียชีวิตนั้น พบว่าเขาได้ถ่ายรูปพร้อมกับอุ้มเจ้าหมาน้อยตัวหนึ่ง ดูสิหน้าตาของมันน่ารักเชียว และดูท่าพ่อหนุ่ม Justin ของเราก็จะรักมันมาก แม้ว่าเขาจะจากไป แต่ครอบครัวก็รู้สึกว่าอยากจะดูแลสิ่งที่เป็นของเขา และสิ่งที่เขารักให้ดีที่สุด… เมื่อเห็นเช่นนั้นครอบครัวของนายทหาร Justin จึงติดต่อไปยังกองทัพ เพื่อขอรับเจ้าหมาตัวนั้นมาเลี้ยงดู และตั้งชื่อมันว่า Hero มีอยู่วันหนึ่งพวกเขาโพสท์คลิปวิดีโอของเจ้า Hero ลงในโซเชียล แต่เกิดเรื่องประหลาดขึ้นในคลิปพบว่ามีลำแสงส่องลงมาที่มัน ชาวเน็ตบางคนก็บอกว่าเป็นฝีมือของ Justin แต่ก็มีคนที่เห็นแย้ง และบอกว่าเป็นแค่มุมของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบเลนส์กล้อง จึงทำให้เห็นเป็นเหมือนลำแสงส่องลงมา ภาพที่ว่าคือภาพนี้ล่ะ… อย่างไรก็ตามนายทหาร Justin จะต้องมีความสุขมากแน่ๆ ที่อย่างน้อยเจ้าหมาที่เค้ารักก็ตกมาอยู่กับคนที่เค้ารักเช่นกัน และครอบครัวของเขาจะต้องเลี้ยงเจ้า…
-
คู่หูทหารและสุนัขได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแสวงเครื่อง แต่ก็รอดมาได้ พักฟื้นอยู่ด้วยกันตลอดเวลา!!
เป็นที่ทราบกันดีว่าในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของทหารของต่างประเทศนั้นจะมีการนำสุนัขทหารเป็นคู่หูติดตามไปด้วย เนื่องจากพื้นที่ที่เสี่ยงอันตรายนั้นอาจจะมีการซุกซ่อนวัตถุอันตรายอย่างระเบิดแสวงเครื่องเอาไว้อยู่ รวมทั้งใช้สุนัขตรวจค้นวัตถุต้องสงสัยอีกด้วย แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากจะให้เกิด มันก็เกิดขึ้นกับนายทหาร Andrew Brown และเจ้า Rocky โดยในระหว่างที่ทั้งสองปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน ก็โดนระเบิดแสวงเครื่องเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ล่าสุดนี้ทั้งสองก็ได้ถูกนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาล Walter Reed ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยเพจ 89th Military Police Brigade ก็ได้โพสต์เผยแพร่ภาพของเจ้า Rocky ได้รับเหรียญกล้าหาญและให้กำลังใจเพื่อให้หายกลับมาเป็นปกติอีกครั้งในเร็ววัน และสิ่งที่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุดก็คือ ทั้ง Andrew Brown กับเจ้า Rocky นั้นได้รับการรักษาอยู่ภายในห้องเดียวกัน ไม่ห่างจากกันไปไหนเลย แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งสองก็ช่วยเยียวยากันและกัน น่ารักมากๆ เลยแฮะ ที่มา : unilad
-
กฏหมายใหม่คุ้มครองสุนัขของกองทัพสหรัฐฯ จะไม่มีตูบตัวไหนถูกทิ้งหลังปฏิบัติหน้าที่แล้ว!!
เหมียวเคยนำเสนอเรื่องราวของสุนัขทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ให้กับกองทัพสหรัฐฯ ไปเมื่อนานมาแล้ว ซึ่งหลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น ทางกองทัพไม่มีนโยบายที่จะนำตัวสุนัขกลับมายังประเทศสหรัฐฯ อีก เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับทหารที่มีความผูกพันกับเพื่อนซี้สี่ขาของตนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีสุนัขทหารทำหน้าที่เพื่อรับใช้ชาติสหรัฐฯ ประมาณ 2,000 ตัว ช่วยชีวิตทหารและพลเรือนมานับไม่ถ้วน ซึ่งจากนโยบายเก่าหลังจากที่ปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น สุนัขเหล่านี้ก็จะแปลงสภาพกลายมาเป็นพลเรือนทันที ไม่มีสิทธิ์ที่จะขึ้นยานพาหนะของกองทัพได้อีกต่อไป และด้วยปัญหาเหล่านี้ที่ค้างคาใจมานาน ทางสภาสหรัฐฯ ก็ได้ร่างกฏหมายขึ้นมาใหม่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 ซึ่งเป็นการแก้ไขนโยบายสำหรับสุนัขทหารที่ปลดประจำการ โดยทหารที่เป็นคู่หูเจ้าตูบและครอบครัวจะมีสิทธิ์ในการรับสุนัขตัวนั้นไปเลี้ยงก่อนใคร เหล่าทหารผ่านศึกที่ได้กลับมายังบ้านเกิดของตนต่างรู้สึกอ้างว้าง ถึงแม้จะได้กลับมาอยู่ที่บ้านแต่ไม่มีคู่หูสี่ขาที่ร่วมรบเคียงบาเคียงไหล่ มันก็รู้สึกเหมือนกับขาดอะไรไปในชีวิต และด้วยนโยบายใหม่นี้จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้หมดไป เมื่อมีกันและกัน ทั้งทหารผ่านศึกปลดประจำการกับสุนัขปลดประจำการ คอยเป็นยารักษาใจซึ่งกันและกัน สำหรับกฏหมายคุ้มครองสุนัขปลดประจำการนี้ กำลังรออุนมัติเซ็นจากประธานาธิบดีอยู่ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะ เหมียวขอเชียร์ให้กฏหมายนี้คลอดออกมาเร็วๆ ละกันน้าาาา ที่มา : thechive
-
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง!! เหมียวพาไปชมเสบียงอาหารของเหล่าทหารจากทั่วโลก น่ากินแค่ไหนต้องดู
เหล่าทหารหาญนั้น เป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องใช้พละกำลังอยู่ตลอดเวลา ไหนจะต้องเดินทางไกล แบกอาวุธหนักๆ อีก ซึ่งการที่พวกเขาจะมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ ได้นั้น มันก็เกิดจากอาหารที่พวกเขากินเข้าไปนี่แหละ ดั่งเช่นคำเปรียบเปรยที่เราได้ยินกันว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” วันนี้แอดเหมียวเลยจะพาเพื่อนๆ ไปชมหน้าตาอาหารที่เหล่าทหารจากทั่วโลกเขากินกัน หน้าตาเป็นยังไง? อร่อยไหม? มีอะไรให้กินบ้าง? ไปชมพร้อมๆ กันเลย(มีของไทยด้วยนะ) 1. สิงคโปร์: ข้าวผัด บะหมี่ผัด มีเม็ดบัวกับเนยถั่วเป็นของหมวาน 2. โปแลนด์: สตูเนื้อ แฮมกระป๋อง แครกเกอร์ และน้ำชา 3. ยูเครน: มีธัญพืชบด แฮม แครกเกอร์ และกาแฟ 4. แคนาดา: สปาเก็ตตี้ ออมเล็ต แครกเกอร์ชีส และน้ำผลไม้ 5. เอสโตเนีย: ประกอบไปด้วยมีทบอล พืชบด แครกเกอร์และเครื่องดื่มธัญพืช 6. สเปน: สตูรวมมิตร ปลาหมึกกระป๋อง และกาแฟ 7. เกาหลีใต้: เนื้อผัดข้าวโพดและแครอท กิมจิ…
-
หมัดเดียวจอด!! สื่อนอกเผยคลิปทหารต่อต้านการก่อการร้าย โดนซัดหมัดเข้าหน้า
กลายเป็นคลิปวิดีโอที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ของสหรัฐอเมริกาอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของทหารนายหนึ่งที่ถูกคู่กรณีต่อยเข้าที่หน้าเพียงหมัดเดียว แต่กลับหมดสติและลงไปนอนอยู่กับพื้นในทันที!! เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคของการทะเลาะวิวาทภายในบาร์แห่งหนึ่ง ในประเทศยูเครน คลิปวิดีโอเผยให้เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 เดินมาหานายทหารนามว่า Artem Prikhodko ทันใดนั้นผู้ชาย 1 ใน 3 คนนั้นก็ประเคนหมัดเข้าหน้าของนายทหาร ทำให้เขาหมดสติลงไปในทันที หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่านาย Artem Prikhodko นั้นเสียชีวิตลงแล้ว ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง โอ้โห เหมียวนี่นึกถึง One Punch Man เลย!! ที่มา liveleak
-
น้ำตาจะไหล ชมคลิปคุณแม่ปล่อยโฮ หลังพบลูกชายที่ไม่ได้เจอกันนานเกือบ 3 ปี
การรอคอยใครสักคนถือเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดมากเลยนะ และสำหรับคุณแม่ที่รอคอยให้ลูกชายเดินทางกลับมาจากรับใช้ชาติ ยิ่งเป็นอะไรที่ทรมานใจมากทีเดียว หากใครนึกไม่ออกว่ามันเป็นยังไง วันนี้เหมียวมีคลิปมาให้ชมกัน เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ Sara Gallimore ได่เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดเซอร์ไพรซ์ของคุณแม่ชาวอเมริกันรายหนึ่ง ที่ลูกชายของเธอได้รับมอบหมายให้เดินทางไปประจำการในเยอรมัน แต่การปฏิบัติภารกิจของเขาต้องกินเวลานานกว่า 2 ปีครึ่ง ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาหาครอบครัวได้เลย วันหนึ่งเขาได้เดินทางกลับมาบ้าน และเตรียมแผนการกับพี่น้องเพื่อจะเซอร์ไพรซ์แม่ของเขา ด้วยการสวมผ้าปิดตาให้กับเธอ และทายว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร หลังจากที่ทายมาหลายคน ลูกชายของเธอก็เดินเข้ามาในชุดทหารและคุกเข่าลงต่อหน้าแม่ของเขา และเหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใคร เธอจึงเปิดผ้าปิดตาออก พร้อมกับปล่อยโฮออกมาทันที ทำเอาญาติๆที่อยู่ในงานถึงกับส่งเสียงร้องด้วยความยินดีไปด้วยเลย คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง (เตรียมทิชชู่ไว้ด้วยนะ) จุกจนพูดไม่ออกเลย ที่มา Sara Gallimore