Tag: steal
-
รวม 20 ภาพของเจ้าแมวตัวป่วน ที่ขโมยที่นอนของเพื่อนหมาโดยไม่รู้สึกผิดเลย
แมวเป็นสัตว์ที่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ มันจะเข้ามายึดครองทุกอย่างในบ้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้างของเครื่องใช้ อาหาร ของเล่น หรือแม้แต่ตัวทาสเองให้เป็นของในครอบครองของมัน ซึ่งทาสก็ย่อมยอมได้เพราะความรักเจ้าเหมียว ทว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่ทาสยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ไม่อยากให้เจ้าแมวยึดไปเลย นั่นก็คือที่นอนของเพื่อนหมาในบ้านเดียวกันนี่แหละ เพราะลึกๆ แล้วเราก็รักทั้งเจ้าแมวแล้วก็เจ้าหมา ไม่อยากจะทนเห็นมันต้องถูกแย่งชิงที่นอนไป แต่ทาสก็คือทาสนั่นแหละ ขัดเจ้านายไม่ได้หรอก ก็เลยทำได้แค่ส่งแรงใจไปช่วยให้มันยึดที่นอนคืนมาเองให้ได้ … จะนอนยังไม่ได้เลย ทำได้แค่นั่ง มันแคบเกิ๊น หงุดหงิด แมวบ้าอะไรมาแย่งที่นอนตู มันไม่พอดีตัวอะเหมียว เอาที่นอนคืนมาเถอะ จริงๆ ก็พอนอนทั้ง 2 ตัวนะ ไม่เห็นต้องไปนอนบนพื้นเลย ไซบีเรียนตั้ง 2 ตัวก็ยังยึดที่นอนคืนมาไม่ได้ เจ้านายจะไม่ช่วยผมจริงๆ เหรอฮะ!? เก๊าง่วงแล้วอะ จะให้เก๊าไปนอนที่ไหน เจ้านายมาบอกให้มันออกไปที ไม่กล้าไล่เอง ถ้าไม่ลุกงั้นก็นอนด้วยกันเลยแล้วกัน ทำขนาดนี้แล้วก็ลุกสิโว้ย อย่าเอาแต่มอง แกก็ทนนอนไปได้นะไอ้ตูบ ตัวยังแทบจะยัดลงไปไม่ได้เลย …
-
รวมภาพสัตว์เลี้ยงตอนโดนจับได้คาหนังคาเขาว่าทำผิด แก้ตัวไม่ขึ้นละเอ็งเอ๊ย
ตอนที่เราไม่อยู่บ้าน เราไม่มีทางรู้หรอกว่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเราทำอะไรอยู่บ้านบ้าง บางครั้งอาจจะเล่นซน แอบไปคุ้ยข้าวของของเราออกมาซะเละเทะ บางตัวก็คาบเอาไปซ่อนแล้วหาไม่เจออีกเลย แต่พวกมันก็รอดความผิดไปแทบทุกครั้งเพราะเราไม่มีหลักฐานมัดตัวมัน แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงไม่มีประสีประสาที่หัดทำผิดใหม่ๆ แล้วโดนจับได้คาหนังคาเขา ไม่ว่าจะทำท่าทางน่าสงสารหรือแก้ตัวยังไง แกก็ไม่รอดแล้วล่ะ วะฮ่าๆๆๆ และนี่คือโฉมหน้าของสัตว์เลี้ยงที่มีความผิดในวันนี้ ทาสใจเย็นๆ นะ เก๊าอธิบายได้ … ไอ้เหมียวมันร้าย ไม่พอใจทาสแค่นี้ถึงกับต้องทำร้ายกันเลยเหรอ ถึงจะโดนจับได้แต่ก็อิ่มนะ เฮ้ยๆ นั่งกินกาแฟอยู่ตรงนี้ยังกล้าขโมยอีกเหรอ คาปากขนาดนั้น ปล่อยตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะ มนุษย์เอาอะไรมาพูด เราไม่ได้กินเค้กสักหน่อย ล้วงกระเป๋าแม่แบบนี้ จะเอาเงินไปเที่ยวใช่ไหม? เจ้าโจรขโมยรองเท้า ขนาดโดนจับได้ยังไม่แคร์เลย เก๊าไม่ผิดนะ ทาสผิดเองที่ไม่เทข้าวให้เต็มถ้วย อ่ะ แก้ตัวมาเลย … รอฟังอยู่เลย มันไม่ได้เขียนชื่อติดไว้ ถือว่าไม่มีเจ้าของ ทำไมต้องไปแย่งกินอาหารพี่แมวแบบนั้นล่ะ!? เราไม่ได้ตั้งใจนะ มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่รู้จะโกรธหรือสงสารมันดี…
-
‘เฉินหลง’ เปิดใจ ‘หงจินเป่า’ พี่ใหญ่ที่เคารพเคยนำไอเดียของเขา ไปสร้างภาพยนตร์ตัดหน้า
ถ้าหากกล่าวถึงชื่อ เฉินหลง หรือ Jackie Chan เรามั่นใจว่าคนทั่วโลกไม่ว่ารุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็ต้องรู้จักเขากันแน่นอน เพราะเขาเป็นนักแสดงหนังแอ็คชั่นและคอมเมดี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในฝั่งซีกโลกตะวันออกและตะวันตกอีกด้วย ความสามารถของเขายังไม่หมดเพียงเท่านั้น นอกจากจะเป็นนักแสดงที่มีฝีมือแล้ว เขายังสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ได้อีกด้วย แม้ว่าเส้นทางชีวิตของเขาจะดูรุ่งโรจน์ แต่เขาเองก็เคยพบเรื่องราวที่เจ็บปวดมากเช่นกัน เขาเคยเล่าไว้ว่าเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตก็คือการที่ หงจินเป่า รุ่นพี่ที่นับถือขโมยไอเดียของตัวเองเอาไปสร้างภาพยนตร์ตัดหน้า หงจินเป่า และ เฉินหลง ย้อนไปเมื่อตอนที่เฉินหลงและหงจินเป่ากำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ใหญ่ทับใหญ่ (Mr. Nice Guy) ด้วยกัน เฉินหลงได้เล่าให้หงจินเป่าฟังว่าเขามีความคิดที่จะสร้างหนังอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับชายความจำเสื่อม และอีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องแนวกังฟูคาวบอย ซึ่งเขาตั้งใจว่าจะทำหนังแนวนี้ในอนาคต โปสเตอร์หนังเรื่อง ใหญ่ฟัดใหญ่ (Mr.Nice Guy) ทว่าต่อมาหงจินเป่ากลับนำไอเดียของเขาไปสร้างภาพยนตร์เรื่อง หวงเฟยหง พิชิตตะวันตก (Once Upon a Time in China and America) เสียก่อน ซ้ำยังนำเอาไอเดียจากทั้ง 2 เรื่องมารวมเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวด้วย ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง หวงเฟยหง…
-
หญิงสาวเคยขโมยสบู่จากร้านนี้เมื่อ 18 ปีก่อน ตอนนี้เธอเอาสบู่มาคืนแล้ว แถมเอามา 100 ก้อน
คุณเคยทำความผิดบางอย่างแล้วเก็บเอามันมาคิดอยู่บ่อยๆ บ้างรึเปล่า ถ้าเคยอาจจะแปลว่าจริงๆ แล้วคุณก็เป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีประมาณหนึ่ง จึงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องที่รู้สึกว่าผิดผ่านเลยไปได้ง่ายๆ นั่นเอง วิธีลบความผิดนั้นออกไปจากใจก็ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณขอโทษจากใจจริงแล้วชดใช้ความผิดนั้นซะ ก็จะรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเลยล่ะ เหมือนกับสาวคนนี้ที่เคยขโมยของจากร้านค้าไป สุดท้ายไม่สบายใจจนต้องเอาของกลับมาคืน 100 เท่า! Qu สาวน้อยที่เคยขโมยสบู่เมื่อครั้งยังเด็ก เมื่อเธอยังอายุ 12 ปีว Qu เคยขโมยสบู่ 1 ก้อนไปจากซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองยี่ฉวน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ความผิดครั้งนั้นกลายเป็นตราบาปในใจของเธอเรื่อยมาก จนตอนนี้อายุ 30 ปีแล้วเธอก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่ เธอจึงอยากลบล้างความรู้สึกผิดที่มีมาตลอด 18 ปีนี้ หญิงสาวตัดสินใจเดินทางกลับไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนั้น พร้อมกับนำสบู่แบบเดียวกันกับที่เธอเคยขโมยไปคืนจำนวน 100 ก้อน เพื่อเป็นค่าชดเชยในการโจรกรรมเมื่อเยาว์วัย เธอเล่าเรื่องการขโมยของครั้งนั้นให้เจ้าของร้านฟัง และขอโทษเขาด้วยความจริงใจ หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าของร้านฟังพร้อมทั้งนำสบู่ไปคืนแล้ว เจ้าของร้านก็ยกโทษให้เธอเพราะเห็นแก่ความจริงใจที่เธอมี หญิงสาวเล่าว่า “ความผิดพลาดครั้งนั้นกลายเป็นตราบาปในใจของฉันมาตลอดช่วงชีวิตนี้ เพราะมันคือเรื่องแย่ที่สุดที่ฉันเคยทำมาในชีวิตนี้” เจ้าของร้านประทับใจในเรื่องราวของเธอ เลยนำสบู่ที่เธอเอามาคืนไปแจกจ่ายให้กับคนในบริเวณนั้น นอกจากนี้เจ้าของร้านยังประทับใจในเรื่องราวของเธอ เขาจึงตัดสินใจนำสบู่ที่ได้มาจากเธอไปแจกจ่ายให้กับพนักงานทำความสะอาดในบริเวณใกล้เคียง เพื่อแบ่งปันความดีของเธอให้คนอื่นด้วย ตอนนี้นอกจาก Qu…
-
สาวจีนหวงทรัพย์สิน มุดเข้าเครื่องเอกซเรย์ตามกระเป๋า ป้องกันปัญหาถูกขโมยของ
เรื่องหนึ่งที่เราต้องระวังเป็นอย่างยิ่งเวลาออกเดินทาง ก็คือต้องระวังไม่ให้ทรัพย์สินของเราหาย นอกจากเราต้องเตือนตัวเองไม่ให้ลืมวางของทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ แล้ว ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีคนขโมยของระหว่างที่เราเผลอด้วย อย่างไรก็ตามบางครั้งเราก็จำเป็นต้องออกห่างจากสัมภาระของตัวเอง ตอนนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจของก็เช่นกัน ทว่าหญิงจีนคนหนึ่งห่วงว่าจะมีคนขโมยของระหว่างกระเป๋าเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ เธอก็เลยกระโดดเข้าเครื่องไปเฝ้ากระเป๋าซะเลย สร้างความตื่นตระหนกให้กับพนักงานดูแลอย่างมาก ภาพภายในเครื่องเอ็กซเรย์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาพนักงานที่ทำงานอยู่ในสถานีรถไฟ Dongguan Railway Station เมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนพบภาพหญิงสาวคนหนึ่งขณะตรวจภาพจากเครื่องเอ็กซรย์ เหตุเกิดเนื่องจากสาวคนนี้ห่วงทรัพย์สินของตัวเองมาก เธอกลัวว่าจะมีคนขโมยของในกระเป๋าเธอไป แม้แต่ตอนเอาเข้าเครื่องเอ็กซเรย์เธอก็ยังกลัวว่าพนักงานจะขโมยของตอนที่เธอไม่เห็นกระเป๋า เธอก็เลยกระโดดเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ไปพร้อมกันเพื่อเฝ้ากระเป๋าไว้ ภาพภายนเครื่องเอ็กซเรย์ พนักงานที่อยู่ที่นั่นเล่าว่าพวกเขาตกใจมากที่เห็นเธอกระโดดขึ้นไปบนสายพานของเครื่องเอ็กซเรย์ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามเธอได้ทัน เพราะเธอไหลเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ไปแล้ว พนักงานหญิงที่เป็นคนตรวจสิ่งของซึ่งผ่านเครื่องเอ็กซเรย์เองก็ตกใจมากเช่นกัน เพราะปกติพวกเธอจะเห็นแต่สิ่งของไหลผ่านเครื่องไปเท่านั้น พอเห็นภาพหญิงสาวติดเข้ามาด้วยจึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย หญิงสาวด้านล่างของภาพกำลังคลานออกมาจากเครื่องเอ็กซเรย์พร้อมกับกระเป๋า จากภาพจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงออกมาจากสายพานเครื่องเอ็กซเรย์จริงๆ เธอสวมเสื้อกันหนาวมีฮู้ดและรองเท้าส้นสูง พนักงานที่รอตรวจกระเป๋าด้านนี้เองก็ทำหน้าไม่ถูกเลยเมื่อเห็นเธอมุดออกมาแบบนั้น เท่านั้นยังไม่พอหลังจากหญิงสาวเข้าไปเฝ้าของในเครื่องเอ็กซเรย์แล้ว เธอก็ยังเปิดดูของในกระเป๋าซ้ำอีกรอบหนึ่งที่หน้าเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มีอะไรหายระหว่างการเอ็กซเรย์ หลังจากออกมาจากเครื่อเอ็กซเรย์แล้ว ก็ยังเปิดกระเป๋าเช็กของข้างในซ้ำอีกรอบ โชคดีที่การให้คนผ่านเข้าเครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋านั้นไม่มีอันตรายต่อร่างกายเธอ เพราะรังสีที่ใช้ในการเอ็กซเรย์กระเป๋าไม่ได้มากจนทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ นอกจากนี้พนักงานที่ทำงานที่นั่น ก็ไม่ได้เอาผิดอะไรกับเธอ พวกเขาคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ปล่อยให้มีคนหลุดเข้าไปในเครื่องพร้อมกับกระเป๋าได้…
-
หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!
สมัยนี้มีคนใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาว่าที่จอดรถไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างหนึ่งก็คือการจ่ายเงินเช่าที่จอดรถไปเสียเลย จะได้ไม่ต้องมาหาที่จอดรถให้เหนื่อย ทว่าปัญหาของหนุ่มผู้ใช้งาน Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Goalnado ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเช่าที่จอดรถไว้แล้วก็ยังมีรถคันหนึ่งมาแย่งที่จอดรถของเขาเป็นประจำ แม้จะเตือนแล้วก็ไม่ออกไปเสียที เมื่อเขาทนไม่ได้ก็เลยแก้แค้นเจ้าของรถคันนั้นให้รู้สำนึกซะบ้าง ให้มันโดนปรับเงินบานเลย โพสต์ส่วนหนึ่งของ Goalnado จาก Reddit Goalnado ทำงานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่จอดรถในที่ทำงานนั้นมีเพียงแค่ 8 คันเท่านั้นเขาก็เลยยอมจ่ายค่าที่จอดปีละ 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 53,000) จะได้ไม่ต้องแย่งที่จอดกับคนอื่น แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นโดยเขาเล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 อาทิตย์ก่อนมีรถปริศนาคันหนึ่งมาจอดในที่จอดรถของผมทุกวัน ผมเขียนโน๊ตบอกแล้วว่าที่จอดนี้เป็นของผมแต่เขาก็ยังเข้ามาจอดอยู่ดี แถมไม่ยอมติดต่อผมกลับตามที่เขียนโน๊ตไว้ให้ด้วย ผมก็ไม่พอใจอย่างมากก็เลยจอดรถขวางไม่ให้มันออกซะเลย แต่ดูเหมือนผมจะเลิกงานก่อนมันทุกทีมันก็เลยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แถมพอแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาปรับมันแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย” พอผ่านไปได้ 10 วันเขาก็รู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าของรถคันนั้น เขาเลยพยายามหาทางแก้แค้นให้หายเจ็บใจ เขากะว่าต้องทำให้เจ้าของรถรู้สำนึกให้ได้ ประจวบเหมาะว่าคนในที่ทำงานของเขาลาไปดูแลลูกที่เกิดใหม่พอดี แล้วพี่ชายของเขาก็เดินทางไปเที่ยวประเทศแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เขาจึงได้ที่จอดรถเพิ่มมา 1 ที่ และก็รถของพี่ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคัน เขาจึงเริ่มแผนล้างแค้นทันที…