Tag: Uber
-
คนขับ Uber ในซานฟรานซิสโกถึงกับเงิบ หลังขับรถตาม GPS อยู่ดีๆ ดันนำทางลงบันไดเฉย
การเดินทางในปัจจุบันนั้นถือเป็นอะไรที่สะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมากๆ เพราะเดี๋ยวนี้เราสามารถใช้ระบบ GPS นำทางได้ไม่มีหลง ผิดกับสมัยก่อนที่ต้องกางแผนที่ใหญ่ยักษ์เพื่อการเดินทาง กว่าจะหาทางได้ปวดหัวมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าระบบ GPS นั้นจะทำงานได้แม่นยำเสมอไป เพราะบางครั้งมันก็ประมวลเส้นทางผิดๆ ให้เราได้เช่นกัน แบบเดียวกับที่เหตุการณ์ของคนขับ Uber ในซานฟรานซิสโกคนนี้ ที่เขากำลังขับตาม GPS อยู่ดีๆ ก็เงิบสุดๆ ติดไปไหนไม่ได้เลย ถ้าฝืนขับต่อไปสภาพน่าจะจบไม่สวยเท่าไหร่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม 2018 โดยคนขับรถ Uber ที่เผยชื่อเพียงแค่ Fred เล่าว่าเขาพยายามจะออกจากถนน 2020 Market Street ซึ่งพอขับตาม GPS จนไปถึงทางออกก็พบว่าเส้นทางที่ระบบพาไปมันไม่ใช่ทางลาดลง แต่มันเป็นบันได!! เขายังบอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่า เส้นทางดังกล่าวนั้นไม่มีป้ายเตือนอยู่เลย แถมถ้ามองจาก Google Map มันก็ดูจะเป็นเส้นทางที่ลาดลงไปพอดี เขาจึงไม่ทันจะสงสัยว่ามันลงไปได้หรือเปล่า มันดูน่าจะไปได้จริงๆ นะ กลับกัน ถ้าเรามองดีๆ ที่ถนนจะมีลูกศรบอกทางอยู่ ซึ่งถ้าขับตามลูกศรไป Fred…
-
อัปเดตเหตุการณ์ Uber ไร้คนชับชนคนตาย พร้อมปล่อยภาพจากกล้องหน้ารถแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคมได้มีเหตุการณ์ที่ทำให้วงการรถขับเคลื่อนอัตโนมัติต้องสั่นสะเทือนเกิดขึ้น นั่นก็คือเหตุการณ์ที่รถของ Uber นั้นได้ไปชนเข้ากับจักรยานที่กำลังข้ามถนนจนเสียชีวิตจนทำให้เกิดคำถามมากมายตามมา (อ่านข่าวเก่าได้ที่ ‘เป็นเรื่อง!! เมื่อรถจาก Uber ที่ขับด้วยระบบอัตโนมัติ ชนคนตายเป็นครั้งแรกบนโลก‘) ล่าสุดทาง Uber ได้ปล่อยคลิปเหตุการณ์ออกมาดังกล่าวให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเหตุการณ์จากมุมมองคนขับเป็นอย่างไร ซึ่งในคลิปเราจะเห็น Rafaela Vasquez ซึ่งเป็นคนขับสำรองที่นั่งอยู่ในรถกำลังก้มๆ เงยๆ สลับไปมาตลอด โดยวินาทีก่อนรถชนนั้นเป็นช่วงที่เธอก้มดูบางอย่างอยู่ ซึ่งหลังจากภาพเหตุการณ์เผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า จักรยานคันดังกล่าวข้ามถนนในที่ห้ามข้าม และบริเวณดังกล่าวไม่มีแสงไฟเพียงพอ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Bryant Walker Smith จากมหาวิทยาลัยกฎหมายเซาท์แคโรไลนาที่ศึกษาการทำงานของรถมาเป็นอย่างดีก็บอกว่า “ผู้ตายไม่ได้อยู่ๆ ก็โผล่มาจากที่ไหน แต่เธอเดินอยู่กลางถนนหลวงและเดินในเงามืดแต่แรกแล้ว ฉะนั้นเลเซอร์และเรดาร์ของระบบดังกล่าวควรจะตรวจจับหญิงคนดังกล่าวได้ และจากภาพที่ฉันเห็นในกล้องมันควรจะเป็นความผิดของรถไม่ใช่คนที่กำลังข้ามถนนเลยสักนิด” นอกจากนี้ยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อมีคนขับสำรองนั่งมาด้วย แต่ทำไมยังคงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สรุปแล้วมันเป็นความผิดพลาดที่ตรงไหนกันแน่ จากเรื่องนี้ยิ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงว่าจริงแล้วระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติมันพร้อมแล้วจริงๆ อย่างนั้นเหรอ ซึ่งเบื้องต้นแล้วทาง Uber แม้จะยังไม่มีความผิดในตอนนี้ แต่ทางบริษัทก็ได้จัดการดึงรถที่ใช้ระบบดังกล่าวออกจากเมืองที่ให้บริการอย่าง ซานฟรานซิสโก, โทรอนโต, ฟีนิกซ์…
-
เป็นเรื่อง!! เมื่อรถจาก Uber ที่ขับด้วยระบบอัตโนมัติ ชนคนตายเป็นครั้งแรกบนโลก
กลายเป็นเรื่องใหญ่สุดๆ หลังรถของ Uber ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเกิดขัดข้องและชนคนที่เดินอยู่ข้างถนนจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ทำให้ทางบริษัทต้องเร่งหาสาเหตุและทดสอบระบบดังกล่าวใหม่อีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในเมืองเทมเป้รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรถคันดังกล่าวนั้นได้ขับชนหญิงสาววัย 49 ปี นามว่า Elaine Herzberg และแม้ว่าตัวรถคันดังกล่าวจะมีผู้ช่วยอยู่หลังพวงมาลัยก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในรายงานได้บอกว่า Elaine Herzberg กำลังจูงจักรยานของเธอข้ามถนนตามปกติจนกระทั่งรถคันดังกล่าวได้ชนเธอเข้าเต็มๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดแต่โชคร้ายที่เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา Dara Khosrowshahi ประธานกรรมการบริหารของอูเบอร์ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจริง เขาและทีมทนายกำลังเร่งหาทางออกกับเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด นอกจากนี้โฆษกของทาง Uber ก็ได้ออกมาบอกว่า “พวกเราขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และพวกเราจะขอรับผิดชอบและตรวจสอบสาเหตุของปัญหาทั้งหมดให้ได้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน” เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber และยังเป็นเหตุการณ์ที่สองนับจากรถของ Tesla เมื่อปี 2016 ซึ่งหลายฝ่ายก็ออกมาบอกว่าระบบนี้จำเป็นจะต้องพัฒนาและทดสอบให้มากกว่านี้ เพราะ AI ยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์การกระทำของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำและสมเหตุสมผล อัพเดท: จากรายงานล่าสุดของตำรวจ พบว่า Elaine Herzberg…
-
ไม่ได้มีแค่ไทย สมาคมคนขับแท็กซี่ในฮ่องกงประท้วงไล่คนขับ Uber เหมือนไทยเปี๊ยบ!!
ปัญหาเรื่อง Uber เข้ามาแทนที่ระบบขนส่งเดิมนั้น เป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะล่าสุดสื่อนอกอย่าง coconuts ก็ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้คนที่ต้องประสบปัญหากับการประท้วงของแท็กซี่ในฮ่องกงที่ออกมาแสดงความไม่พอใจจากบริการดังกล่าว… เช่นเดียวกับไทย Uber ในฮ่องกงนั้นถือเป็นบริการที่ใช้ง่ายและสะดวก แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บวกกับปัญหาแนวเดียวกับบ้านเราที่แท็กซี่ฮ่องกงเลือกรับผู้โดยสาร หรืออาจจะไม่ปฎิเสธตลอดทางเลยก็มี ฉะนั้นคนจึงหันไปใช้บริการดังกล่าวกันมากขึ้นๆ และเมื่อคนหันไปใช้ Uber มากขึ้น คนที่อยากจะใช้แท็กซี่ปกติก็มีน้อยลง งานนี้ทางกลุ่มคนขับแท็กซี่จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงรวมกันออกมาประท้วงแก่กระทรวงคมนาคม ทั้งหมดวางแผนที่จะออกมาขับรถวนไปรอบๆ เมืองด้วยความเร็วที่ช้า โดยพวกเขาหวังว่าการประท้วงนี้จะทำให้พวกเขาสามารถเข้าร้องเรียนต่อ Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมานาคมและการเคหะของฮ่องกงได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางรัฐเคยออกมาแก้ปัญหานี้ด้วยการปล่อยกฎหมายห้ามปฎิเสธลูกค้ามาก่อนแล้ว เพียงว่ามันก็ยังคงไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะจากปากผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ยังบอกว่า แท็กซี่มักจะปฎิเสธลูกค้าหรือไม่ก็กำหนดราคาเหมามาแทนที่จะกดมิเตอร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้นั่นเอง สุดท้ายแล้วปัญหาทั้งหมดจะจบลงที่ตรงไหน แล้ว Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมฮ่องกงจะว่าอย่างไร เราก็คงต้องติดตามกันต่อไปนั่นเอง… ถ้าส่งรถและเติมแก๊สด้วยนี่ใช่เลย ไทยชัดๆ ที่มา coconuts
-
หนุ่มเมา…เรียกอูเบอร์จากเวอร์จิเนียไปส่งที่นิวเจอร์ซี่ย์ ระยะทาง 750 กิโลฯ โดนค่าส่งไปครึ่งแสน!!
บางครั้งความเมา ก็เป็นเหตุที่ทำให้เราทำเรื่องบ้าๆ ได้แบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดได้เหมือนกัน…. เช่นเดียวกับนาย Kenny Bachman หนุ่มผู้น่าสงสารที่ดื่มหนักจนเมาแอ๋ หลังจากที่ออกจากผับพี่แกก็เรียก Uber พร้อมให้ไปส่งข้ามรัฐจนเสียเงินค่าบริการไปครึ่งแสน (51,444 บาท)!! ในคืนวันเกิดเหตุ Kenny ออกไปดื่มเหล้าที่บาร์ใน West Virginia เสียเงินไปกับการดื่มแบบขำๆ ประมาณ 200 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,600 บาท) ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่าตนเองอยู่บนรถของใครก็ไม่รู้ “ตอนผมตื่นมาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่เบาะหลังรถของชายแปลกหน้า จากนั้นก็เริ่มถามสิ่งที่เกิดขึ้นจากเขา” Kenny เล่าถึงเหตุการณ์ พบว่า Kenny ได้โทรเรียก Uber พร้อมบอกให้ไปส่งที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปไกลถึงรัฐ New Jersey เป็นระยะทางกว่า 750 กิโลเมตร มีค่าบริการทั้งหมด 1,635.93 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 51,444 บาท (อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ ก็จากเชียงรายไปกรุงเทพฯ นั่นแหละ) พอ Kenny ตื่นขึ้นมาก็พบว่าอีก 1 ชั่วโมงก็ถึงบ้านเขาแล้ว ซึ่งทางคนขับก็บอกว่าก่อนหน้านี้ก็ขับมาเป็นเวลานานกว่า 6…
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
20 ภาพการเซอร์ไพรส์ผู้โดยสารแบบเจ๋งๆ ของเหล่าคนขับ Uber ในหลากหลายประเทศ
การเดินทางไปไหนในทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเพราะนอกจากระบบขนส่งสาธารณะแล้วยังมีสิ่งที่เรียกว่า Uber ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ให้เราเรียกรถจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ารถ Uber แต่ละคันนั้นจะมีอะไรอยู่ข้างในรถบ้างซึ่งบางคนอาจเคยเจอของใช้ส่วนตัวของคนขับแต่นั่นก็ดูธรรมดาๆ ใช่ไหมล่ะถ้าอยากเจอประสบการณ์ Uber แบบแปลกใหม่คุณมาถูกทางแล้วเพราะในวันนี้เราได้รวมภาพของคนขับ Uber ที่ทำอะไรฮาๆ มาให้ชมซึ่งจะทำให้คุณหัวเราะจนปวดท้องเลยทีเดียวจะจริงไหมไปชม… เยอะกว่ากระเป๋าโดเรม่อนก็ต้องคันนี้แหละ เมื่อลืมโทรศัพท์ไว้บนรถ Uber แล้ววันต่อมาเขาเอามาคืนพร้อมรูปแปลกๆ ในโทรศัพท์.. อาจจะเป็น Uber ที่เฉียบที่สุดในเมืองก็ว่าได้ เมื่อคนขับ Uber ให้หลานมาแต่งรถในวันฮาโลวีน นี่จะพาไปส่งหรือพาไปฆ่ากันแน่ฮะ นั่งไปถึงขั้วโลกเหนือเลยได้ไหม อย่างนี้มีเพลิน พี่ๆ พี่ใส่สูตรรถลอยน้ำมาหรอหลงไกลเกิ๊นน รักน้ำ รักปลา รักหมาด้วยนะครับ โอ้โห ถ้ารวยอย่างนี้ไม่ต้องมาขับ Uber ให้เสียเวลาหรอกพี่ เอาไปเลย 10 คะแนนเต็มครบเครื่องดีจริงๆ มีการ์ดอวยพรให้อีก น่ารักจริงๆ ให้ตายเถอะ นามบัตรฮาร์ดคอยังงี้ใครจะกล้าโทร มันก็สวยดีนะแต่จะมองทางได้หรอครับเฮีย…
-
ถึงกับทำตัวไม่ถูก… หนุ่มใช้บริการ Uber แต่คนขับดันมาโชว์ฉากเลิฟซีน “บ๊วบๆ” ให้ดูซะงั้น!?
เป็นเรื่องราวที่เล่นเอาหนุ่ม Aner Martino ถึงกับอดใจไม่ไหวที่ต้องเอาบอกเล่าต่อบนเรื่องโซเชียล เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของผู้ให้บริการ Uber รายหนึ่งที่เกิดขึ้นในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเว็บไซต์สื่อต่างประเทศได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม เวลาประมาณตี 3 พ่อหนุ่ม Aner ได้ติดต่อผู้ให้บริการ Uber เพื่อเดินทางกลับบ้านของเขา เพราะตอนนั้นมันดึกและก็หาแท็กซี่ได้ยากมากๆ Aner Martino ทว่าหลังจากที่ Uber มาถึงเจ้าตัวก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นผู้โดยสารผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า “ตอนแรกผมก็คิดว่าอาจจะเป็นญาติของคนขับ ผมเลยลองเช็คดูว่าเราไม่ได้เรียก UberPool นะ แต่พอหลังจากขึ้นรถไปได้ไม่นาน ผู้หญิงที่นั่งหน้าดูมีอาการเหมือนคนเมายาอย่างหนัก ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มฉากออรัลเซ็กส์ให้กัน” เจ้าตัวถึงกับต้องเขียนระบายลงในทวิตเตอร์ ภาพเผยถึงการพลอดรักของคนขับและหญิงสาว โดยเขาเหมือนจะไม่ค่อยรู้ทางมากนัก และมองดูโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ขณะที่หญิงสาวข้างๆ คนดังกล่าวก็พยายามจะกระชากคอเสื้อและจูบคนขับไปด้ว ระหว่างที่คนขับ Uber กำลังบรรเลงเพลงรัก หนุ่มผู้ใช้บริการก็ทราบทันทีว่าเขากำลังจะหลงทาง และมีการเรียกร้องให้รถคนดังกล่าวจอดข้างทาง แต่ดูเหมือนคนขับจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ภาพจาก Snapchat ของเจ้าตัว จากนั้นก็เผยให้เห็นภาพหญิงสาวที่กำลังก้มไปบนตักของคนขับ …
-
Uber เตรียมเปิดตัว “รถแท็กซี่บินได้” เพื่อให้บริการรับส่งผู้คน ในเมืองแห่งยุคอนาคต!!
ณ เวลานี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Uber อย่างแน่นอน บริษัทผู้พลิกโฉมของบริการขนส่งมวลชน ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปสามารถสร้างเงินได้จากการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาให้บริการแท็กซี่นั่นเอง ซึ่งก็มีเสียงตอบรับอย่างดีในหลายประเทศ เช่นเดียวกับดราม่าในอีกหลายๆ กรณีอย่างที่เราได้รับทราบข่าวกันไป และเร็วๆ นี้พวกเขาก็กำลังจะมีโปรเจคใหญ่ โดยเป็นการจับมือร่วมกับบริษัท ChargePoint เพื่อทำการสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ที่บินได้ เพื่อให้บริการขนส่งมวลชนแห่งยุคอนาคต!! Uber ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุม The Elevate Summit ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โปรเจคสุดอลังการนี้ใช้ชื่อว่า Uber Elevate โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มรถบินได้เข้ามาในระบบการขนส่งของพวกเขา เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทาง Uber กำลังจะพัฒนารถบินได้หรือที่พวกเขาเรียกว่า VTOL Flying Cars ซึ่งจะใช้เป็นแท็กซี่ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเปิดใช้ตามมาหลังรถแท็กซี่แบบไร้คนขับที่พวกเขาร่วมมือกับ Tesla โปรเจคสุดอลังการนี้ ไม่ใช่โปรเจคแรกที่ Uber ได้ริเริ่มที่จะกระโดดเข้ามาร่วมในธุรกิจการขนส่งทางอากาศ แต่ในเร็วๆ นี้พวกเขามีแผนจะเปิดตัวโครงการ UberAir ซึ่งเป็นการให้บริการที่กำลังจะเริ่มขึ้นในท่าอากาศยานนานาชาติดัลลาส-ฟอร์ตเวิร์ธ และมหานครอย่างดูไบ หลายคนคงจะสงสัยแล้วใช้ไหมละว่าการให้บริการนั้นเป็นอย่างไร?? การให้บริการ VTOL cars หรือแท็กซี่บินได้นี้จะมีสถานีรับส่งเป็นจุดๆ ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องขึ้นและลงตามสถานีต้นทางและปลายทางเท่านั้น รถแท็กซี่บินได้นั้นต้องมีการเติมเชื้อเพลิงอยู่บ่อยๆ ดังนั้นทาง Uber จึงได้ร่วมมือกับ ChargePoint ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายพันแห่ง และตอนนี้พวกเขาได้ทำการเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้า Express Plus ที่สามารถเติมกระแสไฟได้เร็วขึ้นอีกกว่า…
-
ผู้โดยสารหัวหมอ ขู่แจ้งจับคนขับ Uber เพียงแค่ไม่มีที่ชาร์จมือถือ แต่คนขับถือไพ่เหนือกว่า!!
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในโลกโซเชียลต่างชาติขณะนี้… เมื่อวันที่ 6 เดือนเมษายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่ามีคนขับ Uber ผิวสีคนหนึ่งแวะรับผู้โดยสารหญิงที่ย่าน Bronx ในเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่ขึ้นมาเธอก็ได้ใช้ให้เขาชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือให้ แต่คนขับได้ปฏิเสธไปเพราะบนรถของเขาไม่มีสายชาร์จโทรศัพท์ เรื่องน่าจะจบลงตรงนี้แต่จู่ๆ ผู้โดยสารก็เกิดโมโหขึ้นมา ด่าคนขับแท็กซี่ซะยับเลย ทั้งเหยียดสีผิว อีกทั้งยังตบตีตัวเองพร้อมกับบอกว่าจะแจ้งตำรวจบอกว่าคนขับ Uber ข่มขืน “ฉันจะตะโกนออกไปนอกหน้าต่างแล้วบอกทุกคนว่านายกำลังจะข่มขืนฉัน แล้วก็จะต่อยเข้าที่หน้าของตัวเอง และบอกตำรวจว่าเป็นฝีมือนาย นายจะเอาใช่มั้ยล่ะ?” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้ก็ยังมีการด่าแบบเทสาดเทเสียไล่คนขับออกไปนอกประเทศอีกด้วย “โดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องส่งนายและครอบครัวของนายกลับประเทศไป ออกไปจากประเทศของฉันซะ!!” “ฉันโทรหาตำรวจเดี๋ยวนี้ แล้วบอกเขาว่านายขังฉันไว้ และขืนใจฉัน นายจะต้องติดคุกเพราะกระทำรุนแรงต่อฉัน” แต่ปรากฎว่าคนขับ Uber คนนี้มีประสบการณ์ในการทำงานที่นี่มานานกว่า 2 ปี แล้ว จึงทำให้เขาสามารถรับมือกับเหตุการณ์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจอดรถเข้าที่ข้างทาง และพูดกับเธอว่า “ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าผมมีที่ชาร์จโทรศัพท์หรือไม่ ก็ได้โปรดถามผมด้วยความสุภาพ และผมก็จะตอบคุณกลับไปอย่างสุภาพว่า ผมต้องขออภัยที่บนรถของผมไม่มีที่ชาร์ตโทรศัพท์” แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ายลูกค้าสาวก็ไม่ฟังเอาแต่ด่าคนขับซะจนเทสาดเทเสีย พยายามจะแสดงละครเพื่อใส่ร้ายป้ายสี แถมยังทำลายข้าวของในรถอีกต่างหาก…
-
หนุ่มสุพรรณ โดนขนส่งเชียงใหม่หาว่าเป็น Uber เพียงแค่ขับไปส่งเพื่อนชาวต่างชาติ!?
หลังจากที่มีประเด็นถกเถียงกันเรื่องของ Uber และ รถขนส่งสีแดง ที่เชียงใหม่กำลังครุกกรุ่นอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ออกมาเรียกร้องให้ปรับปรุงโครงสร้างของ ‘รถแดง’ ส่วนทางท่านนายกฯ ท่องเทียวของเชียงใหม่เองก็ออกมาหนุนรถแดง ว่าเป็นเสน่ห์ของท้องถิ่น ทางขนส่งเองก็ได้มีการล่อจับคนขับ Uber ดำเนินคดีไปแล้วหลายราย ล่าสุดก็มีเหตุเกิดขึ้นเมื่อชาวเน็ตสมาชิกเว็บไซต์ CM108 ชื่อว่า tonpai ที่เป็นเว็บบอร์ดเอาไว้พูดคุยกัน และเว็บไซต์ข่าวสารท้องถิ่นสำหรับชาวเชียงใหม่ ได้ถูกกรมขนส่งดำเนินคดีเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนขับ Uber!? ในโพสต์เล่าว่า เขาเป็นคนสุพรรณบุรีและช่วงที่ผ่านมาได้ขับรถขึ้นมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งได้นัดหมายกับเพื่อนชาวต่างประเทศเอาไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ พอได้พบกันแล้วพวกเขาก็ออกไปเที่ยวด้วยกันตามประสา หลังจากที่พบปะกันเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันไปเพราะเพื่อนชาวต่างประเทศต้องการที่จะอยู่เที่ยวกันที่เชียงใหม่ต่อ ส่วนทางเจ้าของกระทู้และครอบครัวต้องกลับบ้านที่สุพรรณ ทุกอย่างเหมือนจะลงเอยด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวานที่ผ่านมาพบว่ามีจดหมายจากสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ส่งมาที่บ้านแจ้งว่าเจ้าของกระทู้ใช้รถผิดประเภท ให้ไปชำระค่าปรับ พร้อมทั้งได้ทำการอายัดรถของเขาไว้แล้วด้วย!? ด้วยเหตุนี้เองทางเจ้าของกระทู้ก็รีบโทรไปยังสำนักงานขนส่งที่เชียงใหม่ ก็ได้ความว่า มีคนร้องเรียนมาทางสำนักงานจึงได้ออกหนังสือเปรียบเทียบปรับ หากเจ้าของกระทู้บริสุทธิ์จริงก็ต้องเดินทางมาให้ปากคำบันทึกชี้แจง ที่สำนักงานขนส่งเชียงใหม่เท่านั้น!! และไม่สามารถดำเนินการที่ปลายทางได้ ซึ่งทางเจ้าของกระทู้เองก็บอกว่าการเดินทางจากสุพรรณไปเชียงใหม่นั้นมันไม่ใช่ใกล้ๆ เลย แถมค่าใช้จ่ายก็ไม่ใช่ถูกๆ เท่านั้นยังไม่พอยังต้องไปติดต่อในวันทำการซึ่งเขาเองก็ทำงานประจำอยู่ แบบนี้แล้วใครจะรับผิดชอบ!? จากนั้นไม่นานก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้คำแนะนำ ความคิดเห็นจากคุณ Ken Kongrit : ไปร้องศาลปกครองที่สุพรรณให้คุ้มครองชั่วคราวไม่ไปรายงานตัวตามวันและเวลาที่กำหนดก่อนครับ จากนั้นฟ้อง ม.157…
-
Uber เปิดโครงการ “สนับสนุน Uber ถูกกฏหมาย” ชาวเน็ตแห่ลงชื่อ 20,000 กว่าคน
เมื่อช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมาเราคงได้ยินข่าวการตรวจจับ Uber อยู่หลายครั้ง เนื่องจากยังมีการจำกัดของข้อกฎหมายเรื่องคนขับรถสาธารณะและประเภทของรถที่มาให้บริการในประเทศไทย ทำให้การทำให้ถูกต้อง 100% เป็นเรื่องยาก แม้จะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยคนส่วนหนึ่งเรียกร้องให้มีการบริการ Uber อย่างถูกกฏหมาย ในขณะที่คนอีกกลุ่มไม่ต้องการให้มีอยู่เพราะไม่มีใบอนุญาตเหมือนรถโดยสารทั่วไป ตอนนี้ทางผู้ขับ Uber ต้องการให้การบริการดังกล่าวนี้ถูกกฏหมาย และต้องการการส่งเสริมจากรัฐ จึงได้มีการขอความร่วมมือจากทุกคนให้ร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ action.uber เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลออกกฎหมายมารองรับบริการร่วมเดินทาง (Ridesharing) เช่นเดียวกับรถบริการทั่วไป หลังจากมีการเปิดให้ร่วมลงชื่อเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา เพียงวันเดียวก็มีคนลงชื่อไปแล้ว 18,642 คน จากจำนวนที่ต้องการขั้นต้นคือ 20,000 คน โดยเนื้อหาของโครงการ มีใจความดังนี้… “Uber เป็นแอพพลิเคชั่นชั้นนำของโลกที่ถูกพัฒนามาเพื่อบริการร่วมเดินทาง (Ridesharing) ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการเดินทางที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้บนสมาร์ทโฟนที่แตกต่างจากการให้บริการของแท็กซี่ ซึ่งมีข้อดีที่สำคัญหลักๆ ดังต่อไปนี้ เนื่องจากพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฉบับปัจจุบัน ยังไม่รองรับการให้บริการร่วมเดินทางซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้บนสมาร์ทโฟน รวมทั้งยังไม่ได้สนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่จะก้าวข้ามไปสู่ประเทศไทย 4.0 ดังนั้น เราจึงอยากขอความร่วมมือจากทุกๆ คน ช่วยกันร่วมลงชื่อสนับสนุนให้รัฐบาลออกกฎหมายมารองรับบริการร่วมเดินทางเพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของคนไทยและนักท่องเที่ยว และที่สำคัญ…
-
ไปดูว่าคนไทยคิดอย่างไร เมื่อรู้ข่าวเจ้าหน้าที่จับ “คนขับรถอูเบอร์” ที่สนามบินสุวรรณภูมิ?
แม้ว่าบริการรถรับส่ง “อูเบอร์” จะเป็นบริการที่สะดวกสบาย เรียกใช้บริการสะดวก แต่มันก็ยังคงเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมายเพราะเนื่องจากในประเทศไทยไม่เอื้ออำนวยให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการแก่ผู้โดยสารในเชิงรถสาธารณะได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสนามบินสุวรรณภูมิได้เข้าควบคุมตัวคนขับรถอูเบอร์รายหนึ่งที่ขับมารับลูกค้าชาวญี่ปุ่น 2 คนที่สนามบิน ก่อนจะสอบปากคำและเชิญออกนอกพื้นที่ หลังจากที่ข่าวนี้ถูกรายงานออกไปในวงกว้าง กลับทำให้ชาวเน็ตและผู้ใช้บริการอีกจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ เพราะเนื่องจากพวกเขามองว่าการให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบันไม่มีคุณภาพที่มากพอ บางคันมีปัญหาเรื่องมิเตอร์ บางคันพาอ้อมนอกเส้นทาง รวมไปถึงปัญหาของคนขับแท็กซี่ที่มักแสดงความเกรี้ยวกราดจนกลายเป็นข่าวให้เห็นอยู่ไม่น้อย อีกทั้งหลายๆ รายยังบอกด้วยว่าหากจะจับผู้กระทำความผิดจริงก็ควรจะพัฒนาระบบแท็กซี่ให้ดีขึ้นด้วย ความคิดเห็นของโลกออนไลน์ต่อประเด็นเจ้าหน้าที่สนามบินจับคนขับอูเบอร์ . . . . อูเบอร์ในต่างแดนโดนแบนด้วยไหม? ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่ระบุว่าอูเบอร์ผิดกฎหมาย เพราะมีหลายๆ ประเทศที่แบนอูเบอร์อยู่เหมือนกัน อย่างเช่นในประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2014 ระบุว่าบริการอูเบอร์นั้นขัดต่อกฎความปลอดภัยของประเทศ และยังมีสมาคมคนขับแท็กซี่ออกมาต่อต้านจำนวนมาก (แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการให้บริการกันอยู่) ในประเทศนอร์เวย์เองก็ยังไม่แน่ชัดว่าบริการนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกโดนใบสั่งและจับได้เหมือนกัน ในปี 2015 ประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศให้บริการรถรับส่งทำนองนี้เป็นบริการที่ผิดกฎหมายทั้งหมด และยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน หรืออย่างในประเทศไต้หวันเองแม้จะมีการให้บริการอูเบอร์ แต่เมื่อราวๆ ปลายปี 2015 ก็ได้มีคำสั่งระงับการให้บริการและสั่งปรับเป็นเงินจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามในไต้หวันก็ยังคงมีการให้บริการขนส่งคล้ายๆ กันนี้อย่างเปิดเผย…
-
เขาคือ Joseph Ziyaee คนขับ Uber ทำรายได้เดือนละ 500,000 บาท ทั้งๆที่แทบไม่ได้ขับเองเลย
พูดถึง Uber ในช่วงๆ 2-3 ปีที่แล้วหลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่ในปัจจุบันก็ยอมรับได้เลยว่าเรารู้จักกันมากขึ้น (เคสที่ดังสุดก็คือข่าวของปัญหาระหว่างตัวแอพกับการขนส่งสาธารณะในไทย) เอาเป็นว่าวันนี้เราจะไม่ท้าวความถึงเรื่องเก่าๆ แต่ #ประธานเหมียว จะพาไปรู้จักกับชายผู้หนึ่งซึ่งไม่ธรรมดา เพราะน่าจะเป็นคนขับรถ Uber ที่ทำเงินมากสุดเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญก็คือ เขาแทบจะไม่ได้ขับเองเลย…. อ่าว งงล่ะสิ เขาคนนั้นก็คือ Joseph Ziyaee คนนี้ครับ ทางเว็บไซต์ BusinessInsider ได้เผยแพร่เรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ ซึ่งทำเงินได้มากกว่า 90,000 เหรียญ (ราวๆ 3,100,000 บาท) ในช่วง 6 เดือนล่าสุด โดยเฉพาะในเดือนแรกซึ่งเขาสามารถทำได้มากถึง 20,000 เหรียญ โดยการสมัครเป็นคนขับ Uber และขับเองเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาทำเงินโดยผ่านทางโปรแกรมแนะนำคนอื่นเข้ามาขับ หรือที่เรียกว่า Referral Code ซึ่งเปิดโอกาสให้คนขับเดิม ชวนเพื่อนมาขับ และจะทำให้ทั้งสองคนได้โบนัส #ประธานเหมียว ลองไปสืบมาคร่าวๆ เงินโบนัสนี้ในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ราวๆ 200-400 เหรียญ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ต่างๆ) นับเป็นจำนวนเงินที่มากทีเดียว…
-
CEO ของ Uber ประกาศเหมารถยนต์ไร้คนขับ 500,000 คัน ถ้าเสร็จทันส่งภายในปี 2020
มาดูข่าวคราวในแวดวงยานยนต์กันบ้าง ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในรถยนต์มากขึ้น จะเห็นได้ว่ากระแสตอบรับจากรถยนต์ไร้คนขับนั้นดีเยี่ยมมากๆ CEO ของบริษัท Uber ผู้ให้บริการแท๊กซี่ในรูปแบบใหม่ทันใจวัยรุ่น ก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน โดยที่ทาง Steve Jurvetson หนึ่งในบอร์ดผู้บริหารเทสล่ามอเตอร์ได้เปิดเผยออกมาว่า ถ้าหากว่าทางเทสล่ามอเตอร์สามารถผลิตรถยนต์ไร้คนขับเป็นจำนวน 500,000 คัน ให้เสร็จภายในปีค.ศ. 2020 บริษัท Uber ก็ยินดีที่จะเหมาหมดทุกคัน!! Jurvetson ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่ารถยนต์ไร้คนขับนี้จะมาช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองนิวยอร์กอันเนื่องมาจากจำนวนแท๊กซี่ที่มีจำนวนมากจนเกินไป และจะช่วยลดเวลาให้ผู้โดยสารในการหาแท๊กซี่ จะต้องไม่รอนาน ใช้เวลาเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น!! แต่จนถึงบัดนี้ทางเทสล่ามอเตอร์เองก็ยังอยู่ในขั้นทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอยู่ ยังไม่สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้ แต่ก็ยังไม่แน่นะ ยังเหลือเวลาอีกหลายปีก่อนจะถึงปีค.ศ. 2020 เราอาจจะได้เห็นตัวจริงของรถยนต์ไร้คนขับอัจฉริยะก่อนก็เป็นได้ ที่มา : fooyoh