Tag: vet
-
แมวป่วย ทำหน้าที่เป็น ‘เหมียวพยาบาล’ เพราะอยากให้สัตว์ทุกตัวดีขึ้นเหมือนตัวเอง
ที่เขาบอกว่าคนหัวอกเดียวกันย่อมเข้าใจดี ท่าทางจะเป็นเรื่องจริง เจ้าเหมียวดำที่เคยป่วยหนักมาก่อนตัวนี้ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน มันรู้ว่าคนป่วยต้องการกำลังใจมากแค่ไหน มันก็เลยทำหน้าที่เป็นพยาบาลคอยอยู่ให้กำลังผู้ป่วยให้อาการดีขึ้นเหมือนมัน เหมียวดำ Rademenes เคยป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้มันมักจะจามและหายใจหืดหอบ แม้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่โรคนี้ก็ทำให้มันต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวด แถมเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ง่ายด้วย เจ้า Rademenes แมวเหมียวพยายบาล เมื่อเจ้าของของมันรู้ว่ามันเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ในเมือง Bydgoszcz ประเทศโปแลนด์ เพื่อให้สัตวแพทย์ปลิดชีวิตมันซะ มันจะได้ไม่ทรมานไปกว่านี้ ทว่า Lucyna Kuziel-Zawalich ไม่สามารถทำใจให้ตัวเองจบชีวิตเหมียวน้อยตัวนี้ได้ เธอก็เลยพยายามรักษามันให้หายดีแทน แม้ว่าอาการของมันจะค่อนข้างรุนแรงก็ตาม สัตวแพย์ทำใจจบชีวิตมันไม่ได้ เลยรักษามันแทน Rademenes ต้องถูกแยกตัวไปรักษาให้ห่างจากสัตว์อื่น อีกทั้งต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย แต่เจ้าเหมียวเองก็ใจสู้ไม่เบา บวกกับสัตวแพทย์และอาสาสมัครที่พยามช่วยเหลือมันแล้ว ไม่นานนักอาการของมันก็ดีขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ พอมันดีขึ้นมากแล้ว เจ้าเหมียวก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ มันอาจจะรู้สึกอยากช่วยเหลือสัตว์อื่นแบบที่คนอื่นช่วยมันบ้างก็ได้ มันก็เลยทำหน้าที่ดูแลสัตว์ที่ป่วยในคลินิกสัตว์แห่งนี้ซะเลย กอดน้องแมวไว้ พอได้กำลังใจก็จะหายไวขึ้น ไม่ต้องกลัวนะ พี่แมวดำจะอยู่เป็นเพื่อนเอง เจ้าหมานอนพักไปเถอะ เดี๋ยวก็หายแล้วเชื่อพี่ ไหนมาให้พยาบาลดูซิว่าดีขึ้นรึยัง ใกล้หายดีแบบนี้เดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้ว …
-
ทีมสัตวแพทย์โอบกอดสุนัขที่เพิ่งผ่านการผ่าตัด เพื่อทำให้พวกมันรู้สึกอบอุ่นและสบายใจ
การทำงานในองค์กรช่วยเหลือสัตว์ไม่ได้ง่ายดายเลย โดยเฉพาะกับสัตวแพทย์ที่ทำหน้าที่ผ่าตัด เพราะมีสัตว์จำนวนมากรอความช่วยเหลือจากพวกเขาอยู่ สัตวแพทย์เลยแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก อย่างไรก็ตาม ถึงงานจะหนักหนาสักเท่าไหร่ สัตวแพทย์ขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ Baltimore Animal Rescue and Care Shelter (ฺBARCS) ก็ไม่อยากให้สัตว์ที่พวกเขาผ่าตัดต้องรู้สึกเดียวดาย พวกเขาก็เลยอุ้มพวกมันทุกตัวเพื่อมอบความรักให้หลังจากเสร็จการผ่าตัด โดยปกติแล้วหลังจากผ่าตัดเสร็จ สัตว์ทั้งหลายก็จะถูกปล่อยเอาไว้ให้พักฟื้นตัวในกรงตามลำพัง ถึงจะมีการดูแลมันเป็นประจำ แต่ก็คงไม่ถึงกับต้องจับพวกมันมาอุ้มทุกตัวแบบนี้ แต่สัตวแพทย์ในองค์กร BARCS มองต่างออกไป Dennis Moses สัตวแพทย์ที่ทำงานที่นั่นบอกว่า “ถ้าคุณเพิ่งผ่านการผ่าตัดมาแล้วตื่นขึ้นในที่ที่ไม่รู้จัก คุณก็ย่อมรู้สึกกลัวเป็นธรรมดา หมากับแมวก็เหมือนกัน แล้วยิ่งพวกมันยังเด็กด้วยก็ต้องยิ่งรู้สึกกลัว” พวกเขาก็เลยอุ้มสัตว์ทุกตัวที่ผ่าตัดเสร็จ เพื่อเป็นการบอกพวกมันว่า “ไม่ต้องห่วงนะเจ้าหนู แกปลอดภัยแล้ว ที่นี่มีแต่คนเป็นห่วงแกนะ ไม่ต้องกลัวไปหรอก” นอกจากการทำแบบนี้จะช่วยให้สัตว์ที่ได้รับการผ่าตัดรู้สึกปลอดภัยและใจเย็นแล้ว มันยังเป็นการช่วยลดความเครียดระหว่างงานให้กับสัตวแพทย์เองด้วย ถือว่าได้ประโยชน์หลายด้านเลยทีเดียว แม้ว่าทางองค์กรจะต้องดูแลสัตว์มากถึงปีละกว่า 10,000 ตัว แต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมเลยว่าแต่ละตัวก็มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง เราควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกของพวกมันทุกตัวด้วย สัตวแพทย์ก็เลยยอมสละเวลาเพื่ออุ้มพวกมัน และก็จะยังคงทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต ทุกคนก็ใช้วิธีนี้บอกรักสัตว์ที่บ้านได้เหมือนกันนะ ที่มา: the dodo
-
อาสาสมัครขับรถ 9 ชั่วโมง พาอุรังอุตังน้อยป่วยหนักไปหาหมอ วันนี้มีชีวิตใหม่ที่สดใสแล้ว
การช่วยเหลือสัตว์โดยปกติก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว ยิ่งในเขตที่ห่างไกลเมืองด้วยยิ่งลำบากไปใหญ่เลย เพราะถ้าแถวนั้นไม่มีสัตวแพทย์อยู่เลย ก็ต้องเดินทางตั้งไกลเพื่อให้พวกสัตว์ได้ไปหาหมอ เจ้า Gito ลูกลิงอุรังอุตังในหมู่บ้าน Merawa ซึ่งอยู่บนเกาะบอเนียว ของประเทศอินโดนีเซียก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน ในหมู่บ้านที่มันอยู่ไม่มีสัตวแพทย์เลยสักคน อาสาสมัครจาก International Animal Rescue ที่ได้รับแจ้งเรื่องมันเดินทางออกไปยังหมู่บ้านที่ห่างไกล พอได้เห็นมันแล้วพวกเขาก็รู้สึกสงสารมันมาก เจ้าลิงเอาแต่นอนขดตัวอยู่ในกล่อง ขนร่วงทั่วตัว ผิวหนังมีสภาพแห้งคล้ายมัมมี่ เห็นแบบนั้นพวกเขาก็นึกว่ามันตายไปแล้วด้วยซ้ำ Gito เป็นลิงที่หัวหน้าหมู่บ้านซื้อมาในราคาถูก ซึ่งน่าจะขายโดยพวกลักลอบค้าสัตว์ มันถูกทิ้งให้อยู่กลางแดดเป็นเวลานาน แล้วก็ได้กินแค่นมเท่านั้น พออาหารย่ำแย่มากจนไม่รู้จะช่วยยังไงคนในหมู่บ้านเลยติดต่อไปหา International Animal Rescue ให้มาช่วย อาการของลูกลิงนั้นร้ายแรงมาก มันต้องได้รับการรักษาโดยด่วน แต่ว่าโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ต้องใช้เวลาเดินทางไปตั้ง 9 ชั่วโมง แถมการเคลื่อนย้ายลูกลิงอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เดินทางมาเป็นพยานก่อนด้วย ด้วยความเป็นห่วงลูกลิง อาสาสมัครก็เลยโทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้แล้วเล่าสถานการณ์ให้เขาฟังพร้อมทั้งขออนุญาตเคลื่อนย้ายมันโดยไม่รอเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษด้วย โชคดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าสถานการณ์ย่ำแย่แค่ไหน ก็เลยอนุญาตให้พวกเขาพาตัวมันไปได้ เจ้าหน้าที่ก็เลยรีบพามันเดินทางกว่า 9 ชั่วโมงเพื่อไปหาสัตวแพทย์โดยเร็ว พวกเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันจะรอดพ้น 9 ชั่วโมงนั้นไปได้ไหม แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว ยังดีที่ตอนมันถึงมือทีมสัตวแพทย์มันยังหายใจและมีชีวิตอยู่ จากการตรวจร่างกายของมันดู…
-
แมวเหมียวพยาบาล ถูกสั่งให้ออกจากคลินิก สัตวแพทย์กับชาวเน็ตเลยเข้าช่วย
วันนี้มีเรื่องของแมวตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในคลินิกมาฝากกัน มันถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หาที่อยู่ใหม่เนื่องจากกลัวว่าจะเป็นพาหะนำโรค คนที่คลินิกและชาวเน็ตก็เลยรวมตัวกันเพื่อต่อต้านคำสั่งนี้ มันจะได้อยู่ที่คลินิกที่มันรักเหมือนบ้านตามเดิม Honey เหมียวพยาบาลดามใจผู้ป่วย เจ้าเหมียวตัวเอกของเรื่องชื่อว่า Honey ตอนแรกมันก็เป็นแมวที่ถูกเก็บมารักษาในคลินิก Ringsjöns Veterinärklinik ในประเทศสวีเดนเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ เจ้าแมวผอมโทรมมากจนดูน่าเป็นห่วง แต่ก็ได้สัตวแพทย์ในคลินิกพยายามช่วยเอาไว้จนหายดี หลังจากที่มันแข็งแรงแล้ว มันคงไม่อยากเป็นผู้รับอย่างเดียวก็เลยเป็นฝ่ายแบ่งปันความรักให้กับสัตว์และคนที่มายังคลินิกบ้าง ตอนแรก Honey ถูกคนในคลินิกช่วยไว้ พอหายดีก็เป็นฝ่ายช่วยคนอื่นบ้าง Lucie Havelka สัตวแพทย์ที่ทำงานในคลินิกนั้นเล่าว่า “ตอนแรกมันก็เป็นผู้ป่วยนี่แหละ แต่หลังจากนั้นเราก็สังเกตได้ว่ามันเริ่มเป็นคนดูแลผู้ป่วยอื่นไปแทนแล้ว” มันจะมอบไออุ่นจากร่างกายให้กับสัตว์ทุกตัวที่ต้องการกำลังใจ มอบความรักให้กับลูกแมว เธอยังบอกอีกว่า Honey สามารถรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าสัตว์ตัวไหนต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเกิดมีสัตว์ตัวไหนต้องการมันก็จะเข้าไปช่วยทันที แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วมันก็จะไม่ไปรบกวนผู้ป่วยเลย ถ้าเข้าไปใกล้ไม่ได้ก็จะให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ไม่ต้องรอให้บอกก็เข้าไปช่วยเอง มันทำตัวเหมือนกับหมอที่คอยรักษาสภาพจิตใจให้กับคนที่มาพึ่งพาคลินิก และสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นทำให้ที่แห่งนั้นรู้สึกเหมือนกับเป็นบ้านที่เปี่ยมด้วยความรักได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็ยังเข้าไปกอดเจ้าของที่เดือดร้อนใจเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงเพื่อให้พวกเขาสบายใจมากขึ้นด้วย เรียกได้ว่าทำหน้าที่ได้ดีเกินคาดทีเดียว ให้ความรักกับสัตว์ทุกชนิด สัตว์ต่างสายพันธุ์ก็สบายใจเมื่อได้อยู่กับเจ้าเหมียว หมอที่ทำงานอยู่ที่คลินิกยังออกปากบอกเองเลยว่า เจ้าเหมียวเองก็เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่คลินิกเหมือนกับพวกเขา…
-
‘เก๊าไม่อยากไปหาหมอ!’ พบกับความฮาของสัตว์เลี้ยงเมื่อต้องไปหาสัตวแพทย์
สัตว์จะเป็นมิตรกับคนทุกคนที่ไม่คิดร้ายและมอบความรักให้กับมันเสมอ ทว่าแนวคิดนี้ก็มีข้อยกเว้นกับบางคนอยู่เหมือนกันนะ อย่างเช่นสัตวแพทย์ยังไงล่ะ ถึงสัตวแพทย์จะมีเจตนาดีอยากรักษาพวกสัตว์เลี้ยง แต่ความรู้สึกของพวกมันตอนไปเจอสัตวแพทย์ก็น่าจะเหมือนกับตอนที่เด็กเล็กต้องไปหาหมอฟัน คือคงกลัวจะโดนฉีดยาหรือไม่ก็กลัวหมอทำให้เราเจ็บน่ะแหละ แถมยาที่หมอให้มาก็ไม่อร่อยด้วย บางครั้งเวลาเราพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์ พวกมันก็เลยพยายามจะหลบหน้าหลบตาหมอ ทั้งที่พอไปถึงคลินิกแล้วก็คงไม่มีทางรอดหรอก ฮ่าๆๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้จริงๆ ลองดูตัวอย่างความฮาและความน่ารักกันครับ อยู่ในนี้เจ้ามนุษย์คงไม่เห็นหรอก … ใช่ไหม!? หมอจะจับเก๊าฉีดยาอีกแล้วอะแม่ ขอหลบแป๊บนะ อย่าให้หมอเข้ามาใกล้ล่ะ ที่นี่มีรูหลบภัยด้วย เป็นโชคของเหมียวแล้ว แบบนี้จ้างให้หมอก็หาไม่เจอ แกคิดว่าตัวเองเป็นกิ้งก่าเหรอไง พออยู่ใกล้กำแพงจะได้เนียนเปลี่ยนสีน่ะ!? อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นตูจะจับตัวเองเป็นตัวประกัน หึหึ เจ้าหมา คิดว่าซ่อนเนียนแล้วล่ะสิ แต่ไม่พ้นสายตาคุณหมอหรอก มืดแปดด้านจริงๆ ไม่มีทางออกเลย ชีวิตของเราต้องจบเพียงเท่านี้หรือนี่!? เราเป็นเฟอร์นิเจอร์บนโต๊ะนะไม่ใช่แมว แมวที่หามันวิ่งไปทางโน้นต่างหาก ทำไมมนุษย์ไม่ทำให้ตู้มันทึบฟระ แบบนี้มันหลบยากนะเฟ้ย ถ้าเรามองไม่เห็นหมอ หมอก็จะมองไม่เห็นเรา ปล่อยฉันไปเถอะค่ะหมอ จะให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอม แต่อย่าฉีดยาเลยนะ หลบในที่ต่ำแบบนี้…
-
ชายหนุ่มกับอาชีพทาส อุทิศตนช่วยเหลือแมวที่ไม่มีใครรัก มอบโอกาสครั้งที่สองแก่พวกมัน
ทาสแมวอย่างพวกเรารักน้องเหมียวกันทุกคนแหละ รักมากซะด้วย เวลาเห็นน้องเหมียวหิวข้าวก็ต้องหาให้มันกิน หรือเวลามันมาอ้อนก็จะทิ้งทุกอย่างที่ทำอยู่แล้วไปบริการจนมันพอใจเลยล่ะ แต่หลายคนคงบอกได้ไม่เต็มปากนักว่ารักเจ้าเหมียวเท่ากับชายหนุ่มคนนี้ไหม เขาตั้งใจเรียนสัตวแพทย์ด้วยความรักแมวโดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็ยังทำงานในที่รักษาแต่แมวด้วย แถมยังรับแมวมาดูแลที่บ้านอีกเพียบ ผม Gill ครับ หนุ่มคนนี้ชื่อ Gill Nunes เขาเกิดที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ตอนนี้ทำงานเป็นสัตวแพทย์ในเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาพร้อมจะช่วยเหลือแมวทุกตัวที่กำลังลำบาก นอกจากจะช่วยเยียวยาร่างกายแล้ว ก็ช่วยเติมเต็มหัวใจให้แมวเหมียวด้วย เขาเล่าว่า “ตอนผมยังเด็ก ผมมีความฝันว่าอยากจะเป็นสัตวแพทย์และได้เข้ามาทำงานในนิวยอร์ก วันหนึ่งผมก็เลยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อทำตามความฝันของตัวเองแล้ว เมื่อ 17 ปีก่อนผมก็เลยบินมาที่นี่พร้อมกับฝันที่ยิ่งใหญ่ แม้จะมีทุนเพียงน้อยนิดก็ตาม” มาให้พ่อหอมสักฟอดซิ เขามักจะอัปโหลดรูปของพวกแมวลงใน อินสตาแกรมของเขา อยู่บ่อยๆ โดยแมวพวกนั้นมักจะเป็นแมวที่มีคนนำมารักษา แมวที่เขาช่วยเหลือเอาไว้แล้วรอคนใจดีมารับเลี้ยง และแมวอีกส่วนที่เขาเลี้ยงไว้เองด้วย เจ้านายพวกแกยังไม่มารับกลับนะ เดี๋ยวเราจะดูแลอย่างดีเอง ชายหนุ่มทำงานอยู่กับคลินิกสัตว์ 2 แห่งในนิวยอร์ก ด้วยความที่เขามีความเป็นทาสแมวในตัวสูง เขาเลยเลือกที่จะทำงานกับคลินิกที่รับรักษาเฉพาะแมวเท่านั้น ความเจ็บจงหายไป เพี้ยง…
-
คุณหมอ Evan หล่อล่ำ ชวนชาวเน็ตปกป้องตัวนิ่มที่ถูกล่า งานนี้เรามาโฟกัสที่คุณหมอกันเถ๊อะ!!
ทุกวันนี้สัตว์ป่ากำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ การเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์แต่ละชนิดน่าจะช่วยให้เราเข้าใจและอนุรักษ์พวกมันได้ดีขึ้น แต่คลิปวิดีโอให้ความรู้จากคุณหมอ Evan Antin ช่างเข้าใจยากเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะอธิบายเนื้อหาไม่รู้เรื่องนะ แต่เพราะคุณหมอทำให้เราโฟกัสกับเนื้อหาไม่ได้เลยต่างหาก คลิปวิดีโอให้ความรู้เรื่องตัวนิ่มจากคุณหมอ ในคลิปวิดีโอนี้คุณหมอกำลังแนะนำให้ชาวเน็ตรู้จักกับตัวนิ่ม (Pangolin) กัน เขาพยายามอธิบายว่าแม้ว่ามันจะมีเกล็ดมันก็ไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานหรอกนะ แต่มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่คล้ายคลึงกับตัวสลอธต่างหาก เขาอยากให้คนดูคลิปเข้าใจว่าเกล็ดจากตัวนิ่มและแรดนั้นไม่ได้มีผลวิจัยทางแพทย์รับรองว่ามันจะทำให้คุณอายุยืนขึ้น หรือรักษาโรคได้ เขาจึงอยากให้ทุกคนหยุดล่าสัตว์พวกนี้ก่อนมันจะสูญพันธุ์ เอ่อ … จะคุณหมอทำแบบนี้แล้วจะให้ดิฉันโฟสกัสกับตัวนิ่มได้ยังไง!? แต่เราก็ต้องดูคลิปกันอยู่ตั้งหลายรอบกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอพูด นั่นก็เพราะเวลาฟังคุณหมออธิบายสมาธิเราดันไปจดจ่อกับคุณหมอแทน โอ๊ย ใครจะไปมีอารมณ์โฟกัสกับตัวนิ่มเล็กๆ ในเมื่อคุณหมอพูดด้วยเสียงหล่อ และโชว์กล้ามน่ากัดแบบนี้ ชาวเน็ตเองก็มีปัญหานี้เหมือนกับเราเป๊ะเลย ก็เวลาคุณหมอยิ้มแต่ละทีมันสะกดใจสุดๆ เลยนี่นา ไม่เชื่อลองไปดูความเห็นชาวเน็ตสิ ตั้งใจฟังไม่ได้เลยโว้ย กล้ามแขนกับกล้ามไหล่แน่นๆ นั่นมันเร่าร้อนและดึงดูดความสนใจเกินไป จะมีใครสมบูรณ์แบบกว่านี้ไหม เป็นทั้งหมอ หนุ่มหล่อ หนุ่มกล้าม แล้วยังรักสัตว์อีก งื้อออ คิดเหมือนกันเลย ถึงเขาจะพูดเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์แต่ฉันก็ทำได้แค่สนใจร่างกายที่เซ็กซี่และกำยำของเขา ฮ่าๆๆ เอาล่ะในเมื่อเราฟังคลิปสาระความรู้จากเขาไปแล้ว ก็คงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเข้าไปหาดูอะไรเพิ่มเติมในเฟซบุ๊กของเขาเสียหน่อย ลองไปดูรูปของคุณหมอกันเลยจะได้รู้จักเขากันดีมากขึ้น ตอนอยู่ในชุดคุณหมอโคตรหล่อเลยอ่า …
-
ไม่เฉพาะมนุษย์กลัวหมอ!? 20 ภาพยืนยันว่าเหล่า ‘เจ้าแมวเหมียว’ ก็กลัวการไปหาหมอแบบสุดๆ!! 555+
เมื่อกล่าวถึงการไปหาหมอแล้ว เป็นธรรมดาที่เราจะต้องกลัว เพราะเครื่องมือต่างๆ ที่โรงพยาบาลนั้นมันช่างน่ากลัวซะเหลือเกิน โดยเฉพาะเข็มฉีดยา และแอลกอฮล์ล้างแผล ยิ่งเป็นแผลสดนะ ใช้มีดขูดกันเลยทีเดียวขรั่บ!! ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีแค่คนเท่านั้นนะที่กลัวหมอ เหล่าเจ้าเหมียวเองก็กลัวหมอจนหนีหัวซุกหัวซุนเช่นกัน และวันนี้ #เหมียวหง่าว มีภาพน่ารักๆ ของเหล่าเจ้าเหมียวในขณะที่มันกำลังหลบหนีการให้การรักษา ของหมอกันอยู่ 1. อ่างน้ำนี่แหละคือที่หลบชั้นดีเลย 2. คงไม่มีใครเห็นเรานะ 3. ร่างกายของเรารวมเป็นหนึ่งเดียวกับอ่างนี้แล้ว ไม่มีใครเห็นหร๊อกกก (ถรุ้ยยย เต็มๆ เลยไอ่เหมียว) 4. คติของข้าคือที่ที่อันตรายที่สุด ก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด!! 5. ในเมื่อเราลงทุนปิดตาซะขนาดนี้ คงไม่มีใครเห็นเราหรอกนะ (ฉลาดจริงๆ เลยเรา) 6. เราจะใช้รูปที่อยู่ในกรอบนี้ดึงดูดความสนใจ ไม่มีใครเจอเราได้หร๊อกก 7. เกือบจะเนียนอยู่แล้ว บ้าชิบ!! ถ้าไอ่เจ้าอ่างบ้านี่มันเป็นสีขาวล่ะก็นะ… 8. หลบขนาดนี้แล้ว ถ้าเจอก็เมพเกินไปแล้วล่ะ 9. ตรูควรต้องลดน้ำหนักแบบจริงจังแล้วล่ะ…
-
ลูกหมาจรจัดที่พลัดหลงกับแม่ พาไปหาหมอบอกอยู่ได้อีกแค่ 30 นาที… แต่มันก็รอดปาฏิหาริย์!!
ลูกหมาตัวน้อยที่เพิ่งเกิดใหม่จะมีสภาพร่างกายที่บอบบางเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแม่แทบจะตลอดเวลา ต้องดูดนมจากเต้าเพื่อความเจริญเติบโตทางร่างกายที่สมบูรณ์ และความอบอุ่นจากอ้อมอกของแม่หมา มีคนพบเจ้า Lily น้อย ที่พลัดหลงกับแม่ของมัน ในสวนสาธารณะ สภาพของมันดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรง และอ่อนแอเอามากๆ ผู้ประสงค์ดีจึงเก็บมันไปรักษาด้วยตัวเอง โดยให้น้ำให้นมเป็นเวลาสองวัน ปรากฏว่าอาการของเจ้าหมาน้อยไม่ได้ดีขึ้นเลย ก็เลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์ San Jose สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสอบและพบว่า เจ้า Lily จะสามารถอยู่ได้อีกไม่ถึง 30 นาที เพราะสภาพร่างกายของมันอ่อนแรงมาก ขาดสารอาหารจนถึงกับขนาดที่ว่าเหงือกของมันกลายเป็นสีเทาเลยทีเดียว และอุณภูมิในร่างกายก็ต่ำมากๆ อีกด้วย การดูแลรักษาจึงต้องแข่งกับเวลา คุณหมอได้ทำการฉีดยาเข้ากระดูกสันหลัง เพิ่มอุณภูมิในร่างกาย ให้ยาแก้ไข้ และป้อนอาหารทางหลอดฉีดยา จากนั้นทุกคนก็ลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ รอดูผลการรักษาที่ออกมา ปรากฎว่า เจ้า Lily น้อยลืมตาขึ้นมา เย้ๆๆๆ!!! >< ลองไปชมคลิปตอนที่คุณหมอเค้าให้อาหารเจ้า Lily ผ่านหลอดฉีดยากัน… หลังจากการรักษาไม่กี่ชั่วโมงอาการของมันก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้บ้างแล้วหลังจากที่ตอนแรกนอนนิ่งอย่างเดียว Tiny Lily is doing SO much better! She is…
-
น่ารักปนฮา!! 23 ภาพหมาแมวที่แสดงท่าทางกลัวสุดขีด เมื่อมันเจอ ‘หมอ’ (ถึงกับซ่าส์ไม่ออกเลยนะ)
หลายคนอาจจะคิดว่าหมากับแมวมักจะไม่กลัวอะไร เพราะพวกมันชอบสร้างแต่วีรกรรมแสบๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอ แต่ความจริงแล้วอีกด้านหนึ่งของพวกมัน ใครจะรู้ละว่ามันก็กลัวเป็นเหมือนกันนะ เอ…แล้วอะไรกันละ ที่ทำให้พวกมันกลัวสุดขีด!! และภาพเหล่านี้นี่เอง ที่จะมาทำให้ทาสหมาทาสแมวทุกคนได้เห็นว่า สัตว์เลี้ยงจอมป่วนของพวกคุณนั้นกลัว ‘หมอ’ เป็นที่สุด บางตัวก็กลัวจนตัวสั่น บางตัวก็ทำหน้าตาน่าสงสารไม่อยากให้พาไปหาหมอ โอ๊ยตาย!! ทีเรื่องอื่นทำเป็นซ่าส์ พอเจอหมอทีไรทำเป็นหงอยทุกที พวกมนุษย์ เอ็งจะพาข้าไปหาหมออีกแล้วหรอ โถ่ๆๆๆ เจ้าหมา ดูกลัวหมอสุดขีด อยากจะออกไปจากที่นี่ใจจะขาด ไม่ต้องกลัวหรอกนะเจ้าหมา หมอไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด น่ารักน่าเอ็นดูจังเลย ฮ่าๆๆๆ หลบซะ!! ท่าทางคงกลัวหมอมากจริงๆ ให้ตายยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาด ทีเรื่องอื่นไม่เห็นกลัว พามาเจอหมอทีไรหลบตลอด 555 ถ้าเอ็งจะกลัวขนาดนี้ หมอมายัง!! โอ๊ยยยยย ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี ฮ่าๆ เหมียวกำลังเผชิญกับหมอสินะ เห็นหมอแล้วขนแมวตั้งเลยครัช หงอยเลยสิวันนี้…