Tag: wild life
-
หญิงช่วยชีวิตลูกกระรอกไว้ และปล่อยมันกลับสู่ป่า แต่มันก็กลับมาเยี่ยมเธออยู่เสมอ
Simone Serfontein ออกไปเที่ยวที่บ้านของเพื่อนเธอ พวกเธอใช้เวลาอยู่ด้วยกันในบ้านจนกระทั่งได้ยินเสียงร้องจากข้างนอกบ้าน พอออกไปดูพวกเธอก็เจอลูกกระรอกนอนอยู่ใต้ต้นไม้ มันร้องหาแม่ของมันอยู่นาน แต่แม่ของมันไม่โผล่มาหาเลย ถึงเธอจะไม่รู้ว่ามันจะรอดหรือเปล่า แต่ถ้าปล่อยมันไว้ตามลำพังมันคงดูแลตัวเองไม่ได้ เธอก็เลยตัดสินใจเก็บมันไปดูแลก่อน โดยตั้งชื่อมันว่า Dingetjie เธอต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมมากมายเพื่อเรียนรู้การดูแลกระรอก ซึ่งเธอบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เธอก็ช่วยดูแลมันและเลี้ยงจนลูกกระรอกตัวน้อยเติบโตและแข็งแรง ถ้าแม่ไปไหนก็จะติดไปด้วย ชอบอยู่ด้วยกันทุกเวลา ก็เป็นคนที่ดูแลกันมาตั้งแต่เกิด จะไม่ให้รักได้ยังไงล่ะ อย่างไรก็ตาม กระรอกก็เป็นสัตว์ป่า ไม่ควรเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่ง Serfontein ก็รู้เรื่องนี้ดี เธอทำใจมานานแล้วว่าสักวันหนึ่งเธอจะต้องปล่อยมันไป ถึงมันจะทำให้เธอเศร้าใจที่ต้องแยกจากกัน แต่เธอก็เลือกจะทำสิ่งที่ถูกต้องโดยการปล่อยมันกลับไปอยู่ในป่า หลังจากเธออยู่กับมันไม่กี่เดือน เธอก็ปล่อย Dingetjie ไว้บนต้นไม้ที่ป่าข้างบ้านเธอ มันเป็นป่าที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ พอมันได้สัมผัสต้นไม้ สัญชาตญาณสัตว์ป่าของมันก็กลับคืนมา แล้วมันก็กลับเข้าป่าไป หญิงสาวนึกว่านั่นคงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอมัน แต่หลายเดือนต่อมาเธอก็เห็นมันมาโผล่ในสวนหลังบ้านของเธออีก แล้วมันก็เข้ามาอยู่ในบ้านของเธออย่างสบายใจเหมือนเดิมด้วย ทำให้เธอหายคิดถึงมันได้บ้าง จากนั้นมามันก็จะแวะมาบ้านของเธอเป็นระยะๆ จากตอนแรกที่คิดว่าคงไม่ได้เจอกันแล้ว เลยกลายเป็นว่ามันไม่ได้ห่างหายไปไหนเลย เพียงแค่ย้ายไปอยู่ไกลจากเธอนิดหน่อยเท่านั้น มันแวะมาหาเธอให้เธอหายคิดถึงเสมอ หลังจากมาเยี่ยมแล้วมันก็จะกลับเข้าไปในป่าตามเดิม …
-
ช้างน้อยเป็นห่วงพี่ เฝ้าสัตวแพทย์ตลอดการรักษาเพื่อให้มั่นใจว่าพี่ชายปลอดภัย
เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ Maasai Mara National Reserve ในประเทศเคนย่าได้รับแจ้งมาว่ามีช้างบาดเจ็บอยู่ 5 ตัว พวกเขาเลยต้องออกไปตามหาพวกมันเพื่อรักษาแผลให้ เจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือสัตว์และช้างหลายองค์กร อันได้แก่ Olarro Conservancy, Kenya Wildlife Service, Mara Elephant Project และ David Sheldrick Wildlife Trust จึงได้ร่วมมือกันเพื่อออกไปรักษาช้างเหล่านี้ ก่อนที่จะรักษาช้าง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้ลูกดอกยาสลบยิงมัน เพื่อทำให้มันหลับไปซะก่อน จะได้ทำการรักษาได้อย่างราบรื่น เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นฝูงช้างจากบนเฮลิคอปเตอร์ พวกเขาก็ยิงลูกดอกยาสลบใส่ช้างที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้มันเดินห่างจากฝูงออกมาก่อนที่จะสลบไป และหนึ่งในช้างที่ได้รับบาดเจ็บก็มีลูกช้างเดินตามมาด้วย ลูกช้างตัวนี้ไม่ยอมออกห่างจากช้างที่สลบเลย มันคอยยืนอยู่เคียงข้างและทำท่าทีเหมือนกับปกป้องช้างตัวที่สลบไป แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน หลังจากตรวจสอบดูแล้วพบว่าช้างที่สลบไปเป็นช้างหนุ่มเพศผู้ พวกเขาก็เลยสันนิษฐานว่าลูกช้างตัวน้อยคงเป็นน้องชายของมันนั่นเอง เจ้าหน้าที่ Angela Sheldrick ที่มากจากองค์กร David Sheldrick Wildlife Trust เล่าว่า “ลูกช้างตัวนี้อยู่ปกป้องพี่ชายโดยไม่ยอมออกห่างเลย มันอยู่เคียงข้างพี่ชายตลอดระยะเวลาที่เรารักษาพี่มัน“ แผลของพี่ชายมันเป็นบาดแผลจากลูกดอกธนู เจ้าหน้าที่รู้มาว่าพวกช้างถูกคนท้องถิ่นยิงธนูใส่ด้วยความโมโห หลังพวกมันเข้าไปทำลายและกินพืชผักของเขา ดังนั้นการที่ลูกช้างตัวนี้กล้าอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทำร้ายพี่ชายมันมาก่อน…
-
มนุษย์พบวัตถุประหลาดกลมๆ สีฟ้า ก่อนจะรู้ว่ามันคือเม่นที่ต้องการความช่วยเหลือ
ในเมือง Taunton รัฐซัมเมอร์เซต ประเทศสหรัฐอเมริกา มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง พวกเขากำลังใช้เวลาว่างด้วยกันในสวนหลังบ้าน และตอนนั้นเองเขาก็ได้พบกับวัตถุประหลาดกลมๆ สีฟ้าเข้า ครอบครัวนั้นคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะไม่รู้ว่าคืออะไร พวกเขาเลยติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ให้เข้ามาจัดการมันแทน พออาสาสมัครเข้าไปดูวัตถุประหลาดที่ว่าใกล้ๆ ก็เลยรู้ว่าที่แท้มันเป็นเม่นที่กำลังลำบากนี่เอง ก็นึกว่าตัวอะไร ที่แท้มันคือเม่นนี่แหละ ที่เม่นตัวนี้มีสีฟ้าก็เพราะว่าทั้งตัวของมันเปื้อนสีทาบ้านอยู่ ถึงจะไม่รู้ว่ามันตกลงไปในกระป๋องสีเองหรือมีคนตั้งใจทาสีให้มัน แต่ตอนนี้สัตวแพทย์กับอาสาสมัครก็ให้ความสำคัญกับการช่วยมันมากกว่าจะหาสาเหตุ เพราะการรีบช่วยมันก่อนจะตายเพราะสารเคมีจากสีสำคัญกว่า น่าจะตกลงไปในถังสีโดยบังเอิญน่ะ ก็เลยเป็นแบบนี้ สีบนตัวของมันแห้งหมดแล้ว แต่ก็หนาแล้วก็แข็งจนเอาออกได้ยาก แต่สัตวแพทย์ก็ค่อยๆ เอาสีออกทีละนิดอย่างเบามือ เพื่อให้มันรู้สึกสบายมากที่สุด พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Sonic ตามตัวละครเกมที่เป็นเม่นสีฟ้า หลังจากใช้เวลาสักพักหนึ่งพวกเขาก็เอาสีที่ติดอยู่ออกจากตัวมันได้เกือบหมดแล้ว สัตวแพทย์ค่อยๆ ช่วยเอาสีออกให้มัน แต่ก็ต้องใช้เวลาเพราะสีติดแน่นมาก สัตวแพทย์ก็เลยป้อนข้าวป้อนน้ำให้มันก่อน เพราะก่อนหน้านี้มันคงขยับตัวไม่ได้เพราะสีแห้งเกาะติดตัวเต็มไปหมด Sonic ก็กินข้าวเยอะจนกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามพวกเขายังต้องวางยาสลบมันเพื่อเอาสีที่เหลืออยู่ออก เพราะสีมันติดแน่นมากจริงๆ แล้วก็ต้องรักษาแผลบางจุดที่สีไปติดกับผิวหนังข้างในของมันจนเป็นแผลด้วย ถ้ามันหายดีแล้วพวกเขาก็จะเอามันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเม่นพวกนี้เป็นสัตว์ตามธรรมชาติที่ค่อนข้างซุกซน ถ้าเกิดมีกระป๋องสีเปิดทิ้งไว้พวกมันอาจจะตกลงไปเองก็ได้ ก็เลยอยากให้ทุกครัวเรือนเก็บอุปกรณ์พวกนี้ไว้ให้มิดชิด ถ้าเกิดเจ้าเม่นน้อยหายดีเมื่อไหร่ อาสาสมัครก็จะพามันกลับไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้มันได้ใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้งหนึ่ง หวังว่ามันคงจะไม่ไปตกถังสีที่ไหนจนต้องกลับมาอีกครั้งนะ…
-
ลิงแสม ‘มะลิ’ สัตว์ป่าที่ถูกนำมาเลี้ยงไว้อยู่ 3 ปี ตอนนี้เตรียมส่งตัวมันคืนสู่ธรรมชาติแล้ว
เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมา เจ้าของของลิงแสม มะลิ ได้ติดต่อเข้าไปยัง มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมันมีอาการซึมเศร้าและกัดเจ้าของด้วย เขาเลยอยากให้คนที่มีประสบการณ์มาช่วยดูแลมัน เจ้าหน้าที่ก็เลยเดินทางไปหาลิงมะลิที่ตำบลท่าไม้รวก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี พอไปถึงก็เจอเจ้ามะลิอยู่ข้างต้นไม้หน้าบ้าน โดยมีเชือกผูกไว้กับตัวเพื่อไม่ให้มันออกไปไหนได้ไกล เจ้าของบอกว่าป้องกันมันไม่ให้ไปทำร้ายหรือก่อกวนผู้อื่น . เจ้าของของมันบอกว่าเขาเลี้ยงลิงมะลิมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะแม่ของมันตายไปเลยเอามันมาดูแล ในตอนกลางวันมันจะถูกผูกไว้กับต้นไม้ ส่วนตอนกลางคืนจะพาเข้าไปนอนด้วยในห้อง เวลาอยู่ในบ้านบางครั้งเขาก็ให้มันใส่ชุดจะได้ดูน่ารักมากขึ้น ทว่าระยะหลังๆ มานี้มันค่อนข้างซึมเศร้า ล่าสุดมันก็กัดเจ้าของ ก็เลยไม่รู้จะรับมือยังไงดี เจ้าหน้าที่คาดว่าอาการของมันน่าจะเกิดจากความเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่น อีกทั้งมันเองก็เป็นสัตว์ป่าโดยธรรมชาติไม่เหมาะจะนำมาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงด้วย ในวันที่ 24 มกราคม 2018 มะลิจึงได้เข้าไปอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ในเบื้องต้นพวกเขาให้มันอยู่ในพื้นที่กักกัน เพื่อให้มันได้เรียนรู้การใช้ชีวิตสัตว์ป่ากับลิงตัวอื่นเป็นเวลา 3 อาทิตย์ มันจะได้อยู่อย่างที่มันควรจะเป็น แต่ในระหว่างช่วงเวลาที่เจ้ามะลิกำลังปรับตัวเข้ากับลิงตัวอื่นนั่นเอง เจ้าของของมันก็ยังคงแอบเข้ามาในมูลนิธิเพื่อเอาอาหารและขนมเข้ามาให้มัน แล้วก็เล่นกับมันบริเวณด้านข้างกรงด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่าการกระทำเหล่านั้นทำให้ลิงแสมตัวอื่นเกิดความอิจฉา จนทำร้ายมะลิ ส่งผลให้เจ้าลิงได้รับบาดเจ็บที่หางจนต้องรีบรักษาโดยไว น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็จำเป็นต้องตัดหางของมะลิเพื่อรักษามัน หลังจากนั้นเจ้ามะลิก็เลยต้องย้ายเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาเป็นประจำทุกวัน และจะได้อยู่ในสายตาของแพทย์อย่างใกล้ชิดด้วย…
-
ลูกช้างน้อยขาติดซอกหิน อาสาสมัครเลยช่วยมันขึ้นมา ทำให้แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ในเย็นวันหนึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติ Amboseli National Park ซึ่งอยู่ในประเทศเคนย่า กำลังขับรถตรวจตราพื้นที่ทุ่งหญ้าอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากทางสระน้ำเป็นระยะ ก็เลยมั่นใจว่ามีสัตว์กำลังรอให้พวกเขาช่วยอยู่แน่ๆ เมื่อเข้าไปใกล้สระน้ำก็เห็นว่ามีลูกช้างตัวหนึ่งอยู่ในนั้น มันขยับไปไหนไม่ได้เพราะว่าขาติดอยู่ในช่องหินด้านล่าง แถมแม่ช้างก็ช่วยมันออกมาเองไม่ได้ด้วย ข้างล่างมีช้างน้อยติดอยู่ ทุกคนมาช่วยกันเร็ว เจ้าหน้าที่เลยติดต่อไปหาหน่วยกู้ภัยของอุทยานเพื่อให้พวกเขาออกมาช่วยลูกช้าง ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางมา เจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยลูกช้างขึ้นมาด้วย แต่พอพยายามเข้าไปช่วยลูกช้าง แม่ช้างที่แอบเฝ้ามองอยู่ข้างทางก็เดินออกมาไล่พวกเขา ทำให้ไม่สามารถช่วยลูกช้างออกมาได้ ฮึบออกแรงอีกนิดนะ จะขึ้นมาได้แล้ว โชคดีที่ตอนหน่วยกู้ภัยมาถึงแม่ช้างก็หายไปไหนไม่รู้ซะแล้ว พวกเขาก็เลยช่วยลูกช้างได้อย่างเต็มที่ แล้วพามันขึ้นมาจากสระน้ำได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนลูกช้างจะไม่ได้ติดอยู่ที่นั่นนานเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้ดูเหนื่อยล้าเลย เจ้าหน้าที่ก็เลยไม่ได้พามันไปรักษาต่อ แต่พามันขึ้นรถแล้วขับตระเวนตามหาแม่ของมัน ดูเหมือนจะสบายดีนะ งั้นขึ้นรถไปตามหาแม่กันเลยดีกว่า ดีที่แม่ช้างไม่ได้เดินออกไปไกลมาก ขับรถวนอยู่ไม่นานก็เจอแม่ช้างแล้ว ตอนที่พวกเขาเจอมันก็เห็นมันกำลังชูงวงขึ้นสูงเพื่อตามกลิ่นของลูกช้างอยู่เหมือนกัน เจอแม่ช้างแล้ว! พอแม่ช้างรู้ว่าลูกอยู่ทางที่รถวิ่งมา มันก็เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าลูกปลอดภัยดีมันก็เดินพาลูกช้างกลับไปยังถิ่นของมัน ก่อนจะไปก็ไม่ลืมหันมาร้องแปร๊นเสียงดังเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ด้วย ถึงการช่วยลูกช้างจากบ่อน้ำจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ไปเจอมันเข้าลูกช้างอาจจะติดอยู่นานจนเป็นอันตรายก็ได้ แถมแม่ช้างที่ไม่สามารถช่วยลูกมันเองได้คงจะร้อนใจน่าดู เรื่องที่พวกเขาทำจึงเป็นเรื่องน่ายกย่องมาก ดีใจจังเลยที่แม่กับลูกได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ช่วยมันเอาไว้ก็รู้สึกดีใจไปกับมันด้วยที่แม่และลูกได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่สักแค่ไหน พวกเขาก็ยินดีจะช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวเสมอ เพราะพวกเขาอยากให้สัตว์ทุกตัวที่นี่อยู่อย่างมีความสุขยังไงล่ะ…
-
หนุ่มเจอวัตถุแปลกระหว่างทางไปทำงาน พอเข้าไปดูใกล้ๆ เลยรู้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่
ในเวลา 7 โมงเช้าวันหนึ่ง ชายหนุ่มก็เดินทางไปทำงานตามปกติ ด้วยความที่คืนก่อนหน้านั้นมีพายุเข้า จึงไม่แปลกที่จะเห็นกองเศษหญ้าและหิมะถูกกวาดมากองไว้ข้างทางเพื่อไม่ให้กีดขวางทางจราจร ทว่าชายหนุ่มก็สังเกตเห็นวัตถุแปลกตาอันหนึ่งในกองเศษหญ้าที่เรียงรายอยู่ สิ่งนั้นมีสีดำขัดกับกองเศษหญ้าสีน้ำตาลรอบๆ มองผ่านๆ อาจจะคิดว่าเป็นก้อนหินก็ได้ แต่สักพักมันก็เคลื่อนที่เอง ทำให้ชายหนุ่มเกิดความสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ พอลองดูใกล้ๆ แล้วกลับพบว่ามันเป็นลูกแมวน้ำตัวหนึ่งต่างหาก!? ลูกแมวน้ำตัวนี้ถูกพบในวันที่ 5 มีนาคม 2018 ทันทีที่มีคนพบมันเขาก็แจ้งทางตำรวจเลย ตำรวจจึงติดต่อขอความช่วยเหลือยังยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเล Seacoast Science Center แล้วระหว่างที่รอผู้ช่วยเหลือมาถึง ตำรวจก็พาลูกแมวน้ำไปไว้ที่ลานจอดรถใกล้เคียง มันจะได้ไม่ถูกรถบนถนนเฉี่ยวเอา Ashley Stokes ผู้จัดการของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ทะเลบอกว่า “แมวน้ำตัวนี้น่าจะถูกคลื่นใหญ่ที่เกิดจากพายุตอนตี 2 เมื่อคืนพัดขึ้นมาบนถนน … หลังจากมันขึ้นมาแล้วมันคงคิดว่าตรงนั้นปลอดภัยกว่าการกลับลงไปในคลื่นที่เชี่ยวกราก มันก็เลยไม่กลับไปในทะเล แต่อันที่จริงแล้วมันเสี่ยงภัยมากเลย “ ทีมช่วยเหลือที่ไปถึงก็บอกว่าอาการของลูกแมวน้ำดูไม่ปกตินัก เพราะปกติลูกแมวน้ำน่าจะหวาดระแวงคน แต่พวกเขากลับสามารถจับมันใส่ตะกร้าเคลื่อยย้ายได้โดยไม่มีการขัดขืนใดๆ เลย นอกจากนั้นมันยังมีอาการจามและไออีกด้วย แถมรูปร่างก็ดูผอมเมื่อเทียบกับตัวอื่นในช่วงอายุเดียวกัน น่าจะเป็นเพราะเหนื่อยล้าและหมดแรงจากการต่อสู้กับคลื่นทะเลเมื่อคืน หลังจากได้ตัวมันแล้ว พวกเขาก็ส่งลูกแมวน้ำไปให้ National Marine Life Center ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำหน้าที่ดูแลและพักฟื้นสัตว์ทะเล…
-
กาลครั้งหนึ่ง มี ‘หมาป่า’ ผู้เป็นมิตรแห่งอลาสก้าตัวหนึ่ง เข้าไปมัดใจมนุษย์จนอยู่หมัด
หากพูดถึงหมาป่าแล้วล่ะก็ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสง่างามแล้ว คนทั่วไปมักจะนึกถึงมันในฐานะนักล่าตามธรรมชาติที่ฉลาดและแข็งแรง เวลาเจอหมาป่าเข้าจึงควรอยู่ให้ห่างที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง ทว่าในอดีตยังมีหมาป่าอยู่ตัวหนึ่ง มันไม่เหมือนหมาป่าทั่วไปที่เราเคยรู้จัก มันกล้าเดินออกมาจากป่าซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของมัน แล้วเข้ามาหาคนและสุนัขตัวอื่นอย่างสันติ ความเป็นมิตรที่มันมอบให้กับทุกคนในละแวกนั้นทำให้ทุกคนในชุมชนที่รู้จักเจ้าหมาป่าต่างก็หลงรักมันทั้งนั้น ชื่อของมันก็คือ Romeo … Romeo หมาป่าผู้เป็นมิตร ในปี 2004 ช่างภาพชาวอลาสก้า Nick Jans และสุนัขของเขาใช้เวลาร่วมกันอยู่ในแผ่นน้ำแข็ง Mendenhall Glacier Park ในเขตป่าสงวน Tongass National Forest รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกาตามปกติ ทว่าจู่ๆ ก็มีหมาป่าสีดำตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากป่าโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มที่กำลังตื่นตระหนกอยู่ทำอะไรไม่ถูกเลย เขาจึงไม่ทันห้ามสุนัขของตัวเองที่วิ่งเข้าไปหาเจ้าหมาป่าซะแล้ว แต่แทนที่พวกมันจะต่อสู้กันอย่างที่เขาคิดไว้ เจ้าหมาป่าและเจ้าหมากลับเล่นกันอย่างสนุกสนานแทน ทำให้เขาแปลกใจกับภาพที่เห็นมาก . จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็มักจะเจอเจ้าหมาป่าที่บริเวณทะเลสาบแห่งนี้เป็นประจำ เขาก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า Romeo เขาเกิดความสนใจในตัวมันขึ้นมาเพราะความเป็นมิตรที่แปลกประหลาด เขาก็เลยติดตามดูชีวิตของเจ้าหมาป่าตัวนี้ . Romeo ไม่เพียงเป็นมิตรต่อเขาและสัตว์เลี้ยงของเขาเท่านั้น มันยังเข้ามาเล่นกับสุนัขทุกตัวที่มาเดินเล่นบริเวณนี้ด้วย มันไม่เคยแสดงท่าทีดุร้ายออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว . แม้ว่าในตอนแรกคนในชุมชนจะกลัว Romeo…
-
เซอร์ไพรส์หนักมาก เมื่อพบว่าลูกแมว 4 ตัวที่เก็บมาเลี้ยงไว้ โตมาดันไม่ใช่แมว!?
ในโลกของเรายังมีคนใจดีและรักสัตว์อยู่มาก การที่ชายคนหนึ่งเก็บลูกแมว 4 ตัวซึ่งไม่มีแม่คอยดูแลมาเลี้ยงไว้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แต่ที่แปลกก็คือในครั้งนี้สัตว์ที่เขาคิดว่าเป็นลูกแมว พอเติบโตมาแล้วมันไม่ใช่แมวซะงั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย มีชาวนาคนหนึ่งบังเอิญไปเจอลูกแมว 4 ตัวในคอกสัตว์ของเขาเข้า เมื่อตรวจดูบริเวณรอบๆ แล้วก็ไม่เจอแม่แมวเลย เขาก็เลยคิดว่าแม่คงทิ้งพวกมันไปแล้ว ลูกแมวทุกตัวดูอ่อนแรงและต้องการความช่วยเหลือ เขาไม่สามารถปล่อยพวกมันไว้ตามลำพังได้ ก็เลยเก็บเอาพวกมันมาเลี้ยงดูทั้งหมดเลย ชาวนาเจอแมวพวกนี้ในโรงนา เลยเก็บมาดูแล ทว่าเมื่อมองดูดีๆ แล้วลูกแมวพวกนี้มีลักษณะค่อนข้างแปลก มันดูไม่เหมือนแมวทั่วไปที่เขาเคยเห็นนัก พอไม่รู้แน่ชัดว่ามันเป็นแมวพันธุ์อะไรเขาก็เลยกลัวว่าจะดูแลมันได้ไม่ถูกวิธี จึงติดต่อไปหากลุ่มอนุรักษ์สัตว์ Daursky Nature Reserve เพื่อขอคำแนะนำจากพวกเขา แต่รูปร่างหน้าตาแปลกๆ อยู่นะ ลองเอาไปตรวจดูดีกว่า เมื่อ Daursky Nature Reserve ได้เข้ามาตรวจสอบลูกแมวอย่างละเอียดแล้ว กลับกลายเป็นว่าพวกมันไม่ใช่แมวอย่างที่ชาวนาคิดไว้ในตอนแรก พวกมันคือ แมวพัลลัส (Pallas’s Cat หรือ Manul) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าต่างหาก แม่ของมันคงจะมาคลอดเจ้าพวกนี้ทิ้งไว้แล้วกลับเข้าป่าไปล่ะมั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องที่พวกมันยังต้องการคนช่วยเลี้ยงดูก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ทางกลุ่มอนุรักษ์สัตว์เลยลองให้พวกมันไปอยู่กับแม่แมวที่มีอยู่ดู โชคดีที่พวกมันดูแลกันได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องความแตกต่างแต่อย่างใด ไม่ใช่ลูกแมวนี่นา เป็นแมวป่าต่างหาก แต่เจ้าเหมียวก็ช่วยเลี้ยงได้ ชาวนาและกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ติดสินใจว่าจะช่วยเลี้ยงพวกมันไปสักระยะหนึ่ง ถ้าหากมันโตมากพอดูแลตัวเองได้แล้วก็จะหาทางปล่อยมันกลับคืนสู่ธรรมชาติตามเดิม เพราะสภาพแวดล้อมในป่าคงจะเหมาะกับพวกมันมากกว่า…
-
ลูกลิงชิมแปนซีทำหน้าที่ผู้ช่วยนักบิน ขณะหนุ่มพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปบ้านใหม่
ใครก็ตามที่ฝันอยากจะเป็นนักบินบังคับเฮลิคอปเตอร์สักครั้งหนึ่งในชีวิต คงจะอิจฉาเจ้าจ๋อกันเป็นแถบ เพราะระหว่างทางที่มันต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปบ้านใหม่ มันได้ทำตัวเหมือนเป็นผู้ช่วยนักบินเลย ไม่ใช่โอกาสที่จะหากันง่ายๆ นะเนี่ย นักบิน Anthony Caere กับลูกลิงน้อย Musso เจ้าลูกลิงตัวนี้ชื่อว่า Musso อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Virunga National Park ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มันสูญเสียครอบครัวไปเพราะนักล่าสัตว์ที่บุกรุกเขามาในป่า แต่ก็ยังโชคดีที่นักบิน Anthony Caere ช่วยมันเอาไว้ได้ หลังจากช่วยมันแล้วเขาก็เลยพามันขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อจะได้พามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Lwiro Primates มันเพลิดเพลินกับมุมมองบนเฮลิคอปเตอร์มาก ตอนที่เขาเอามันขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เขาให้มันนั่งอยู่บนตักของเขา ส่วนตัวเขาก็ยื่นมือโอบมันไว้เพื่อบังคับเครื่องอีกทีหนึ่ง เจ้าลิงที่เพิ่งเคยขึ้นเฮลิคอปเตอร์เป็นครั้งแรกก็ดูจะชอบวิวจากมุมสูงเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกเหมือนพาเด็กมาเที่ยวเลย คลิปวิดีโอ Mussa last rescue of #Lwiroprimates. Orphaned of #poaching has a second chance #Virunga #stoppoaching #chimpsarenotpets #savinglives #providinghope pic.twitter.com/sDpaNMEdRy — Lwiro Primates (@lwiroprimates) 1…
-
เสือไซบีเรียเพศเมียหายาก ที่มีปัญหาช่องปากเลยขอให้มนุษย์ช่วย ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว
เมื่อตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เราเคยลงข่าวเกี่ยวกับเสือไซบีเรียตัวหนึ่งที่มีปัญหาช่องปากหนักมาก จนมันต้องถ่อมาขอความช่วยเหลือจากเหล่ามนุษย์ เพื่อรักษาให้มันหายดีและกลับไปใช้ชีวิตได้ดังเดิม (อ่านข่าวเก่าเพิ่มเติมได้ ที่นี่) แต่น่าเสียดายที่แม้ทีมสัตวแพทย์จะร่วมมือกันช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ มันก็ยังคงมีอาการที่น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนเดิม จนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 เสือสาวก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว เสือสาวที่มีปัญหาช่องปากอย่างรุนแรง เมื่อตอนที่สัตวแพทย์ตรวจมันครั้งแรก พวกเขาพบว่ามันไม่มีฟันบนเหลือเลยสักซี่ นอกจากนี้เหงือกของมันก็ไม่แข็งแรงพอ จึงทำให้มันมีปัญหาในการล่าเหยือและกินอาหาร และด้วยความที่มันกินอาหารได้ไม่เพียงพอก็ส่งผลให้มันไม่มีเรี่ยวแรงพอจะใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ ตอนที่พวกพบมันที่หน้าบ้านของชายที่เจอ มันขยับร่างกายไม่ไหวเลยทีเดียว ทีมสัตวแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่ หลังจากที่มันถูกส่งไปยังศูนย์ฟื้นฟูสภาพในเขต Primorsky ประเทศรัสเซีย พวกเขาก็ป้อนอาหารบดให้มันทำให้มันมีแรงขึ้นมาบ้างแล้ว มันอาการดีขึ้นจากตอนแรกมาก จากที่มันไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ ตอนนี้มันก็สามารถกระโดดขึ้นไปบนชั้น 2 ของกรงได้ด้วยตัวเองแล้ว เจ้าเสือเริ่มกินอาหารได้บ้าง ในช่วงแรกของการรักษา ดูเหมือนว่าอาการของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลังจากนั้นอาการของมันก็ทรุดลงอีกครั้งหนึ่ง มันไม่ยอมกินอาหารอะไรเลย สัตวแพทย์จึงเริ่มสังเกตได้ว่านอกจากสุขภาพในช่องปากแล้วมันต้องมีโรคอื่นๆ อีกเป็นแน่ Viktor Kuzmenko ผู้อำนวยการของศูนย์ช่วยเหลือเสือ Amur Tiger Centre อธิบายอาการของมันว่า “โรคร้ายและความชราทำให้มันอาการแย่ลง แม้ว่าสัตวแพทย์จะพยายามช่วยมันมากแค่ไหนมันก็สู้กับโรคร้ายต่อไปไม่ไหว … มันอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงและสิ้นหวัง แถมหัวใจของมันก็ไม่มีไขมันเลยแม้แต่น้อย ไม่มีอะไรช่วยชีวิตมันได้แล้ว…