ช่วงนี้ที่ กทม. กำลังเจอปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ส่งผลให้หลายคนเริ่มมีปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เกิดผื่นคัน เลือดกำเดาไหล ไอ จาม คออักเสบ เป็นต้น
นอกจากนี้ข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญก็ออกมาเตือนว่าหากสูดเข้าไปในปริมาณมาก และอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลร้ายแรงได้
เรามาดูกันสักหน่อยว่าตอนนี้ทาง กทม. เค้าได้จัดการอะไรไปแล้วบ้าง? เพื่อพยายามแก้ไขปัญหานี้ เดี๋ยวผมจะขอสรุปมาคร่าว ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกันนะครับ
– ประกาศมาตรการ LEZ (Low Emission Zone) คือการห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
– รถที่จะผ่านได้คือรถ EV, NGV, และ EURO 5-6 ส่วนรถชนิดอื่น ๆ จะต้องนำไปขึ้นทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) ซะก่อน
– วิธีการก็ง่ายมาก ต้องเอารถเข้ากระบวนการบำรุงรักษา เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง จากนั้นก็เข้าไปกรอกแบบฟอร์ม และแนบหลักฐานที่ แบบฟอร์มบัญชีสีเขียว (ที่ลิงก์นี้ : https://bit.ly/47RK0Yy) แล้วก็เอาใบอนุญาตไปแสดงเพื่อผ่านทางได้เลย
– มาตรการ LEZ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 68 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 24 ม.ค. 68 เวลา 23.59 หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท
– ประกาศมาตรการ Work From Home เพิ่มเติม ซึ่งเดิมทีประกาศไปเมื่อวันที่ 20-21 ม.ค. 68 ขยายเวลาเพิ่มเติมเป็นวันที่ 22-24 ม.ค. 68
– พร้อมกับรณรงค์ให้เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนที่มีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน สวมใส่หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ด้วย
– ผู้ว่าชัชชาติเปิดเผยด้วยว่าได้ทำการประสานขอความร่วมมือกับกรมฝนหลวง มีการส่งทีมรถออกไปพ่นละอองน้ำเพื่อทดสอบแล้ว แต่พบว่าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังให้ออกไปอยู่เพื่อล้างฝุ่นที่อยู่บนถนน ต้นไม้ และใบไม้
– รวมไปถึงฝากรณรงค์ไปยังประชาชนให้ลดการเผา และดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่ดีด้วย
– อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าปัญหา PM 2.5 ที่กำลังเกิดขึ้นใน กทม. นี้มีสาเหตุมาจากหลายช่องทาง ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมไปถึงการเผาจากรอบนอก
– ซึ่งถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ จะระบายอากาศออกไปได้โดยง่าย แต่ทว่าเนื่องจากช่วงนี้ความกดอากาศต่ำ ทำให้อากาศนิ่งและจมตัว เกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น
– ผู้ว่าชัชชาติระบุว่า กทม. ไม่เคยหยุด และพยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ รวมไปถึงการคิดหาวิธีตลอดว่ามาตรการไหนจะช่วยให้การแก้ปัญหานั้นเข้มข้นขึ้นมาได้ พร้อมกับพูดถึง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ว่าอยากให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการควบคุมมลพิษในสภาวะปกติด้วย
– และฝากทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “อย่าหมดหวัง มันต้องดีขึ้น เรามาถูกทางแล้ว”
หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปอ่านข่าวได้ที่นี่นะ : https://www.facebook.com/share/18mfaX5Jgc/?mibextid=wwXIfr
#เหมียวแอด