ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยี AI ในเวลานี้ใครๆ ก็แทบจะใช้มันโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นในการประชุมสุดยอดเทคโนโลยีของ Bloomberg เหล่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงต้องออกมาเตือนเลยว่า
AI มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่ทำได้ทุกอย่างตามที่หลายๆ คนคิดและจริงๆ แล้วเทคโนโลยีนี้ยังอาจล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของเรา เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ผู้สร้างมากกว่าที่เราคิดด้วย
โดยคุณ Meredith Whittaker ประธานมูลนิธิเบื้องหลังแอปส่งข้อความเข้ารหัส Signal บอกว่า การพัฒนาของ AI ทำให้เขากังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้คนมาก
เธอยกตัวอย่างคนที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อธนาคาร และอธิบายว่าสิ่งที่ปฏิเสธคนเหล่านี้ ในปัจจุบันแทบจะไม่ใช่มนุษย์ด้วยซ้ำ แต่เป็น AI ซึ่งบางตัวซึ่งพิจารณาข้อมูลที่คัดลอกมาจากโซเชียลมีเดีย
ซึ่งมองเผินๆ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องใช่ แต่ปัญหาคือคนที่ยื่นสินเชื่อจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าทำไม AI ถึงปฏิเสธสินเชื่อของเขา เพราะมันไม่มีกลไกใดๆ ที่พวกเขาจะทราบได้ว่าต้องปรับปรุงข้อมูลอย่างไร
ว่าง่ายๆ ว่าสิ่งที่ AI ทำได้นั้น เกิดขึ้นได้เพียงเพราะมันมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มาจากมนุษย์เท่านั้น ปัญหาคือคนทั่วไปกลับไม่สามารถบอกได้เลยว่าแหล่งข้อมูลที่ว่าเป็นอย่างไร เราเปลี่ยนอะไรมันได้ไหม
เท่านั้นยังไม่พอในหลายๆ ประเทศ AI ยังถูกเริ่มนำไปใช้งานในฐานะ “เทคโนโลยีการเฝ้าระวัง” ด้วย ซึ่งมันไม่ใช่แค่การใช้กล้องจับใบหน้าเท่านั้น แต่รวมถึงการติดตามเราผ่านแหล่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่รวบรวมมาด้วย
“ข้อมูล (ที่ AI รวมมา) นั้น จะกลายเป็นข้อมูลเกี่ยวกับฉัน… มันไม่จำเป็นต้องถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องสะท้อนว่าฉันเป็นใครหรืออยู่ที่ไหนจริงๆ ด้วยซ้ำ แต่มันดันเป็นสิ่งที่มีอำนาจเหนือชีวิตของฉัน
และอำนาจนั้นมันอยู่ในมือบริษัทเจ้าของ AI เสียด้วย”
ที่มา
techcrunch.com/2023/06/22/get-a-clue-says-panel-about-generative-ai-its-being-deployed-as-surveillance-devices/
futurism.com/the-byte/ai-magic-spy-on-you-experts-warn