จากคดีการหายตัวไปของ “น้องต่อ” เด็กวัย 8 เดือน ที่กำลังใกล้จะถึงบทสรุปของคดีแล้ว ต้องขอบอกเลยว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย และหลายคนต่างก็ติดตามกันมาอย่างยาวนานเหลือเกิน
และเผื่อใครที่ไม่ได้ติดตาม ทีมงานแคทดั๊มบ์ก็เลยอยากจะขอไล่เรียงไทม์ไลน์จากคดีนี้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง? เพื่อทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ กันครับ
ก่อนจะไปไล่ไทม์ไลน์ เรามาพูดถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้กันก่อนประกอบไปด้วย
– น้องต่อ เด็กวัย 8 เดือนที่หายตัวไป
– นิ่ม เป็นแม่ของน้องต่อ
– พุด เป็นสามีคนปัจจุบันของนิ่ม มีศักดิ์เป็นพ่อของน้องต่อ
– ลุงแจ้ เป็นเพื่อนพ่อของนิ่ม
– นายหรั่ง ชายสติไม่สมประกอบที่อยู่ในหมู่บ้าน
เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปไล่เรียงไทม์ไลน์กันเลย…
1. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พุด และนิ่ม สองสามีภรรยา ออกตามหา “น้องต่อ” ลูกชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวออกจากบ้านไป จากข้อมูลทราบว่า “ระหว่างที่นอนอยู่ในบ้าน มีคนเข้าไปอุ้มน้องต่อแล้วหนีหายไป”
2. โดยตอนแรกตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นญาติสักคนหนึ่ง ที่เป็นคนพาตัวไป จนทางด้านพุด ผู้เป็นพ่อน้องต่อไปโพสต์ตามหาลูกในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ข่าวสารบางเลนนครปฐม” และเข้าแจ้งความกับตำรวจ
3. ทางมูลนิธิกระจกเงาเข้ามาช่วยเหลือ โพสต์ตามหาเด็กหาย จนเรื่องราวเริ่มได้รับความสนใจจากสื่อ
4. ตำรวจเรียกตัวพุด กับนิ่ม พ่อแม่ของน้องต่อเข้าสอบปากคำ ซึ่งทั้งสองคนให้การว่าเด็กน่าจะถูกอุ้มลักพาตัวไปโดยคนรู้จัก
5. ตำรวจลงพื้นที่ค้นหา มีทีมนักประดาน้ำลงค้นหาใต้น้ำ บวกกับใช้ทีมสุนัขค้นหา และโดรน แต่ก็ยังไม่พบตัว
6. ตำรวจเริ่มหันมาใช้วิธีการสอบปากคำจากพยานหลายคน บวกกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็ทำให้ทราบข้อมูลสุดช็อกมากมาย
7. มีการพบคราบเลือดที่หมอน และผ้าห่มบนที่นอนของนายพุดและนิ่ม เบื้องต้นนิ่มบอกว่าเป็นคราบประจำเดือนของตัวเอง ก่อนจะมากลับคำให้การภายหลังว่าเป็นคราบเลือดของน้องต่อ เนื่องจากมีแผลปากแตก
8. ตำรวจเอาดีเอ็นเอของน้องต่อไปตรวจกับคนรอบ ๆ ตัวของนิ่ม พบว่าพ่อที่แท้จริงของน้องต่อไม่ใช่นายพุด แต่เป็นลุงแจ้ ที่เป็นเพื่อนของพ่อนิ่ม!?
9. จากการสอบสวน ทราบว่าพ่อของนิ่มได้ไหว้วานให้ลุงแจ้ คอยตามรับ-ส่ง นิ่ม แล้วก็มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน 2-3 ครั้ง ตำรวจจึงนำตัวลุงแจ้ไปสอบปากคำและเครื่องจับเท็จ
10. ตำรวจเชิญนายพุด กับนิ่ม เข้าสอบปากคำอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการใช้เครื่องจับเท็จ ผลออกมาพบว่า 1 ใน 2 คนนี้มีเส้นกราฟการตอบคำถามที่ผิดปกติ
11. นายพุด และนิ่ม ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผลตรวจดีเอ็นเอของน้องต่อตรงกับลุงแจ้ รอเจอตัวลูกชายก่อนแล้วจะทำการตรวจอีกครั้ง
12. นายหรั่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนล่าสุด เป็นชายสติไม่สมประกอบที่อาศัยอยู่ในบ้านติดกับบ้านของนายพุดและนิ่ม เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วกับพื้นที่อื่น พอไปสอบถามนายหรั่งเจ้าตัวดันยอมรับซะงั้น แถมพาไปชี้จุดที่เอาเด็กไปทิ้งอีก
13. แต่ภายหลังนายหรั่งให้การปฏิเสธ โดยบอกว่าที่บอกไปแบบนั้น เพราะตำรวจรับปากว่าจะให้กินข้าว ประเด็นนี้เลยถูกตีตกไป
14. มีพยานมายืนยันว่าในวันเกิดเหตุ เห็นนายหรั่งปั่นจักรยานสวนทางมา โดยมีเด็กนั่งอยู่ด้วย แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นน้องต่อหรือไม่
15. เวลาผ่านมา 16 วันนับตั้งแต่น้องต่อหายตัวไป ตำรวจตามหาเบาะแสทุกช่องทางแต่ก็ยังไม่พบตัว ตอนนี้หลักฐานบวกกับคำให้การของพยาน มุ่งไปที่นายหรั่งอย่างเต็มที่
16. ตำรวจพบห่อผ้ามีโครงกระดูกจำนวนมาก แต่ตรวจสอบแล้วเป็นซากสัตว์ จึงตัดข้อสงสัยนี้ทิ้ง
17. นิ่มให้การยอมรับว่าพูดโกหกหลายประเด็น รวมไปถึงเรื่องที่มีคนอุ้มลูกออกไปด้วย ความจริงแล้วไม่มี
18. ตำรวจสอบปากคำนิ่มเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่ายังพูดความจริงไม่หมด
19. ตำรวจพบคราบเลือดเพิ่มเติมที่มอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในบ้าน แต่ไม่ทราบว่าเป็นคราบเลือดของใคร นอกจากนี้ ยังพบคราบเลือดที่จุดท่อน้ำทิ้งที่ใช้ล้างจาน โดยมีพยานบอกอีกว่าพบนิ่มมาล้างมือที่จุดนี้
20. ตำรวจจับตัวนายพุดในข้อหาขายบริการทางเพศ จากข้อมูลทราบว่าเขาให้นิ่ม ภรรยาของตัวเองไปขายบริการให้เพื่อนพ่อของตัวเอง เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว
21. ลุงแจ้โดนคดีพรากผู้เยาว์
22. ล่าสุดเมื่อวานนี้เอง นิ่มให้การยอมรับกับตำรวจ ว่าเป็นคนเอาลูกไปทิ้งเอง โดยเปิดเผยว่าน้องต่อร้องไห้ไม่หยุด เลยอุ้มขึ้นมาเขย่าแต่ดันหลุดมือ หัวกระแทกกับพื้นจนแน่นิ่งไป
23. นิ่มบอกว่าเข้าใจว่าน้องหลับ เลยกลับไปนอนต่อ ก่อนจะตื่นขึ้นมาและพบว่าลูกไม่หายใจแล้ว ด้วยความตกใจจึงรีบเอาไปโยนทิ้งแม่น้ำ
24. เรื่องราวทั้งหมดกินเวลากว่า 21 วัน ส่วนความคืบหน้าเพิ่มเติมต้องรอดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงสรุปคดีอีกรอบในวันนี้ครับ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว