หลายคนอาจจะมองว่า “การขี่ช้าง” เพื่อชมธรรมชาติ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในบ้านเรา
แต่ในความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังของเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าเศร้ามากครับ เพราะจากข้อมูลล่าสุด ได้มีการแชร์ภาพของช้างตัวหนึ่ง ที่ระบุว่า “ทำหน้าที่แบกคนเที่ยว” มานานหลายสิบปี มีสภาพที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ของ “มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า” หรือ Wildlife Friends Foundation ได้เปิดเผยภาพของช้างที่ชื่อว่า “พลายหลิน” ที่ทำงานเป็นช้างพาหนะ พานักท่องเที่ยวเที่ยวป่า
แล้วเอามาเปรียบเทียบกับช้างอีกตัวหนึ่งชื่อว่า “ถุงเงิน” ที่ไม่เคยทำงานแบกนักท่องเที่ยวมาก่อน พบว่าสภาพแตกต่างกันอย่างชัดเจน
รายละเอียดเปิดเผยว่า พลายหลิน ต้องทำงานแบกนักท่องเที่ยวครั้งละ 6 คนขึ้นหลัง เป็นเวลาติดต่อกันนานถึง 25 ปี
ความแตกต่างที่ว่าก็คือ บริเวณสะโพกหลัง ที่เป็นจุดรับน้ำหนักจากการทำงานแบกนักท่องเที่ยว ดูจะตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รูปร่างของเธอดูไม่สมส่วน มาจากอาการกระดูกสันหลังบิดเบี้ยวนั่นเอง
ทางเว็บไซต์เปิดเผยอีกว่า ลักษณะของช้างที่เคยทำงานแบบนี้ จะมีความคล้ายกัน เช่นเดียวกันกับพลายบุญช่วย ที่บริเวณกระดูกสันหลังจะผิดรูปไป ดูแล้วไม่สมส่วน
ซึ่งตอนนี้ทั้งพลายหลิน และพลายบุญช่วย รวมไปถึงช้างอีก 22 เชือก ที่ต้องถูกบังคับให้ทำงานแบกนักท่องเที่ยว ถูกช่วยเหลือและได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับมูลนิธิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ก็ยังมีช้างอีกหลายเชือกที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวแบบนี้อยู่ จึงได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวนี้ และเรียกร้องให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงผู้ให้บริการการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ ให้เลิกหรือหลีกเลี่ยง ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : https://www.wfft.org/elephants/how-elephants-bodies-are-damaged-by-tourist-rides/