เป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมกำลังจับตาเลยครับ สำหรับเรื่องราวคำร้องกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นสื่อ ซึ่งล่าสุดทาง กกต. ได้มีมติปัดตกคำร้องไป แต่หลายฝ่ายได้ออกมาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าโล่งใจอย่างที่หลายๆ คนคิด
ดังนั้นวันนี้ เราจะมาสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อ่านกันครับ
– เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากการที่ “สามนักร้อง” นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ, นายสนธิญา สวัสดี และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ได้ยื่นเรื่องขอให้ กกต. ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในประเด็นการถือหุ้นสื่อ ไอทีวี 42,000 หุ้น
– แต่คำร้องดังกล่าวเป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาที่ กกต. จะรับเรื่องไว้ได้ ดังนั้น กกต. จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียงปัดตกคำร้องดังกล่าวไป
– แต่ปัญหาคือเนื่องจากทาง กกต. มองว่าคำร้องดังกล่าวมีมูล แม้คำร้องต้นทางจะถูกปัดตก พวกเขาก็สามารถจะรับเรื่องไว้พิจารณาได้
– ซึ่งในกรณีนี้ กกต. จะสืบสวน ต่อไปว่านายพิธารู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามแต่ยังเข้ารับเลือกหรือไม่ ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42(3) และมาตรา 151
– ต่อมา รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จึงออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โทษตามมาตรา 151 นั้น รุนแรงมาก หาก กกต. เห็นว่ามีความผิด คุณพิธาอาจต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และ เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งอีกนานถึง 20 ปี
– กว่าจะมีสิทธิ์กลับมาลงเลือกตั้งทางการเมืองได้ก็ต้องอายุ 60 กว่าปีขึ้นไปเลย
– แถมถ้าเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและต้องยืดเยื้อนาน ก็จะเป็นข้ออ้างได้สำหรับคนที่ไม่อยากจะโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก
ที่มา
www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/pfbid0DLbpFy3x2k8Z4oMvxhwf7eNMjHD5u2AtqBhN1MJ718DoHwCiEvi5bRXbcQJWM5dSl
www.thaipbs.or.th/news/content/328657
www.sanook.com/news/8885714/