ช่วงเช้ามืดของวันนี้ (14 กรกฎาคม) ลูกชายของ “อนุศักดิ์ คงมาลัย” สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาเขียนเล่าถึงเหตุผลที่พ่อไม่เห็นชอบ พิธา เป็นนายกฯ โดยระบุว่า…
“นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง…
ผมคือเด็กสุพรรณ ที่ตั้งใจกลับมาเป็นหมอผ่าตัดหัวใจเพื่อรักษาคนสุพรรณและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความรู้สึกอย่างเต็มเปี่ยมว่าโชคดีที่ได้มีโอกาส มาสร้างทีม ก่อตั้งศูนย์ผ่าตัดหัวใจที่นี่
ผมต่อต้านเผด็จการ และไม่เคยชอบระบบเผด็จการทหารที่มีการบังคับนู่น นี่ นั่น มาตั้งแต่สมัยเรียน รด. เคยทะเลาะกับครูฝึกจนถูกเรียกพบพร้อมผู้ปกครอง
ผมเลือกสส.เขต พรรคชาติไทยพัฒนา คือพี่ยอร์ช สรชัด สุจิตต์สรชัด ยอร์ช สุจิตต์ เพราะเห็นความตั้งใจ เห็นผลงานที่พี่ทำมาตลอดเพื่อคนสุพรรณ(ไม่เคยเห็น ไม่รู้จัก การทำงานของสส.เขตพรรคก้าวไกลเลย) แต่ผมเลือกปาร์ตี้ลิสต์ พรรคก้าวไกล เพราะอยากเห็นประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่มีความสมาร์ท มีความสามารถ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี มีประวัติการศึกษาที่ไม่ว่าใครๆก็ต้องยอมรับ เวลาดีเบตและ อภิปรายก็ดูดี มีความไหลลื่นและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงนโยบายส่วนใหญ่ของพรรคที่น่าสนใจ(การดีเบต นโยบาย และการทำงานของคนในพรรคหลายๆคนก็น่าประทับใจ)
ผมไม่ชอบการปฏิวัติ และไม่ชอบเผด็จการทหาร อยากเห็นประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลง และบอกตรงๆว่าไม่ชอบการทำงานแบบลุงๆที่ผ่านมา
และผมได้ปรึกษาหารือกับคุณพ่อ อนุศักดิ์ คงมาลัย – สมาชิกวุฒิสภา2562 หลายครั้งถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำตอบที่ได้คือท่านยอมรับในการความสามารถของคุณพิธา และการทำงานของพรรคก้าวไกล แต่ที่ยอมไม่ได้คือเรื่องการแก้ไข ม.112
น่าเสียดายนะครับ ที่ประเทศไทย ไม่ได้ลองใช้ความสามารถของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พิธา เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องม.112 ที่พรรคก้าวไกล ไม่สามารถลดหย่อน หรือยอมความได้เลย ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่จงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ “โดยไม่มีข้อแม้ ไม่สามารถยอมความได้” จึงไม่สามารถโหวตให้กับคุณพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีดังที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้เป็น
การที่จะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากความรู้ความสามารถ ที่เป็นที่ประจักษ์แล้ว มันก็คงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้การ”อยู่เป็น” ในสังคมไทยแห่งนี้ และ ณ วันนี้ พรรคก้าวไกลยัง “อยู่ไม่เป็น” ซึ่งก็น่าเสียดายกับโอกาสที่จะได้ใช้ความสามารถของคุณพิธา และ ทีมงานที่จะได้ลองทำให้คนไทยดูว่าจะพาประเทศไทยไปได้ถึงจุดไหน
ขอลุ้นให้มีปาฏิหาริย์ ให้ก้าวไกลยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อจะเดินไปข้างหน้าอีกหลายก้าว เพื่อให้ประเทศไทยได้ก้าวต่อไปครับ…”
ล่าสุดโพสต์นี้ได้เกิดเป็นกระแสขึ้นมา มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความเห็นกันมากมาย โดยส่วนใหญ่เข้ามาบอกว่า การเลือกนายกฯ กับแก้กฎหมายมันคนละเรื่องกัน และมีคำถามถึงคำว่า ‘อยู่เป็น’ เช่น
“คุณคะโหวตนายกค่ะ ไม่ใช่เห็นชอบแก้ไขม.112 ถึงเวลาร่างแก้กฎหมายเข้าสภาแล้วคุณแสดงความคิดความเห็นเรื่อง 112 ให้เต็มที่เลยค่ะ ไม่เห็นด้วยก็ไปโหวตตอนนั้น เอามาอ้างตอนนี้ ไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย อ่านที่คุณเขียนก็สมเหตุสมผลมาจนถึง 112 นี่แหละค่ะ โหวตใหม่วันที่ 19 ระหว่างนี้กลับไปคิดใหม่อีกหน่อยนะคะ เกือบดีละค่ะ”
“พ่อคุณไม่เอา 112 หรือไม่เอาพรรคก้าวไกล เอาดีๆ 555555555555555”
“ประชาชนไม่ได้เลือกคุณพ่อคุณมาครับ”
“เมื่อวานเค้าโหวตนายกกันนะคะ ไม่ได้อภิปรายเรื่อง 112”
แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับโพสต์นี้บ้าง ก็มาแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ