เกิดเป็นกระแสในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเลยครับ กับเรื่องราวที่พ่อรายหนึ่งไปตามหาลูกชายพร้อมกับภรรยาใหม่หลังป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แต่ถูกลูกชายปฏิเสธไม่มาเจอหน้า ไม่ให้เข้าบ้าน ไม่ให้เข้าหมู่บ้าน
ทำเอาฝ่ายพ่อถึงกับร่ำไห้ที่ลูกไม่สนใจและออกข่าวกลายเป็นข่าวดัง ก่อนที่ฝ่ายลูกจะออกมาเปิดเผยมุมมองของฝั่งตัวเองบ้าง
เรื่องราวนี้เป็นมาอย่างไร เราขอสรุปมาให้ติตดามกันครับ
– ลุงธนะภัทร อายุ 59 ปี อาชีพคนขับแท็กซี่ เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้เกิดอาการน็อกเบาหวาน เส้นเลือดตีบ กลายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก
– อาการป่วยทำให้รายได้ขาด ตัวลุงธนะภัทรกับภรรยาใหม่จึงคุยกันว่าจะไปตามหาลูกชายคนเล็กกับภรรยาเก่า ให้ช่วยดูแล
– ทั้งคู่ขับรถจากบ้านภรรยาใหม่ที่พิษณุโลก ไปที่บางบัวทอง จนเมื่อ 6 สิงหาคม 66 เจอว่าลูกชายคนเล็กอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
– แต่พอไปติดต่อ ลูกชายขอไม่เจอหน้า ไม่ให้เข้าบ้าน และขอให้กลับไป พอเช้าวันที่ 7 สิงหาคม ลูกชายขับรถออกมา ลุงธนะภัทรที่ดักรออยู่เลยได้เข้าไปคุย ก็ถูกบอกว่าให้กลับไป
– ลูกชายแจ้ง รปภ. หมู่บ้านห้ามไม่ให้พ่อเข้าหมู่บ้าน แต่ลุงธนะภัทรไม่ยอมกลับ รปภ. เลยต้องแจ้งตำรวจมาไกล่เกลี่ย มีนักข่าวมาทำข่าวเป็นข่าวดังว่าพ่อใจสลายที่ลูกไม่เอา ที่ผ่านมาก็ส่งลูกจนเรียนจบ แต่ถ้าลูกไม่เอาก็ไม่โกรธ ไม่ผิดหวังกับลูก ด้านภรรยาใหม่ก็ร้องไห้เสียใจเล่าว่าสามีอยากอยู่กับลูกชายคนเล็กแต่ลูกเขาไม่เอา ส่วนลูกคนโตก็ติดต่อไม่ได้
– เมื่อเป็นข่าวดัง ฝั่งลูกชายได้ออกมาเผยกับสื่อว่า พ่อทิ้งครอบครัวไปอยู่กับเมียใหม่มา 7 ปีแล้ว แต่พอป่วยเมียใหม่จะเอามาทิ้งให้ตน ถ้าจะให้สงสารขอสงสารแม่ดีกว่าที่ทนอยู่กับเขามานาน แม่บอกว่าถ้าเอาเขามาก็จะไม่อยู่ ซึ่งตัวเองก็ต้องเลือกแม่ที่เลี้ยงดูมาตลอด
– เบื้องต้นตำรวจ สภ.บางบัวทอง จะพา ลุงธนะภัทร ไปอยู่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งก่อน และจะติดต่อตามหาลูกชายคนโตให้ เผื่อพร้อมจะรับพ่อไปดูแล