จากเหตุการณ์รถกระบะซิ่งไปชนใส่รถโรลส์รอยซ์จนเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาบนโลกโซเชียลนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 สิงหาคม) รายการ ‘โหนกระแส’ ได้เชิญคู่กรณีในคดีนี้มาออก คือฝั่งเจ้าของรถกระบะ และโฟนอินคุยกับทนายของฝั่งคนจีนเจ้าของรถโรลส์รอยซ์
คดีนี้จากคู่กรณีทั้งสองฝั่งมีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร วันนี้เราขอสรุปมาให้ได้ติดตามกันครับ
– คนขับกระบะที่ชนโรลส์รอยซ์ชื่อ ‘แซม’ อายุ 23 ปี อาชีพเป็นช่างซ่อมรถ อาศัยที่ชลบุรี
– เลือกซื้อออนิว (Isuzu D-Max) เพราะชอบ เป็นความฝัน ซื้อมาแบบผ่อน เดือนละหมื่นกว่าบาท
– วันที่เกิดเหตุ กำลังจะพาลูกไปแก้บนที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา เพราะลูกป่วย
– ยืนยันว่าไม่ได้ขับปาดไปปาดมา เพราะวันนั้นในรถมีทั้งคนแก่และเด็กรวม 7 ชีวิต ลูก 2 คน อายุ 2 และ 4 ขวบ เมีย แม่ยาย แฟนแม่ยาย พ่อแม่ยาย และตัวเอง
– ตอนเกิดเหตุ โรลส์รอยซ์คันข้างหน้าเบรกกระทันหัน ตัวเองก็เบรกตาม เลยเบรกสุดๆ แต่ยางมันลื่น แต่เบรกไม่อยู่ ตอนนั้นวิ่งอยู่ประมาณ 110 กม./ชม. ยืนยันว่ายางไหนก็ไม่อยู่เพราะเบรกกระทันหัน
– พอชนเลยลงมาคุยกับคนจีนด้วยแอปแปลภาษา Google Translate โดยแม่ยายเป็นคนคุยให้ คนจีนบอกว่าคันข้างหน้าเบรกกระทันหันตัดหน้าก่อน เลยต้องเบรกตาม
– แม่ยายคุยไปคุยมา ก็ได้ความจากคนจีนว่า จะไม่เอาเรื่อง แล้วจะเอารถไปซ่อมเอง ต่างคนต่างซ่อมรถ
– ต่อมาคนจีนขี่รถออกไป พี่หนุ่มเลยถามว่าเขาให้ตามไปรึเปล่า แซมบอกว่าแม่ยายไม่ได้บอกอะไรแบบนั้น อีกอย่างตามไปไม่ได้เพราะรถพังวิ่งไม่ได้
– ด้าน ‘น้าฝน’ น้าสาวของแซมที่มารายการด้วยบอกว่า หลังเกิดเหตุกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเป็นคนเลี้ยงแซมมาตั้งแต่เด็ก ยืนยันว่าแซมเป็นเด็กดี ไม่นอกลู่นอกทาง ไม่เล่นยา
– แซมบอกว่าตอนที่ชนโรลรอยส์คือใจแป้วเลย เพราะเป็นคนชอบรถก็รู้อยู่แล้วว่านี่รถแพง
– ส่วนเรื่องที่คนบอกว่าตัวเองชนแล้วหายไปเลย เป็นเพราะโทรศัพท์แซมเสีย เลยติดต่อยาก ส่วนรถโรลส์รอยซ์ก็ไม่ได้ให้เบอร์อะไรไว้ด้วย
– พี่หนุ่มเช็กกับโรลส์รอยซ์แล้ว กันชนท้ายราคาอยู่ที่ 6 แสนบาท ไฟท้าย ข้างละ 3 แสนบาท ส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนทั้งสองข้าง เซนเซอร์ถอยหลัง 1.2 – 1.6 แสนบาท ปลายท่อไอเสียข้างละ 1.5 แสนบาท ฝากระโปรงท้าย 5 แสนบาท
– ‘อนิรุจน์ คงทรัพย์’ ทนายของ ‘คุณซุน’ คนจีนเจ้าของโรลส์รอยซ์ เล่ามุมของคุณซุนว่า วันนั้นกำลังจะเอารถไปเช็กระยะที่ศูนย์โรลส์รอยซ์ ก็ขับไปด้วยความเร็วปกติ ประมาณ 80 กม./ชม. แล้วก็ตกใจที่จู่ๆ มีรถกระบะมาชนท้าย เลยลงไปคุยด้วยกูเกิ้ลแปลภาษาว่าให้กระบะขับตามไปที่ศูนย์โรลส์รอยซ์ เพราะประกันอยู่ที่นั่น
– แต่รออยู่หลายชั่วโมงรถกระบะก็ไม่ตามมา เลยกลับที่พัก แล้วเห็นข่าวออกมาว่าเขาไม่ติดใจเอาความต่างคนต่างซ่อม จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดต่อมาให้ไปแสดงตัวและเล่าเหตุการณ์ ทนายก็เลยหาไปหาตำรวจพร้อมแถลงข่าวว่าไม่ได้จะให้ต่างคนต่างซ่อมตามที่ข่าวออกมา
– ทนายอนิรุจน์ เผยว่าคุณซุนไม่ได้พูดเรื่องเบรกกระทันหันอย่างที่ฝั่งกระบะบอก แล้วก็ยืนยันว่าไม่ได้ลงรถมาคุยแปลภาษาเรื่องเบรกกระทันหันด้วย
– ฝั่งคุณซุนขอให้เรื่องการซ่อมเป็นเรื่องของประกัน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดให้ทุกฝ่ายมาเจอกันที่โรงพัก
– เรื่องค่าซ่อมล่าสุดคุยกับกรุงเทพประกันภัยแจ้งว่ายังไม่ได้สรุปยอดที่แน่นอน
– พี่หนุ่มเปิดโอกาสให้ฝั่งกระบะถามทนาย น้าฝนเลยบอกทนายว่าไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุเกิด ฝั่งเขาก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ถ้าคุณซุนช่วยเหลือได้ก็ขอให้ทนายช่วยประสานงานให้ด้วย
– ทนายก็รับปากว่าจะคุยให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ที่ประกันและคุณซุนด้วยว่าคุยกันออกมาเป็นแบบไหน
– พี่หนุ่มถามเรื่องคุณซุนที่มีข่าวออกมาว่าอายุ 21 ทนายยืนยันว่าไม่ใช่ คุณซุนอายุ 38 ปี มาอยู่เมืองไทยได้ 6-7 ปีแล้ว เพราะชอบเมืองไทยเลยย้ายมาอยู่ที่นี่และก็ส่งลูกให้เรียนที่นี่ด้วย
– แซมถูกถามเรื่องที่ให้สัมภาษณ์ว่า คนอื่นที่มาด่าว่าเป็นวัยรุ่นสร้างตัว พ่อน้องออนิวเนี่ย มีปัญญาซื้ออย่างเขาไหม บอกว่าตอนนั้นรู้สึกโกรธที่โดนกระแสถาโถมใส่ เลยพูดออกไปไม่คิด เลยขอโทษสังคมที่พูดออกไปแบบนั้น
– พี่หนุ่มถามว่าแซมมีกล้องหน้ารถไหม แซมบอกว่าเคยมี แต่ลูกเพิ่งเล่นพังไป พี่หนุ่มเลยบอก “ประกันก็เพิ่งหมด กล้องก็เพิ่งพัง โคตรซวยเลยว่ะ”
– พอถูกถามว่าจะเอายังไงต่อ แซมบอกว่าหลังจากนี้จะซ่อมรถออนิวด้วยเงินแสนบาท แล้วเอารถไปขาย เอาเงินไปจ่ายให้ฝั่งโรลส์รอยซ์