คิดว่าเพื่อน ๆ หลายคนน่าจะรู้จักกับ “สแตมป์ อภิวัชร์” กันอยู่แล้วใช่ป่ะ?
ที่ผ่านมาซักปีสองปีหลังนี้ เหมือนแกจะหายไปจากหน้าสื่อเลย ไม่ไปออกรายการ ไม่ออกผลงานเพลงใหม่ รวมไปถึงไม่รับงานเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนเลย ถึงมีก็น้อยมาก ๆ
จริง ๆ แล้วมันมีสาเหตุและที่มาที่ไปอยู่ครับ ก็เกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว ที่แกออกมาโพสต์ถึงประเด็นนี้เมื่อช่วงก่อน เกี่ยวกับการถูกคุกคาม
ซึ่งล่าสุดคุณสแตมป์แกไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วก็เล่าเรื่องราวแบบเต็ม ๆ ให้แฟน ๆ ได้รับฟังกันครับ
เกิดอะไรขึ้นบ้าง? เดี๋ยวผมจะถอดความมาให้เพื่อน ๆ อ่านกันในโพสต์นี้เลยฮะ (คือยาวหน่อยนะ)
– พี่สแตมป์เล่าว่า สาเหตุที่หายไปเพราะมี “บุคคลบุคคลหนึ่ง” (ต่อจากข้อนี้จะขอใช้คำว่า ‘จำเลย’ นะครับ) คอยตามรังควานภรรยาของเขา คอยใส่ร้าย โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับภรรยาของเขา จนทำให้คนเข้าใจผิด ทั้งในวงการเพลง และนอกวงการเพลง โดยที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน
– พฤติกรรมที่คอยตามรังควานก็เช่น หาเรื่อง ด่า ถ่ายคลิปโดยที่ภรรยาของเขาไม่ยินยอม และสร้างสถานการณ์ เอาไปโพสต์ประจานเสีย ๆ หาย ๆ และทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว แถมยังเคยบุกรุกเข้ามาถึงพื้นที่หลังเวที จนทำให้คุณสแตมป์รู้สึกไม่ปลอดภัย
– แต่เรื่องราวเพิ่งจะมาหนักขึ้นเมื่อปี 2565 เมื่อมีตัวละครอีกตัวนึงโผล่เข้ามา คือแฟนของจำเลย แล้วก็ดันทำงานอยู่ในวงดนตรีอีกวงนึง ทำให้จำเลยมีบัตรทีมงาน สามารถเข้า-ออก พื้นที่หลังเวทีได้อย่างอิสระ
– ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่สร้าง คืออยู่ ๆ ก็มานั่งร้องไห้ข้าง ๆ ภรรยาของคุณสแตมป์ แล้วก็ถ่ายคลิปเอาไปโพสต์แต่งเรื่อง
– แต่ภรรยาของคุณสแตมป์ก็ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากให้เป็นข่าว ก็เลยใช้วิธีการหลบเลี่ยง ด้วยการไม่รับงานร่วมกับวงดนตรีที่สองคนนั้นทำงานอยู่ เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหา
– แล้วก็มีอยู่งานนึงที่บังเอิญได้มาเจอกัน และก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ คือจำเลยและแฟนมานั่งรอที่หน้าห้องพักวงดนตรีอยู่เป็นชั่วโมง พอคุณสแตมป์และภรรยามาถึงก็วิ่งเข้ามาชาร์จเลย พูดจากล่าวหาภรรยาของคุณสแตมป์ แล้วก็มีการอัดคลิปเอาไว้ ซึ่งก็งงว่าทำไปทำไม
– ภายหลังมาทราบว่าจำเลยเอาคลิปนี้ไปให้คนในวงการเพลงดู แล้วพูดว่าภรรยาของคุณสแตมป์ไปคุกคามพวกเขาโดยไม่มีสาเหตุ (เป็นที่มาของโพสต์ ที่บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้บ้า)
– ทำให้คุณสแตมป์ต้องไปจ้างการ์ด 2 คน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก
– หลังจากนั้นแฟนของจำเลยก็ลาออกจากวงดนตรีที่ทำงานอยู่แล้วก็ย้ายไปทำงานกับอีกวงนึง คุณสแตมป์ก็เลยติดต่อไปหาวงดนตรีที่รับว่าถ้ารับเข้าทำงาน ก็ขอไม่ร่วมงานด้วย เพราะไม่อยากมีปัญหา (เป็นที่มาของโพสต์ ที่บอกว่าวงดนตรีรับ…เข้ามาทำงาน)
– ก็ปรากฏว่าหลังจากย้ายไปทำงานที่วงใหม่ ก็มีประเด็นเกิดขึ้นอีก มาดักรอถ่ายคลิป แล้วก็เอาไปบอกเล่ากับคนอื่นว่าบังเอิญมาเจอแล้วภรรยาของคุณสแตมป์ไปคุกคามโดยไม่มีเหตุผล
– แต่จากเรื่องราวนี้ก็ยังไม่ติดใจเอาความ เพราะไม่อยากมีปัญหา
– จนกระทั่งคุณสแตมป์ไปเจอว่าคู่กรณีไปดักเจอกับผู้บริหารค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ณ ตอนนี้ (ทั้งคู่ไม่รู้จักกันนะ) พอได้เจอกันคู่กรณีก็ร้องไห้ และเล่าว่าโดนภรรยาของคุณสแตมป์คุกคามที่งานเฟสติวัลต่าง ๆ จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย
– แต่ฝ่ายผู้บริหารก็รู้สึกว่ามันไม่เมคเซนส์ ก็เลยโทรมาหาคุณสแตมป์เพื่อฟังเรื่องราวอีกด้าน ก็เข้าใจและยอมไปขึ้นศาลเพื่อเป็นพยานให้ด้วย
– คุณสแตมป์รู้สึกว่ามันหนักเกินไปแล้ว เพราะเริ่มมีคนเชื่อจริงว่าภรรยาของคุณสแตมป์เป็นคนไปคุกคามคู่กรณีก่อน ก็เลยตัดสินใจฟ้องศาล
– เรื่องก็ขึ้นศาลเมื่อปี 2567 แต่แทนที่จะจบ ดันกลายเป็นว่าหนักกว่าเดิม ทีนี้ลามมายันคุณแม่ของคุณสแตมป์ด้วย
– เพราะพ่อของจำเลยท่านหนึ่ง “เป็นทหารยศพลตรี” จากพิษณุโลก มาขึ้นศาลแทนลูก แล้วแบกเอกสารมาปึกใหญ่ ในเอกสารนั้นเต็มไปด้วยเรื่องของยศ ผลงานต่าง ๆ แล้วก็บอกด้วยว่าตัวเองกำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ แล้วก็ขอให้ภรรยาและคุณสแตมป์ถอนฟ้องลูกของตัวเองซะ ไม่งั้นจะยัดคดีทางการเมืองให้
– นอกจากนี้ยังมีเรื่องนอกศาลอีกเพียบ เช่น นายพลท่านดังกล่าวขับรถไปที่บ้านแม่ของคุณสแตมป์ บอกว่าเป็นแฟนคลับของคุณสแตมป์ ถามว่าบ้านของคุณแม่ราคาเท่าไหร่ เอาของไปให้ แล้วก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้
– ภรรยาของนายพลแฝงตัวเข้าไปในกรุ๊ป Open Chat ของแฟนคลับ เพื่อสืบว่าไปเล่นคอนฯ ที่ไหน แล้วก็แฝงตัวเข้าไปดูคอนเสิร์ต เหมือนพยายามแสดงตัวให้เห็นว่าจับตาดูอยู่ตลอด จนคุณสแตมป์ตัดสินใจปิด Open Chat ไปเลย
– คุณสแตมป์เล่าอีกว่า จำเลยคนนี้ติดตามคุกคามมาเป็นสิบปี ไม่ได้แค่ตามมาแค่ที่คอนเสิร์ต แต่ตามไปถึงหน้าโรงแรม ปั๊มน้ำมันที่แวะ หนักสุดคือไปนั่งบนเครื่องบินที่นั่งข้าง ๆ กันเลย โดยการให้เพื่อนที่ทำงานสายการบินล็อกที่นั่งให้
– จากสาเหตุดังกล่าวทำให้คุณสแตมป์ตัดสินใจไม่รับงานคอนเสิร์ตในภาคเหนือ อีสาน และภายใต้ เพราะไม่อยากนั่งเครื่องบินแล้วเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีก
– นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่มีคนมาร่วมคอนเสิร์ต ชูโทรศัพท์ขึ้นมาให้ดูหน้าเวที แล้วก็เป็นรูปของจำเลย แถมยังมีเรื่องที่ภรรยาของคุณสแตมป์โดนแฮ็กไอจี พอตรวจสอบดูพบว่าถูกเอาไปบล็อกคนที่เกี่ยวข้องกับจำเลย
– คุณสแตมป์ก็เลยตัดสินใจหยุดรับงานคอนเสิร์ตทั้งหมด จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น เพื่อรอคำสั่งคุ้มครองจากศาลหากชนะคดี
– แล้วก็ปรากฏว่าเมื่อปีที่แล้วก็ชนะคดีจริง ๆ โดยที่ฝ่ายจำเลยเป็นคนสารภาพเอง เพราะยอมจำนนต่อหลักฐานในชั้นศาล มีการยกมือไหว้ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา และรับปากว่าจะไม่ยุ่งกับภรรยาของคุณสแตมป์อีก
– แต่สุดท้ายแล้วคู่กรณีก็ยังไม่เลิก ทำพฤติกรรมเหมือนเดิม โพสต์ด่า คุกคามไม่หยุด เพิ่มเติมคือคำขู่จากท่านนายพล
– คุณสแตมป์ก็เลยบอกบนเวทีว่า ไม่อยากให้มายุ่งแล้ว ช่วยทำตามคำสั่งศาลด้วย ไม่เช่นนั้นจะเอาเรื่องอย่างเด็ดขาด และเอาข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผย ทั้งชื่อวงดนตรีที่จำเลยทำงานอยู่ รวมไปถึงชื่อนายพลด้วย
รับชมคลิปได้ที่นี่ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=klB4BLFuQl4
#เหมียวหง่าว