วันนี้เป็นวันครบรอบ 90 ปี ‘อภิวัฒน์สยาม’ หรือก็คือการเปลี่ยนแปลงปกครองในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2475
ก็ทำให้วันนี้ (25 มิถุนายน 2565) พรรคไทยภักดี ได้จัดกิจกรรมแถลงจุดยืนของพรรคในหัวข้อ “๙๐ ปีประชาธิปไตยไทย: กระดุมเม็ดแรกที่กลัดผิด” ขึ้นมา
ซึ่งในการแถลง ก็เนื้อหาคร่าวๆ ว่า การปฏิวัติสยาม 2475 เป็นการแย่งอำนาจมาจากกษัตริย์ แล้วมาสร้างเป็นระบอบคณาธิปไตย (Oligarchy)
ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหมือนอย่างที่บอกเอาไว้ เป็นการที่คณะบุคคลขึ้นมาหมุนเวียนกันขึ้นมาครองอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการทหาร หรือนักการเมืองทุนสามานย์เผด็จการรัฐสภา
“การเป็นเพียงสมบัติผลัดกันชม ทำให้ประชาธิปไตยของไทยไร้การพัฒนา เนื่องจากมีจุดเริ่มต้น ที่กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และยังคงผิดมาจนถึงปัจจุบัน” แถลงของไทยภักดีระบุ
ทางไทยภักดีจึงขอประกาศจุดยืนว่า คำตอบของการปกครองที่ไทยต้องการคือ ‘ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ’ ด้วย 3 เหตุผลที่ระบุเอาไว้ดังนี้
1. เพราะราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นการทรงใช้พระราชอำนาจอธิปไตย ผ่านสามสถาบันหลักของประเทศคือ นิติบัญญัติ ตุลาการ และบริหาร ซึ่งเป็นไปตามหลัก The king can do no wrong. โปรดเกล้าในการให้มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในการบริหารราชการแผ่นดิน
ในขณะที่ราชประชาสมาสัย อันหมายถึงการอาศัยกันอย่างเท่าเทียม ระหว่างพระราชากับประชาชนจะช่วยให้ประชาชน ได้มีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดิน ร่วมกันอย่างเท่าเทียม เคียงบ่าเคียงไหล่ ในการพัฒนาชาติบ้านเมือง อันเป็นปัจจัยป้องกัน ไม่ใช่คณะบุคคลใดๆ ลุแก่อำนาจ โดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริง ของประชาชน
2. ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย จะเป็นศูนย์รวมดวงใจ ของคนไทยทั้งชาติ ป้องกันความแตกแยกทางความคิดที่อาจจะเกิดจากคณะบุคคลหลายฝ่าย ยุยงให้แผ่นดินแตกแยก ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน
การมีสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมดวงใจและศรัทธา จะช่วยคลี่คลายความแตกแยก ทางความคิดเห็น ทางการเมือง ให้สามารถหลอมรวมประสานเป็นหนึ่งเดียวได้ ภายใต้ศูนย์รวมดวงใจและศรัทธา ที่เป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติ ดังที่เคยเป็นมาแล้วในอดีต
3. ราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และราชประชาสมาสัย สามารถให้เกิดการใช้พระราชอำนาจพิเศษหรือ Royal Prerogative ซึ่งเป็นสิ่งที่มีตามปกติอยู่แล้ว อันได้แก่พระราชอำนาจในการให้กำลังใจ พระราชอำนาจในการตักเตือน พระราชอำนาจในการยับยั้งรัฐบาล
โดยที่รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี ต้องเข้าประชุมถวายรายงาน การบริหารราชการแผ่นดิน อย่างเป็นทางการ ให้พระมหากษัตริย์ทรงรับทราบเป็นประจำ ดังเช่น อังกฤษ นอรเวย์ หรือ สวีเดน
เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงใช้ Royal Prerogative ในการให้กำลังใจ ตักเตือน และยับยั้งการบริหารราชการแผ่นดินที่ดี ที่อาจจะพลาดพลัง หรือที่ยังไม่สมควร มิให้เกิดผลร้ายต่อบ้านเมืองและประชาชน
ที่มา :