กลายเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในตอนนี้ เมื่อ Sound Engineering (วิศวกรเสียง) ท่านหนึ่ง ออกมาโพสต์ว่า
“มันน่าจะหมดยุคแล้วนะครับ กับการเล่นแล้วเปิดเนื้อดู บางคนเล่นไปกดไอแพดไป หรือกดโทรศัพท์ไป”
โดยข้อความเต็มระบุว่า
“ในความรู้สึกผมนะครับ ไม่ได้ด่าหรือว่าใคร จะโกรธหรือเกลียดก็แล้วแต่เค้า ลองมานั่งดูเหมือนที่ผมเห็นแล้วจะรู้สึกด้วยตัวเอง 5555
มุมมองของผมทำไม มือกลอง จำเพลง จำส่วนได้
ทำไมมือเบส จำครอส ได้
ทำไมมือกีต้า จำท่อน Solo ได้
ทำไมนักร้องจำเนื้อเพลงไม่ได้
ผมว่า มันน่าจะหมดยุค แล้วนะครับกับการเล่นแล้วเปิดเนื้อดู บางคนเล่นไปกดไอแพดไปหรือกดโทรสับไป
ถ้ามองจากมุมมอง ผู้บริโภค เหมือนซื้ออาหาร ผมมองว่าร้านนี้แมลงวันเยอะ ต้องคอยเอามือปัดตลอดเวลา ผมไม่ซื้อ
ถ้าไม่ฝึกซ้อมก็นอนอยู่บ้าน ออกมาขายของแต่ขายของแบบนี้อย่าขายเลยอายคนซื้อครับ”
ประเด็นที่ผู้โพสต์ต้องการสื่อคือ ทำไมนักร้องถึงจำเนื้อเพลงไม่ได้ จนต้องเปิดไอแพดหรือมือขณะร้องเพลง ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆ สามารถจำในส่วนของตัวเองได้ รวมไปถึงจำเพลงได้ด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นมุมมองหนึ่งของเจ้าของโพสต์ แต่ทว่าเมื่อชาวเน็ตเข้ามาอ่าน ก็รู้สึกไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นดราม่าขึ้นมา
หลายคนบอกว่า ที่นักร้องดูเนื้อเพลงก็เพราะจำไม่ได้ ซึ่งการดูเนื้อเพื่อที่จะร้องได้อย่างแม่นยำนั้น ดีกว่าไม่ดูเนื้อร้องแล้วร้องแบบผิดๆ ถูกๆ โชว์คนดู
.
.
.
.
.
.
‘นักร้องบางคนไม่ได้ร้องเพลงตัวเอง วันหนึ่งต้องร้องหลายเพลงด้วย ทำให้จำเนื้อได้ไม่หมด เลยจำเป็นต้องดูเนื้อร้อง’
‘นักร้องอาชีพบางคนยังลืมเนื้อร้องเพลงตัวเองเลย’
‘บางทีซ้อมมาดีแล้ว แต่คนฟังดันขอเพลงที่ไม่ได้ซ้อมมา เลยจำเป็นต้องดูเนื้อ’
ซึ่งคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ มีทั้งชาวเน็ตทั่วไปและคนที่เป็นนักร้อง
อย่างไรก็ตาม บางคนเห็นด้วยกับเจ้าของโพสต์ โดยบอกว่าเป็นการบรรยายความรู้สึกในฐานะคนฟัง
ในขณะที่ชาวเน็ตอีกกลุ่มบอกว่า ควรหาจุดให้พอดี คือดูเนื้อได้แต่ไม่ควรดูจนเคยตัว และในฐานะนักร้องก็ต้องสนใจการจำเนื้อเพลงด้วย
เรียบเรียงโดย #เหมียวขี้ส่อง