จากกรณี สิบตำรวจหญิงทำร้ายร่างกายทหารรับใช้จนได้รับบาดเจ็บหนัก จนมีการตั้งคำถามในหลายประเด็นและหนึ่งในนั้นคือ การมีชื่อช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
ล่าสุดวันนี้ (1 ก.ย. 65) ทางโฆษก กอ.รมน. ได้ออกแถลงข่าวถึงประเด็นนี้แล้ว หลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ตามข่าวบอกว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ มาช่วยรายการที่กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าจริง อยู่สังกัดสำนักอำนวยการข่าวกรอง โดยเจ้าตัวทำเรื่องมาขอช่วยรายการ
ซึ่งทางกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมจึงได้บรรจุไปตามขั้นตอนงานด้านกำลังพล ภายใต้ระเบียบข้อปฏิบัติของทางราชการ
ทั้งนี้ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้รับมอบหมายภารกิจทางด้านงานข่าว เป็นผู้ประสานการปฏิบัติด้านธุรการในระดับเจ้าหน้าที่ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้แทนหน่วยในการปฏิบัติงานนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกี่ยวกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
หลังจากมีกระแสข่าวและทาง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญา ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้ออกคำสั่งให้พ้นจากหน้าที่เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา และส่งตัวกลับต้นสังกัด
ล่าสุดหลังจากมีการสอบสวน เมื่อ 27 ส.ค.65 ทางคณะกรรมการเห็นว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามความสามารถ ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จึงสั่งยกเลิกการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64 – 31 ก.ค.65 และเรียกคืนเงินค่าตอบแทนที่เบิกจ่ายไปแล้ว
ทั้งนี้ในเรื่องของ “สวัสดิการสิทธิประโยชน์” ข้าราชการที่มาบรรจุในอัตราช่วยราชการที่ กอ.รมน. จะได้รับการนับวันรับราชการเป็นแบบวันทวีคูณ
ส่วนข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นในเรื่องของ เบี้ยเลี้ยงสนาม , ค่าเสี่ยงภัย และอาจได้รับเงินเพิ่มพิเศษเพื่อการสู้รบ (พสร.)
กรณีถ้าอยู่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน และมีการลาพักออกนอกพื้นที่ไม่เกิน 15 วัน โดยจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรองตรวจสอบก่อนถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในส่วนนี้
เรียบเรียงโดย #เหมียวเวจจี้