นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2021 นักปีนเขาหญิงชาวสเปนชื่อ Beatriz Flamini ได้ลงไปอาศัยอยู่ในถ้ำทางตอนใต้ของประเทศเพียงคนเดียว
ในฐานะอาสาสมัครของการทดลองสุดแปลก ที่จะศึกษาสถาพจิตใจของคนที่ต้องอยู่ในถ้าตามลำพังเป็นเวลานาน
และแล้วเมื่อล่าสุดนี้เองหลังจากเวลาผ่านไปกว่า 500 วัน ในที่สุด Flamini ก็สามารถกลับออกมาจากถ้ำดังกล่าวแล้ว แถมเธอยังบอกว่าตัวเองมีความสุขกับเวลาในถ้ำจน “ไม่อยากออกมา” เลยด้วย
นี่นับว่าเป็นผลการทดลองที่น่าสนใจมาก เพราะแม้นักวิทยาศาสตร์จะมีการส่งอาหารและสิ่งฆ่าเวลา (เช่นหนังสือ) ให้เธออยู่เรื่อยๆ ก็ตาม พวกเขาก็คาดว่าคนปกติน่าจะรู้สึกหวาดกลัวหรือสิ้นหวังกลับสถานการณ์เช่นนี้
แต่กลับกัน Flamini กลับดูจะมีสภาพจิตใจดีกว่าที่คิดมาก จะมีเรื่องผิดปกติก็แค่เธอประเมินว่าตัวเองอยู่ในถ้ำแค่ 170 วันเท่านั้น และลืมวันลืมคืนไปหมดตั้งแต่ 2 เดือนแรกก็เท่านั้น
แน่นอนว่าการที่เธอไม่มีปัญหาเรื่องอาหารอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอสามารถมีชีวิตในถ้ำได้ดีขนาดนี้ แต่การทดลองของเธอก็ยังให้ข้อมูลที่น่าสนใจ หลายอย่างกับนักวิทยาศาสตร์อยู่ดี
ดังนั้นในปัจจุบัน Flamini จึงกำลังวุ่นอยู่กับการตรวจร่างกายเธอเพื่อศึกษาผลกระทบของประสบการณ์ต่อสุขภาพโดยเฉพาะการรับรู้เวลาของเธออยู่
และอีกไม่นานเราก็คงจะมีรายงานการวิจัยที่น่าสนใจออกมาให้อ่านกันจากเรื่องนี้ในอนาคตอันใกล้เป็นแน่
ที่มา
www.reuters.com/lifestyle/spanish-extreme-athlete-emerges-into-daylight-after-500-days-living-cave-2023-04-14/
apnews.com/article/spain-cave-500-days-record-isolation-e1d7e782425096df075d79093ca91eac
futurism.com/the-byte/woman-500-days-cave