ศาลฎีกา พิพากษายืนโทษประหารชีวิต “อดีต ผอ.กอล์ฟ” ในคดีฆ่าชิงทองในห้างแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรีเมื่อปี 2563
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2564 ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลย สถานเดียว ปรับเงิน 1,000 บาท ริบของกลาง รวมทั้งให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บรรดาโจทก์
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยเห็นว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะสมควรใช้ดุลยพินิจลดโทษให้แก่จำเลย ที่ศาลชั้นต้นให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยโดยไม่ลดโทษให้ ย่อมเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว
ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาขอให้ศาลลดโทษ โดยวันนี้ (26 เม.ย.) ศาลเบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำ ซึ่งก่อนที่ศาลจะอ่านพิพากษา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จำเลยฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงขอให้ลดโทษ โดยอ้างเหตุผลประกอบ
ศาลเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยกระทำอย่างอุกอาจ ในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์มีคนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บสาหัส 1 คน รวมถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย
อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึง ผอ.โรงเรียน ควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่าง กลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์
ที่จำเลยขอปรานีให้ลดโทษจึงไม่มีเหตุสมควร ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
เรียบเรียงโดย #เหมียวมาร์ชเมลโล่
ที่มา: Thai PBS News, komchadluek, mgronline