วัฒนธรรมการทำงานล่วงเวลายังคงมีอยู่ในหลายๆ ประเทศ และการทำงานหนักก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจของพนักงานจนเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าเหมือนกับกรณีนี้…
ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แพทย์หนุ่มวัย 26 ปีนามว่า ทาคาชิมะ ชินโกะ เสียชีวิตลงจากการฆ่าตัวตายเพราะเขาทำงานหนักจนรู้สึกแบกรับไม่ไหวทั้งร่างกายและจิตใจ
ชินโกะเคยทำงานเป็นคุณหมอแห่งหนึ่งในเมืองโคเบะค่ะ จากคำบอกเล่าของทนายความฝั่งครอบครัวเผยว่า ชินโกะต้องทำงานล่วงเวลาไปมากถึง 207 ชั่วโมงภายในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน
และ 3 เดือนก่อนหน้าที่เขาจะเสียชีวิตเขาไม่เคยได้ใช้วันหยุดเลยสักครั้ง
ในเดือนมิถุนายนทางกรมแรงงานได้ออกมาตัดสินว่าการเสียชีวิตของชินโกะเกี่ยวข้องกับการทำงานหนักเกินเวลาจริงๆ
คุณแม่ของชินโกะอย่าง ทาคาชิมะ จุนโกะ ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับการเสียชีวิตของลูกชายตัวเอง เธอเล่าว่าก่อนลูกชายจะเสียชีวิตเขาบอกกับเธอว่า “มันยากเกินไป” และ “ไม่มีใครช่วยเขาได้”
จุนโกะชูรูปของลูกชายพร้อมกล่าวกับสื่อว่า
“‘ไม่มีใครช่วยผมไ’ด้ เขาพร่ำบอกกับฉันแบบนั้น ฉันคิดว่าเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่ผลักเขาให้มาอยู่ในจุดนั้น
ตอนนี้ลูกชายของฉันไม่ได้เป็นคุณหมอที่ใจดีและไม่สามารถช่วยคนไข้และสังคมได้อีกต่อไป ถึงอย่างนั้นฉันก็หวังจากใจจริงว่าสภาพแวดล้อมการทำงานของหมอจะดีขึ้นเพื่อให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต”
พี่ชายของชินโกะยังเผยอีกว่า หลายคนอาจจะมองว่าตัวเลขที่น้องชายทำโอที 200 ชั่วโมงมันดูไม่น่าเชื่อ แต่มันไม่ได้สำคัญ ที่สำคัญคือเขาเชื่อว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้มีแนวทางในการจัดสรรเวลาทำงานที่ดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้านโรงพยาบาลออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
โดยโฆษกของโรงพยาบาลให้เหตุผลถึงเวลาทำงานของแพทย์ที่ค่อนข้างอิสระ เพราะแบบนี้บางคนจึงไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ และมีแพทย์หลายๆ คนที่เอาเวลาของตัวเอง รวมถึงเวลานอนไปศึกษาเคสต์ต่างๆ ของคนไข้
ทาง CNN ติดต่อทางโรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง และทางโรงพยาบาลยังคงไม่ยอมรับว่าการเสียชีวิตนี้เกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลา
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ