นับว่าเป็นคดีที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งในไต้หวัน หลังจากที่พ่อคนหนึ่ง ต้องสูญเสียลูกสาวไปจากการถูกข่มขืนและถูกอัดคลิปเอาไว้ จนกระทั่งเธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงไปในที่สุด
สื่อไต้หวันรายงานเกี่ยวกับคดีของนายหลิน โดยเล่าถึงสาเหตุเบื้องหลังในการก่อคดีในครั้งนี้ว่า ลูกสาวของเขามีอาการซึมเศร้า หลังจากถูกนายหวังข่มขืนและถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ และตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง
ผู้เป็นพ่อจึงออกตามล้างแค้นให้กับลูกสาวของตัวเอง พร้อมกับพรรคพวกอีก 3 คน ออกตามล่าตัวนายหวังจับมาขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์เป็นเวลา 7 วันเต็มๆ
โดยในตลอด 7 วันนี้ นายหลินและพรรคพวกได้ร่วมกันซ้อมและทรมานนายหวัง ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระบองไฟฟ้า การทุบตีทำร้ายร่างกายจนนายหวังบาดเจ็บสาหัส จนนายหวังสิ้นใจในท้ายที่สุดที่โรงพยาบาล
จากการสอบสวนพนักงานอัยการระบุว่า นายหลินเชื่อว่าลูกสาวของเขาถูกวางยาและข่มขืน มีการถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อเรียกผลประโยชน์ในภายหลัง เป็นเหตุทำให้ลูกสาวเป็นโรคซึมเศร้าจนกระทั่งจบชีวิตตัวเองลงในปี 2017
แต่ว่านายหลินไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดนายหวังได้ เขาจึงร่วมมือกับเพื่อนจับตัวนายหวังมาบังคับให้สารภาพ และให้บอกว่าคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้นั้นเก็บไว้ที่ไหน
พร้อมกับให้นายหวังเขียนจดหมายขอโทษ บอกชื่อคนที่สมรู้ร่วมคิดในการข่มขืนทั้งหมด ให้คุกเข่าขอโทษต่อหน้าครอบครัวนายหลิน จนกระทั่งปล่อยตัวนายหวังออกไป
แต่นายหวังกลับไม่ยอมส่งหลักฐานคลิปดังกล่าวที่ว่าให้ แถมยังโยนความผิดให้กับคนอื่นแทน นายหลินจึงตามจับตัวนายหวังกลับมาอีกครั้ง และทำการซ้อมและทรมานอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์เป็นเวลา 7 วัน และครั้งนี้นายหวังก็เสียชีวิตในที่สุด
ในท้ายที่สุดแล้วคดีนี้ศาลได้ตัดสินให้นายหลิน ต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดงานศพ และจ่ายเงินชดเชยให้กับพ่อแม่ของนายหวัง เป็นเงินจำนวน 3,900,000 บาท และต้องจำคุกอีก 12 ปี ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่น
ส่วนเพื่อนๆ ที่ร่วมลงมือก็ถูกตัดสินจำคุกต่างกันตั้งแต่ 8 ปี ถึง 10 ปี แต่คดีนี้ก็ยังสามารถขอยื่นอุทธรณ์ได้