ถือเป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในขณะนี้ เมื่อผู้พิพากษาในบราซิลตัดสินไม่อนุญาตให้เด็กหญิงวัย 11 ปีทำแท้ง หลังเธอตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน
สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เหยื่อวัย 11 ขวบคนนี้ถูกข่มขืนในบ้านของเธอเองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนที่คุณแม่จะทราบว่าเธอตั้งครรภ์ และพาเด็กหญิงไปโรงพยาบาลที่อยู่ในรัฐซันตากาตารีนาเพื่อทำแท้ง
อย่างไรก็ตามคุณหมอปฏิเสธการทำแท้งในครั้งนี้ เนื่องจากในตอนนั้นเด็กหญิงตั้งครรภ์ได้ 22 สัปดาห์ 2 วัน (ประมาณ 5 เดือน 2 สัปดาห์)
ซึ่งกฎหมายในบราซิลอนุญาตให้หญิงสาวอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์ (5 เดือน) สามารถทำแท้งได้จากกรณีที่ถูกข่มขืน หรือเกิดภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์
ด้วยเหตุนี้ทางโรงพยาบาลจึงต้องการคำสั่งศาลให้ยุติการตั้งครรภ์ของเด็กหญิง แต่สุดท้ายผู้พิพากษากลับตัดสินไม่อนุญาตให้เด็กหญิงคนนี้ทำแท้ง และส่งเธอไปยังศูนย์พักพิง
โดยระบุเอาไว้ว่า “มีความเสี่ยงที่เด็กหญิงจะดำเนินตามขั้นตอนที่ทำให้เด็กทารกเสียชีวิต”
เนื่องจากแม่ของเด็กหญิงเคยกล่าวว่า หากลูกสาวไม่ถูกพาไปศูนย์พักพิง เธอคงพาไปทำแท้งด้วยตัวเอง ซึ่งผู้พิพากษามองว่าอาจทำให้เด็กหญิงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเด็กทารกในภายหลัง
นอกจากนี้ในรายงานยังระบุอีกว่า จะมีการพิจารณามอบเด็กที่เกิดมาให้กับครอบครัวที่ต้องการรับบุตรบุญธรรม ซึ่งมีมากกว่า 30,000 ครอบครัวในบราซิล
อีกทั้งยังมีการไต่สวนว่าเด็กหญิง “ต้องการเลือกตั้งชื่อของลูกหรือไม่” และชายที่กระทำความผิดจะยอมรับเด็กทารกเป็นลูกหรือเปล่า
การพิพากษาในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนมากมาย หลายคนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและปฏิรูปกฎหมายการทำแท้งเพื่อเด็กหญิงที่น่าสงสาร รวมถึงเหยื่อหลายๆ คนที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์นี้
เสียงเรียกร้องของประชาชนทำให้ตอนนี้ศาลยุติธรรมซันตากาตารีนากำลังพิจารณาคำติดสินดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: nypost, newsweek, thesun
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv