มันมีคำพูดมาตั้งแต่สมัยก่อนว่า “อารมณ์ขัน” ถือเป็นยารักษาโรคที่ดี แต่ทราบกันหรือไม่ว่าการเล่นมุกตลกที่ไม่ฮานั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบในแง่ลบมากๆ ได้เช่นกัน
นั่นเพราะจากการวิจัยหลายชิ้นในอดีต มุกตลกที่ไม่ฮาอาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่อทั้งสภาพจิตใจ และภาพลักษณ์ทางสังคมของคนเล่นมุกได้เลย
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบความจริงข้อนี้ ภายในการทดลองที่ต่างกันอย่างน้อยๆ 2 ครั้ง
โดยในการทดลองเมื่อปี 2009 พวกเขาให้อาสาสมัคร 186 คนฟัง “มุกห่วยๆ” จากคนแปลกหน้า เพื่อนฝูง หรือครอบครัว และพบว่าคนส่วนใหญ่นั้น มักจะไม่ลังเลที่จะแสดงความไม่พอใจต่อมุกง่อยๆ เลย
พวกเขาอาจตอบโต้มุกตั้งกล่าวด้วยถ้อยคำไม่สุภาพหรืออาจถึงขั้นแต่อาการรังเกียจ หรือหยาบคายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้เล่ามุกไม่ตลกเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัว
การซ้ำเติมนี้เอง เป็นสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเล่นมุกที่ไม่ฮาอาจผลกระทบด้านลบต่อทั้งสภาพจิตใจของคนเล่นมุกได้ และบ่อยครั้งมันก็อาจจะส่งผลต่อความสัมพันธ์เลยด้วย
เท่านั้น ยังไม่พอในปี 2016 นักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่าการเล่นมุกที่ไม่ตลกบางอย่างยังอาจทำให้ภาพลักษณ์ของคนเล่นมุกดูแย่ลงในสายตาคนรอบข้างด้วย
โดยมุกเหล่านี้ส่วนมากแล้วมักจะเกี่ยวข้องกับการเหยียดเพศหรือเหยียดเชื้อชาติ เช่น ทำไมนาซ่ายังไม่ส่งผู้หญิงไปดวงจันทร์? …เพราะที่นั่นยังไม่ต้องทำความสะอาดไง
ปัญหาสำคัญของมุกเช่นนี้คือ โดยมากแล้วผู้เล่นมุกจะไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามุกของตัวเองไม่เหมาะสม ภายใต้ข้ออ้างว่า “มันก็เป็นแค่มุก”
แต่ในทางกลับกันผู้ฟังหลายๆ คนจะมองว่าผู้เล่นมุกทำตัวเหยียดหรือไม่เหมาะสมอยู่ดี ต่อให้มันเป็นแค่มุกก็ตาม
ดังนั้น คงต้องบอกคำพูดในอดีตที่ว่า “มุกไม่ฮาพาเพื่อนเครียด” นั้น มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
ที่มา
theconversation.com/psychology-behind-the-unfunny-consequences-of-jokes-that-denigrate-63855
www.livescience.com/7665-study-telling-bad-jokes-bad-idea.html