หนึ่งในความฝันอันยิ่งใหญ่ของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นการ “ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง” อย่างแน่นอน
แต่ในบางครั้งการถูกรางวัลต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบและการบริหารจัดการเงินอันใหญ่ยิ่งไม่แพ้กัน ไม่เช่นนั้นเรื่องราวอาจจบลงเหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นได้…
Michael Carroll กลายเป็นชายหนุ่มที่โด่งดังและโชคดีภายในเวลาชั่วข้ามวัน
หลังจากที่ในเดือนพฤศจิกายน 2002 เขาตัดสินใจลองซื้อลอตเตอรี่ครั้งแรกในชีวิตในราคาแค่เพียง 1 ปอนด์ ก่อนที่จะถูกรางวัลเป็นเงินกว่า 9.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 426 ล้านบาท)
ในตอนนั้นชายหนุ่มผู้โชคดีอายุแค่เพียง 19 ปี เขายังไม่มีแม้แต่บัญชีธนาคารเอาไว้ฝากเงินรางวัลเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ
นั่นจึงทำให้เขาเริ่มใช้เงินอย่างไม่บันยะบันยัง ก่อนจะได้รับฉายาจากสำนักข่าวแท็บลอยด์ว่า “Lotto lout” หรือคนโง่ที่ถูกลอตเตอรี่ไปโดยปริยาย
ทำไม Michael ถึงได้รับฉายานั้นล่ะ? เราลองไปอ่านเรื่องราวของเขากันเลยว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไรหลังจากที่ได้รับเงินมามากมายขนาดนี้
เริ่มแรก Michael มอบเงินรางวัลให้แม่ ป้า พี่สาวและเพื่อนของเขาคนละ 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 43 ล้านบาท)
จากนั้นเขาก็นำเงิน 3.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 171 ล้านบาท) ไปลงทุนกับพันธบัตร และเอาอีก 1 ล้านปอนด์ไปลงทุนกับสโมสรฟุตบอลเรนเจอรส์ที่เขาชื่นชอบ
Michael นำเงินอีก 150,000 ปอนด์ (ประมาณ 6.5 ล้านบาท) ไปซื้อทอง และอีก 325,000 ปอนด์ (ประมาณ 14 ล้านบาท) ไปซื้อแมนชั่นส่วนตัว
แน่นอนว่าวิถีของคนมีเงินต้องไม่ธรรมดา เพราะเขาถอยรถยนต์ตัวท็อปมาอีกหลายรุ่น แต่ละรุ่นราคาสูงนับแสน
นอกจากนี้ Michael ยังนำเงินกว่าครึ่งล้านมาใช้ในวันหยุด แถมยังหมดเงิน 2,000 ปอนด์ (ประมาณ 87,000 บาท) ไปกับโคเคนในแต่ละวัน
บวกกับค่าโสเภณีเข้าไปอีกวันละ 1,000 ปอนด์ (ประมาณ 43,000 บาท) เรียกได้ว่าชีวิตสุขีเสียจริงๆ
Michael ใช้ชีวิตแบบนั้นได้ไม่นานก็เริ่มถึงจุดพลิกผัน
ย้อนกลับไปในปี 2003 เศรษฐีหนุ่มหน้าใหม่คนนี้เข้าพิธีวิวาห์กับหญิงสาวนามว่า Sandra Aiken มีลูกน้อยด้วยกัน 1 คน และเขายังมอบเงินให้เธอ 1.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 61 ล้านบาท)
แต่ไม่กี่ปีต่อมาก็แยกทางกันด้วยเหตุผลที่ว่า เธอทนไลฟ์สไตล์ที่ติดยา ติดเหล้า และติดปาร์ตี้ของเขาไม่ไหว และเขายังนอกใจไปคั่วกับโสเภณีอีกด้วย
หลังจากที่ภรรยาจากไป Michael ก็เปลี่ยนแมนชั่นของตัวเองเป็นดั่งซ่อง เขาจัดเซ็กส์ปาร์ตี้ขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน และกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล
ชีวิตของเศรษฐีหนุ่มเริ่มดิ่งลงเรื่อยๆ เขาทำตัวคึกคะนองหนักจนปรากฏตัวต่อหน้าศาลมากกว่า 30 ครั้ง โดนจำคุกมาแล้ว 3 ครั้ง
เงินที่ได้มาเริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ จนในปี 2010 เขาต้องกลับไปสมัครเป็นพนักงานเก็บขยะอีกครั้ง ต้องขายแมนชั่นสุดหรูและทรัพย์สินมากมายทิ้งไป
ในปี 2012 เงินของ Michael หมดเกลี้ยง เขาถูกจัดให้กลายเป็นบุคคลว่างงานนานกว่า 6 เดือน และกลายเป็นคนไร้บ้านในที่สุด
ในปี 2013 อดีตเศรษฐีย้ายไปอยู่สกอตแลนด์ เขาเร่ร่อนอยู่เป็นพักและได้ทำงานในโรงงานบิสกิตและโรงฆ่าสัตว์นานกว่า 5 ปี ก่อนที่ในตอนนี้ได้มาทำอาชีพเป็นคนเก็บถ่านหิน
Michael เช่าบ้านในราคาเดือนละ 500 ปอนด์ (ประมาณ 21,000 บาท) ต้องทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์
ชีวิตของเขาเหมือนจะลำบากนะ แต่เอาจริงๆ Michael ไม่รู้สึกเสียใจเลยที่เขาผลาญเงิน 9.7 ล้านปอนด์หมดภายในเวลาไม่กี่ปี เพราะที่ผ่านมาเขาสนุกและเต็มที่กับชีวิตช่วงนั้นมาก
Michael เผยในบทสัมภาษณ์ว่า
“ผมไม่มองย้อนกลับไปด้วยความเสียใจแน่นอน มันเป็น 10 ปีที่สนุกมากครับ คุณไม่ได้เลือกผิดหรอก ผมไม่ต้องการย้อนเวลากลับคืนมา แต่ผมใช้ชีวิตอย่างดีแล้ว มีชีวืตที่อิสระ และผมมีความสุขมากขึ้นเพราะผมได้ชีวิตเดิมกลับคืนมา”
ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วได้มีข่าวเผยว่า Sandra อดีตภรรยาให้อภัย และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับ Michael แล้วค่ะ เรียกได้ว่าชีวิตช่วงนี้ของเขามันดีขึ้นจริงๆ แหละ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: ladbible, thesun, mirror
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv