จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายคนทั่วโลกต้องถูกเลิกจ้าง เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ ที่ปัจจุบันเธอไม่มีงานทำมานานกว่า 8 เดือนแล้ว จนเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเกิดปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา…
สำนักข่าวในไต้หวัน ได้แชร์เรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เมื่อสามีคนหนึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ พร้อมกับความคิดเห็นว่า “ที่ภรรยาทำแบบนี้มันเหมาะสมแล้วหรือไม่?”
เขาเล่าว่า ภรรยาเคยทำงานอยู่ในบาร์ร้านอาหาร มีรายได้ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ต่อเดือน (ประมาณ 36,000 บาท) โดยปกติจะเก็บไว้ใช้ส่วนตัวแค่ 10,000 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 12,000 บาท) ที่เหลือไว้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
จนกระทั่งสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ภรรยาต้องกลายเป็นคนตกงานมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ปัจจุบันเธอไม่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าครองชีพในการใช้ชีวิต และเธอก็บอกเขาว่าอยากจะมีเงินใช้สักเดือนละ 5,000 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 6,000 บาท)
เพราะอย่างนั้น จู่ๆ เธอก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า “ถ้าสามีอยากจะมีเซ็กส์กับเธอ ก็ต้องจ่ายให้เธอครั้งละ 500 ดอลลาร์ฯ” หรือราว 600 บาท..?!
.
จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้ฝั่งสามีออกมาตั้งคำถามบนโลกออนไลน์ว่า “การเอาร่างกายมาแลกค่าครองชีพแบบนี้ มันใช่แล้วหรือ?”
โพสต์ของเขาได้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันไปจำนวนมาก มีทั้งคนที่เข้าใจในมุมของสามี หลายคนก็เข้าใจในมุมของภรรยา ขณะที่คนจำนวนไม่น้อยก็มองว่า “ทำไมสามีถึงไม่ให้เงินภรรยาเอาไว้ใช้ตามจำนวนที่เธอต้องการซะตั้งแต่แรก”
แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ว่าอย่างไรกันบ้าง?
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv