ช่วงนี้ เราส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้ และอยากยอมแพ้กับทุกสิ่งทุกอย่าง
หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น เราอยากให้คุณได้อ่านเรื่องราวของทาโร่ เหมียวยอดนักสู้ ที่จะทำให้คุณมองโลกเปลี่ยนไป และมีกำลังใจการมีชีวิตอยู่ต่อ
เรื่องราวของทาโร่เริ่มขึ้นเมื่อคุณแม่เกียงเก็บน้องมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้เพียง 1 เดือนครึ่ง ในช่วงแรกน้องดูปกติดี มันร่าเริงสดใสเหมือนลูกแมวทั่วไป
แต่แล้ว 2 วันต่อมา ทาโร่ก็มีอาการชัก แม่เกียงจึงรีบพาไปหาหมอทันที ที่นั่นคุณหมอหมอบอกว่ามีไรในหูน้องแมวมากเกินไป จนเป็นเหตุให้มันชัก
ตั้งแต่นั้นมา เจ้าทาโร่ก็ไม่เล่นอีกเลย แถมมีอาการซึมหนักมาก นอกจากนี้มันยังตกจากโต๊ะจนขาหลังขยับไม่ได้ ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ แม้คุณแม่เกียงจะพาไปหาหมอกี่แห่งๆ ก็ไม่มีที่ไหนรักษาน้องได้
ช่วงเวลานั้น คุณแม่เกียงรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าเจ้าทาโร่เลย โดยเฉพาะเวลาที่น้องร้องด้วยความเจ็บปวด หัวใจเธอแทบแตกสลาย
อย่างไรก็ตาม ในความโชคดร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อคุณหมอท่านนึงแนะนำให้แม่เกียงทำการบำบัดให้ทาโร่โดยการนวด หยุดยาทุกอย่างที่น้องกิน และให้น้องกินอาหารแต่เปียก
หลังจากทำตามคำแนะนำของคุณหมอได้ 2 วัน เจ้าทาโร่ก็สามารถขยับตัวได้ ทำให้แม่เกียงดีใจมากๆ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็นวดบำบัดให้น้องอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งหาวิธีที่จะทำให้น้องกินอาหารด้วยตัวเอง
แม่เกียงฝึกให้ทาโร่ลุกมากินอาหารโดยการเคาะชามข้าว ซึ่งน้องเองก็จะพยายามพยุงตัวลุกไปกินข้าว แม้จะล้มลุกคลุกคลานบ้างก็ตาม
เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าทาโร่ก็โตขึ้น แถมน่ารักมากๆ จนทาสแมวหลายๆ คน เริ่มรู้จักน้อง พวกเขาติดตามมันผ่านเพจ ท่าโร่ ผู้ไม่ยอมแพ้ และคอยเอาใจช่วยน้องมาตลอด
หลังจากอยู่กับแม่เกียงได้ 3 ปี ทาโร่ก็ล้มป่วยอีกครั้ง ครั้งนี้คุณหมอบอกว่ามีน้ำในช่องอก และต้องเจาะน้ำออก โดยก่อนไปโรงพยาบาลนั้น เจ้าของบอกว่าน้องหายใจหอบเหนื่อยและไม่กินข้าว
แต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง… แม้คุณหมอจะช่วยยื้อชีวิตน้องอย่างสุดความสามารถแล้ว ทั้งยังได้รับกำลังใจอย่างดีจากแม่เกียง แต่ความเจ็บปวดครั้งนี้ รุนแรงเกินกว่าน้องทาโร่จะทนได้
ในที่สุดน้องทาโร่ก็จากแม่เกียงไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย 2561 เหลือเพียงความทรงจำที่ยังอยู่ในใจของแม่ตลอดไป
ทั้งนี้ คุณแม่เกียงได้ฝากถึงเพื่อนๆ ว่า หากใครมีน้องหมาหรือน้องแมวที่เดินไม่ได้ ให้ทำการนวดเบาๆ ตามร่างกายพวกมัน เพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดี และจะทำให้น้องๆ กลับมาเดินได้ในที่สุด
วันนี้ทาโร่อาจจะไม่ได้อยู่แจกความสดใสให้เราแล้ว แต่หวังว่าเรื่องราวของน้องจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ในการสู้ชีวิตนะนะ