ได้มีคลิปที่กำลังเป็นกระแสไวรัลแพร่หลายไปในวงกว้างในโลกออนไลน์อยู่ขณะนี้ โดยเป็นเรื่องราวของผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่จะพาเต่าของเขาออกมาเดินเล่นเป็นประจำ ซึ่งก็สร้างความสนใจให้ชาวเน็ตได้อย่างมาก
คลิปนี้ถูกเผยแพร่ใน TikTok จากช่อง sugoimart ที่ทำคอนเทนต์เสนอสิ่งที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่น
และคลิปที่ชายสูงอายุเดินเล่นกับเต่าได้เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ต่อมาก็กลายเป็นกระแสไวรัลขึ้นมา ทำให้ปัจจุบันคลิปดังกล่าวมียอดวิวสูงถึง 19.6 ล้านวิวเลยทีเดียว
ชมคลิปดังกล่าว
@sugoimart im only living for the kabuto on his head tbh 🐢 #fyp #foryoupage #africantortoise #japanthings #animals #japanlife #tsukishima #japan #sugoimart
ในคลิประบุว่า เจ้าของเต่ามีชื่อว่าคุณมิทานิ เขามักจะพาเต่าของเขา ‘บอนจัง’ ออกมาเดินเล่นอยู่เสมอ ในย่านชุมชนเขต Tsukishima ในกรุงโตเกียว
มีการเผยว่าบอนจังเป็นเต่าสายพันธ์ซูลคาต้า หรือเต่าเดือยแอฟริกา (African spurred tortoise) เป็นสายพันธ์เต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก และในปีนี้บอนจังมีอายุ 25 ปีแล้ว
บอนจังกับหมวกเซนโงคุบนหัวของเขา
เมื่อทำการค้นข้อมูลเพิ่มเติม ก็พบว่าเคยมีสื่อหลายสื่อได้นำเสนอเรื่องราวของคุณมิทานิและบอนจังไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา
5 ปีก่อนในช่อง PLAY TOKYO ได้เผยว่า คุณมิทานิเผยว่าเมื่อปี 1996 ภรรยาได้ไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง แล้วไปเจอเต่าตัวนี้เข้า ทำให้เธอรู้สึกต้องชะตาเข้ากับมันทันที จึงซื้อกลับมา
คุณมิทานิเผยว่าเขากับภรรยาไม่ได้มีลูกด้วยกัน จึงเลี้ยงบอนจังขึ้นมาและรักเหมือนเป็นลูกของเขา
“แต่ผมไม่คิดว่ามันจะตัวใหญ่ขนาดนี้” คุณมิทานิบอกกับสื่อ
คุณมิทานิกล่าวว่าแค่เรียกชื่อ บอนจังก็จะเดินตามเขาไปด้วย
คุณมิทานิเผยว่าจะออกมาเดินกับบอนจังอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง บอนจังชอบการเดินมาก และจะมีเส้นทางประจำที่ใช้เวลาเดินราว 1 ชั่วโมงครึ่ง
ซึ่งมันก็ทำให้บอนจังเป็นที่รู้จักไปทั่วชุมชนด้วย จากการเดินเล่นมาตลอดหลายปี
เมื่อถึงหน้าหนาว คุณมิทานิจะต้องดูแลบอนจังเป็นพิเศษ โดยการทำให้มั่นใจว่าสัตว์เลือดเย็นอย่างบอนจังจะต้องรู้สึกอบอุ่นเมื่อออกมาเดิน ด้วยการใส่เสื้อให้มัน ซึ่งเสื้อของบอนจังนั้นเขาก็ได้มาจากเพื่อนบ้านข้างๆ
.
อาหารที่บอนจังชอบคือกะหล่ำ
เวลาออกไปเดินก็จะได้รับความสนใจจากเด็กๆ เป็นพิเศษ
เมื่อเดินเสร็จแล้วบอนจังก็จะกลับเข้าบ้านของตัวเอง
บอนจังเมื่อ 5 ปีก่อนจากช่อง PLAY TOKYO
ที่มา : newsweek, dailymail, sugoimart, play tokyo