สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงแล้วก็ต้องทำงานนอกบ้านไปด้วย เราก็จะคุ้นเคยกับการบอกลาพวกมันตอนเช้า ปล่อยให้มันครอบครองเป็นเจ้าของบ้านไปทั้งวัน แล้วตอนเย็นก็กลับมาหาพวกมันใช่มั้ย?
แต่เรื่องนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดโควิด-19 แล้วก็ใช้มาตรการล็อกดาวน์ งดการเดินทาง ให้คนอยู่บ้านมากยิ่งขึ้น
เท่ากับว่า เราก็ต้องทำงานอยู่บ้าน ต้องเวิร์กฟรอมโฮม และใช้ชีวิตอยู่กับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมวทั้งวัน.. มันเป็นเรื่องดีใช่ไหม?
แต่ดูเหมือน “เจ้าเหมียว” บางตัวอาจจะไม่คิดเช่นนั้นนะ 55555
เมื่อการศึกษาใหม่จาก James Cook University ค้นพบว่าถึงแม้เจ้าหมา จะมีความรู้สึกดีๆ กับเจ้าของเช่นกันเมื่อได้อยู่บ้านมากขึ้น แต่เหล่าแมว มันไม่ค่อยคิดแบบนั้นเลย
การศึกษานี้สำรวจจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงกว่า 400 คน ในช่วงล็อกดาวน์ของประเทศออสเตรเลีย
โดยการศึกษานี้ ระบุว่าในช่วงล็อกดาวน์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวเอง แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“สัตว์เลี้ยงของเราเนี่ย ปกติจะได้ใช้ชีวิตหรูหรากว่ามนุษย์อีก มีเตียงนอนอุ่นๆ มีของเล่นไว้เลือกเล่นตลอดเวลา”
“แต่ดูเหมือนช่วงล็อกดาวน์เนี่ย พวกมันจะเสียความอิสระไปบางอย่างเหมือนกับเราด้วยนะ อิสระที่จะได้ไปไหนมาไหนตามใจในบ้านตัวเอง”
“เราได้รับข้อมูลมาว่า เจ้าเหมียวนั้นมีความรู้สึกเหมือนการที่มนุษย์อยู่บ้านตลอดเวลา รบกวนพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าเหมียวด้วยเหมือนกัน”
“กว่า 50% ของทาสแมว ระบุว่าเจ้าเหมียวมักจะมีพฤติกรรมที่รู้สึกเหมือนว่า ‘เราไปรบกวนมัน’ ในบางเวลา”
“ซึ่งนั่นต่างกับเจ้าหมาโดยสิ้นเชิง เพราะเกือบทั้งหมดของคนเลี้ยงหมา พบว่ามันมีความสุขมากยิ่งขึ้น ถ้าเจ้าของอยู่บ้านกับมันตลอดเวลา”
อย่างไรก็ตาม ทางด็อกเตอร์ Jessica Oliva ผู้ทำการศึกษาครั้งนี้ ยังพูดถึงแง่ดีของการล็อกดาวน์อย่างหนึ่ง ที่ส่งผลให้คนรับเลี้ยงหมาแมวมากยิ่งขึ้น
“การที่คนรับเลี้ยงหมาแมวจรจัด จากสถานดูแลสัตว์ มาให้บ้านใหม่กับพวกมันในช่วงเริ่มต้นการล็อกดาวน์ ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก
แต่มันก็จะดีมากๆ ถ้าพวกเขาเหล่านั้นสามารถดูแลพวกมันไปจนตลอดชีวิตได้”
ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลที่ออกมายืนยันว่า สถานดูแลสัตว์เลี้ยงหลายแห่ง ปล่อยสัตว์ไปสู่บ้านใหม่จนหมดเกลี้ยงได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
และก็หวังว่าคนรับเลี้ยงทุกๆ คน จะดูแลมันไปได้อีกแสนนาน ไม่จำกัดเพียงแค่ช่วงโรคระบาดเท่านั้นด้วย
ที่มา: