กลายเป็นประเด็นถกเกียงกันในวงการศิลปะอย่างมาก เมื่อ Jens Haaning ศิลปินชาวเดนมาร์กได้ส่งกรอบรูปเปล่าไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Kunsten Museum of Modern Art โดยให้เหตุผลว่า งานของเขาคือศิลปะในรูปแบบใหม่
เมื่อได้รับผลงานทางพิพิธภัณฑ์ไม่ปลื้มกับกรอบรูปเปล่าของ Haaning อย่างมาก และออกแถลงการณ์ว่าศิลปินรายนี้ละเมิดสัญญาและยักยอกเงินของพิพิธภัณฑ์
โดยเรื่องนี้เริ่มมาจากที่ Haaning ได้ขอยืมธนบัตรมูลค่ากว่า 84,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) เพื่อใช้ประกอบในงานศิลปะชิ้นนี้
แต่เมื่อถึงกำหนดส่งมอบงาน Haaning กลับส่งมาเพียงแค่กระดาษเปล่า และยืนยันว่าจะไม่คืนธนบัตรให้ทางพิพิธภัณฑ์
โดยอ้างว่าทั้งกรอบรูปเปล่าและการยึดเงิน คือส่วนหนึ่งของงานศิลปะที่เขาตั้งใจนำเสนอ ซึ่งใช้ชื่อว่า Take the Money and Run (เอาเงินมาแล้วหนี)
สำหรับ Jens Haaning เป็นศิลปินแนว“มโนทัศนศิลป์” หรือ conceptual art ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงาน 2 ชิ้นก่อนหน้านี้โดยเป็นการเอาธนบัตรจริงมาเรียงต่อก่นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างรายได้ต่อปีของคนในเดนมาร์กกับออสเตรเลีย
ซึ่งข้อตกลงระหว่าง Haaning กับทางพิพิธภัณฑ์คือ การยืมเงินกว่า 3 ล้านบาทเพื่อต่อยอดผลงานเดิม และในสัญญายังระบุด้วยว่าหลังจากเสร็จงานแล้วเขาจะต้องคืนเงินให้ทางพิพิธภัณฑ์ด้วย
Haaning อธิบายเพิ่มเติมว่า เขาไม่ต้องการที่จะผลิตงานต่อจากของเก่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตามที่พิพิธภัณฑ์ต้องการ
และอยากจะผลิตงานที่สะท้อนภาพการทำงานที่เขาต้องเจอในทุกวันนี้ เป็นการประท้วงค่าตอบแทนอันน้อยนิดที่ศิลปินได้จากการผลิตงานให้กับทางพิพิธภัณฑ์
อย่างไรก็ตามด้านผู้จัดการของพิพิธภัณฑ์ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในสัญญาดังกล่าว Haaning จะได้รับค่าตอบแทนประมาณ 230,000 บาท ค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 50,000 บาท และค่าเข้าชมที่ทางรัฐบาลกำหนดอีกจำนวนหนึ่ง
ซึ่งขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์ยังคงจัดแสดงงานของ Haaning ต่อไป แต่ขอร้องให้ทางศิลปินนำเงินมาคืนภายในเดือนมกราคมปีหน้า และหากไม่ปฏิบัติตามทางพิพิธภัณฑ์จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มาnpr, theguardian