ด้วยความที่ถูกจัดขึ้นในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น กีฬาโอลิมปิกในปีนี้จึงถือว่าได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอนิเมะไปไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในด้านเพลงที่ใช้ หรือตัวนักกีฬาเองที่แห่กันออกมาแสดงความชอบในมังงะและอนิเมะระหว่างการแข่ง
ล่าสุดนี้เองเราก็ได้เห็นวัฒนธรรมอนิเมะถูกนำเสนอพร้อมการแข่งโอลิมปิกอีกครั้ง เมื่อการแข่งกีฬาปีนเขาได้รับการจัดขึ้นที่เขตโอไดบะ ตรงข้ามถนนซึ่งมี กันดั้ม RX-0 ยูนิคอร์น สูง 19.7 เมตร ตั้งอยู่แบบพอดิบพอดี
ความใกล้ระดับนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้ภาพถ่ายหลายๆ ภาพในการแข่งต้องมีการถ่ายติดเจ้ากันดั้มตัวนี้เป็นธรรมดา ซึ่งแม้ว่าตามปกติก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่เรื่องราวของการแข่งในครั้งนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสเล็กๆ ในโลกออนไลน์จนได้ เมื่อสำนักข่าวชื่อดังอย่าง “BBC Sport” ได้ออกมาระบุว่าหุ่นที่อยู่ในภาพเป็น “ทรานฟอร์เมอร์” เสียอย่างนั้น
“ในตอนที่คุณคิดว่าการปีนเขาด้วยความเร็วนั้นน่ากลัวพอแล้ว ตอนนี้คุณจะต้องยิ่งประทับใจขึ้นอีกกับทรานฟอร์เมอร์ ที่ #โตเกียว2020”
Just when you thought speed climbing was frightening enough, you now need to impress a Transformer too at #Tokyo2020! 👀🤖 pic.twitter.com/0GzmVd3CnX
— BBC Sport (@BBCSport) August 5, 2021
ความผิดพลาดที่ชวนเจ็บใจแฟนๆ กันดั้มเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้ ทวีตของ BBC Sport กลายเป็นกระแสไปในชั่วข้ามคืน มีเหล่าแฟนๆ อนิเมะจำนวนมากเข้าไปแสดงความเห็นกันอย่างล้นหลาม
โดยความเห็นที่ว่าก็มีทั้งฝั่งที่เตือน BBC Sport ว่านี่คือกันดั้มนะไม่ใช่ทรานฟอร์เมอร์ตามปกติ และฝั่งที่ถือโอกาสนี้เล่นมุกด้วยรายชื่อหุ่นยนต์อนิเมชั่นอื่นๆ มากมายเช่น
“ออกจะชัดนะว่านี่มันมาชินก้า Z ต่างหาก”
“พวกนายคิดผิดแล้ว นี่มัน Go Bot จาก
ซูเปอร์ซูเปอร์โรบ็อตมาครอสเถอะ”“นั่นไม่ใช่แพทเลเบอร์เหรอ?”
“ไม่เอาน่านี่มันอีวาชัดๆ”
“ตลกแล้วมันดันคูวก้าต่างหาก”
เมื่อโดนแซะขนาดนี้ ไม่นานนักทาง BBC Sport ก็รู้ตัวถึงความผิดพลาดของตัวเองจนได้
แต่แทนที่จะออกมาแก้ตัวหรือแค่ขอโทษ พวกเขาก็ตัดสินใจพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส ยอมรับข้อผิดพลาดและเปิดการสนทนา (หรือควรเรียกว่าเปิดสงครามกองอวยดี) เกี่ยวกับหุ่นยนต์ในทวีตต่อมาเสียเลย
โอเคเราเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ใครจะชนะถ้ามีแข่งโอลิมปิกระหว่างกันดั้มกับทรานฟอร์เมอร์
We see what’s happened here…
But who would win in an Olympic battle between a Gundam v Transformer? #bbcolympics pic.twitter.com/VXGszX18VK
— BBC Sport (@BBCSport) August 5, 2021
ดังนั้น สุดท้ายแม้ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นกระแสร้อนแรงอยู่บ้างก็ตาม
แต่มันก็จบลงด้วยดีกลายเป็นเพียงข่าวขำๆ อีกข่าวไปในที่สุด
ที่มา soranews24