รู้จักกับ “น้องฮิคาริ” อีกหนึ่งขุมพลังแห่งความน่ารัก ตัวละคร(ไม่)ลับ ประจำค่ายยักษ์ใหญ่ SOD

หากพูดถึงวงการหนังผู้ใหญ่ในญี่ปุ่น ชื่อ SOD หรือ Soft On Demand ก็คงจะเป็นชื่อที่เหล่าแฟนหนังรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะมันคือหนึ่งในค่ายยักษ์ใหญ่ซึ่งรวบรวมเหล่าดารามากฝีมือที่กลายมาเป็นขวัญใจของใครหลายๆ คน

และในบทความนี้ #เหมียวตะปู ก็จะมาพูดถึงดาราสาวคนหนึ่งที่สังกัดค่ายนี้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าชื่อของเธออาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่นัก ถึงอย่างนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเธอถือเป็นอีกหนึ่งขุมพลังแห่งความน่ารักประจำค่ายเลย

เธอคนนี้มีชื่อว่า “ฮิคาริ อาโอโซระ”

‘ฮิคาริ อาโอโซระ’ (青空ひかり) เธอคือดาราสาววัยเพียง 22 ปี ที่เข้ามาโลดแล่นในวงการนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2019 และได้ฝากผลงานเอาไว้ไม่เกิน 30 เรื่อง

อย่างที่เพื่อนๆ เห็นว่า เธอเพิ่งเข้าวงการมาได้แค่ไม่ถึง 2 ปี และผลงานการแสดงของเธอนั้นก็ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเหล่ารุ่นพี่หลายๆ คนภายในค่าย

แต่จุดที่ทำให้ #เหมียวตะปู ต้องพูดถึงเธอก็เป็นเพราะ “ความน่ารัก” นี่แหละ

น้องฮิคาริ มีส่วนสูง 153 เซนติเมตร

สัดส่วน 33 (คัพ D) – 23 – 33

แม้แฟนหนังส่วนใหญ่จะไม่ได้มองว่าเธอมีใบหน้าหรือรูปร่างที่โดดเด่นเป็นที่จับตา แต่ต้องบอกเลยว่าความน่ารักของเธอไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน!

ด้วยรูปลักษณ์ของเธอที่มีความอ่อนกว่าวัย ทำให้บทบาทที่เธอมักจะได้รับส่วนใหญ่ก็จะเป็นบทที่มีความน่ารักสดใส อย่างเช่น บทนักเรียน เป็นต้น

โดยเฉพาะในผลงานล่าสุดของเธอ บอกเลยว่า “โคตะระดี!”

ผลงานล่าสุดนี้ยังเป็นผลงานแรกที่เธอได้รับบทเป็น “สาวแว่น”

น้องฮิคาริ รับบทเป็นนักเรียนสาวจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาโตเกียว และด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนของเธอก็สามารถคว้าหัวใจหนุ่มๆ ชาวเมืองไปครองได้อย่างไม่ยากเย็น (รวมถึงหัวใจของ #เหมียวตะปู ก็ด้วย)

ซึ่งนี่ก็เป็นผลงานหนังเรื่องแรกที่เธอได้โชว์ความน่ารักไปพร้อมๆ กับแว่นตาที่ช่วยเพิ่มความคาวาอี้ของเธอให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก

(แต่ถึงไม่ใส่ก็น่ารักอยู่ดีจ้าาา)

โดยกำหนดการวางจำหน่ายแผ่นดีวีดีของผลงานล่าสุดนี้ ก็จะปล่อยออกมาในวันที่ 9 กันยายน 2021 (ทั้งนี้ ก็ดูเหมือนว่าทางค่ายจะมีให้เช่าชมในรูปแบบออนไลน์แล้ว ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมานะ)

หากใครอยากตามไปสะสมคอลเลคชั่นหนังของเธอ ก็สามารถลองตามไปได้จากรหัสวาร์ปด้านล่างเลย และนอกเหนือจากนั้นก็ยังสามารถเข้าไปติดตามเธอได้ทั้งในอินสตาแกรม aozora_cmore และทวิตเตอร์ @aozora_cmore