หลังจากที่สื่อได้ปล่อยภาพของอดีตนักร้องพลัสไซส์อย่าง Adele ในลุคใหม่ร่างผอมเพรียว ก็ทำเอาผู้คนทั่วโลกต่างตกตะลึงไปกับความงดงามของเธอที่แสนจะเปล่งประกายทะลุจอ
โดยในปี 2020 ได้มีข่าว (ไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าตัว) ว่าเธอลดน้ำหนักไปแล้วกว่า 100 ปอนด์ (45 กิโลกรัม) และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นอีกด้วย
จังหวะนี้เชื่อว่าหลายคนก็คงจะอยากรู้เคล็ดลับการลดน้ำหนักและเคล็ดลับการกลับมามีความสุขของ Adele กันแล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้ #เหมียวนานะ เลยขอรวบรวมวิธีการและเคล็ดลับต่างๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันเลย
1. ตั้งเป้าหมายเพื่อลูกชาย
หลังจากที่ Adele หยุดปล่อยผลงานของตัวเองออกมาตั้งแต่ปี 2015 เธอก็ห่างหายจากบนหน้าสื่อไปยาวนานจนมีข่าวลือต่างๆ นานา
แต่สิ่งที่กระทบกับตัวของ Adele มากที่สุดก็คงจะเป็นข่าวที่เธอเลิกรากับสามี Simon Konecki เมื่อเมษายน ปี 2019 และทำให้เธอเสียใจหนักมากถึงขั้นลดน้ำหนัก
แต่จริงๆ แล้วเป้าหมายการลดน้ำหนักของ Adele ไม่ใช่เพราะอดีตสามีแค่อย่างเดียว เพราะเธอต้องการลดเพื่อเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกชายวัย 8 ขวบ ต่างหากล่ะ อย่างครั้งหนึ่งในปี 2019 เธอเคยขึ้นแคปชั่นบนอินสตาแกรมว่า
“ฉันเคยร้องไห้ แต่ตอนนี้น้ำตาได้เปลี่ยนเป็นเหงื่อแทนแล้ว”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
2. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการลดน้ำหนักเลยค่ะ
แต่โดยพื้นฐานแล้ว Adele เป็นคนเกลียดการออกกำลังกายเอามากๆ ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์กับทาง US Weekly ว่า เธอไม่เคยสนใจหรือชอบการออกกำลังกายเลย แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเธอ
Adele ใช้เวลาออกกำลังกาย 3 วันต่อสัปดาห์ วันละอย่างน้อย 60 นาที รวมถึงการคาดิโอ, Circuit Training และพิลาทิส โดยเธอได้จ้างเทรนเนอร์ดังอย่าง Dalton Wong มาช่วยดูแลเรื่องการออกกำลังกาย
และ Adele ได้มีออกกำลังกายตามคลิปและโปรแกรมของเทรนเนอร์ Joe Wicks ควบคู่ไปด้วย
คลิปตัวอย่างการออกกำลังกายของ Joe Wicks
(ติดตามได้ที่ช่องยูทูบ The Body Coach TV ได้เลย)
3. คุมอาหารแบบ Sirtfood diet
อย่างที่บอกค่ะว่า Adele ไม่ชอบการออกกำลังกายเท่าไรนัก เธอจึงเลือกที่จะคุมอาหารซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถือว่าเป็นการคุมอาหารที่อาจจะยากเย็นสำหรับสายกินสุดๆ
เพราะ Adele เลือกคุมอาหารแบบ Sirtfood diet นั่นเอง
Sirtfood diet เป็นการจำกัดและเลือกทานอาหารที่เสริมสร้างโปรตีน Sirtiun Proteins ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยในการชะลอวัยและป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายจากความตึงเครียดและการอักเสบจากภายใน
อาหารหลักของการไดเอตนี้ก็จะมี ชาเขียว, สตอร์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ดาร์ก ช็อกโกแลต (85% Cocao) , แอปเปิ้ล, วอลนัท, กาแฟ, ผลไม้รสเปรี้ยว, ผักเคล, บักวีต และ ไวน์แดง เป็นต้น
การคุมอาหารแบบ Sirtfood diet จะแบ่งเป็น 2 ช่วงใน 1 สัปดาห์ โดยช่วง 3 วันแรกของสัปดาห์จะต้องกินอาหารไม่เกินวันละ 1,000 แคลอรี่ พร้อมดื่มน้ำผักผลไม้สดสีเขียว 3 แก้วต่อวัน (แก้วละมื้อแหละ)
หลังจากนั้นช่วง 4 วันให้ต้องกินอาหารไม่เกินวันละ 1,500 แคลอรี่ พร้อมดื่มน้ำผักผลไม้สดสีเขียว 2 แก้วต่อวัน
เพราะแบบนี้ในปี 2019 จึงทำให้ Adele สามารถลดน้ำหนักไปได้มากถึง 50 ปอนด์ (22 กิโลกรัม) เลยทีเดียว
เสริม: ประโยชน์ของ Sirtfood diet ที่มากกว่าการลดน้ำหนักคือการช่วยเรื่องผิวพรรณ
อย่างที่เห็นว่าเมนูส่วนมากในการไดเอตแบบนี้ประกอบไปด้วยผักและโปรตีนที่ช่วยชะลอวัย ทำให้ผลพลอยได้ของการ Sirtfood diet ที่ Adele ได้รับคือการมีผิวพรรณที่ดีขึ้นนั่นเอง
ขนาดไปดูบาสยังต้องพกไปดื่มเลย
.
4. ไม่เร่งรีบ ทำให้ตัวเองมีความสุขและสุขภาพดี
วิธีนี้คือวิธีที่เบสิกสุดๆ สำหรับสายลดน้ำหนัก เพราะหลายคนเร่งรีบและโฟกัสกับน้ำหนักมากเกินไปจนทำให้เกิดอาการเครียด รวมถึงไม่มีความสุขกับมัน
ซึ่ง Adele เลือกที่จะเดินสายนี้แบบช้าๆ อย่างที่เห็นว่าเธอออกกำลังกายแค่เพียง 3 วันต่อสัปดาห์ และใช้เวลาที่เหลือไปกับการคุมอาหาร โดยเธอเลือกที่จะเสริมสร้างสุขภาพเพื่อจะได้อยู่กับลูกชายไปนานๆ มากกว่าความผอม
นั่นจึงทำให้เธอมีใบหน้ายิ้มแย้มและมีความสุขในแบบที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อนยังไงล่ะ
ล่าสุดมีการรายงานจากสื่อว่าน้ำหนักของ Adele อยู่ที่ 150 ปอนด์ (68 กิโลกรัม) และอาจจะน้อยกว่านั้นเสียด้วยซ้ำหากนับมาถึงตอนนี้
นี่ก็คือเคล็ดลับการลดน้ำหนักทั้งหมดของ Adele ค่ะ เป็นวิธีที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินจนทำตามไม่ได้ เพราะ Adele ใช้เวลานานกว่า 3 ปี ถึงจะเดินทางมาไกลขนาดนี้ #เหมียวนานะ เชื่อว่าหลายคนต้องทำได้อย่างแน่นอน
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: usmagazine, prevention, news, lofficielthailand, todayimhome, hellomagazine, people