บ่อยครั้งในรายการโทรทัศน์หรือรายการข่าว เราจะเห็นล่ามภาษามือปรากฏอยู่ตรงมุมเล็กๆ ด้านล่างของโทรทัศน์ เพื่อเป็นส่วนช่วยในเรื่องการสื่อสารให้กับเหล่าผู้พิการทางหูทั้งหลาย
ซึ่งในตอนนี้มีล่ามภาษามือสาวคนหนึ่งกำลังกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล แต่เธอไม่ได้กลายเป็นไวรัลเพราะการเป็นล่ามให้กับรายการโทรทัศน์อย่างที่เราคุ้นเคย เพราะเธอกลายเป็นไวรัลจากการเป็นล่ามให้กับบทเพลง WAP ต่างหาก
เมื่อไม่นานมานี้ บัญชี TikTok อย่าง @vitalsenise ได้เผยแพร่คลิปของล่ามภาษามือคนหนึ่งที่กำลังยืนสื่อสารภาษามือของเธออยู่ข้างเวทีในงานเทศกาลดนตรี Lollapalooza ขณะที่ Megan Thee Stallion กำลังร้องบทเพลงเลี่ยนงุ่นอันโด่งดังอย่าง WAP
หลายคนอาจจะเห็น Music Interpreters (ล่ามดนตรี) อย่างแพร่หลายตามคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ซึ่งในงาน Lollapalooza ก็มีการใช้ Music Interpreters ด้วยเช่นกัน
โดย Guilherme Vital Senise da Silva เจ้าของบัญชี TikTok ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ BuzzFeed
Silva เล่าว่าตัวเขาเป็นคนที่สนใจใน Music Interpreters อยู่แล้ว แต่ความสามารถในการบรรยายของล่ามสาวในเพลง WAP มันน่าสนใจมากเสียจนเขาอดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไม่ได้เลย
หลังจากที่เขาเผยแพร่คลิปนี้ลงบน TikTok เพียงแค่ 2 วันก็มีคนเข้าชมไปแล้วมากกว่า 11 ล้านครั้ง กดหัวใจไปแล้วกว่า 2.5 ล้านครั้ง และด้วยการบรรยายที่ถึงพริกถึงขิงจนเห็นภาพ ทำให้มีคอมเมนต์ชื่นชมถึงความสามารถของล่ามคนนี้กันมากมายเลยล่ะ
I don’t wanna spit. I wanna gulp.
I wanna gag, I wanna choke.
.
ความบังเอิญของคลิปนี้คือมีช็อต Megan Fox กับ Machine Gun Kelly เดินผ่านกล้องไปด้วย
ซึ่งล่ามสาวคนนี้มีนามว่า Kelly Kurdi ค่ะ เธอเป็นล่ามภาษามือมานานหลายปีและเริ่มเข้ามาเป็น Music Interpreters เพื่อช่วยให้เหล่าคนพิการทางหูทั้งหลายได้สนุกไปกับเสียงเพลงในคอนเสิร์ตไม่ต่างจากคนปกติ
หลังจากที่คลิปของเธอกลายเป็นไวรัล Kelly ก็ออกมาขอบคุณสำหรับกระแสตอบรับ พร้อมแนะนำแอคเคาท์อื่นๆ ที่ทำหน้าที่ล่ามภาษามือเหมือนกับเธออีกด้วย
ดูโพสต์นี้บน Instagram
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทุ่มเททั้งความสามารถและแรงกายแรงใจเลยค่ะ และขอบอกเลยว่าสกิลภาษามือในเพลง WAP ของเธอนั้นสุดติ่งจริงๆ
ชมคลิปได้ด้านล่างนี้เลย
ชมคลิปไม่ได้คลิก: TikTok
@vitalseniseVou praticar em casa ##ASL ##Lollapalooza ##MeganFox ##MachineGunKelly ##WAP♬ som original – Guilherme Senise
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: buzzfeednews