เรียกได้ว่าทำเอาแฟนคลับปวดหัวและขำขันไปกับความเด๋อด๋าไปไม่น้อยเลย กับเรื่องราวของนักร้องหนุ่มอย่าง เดอะทอยส์ (The Toys) หรือ ทอย ธันวา บุญสูงเนิน ที่มีเรื่องราวทำให้เราต้องฮาไปกับความติสท์และความเบลอของเขา
ที่ไม่ว่าจะเป็นการเอาเงินทุ่มไปกับการเติมเกมนับล้าน ไปจนถึงเผลอกลืนปิ๊กกีต้าร์เข้าไป จนกลายเป็นตำนานที่ผู้คนกล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งล่าสุด ทอยส์ก็ได้มีโอกาสมานั่งพูดคุยในรายการ ซานิเบาได้เบา กับ ซานิ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ และเขาก็ได้เล่าหมดเปลือกถึงเรื่องราวเหล่านี้
ในตอนแรกซานิได้ถามถึงเรื่องเติมเกมว่า “เติมเกมเป็นล้านจริงหรือเปล่า?” ทอยส์ก็ตอบว่า “ใช่”
โดยทอยส์มักจะเสียเงินไปกับพวกไอเทมต่างๆ ในเกม จนเกิดคำถามที่ว่า “ทั้งหมดกี่ล้าน?” และเขาก็ตอบว่า
“ประมาณ 4 ล้าน รวมกันประมาณนี้”
เห็นแบบนี้ทอยส์ไม่ได้เติมแบบส่งๆ นะ เพราะไอเทมเหล่านั้นมันสามารถขายต่อเก็งกำไรได้ แต่ในบางครั้งของแบบนี้ก็ต้องมีการขาดทุนกันบ้างเล็กน้อย (มั้ง…) ซึ่งทอยส์ก็เล่าว่า
“มีชิ้นหนึ่งแบบซื้อมา 400,000 ขายกลับไปได้ 200,000 อย่างเงี้ย”
นอกจากการเล่นเกมแล้ว ทอยส์ยังใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนไปกับการเทรดอีกด้วย ซึ่งทอยส์ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้อง ปิดไฟและจดจ่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ “กลืนปิ๊กกีต้าร์” ขึ้นมาแบบนี้…
ในรายการทอยส์ได้เล่ารายละเอียดถึงโมเมนต์ที่เขากลืนปิ๊กกีต้าร์ลงไป ซึ่งมันละเอี๊ยดละเอียดจนกินเวลาเล่าไปนานเกือบ 4 นาที แถมยังโบ๊ะบ๊ะไม่หยุด จนทำเอาซานิและทีมงานถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว
เอาเป็นว่า #เหมียวนานะ ขอเล่าคร่าวๆ เลยดีกว่า ในคืนนั้นทอยส์เอายาใส่ในถ้วยที่มีปิ๊กกีต้าร์อยู่ในนั้นด้วย แต่เขาไม่เห็นเพราะตามองจอคอมพิวเตอร์อยู่ บวกกับในห้องปิดไฟ เขาจึงกลืนปิ๊กเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
หลังจากที่กลืนปิ๊กลงไปทอยส์ก็รู้สึกแน่นหน้าอก เขาโทรปรึกษาเพื่อนกับคุณแม่ แต่ก็ได้รับคำตอบว่า “ให้กินน้ำเยอะๆ” ทอยส์แน่นหน้าอกอยู่ 2 วันจึงไปหาหมอเพื่อตรวจดูอาการ
หมอตรวจด้วยการวางยาสลบและส่องกล้อง จากนั้นพอทอยส์ตื่นหมอก็เอาปิ๊กมาให้ดูจึงทำให้เขารู้ว่าตนมีปิ๊กติดอยู่ในร่างกายนั่นเอง
แต่เอาจริงๆ ตอนเล่าคือโบ๊ะบ๊ะมากเวอร์
ซานิคือเดาคำตอบไม่ถูกสักรอบ เพราะทอยส์ละเอียดเกิ๊นนน
“พอเราตื่นแล้วเราเห็นอะไร?”
คำตอบก็คือ “เห็นพยาบาลกับหมอ” จ้าาา
เอาเป็นว่าใครอยากชมความเบลอ ความมึน และความโบ๊ะบ๊ะก็ลองเข้าไปชมได้ด้านล่างนี้เลย
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: One Playground
