ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าช่วงนี้ Andrew Garfield กำลังฮอตสุดๆ เพราะในตอนนี้มีผู้คนมากมายต่างพากันพูดถึงเขาอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ปรากฏตัวในบทบาทสไปเดอร์แมน ในภาพยนตร์ Spider-Man: No Way Home
เชื่อว่าหลายคนคงหวีดไปกับความหล่อเหลากันไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ แต่ #เหมียวนานะ ขอบอกเลยว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น เพราะความสามารถและความน่ารักของเขายังล้นเหลือสุดๆ อีกด้วย
ว่าแล้ว #เหมียวนานะ เลยอยากจะขอพาทุกคนมาทำความรู้จักเบื้องลึกเบื้องหลังชีวิตของเขากันเลยดีกว่า
เด็กหนุ่มตัวผอมกับความชอบในด้านธุรกิจ
Andrew Garfield เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1983 ปัจจุบันอายุ 38 ปี เขาเกิดในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อ ก่อนจะย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษ บ้านเกิดของคุณแม่ตอนอายุได้ 3 ขวบ
ในวัยเด็ก Andrew เป็นเด็กหนุ่มตัวผอมแห้งที่ชอบเล่นกีฬายิมนาสติกกับว่ายน้ำ และด้วยความที่บ้านทำธุรกิจเล็กๆ เขาจึงมีแต่เส้นทางสายธุรกิจอยู่ในหัวมาตลอด
แต่ตอนที่ Andrew อายุได้ 16 ปี เขากลับเลือกเบนสายไปเรียนการแสดงละครเวที หลังจากที่เพื่อนโน้มน้าวให้สมัครเป็นเพื่อน และการแสดงก็กลายเป็นความชอบของเขาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ความสามารถอันเฉิดฉาย
Andrew เลือกเรียนการแสดงในโรงเรียนมากมาย ก่อนจะเรียนจบในปี 2004 จากนั้นก็ไปเป็นนักแสดงละครเวทีอยู่พักหนึ่ง ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมมาครอง
แต่สุดท้ายก็มาทำงานอยู่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เพราะยังไม่พบแสงสว่างในเส้นทางชีวิตการแสดง
จนในปี 2007 เขาก็ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Doctor Who ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ว่าเป็น 1 ใน 10 นักแสดงหน้าใหม่ที่ควรค่าต่อการรับชม พอมาถึงปี 2008 ก็ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเวที BAFTA ในผลงานภาพยนตร์ Boy A
ความสำเร็จของ Andrew ถือว่าก้าวกระโดดพอๆ กับความสามารถในการแสดงเลยค่ะ เขาถือเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เก่งกาจมาก จนสุดท้ายก็มาถึงปีทองของเขาในปี 2012…
ความฝันในการเป็นสไปเดอร์แมน (แม้ตัวเองจะเป็นหนุ่มอังกฤษก็ตาม)
Andrew รักฮีโร่สไปเดอร์แมนมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เขานิยามตัวเองว่าเป็นปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ เพราะตนคือเด็กตัวผอมแห้งที่ตกเป็นเป้าอยู่บ่อยๆ
และสุดท้ายในปี 2012 ความฝันก็เป็นจริงเมื่อโอกาสมารับบทบาทสไปเดอร์แมนคนที่สอง ใน The Amazing Spider-Man
แต่ทุกคนทราบไหมว่า Andrew เป็นคนที่พูดสำเนียงบริทิชมาตลอด เพราะเขาเติบโตในประเทศอังกฤษ
และในบทบาทสไปเดอร์แมนที่ต้องแสดงเป็นชาวนิวยอร์ก เขากลับเปลี่ยนสำเนียงตัวเองไปเป็นอเมริกันได้อย่างเหลือเชื่อ กระทั่งอยู่นอกกองถ่ายก็ยังใช้สำเนียงอเมริกัน เรียกได้ว่าปลอมตัวเป็นชาวอเมริกันได้อย่างแนบเนียนจนคนจับแทบไม่ได้เลยล่ะ
แม้ว่า Andrew จะเคยถูกวิจารณ์ว่าเป็นสไปเดอร์แมนที่ห่วยที่สุด
แต่ดูเหมือนว่าความพยายามทุกอย่างของเขาจะประสบความสำเร็จในตอนท้าย เพราะทุกวันนี้กลับมีผู้คนที่ตกหลุมรักสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นของเขามากมาย และได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกอย่างล้นหลาม
พัฒนาการที่ไม่มีวันหยุดของ Andrew Garfield
หลังจากที่ The Amazing Spider-Man จบลง เขาก็ยังคงรับงานภาพยนตร์อีกมากมายที่ท้าทายความสามารถ จนทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์ Hacksaw Ridge (2016)
และได้รับรางวัล Tony Awards เวทีรางวัลของเหล่านักแสดงบรอดเวย์และละครเวทีอันยิ่งใหญ่ โดย Andrew ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี 2018 จากละครเวที Angels in America
มาจนถึงตอนนี้ ภาพยนตร์ที่ทำให้เขาได้รับคำชมมากที่สุดก็คงจะเป็น tick, tick…BOOM! (2021) ภาพยนตร์ชีวประวัติของเจ้าพ่อมิวสิคัล บน Netflix ที่ Andrew เล่นเอง ร้องเอง แถมยังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกมากมายอีกด้วย
ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ค่ะว่าชายหนุ่มวัย 38 ปีคนนี้จะมีความสามารถล้นเหลือขนาดนี้ น่าเสียดายมากที่เขาไม่มีโซเชียลมีเดียเอาไว้ให้เราติดตาม เอาเป็นว่าทุกคนก็รอชมผลงานเรื่องต่อๆ ไปของเขาละกันเนอะ
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: thefamouspeople, WIRED, wikipedia, factinate