ทีม Dota 2 รัสเซีย บินไปดูไบเก้อ ถูกตัดสิทธิ์แข่ง หลังไม่ยอมแถลงถึงยูเครน ทีมโต้จะไม่ยอมถูกขู่
จากเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศที่เกิดจากรัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ก็ได้ส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียในหลายวงการ เช่นก่อนหน้านี้ FIFA และ UEFA ได้ออกมาแบนทีมชาติรัสเซียไม่ให้มีเกมการแข่ง รวมถึงปรับสโมสรรัสเซียให้ตกรอบจากบอลถ้วยยุโรป
และล่าสุดก็กระทบมาถึงวงการ Esports เกม DOTA 2 หลังจากที่ล่าสุด ทีม Virtus Pro จากรัสเซีย ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน แม้นักแข่งจะบินไปถึงสนามที่จัดที่มหานครดูไบ ประเทศ UAE แล้วก็ตาม
เรื่องราวเป็นมาอย่างไร เราขอสรุปมาให้อ่านกันครับ
– การแข่งขัน DOTA 2 รายการ GAMERS GALAXY มีคิวจัดแข่งตั้งแต่วันที่ 2 – 6 มีนาคม 2022 โดยรายการได้เชิญทีมมา 10 ทีม
– หนึ่งในทีมเชิญนั้นคือ Virtus Pro ทีมสัญชาติรัสเซีย ฉายาหมีขาว เคยมีผู้เล่นสัญชาติยูเครนชื่อดังหลายคนเคยอยู่ในทีม ไลน์อัพแต่ปัจจุบันเป็นผู้เล่นรัสเซียล้วน 5 คน
แต่ปัจจุบันทีมมี CEO และคนในองค์กรหลายคนที่เป็นชาวยูเครน
– แล้วทั้งนี้ ผู้จัดของรายการนี้คือบริษัท WePlay Media ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติยูเครน ตั้งอยู่ที่กรุง Kyiv
– เมื่อทีมบินไปถึงดูไบ ทางผู้จัดได้มาบอกว่า ทีมต้องเลือกว่าถ้าไม่อยากถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ทีมจะต้องออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ในยูเครน โดยผู้จัดจะประกาศว่าผู้เล่นทุกคนติดเชื้อ COVID
– หรืออีกทางเลือกคือ ลงแข่งโดยไม่สวมเสื้อทีม ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นตัวแทนของ Virtus Pro ที่เป็นองค์กรจากรัสเซีย
– ทำให้คืนวานนี้ (2 มีนาคม 2022) Virtus Pro ออกแถลงการณ์ เล่าเรื่องทั้งหมดโดยใส่หัวเรื่องว่าทีมถูกข่มขู่
– ทีมกล่าวว่าแม้ WePlay จะเป็นผู้จัด แต่การแข่งจัดขึ้นที่ UAE ซึ่งวางตัวเป็นกลาง ทีมจึงจะไม่ยอมต่อคำขู่ ชี้ว่าการบังคับให้คนเลือกข้างต่อสาธารณะไม่ได้เป็นการสร้างสันติ แต่จะยิ่งสร้างความเกลียดชัง
– Virtus Pro ยืนยันว่าไม่สนับสนุนสงครามทั้งใน ยูเครน, ซีเรีย, อัฟกานิสถาน, ยูโกสลาเวีย และอีกหลายประเทศ
พร้อมเสริมว่าตอนนี้ทีมสัญชาติรัสเซียกำลังโดนแรงกดดันอย่างหนัก บางทัวร์นาเมนต์ก็เริ่มล่าแม่มด ทีมจึงขอร้องให้หยุดเพราะมันไม่สะท้อนถึงความเป็นเกมกีฬา ที่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง Esports ควรเป็นที่ที่คนหลากหลายมาเล่นร่วมกัน
– Virtus Pro ยืนยันในแถลงการณ์ว่าจะไม่ยอมถูกข่มขู่ คุกคาม จะขอเฉพาะสิ่งที่มองว่าเหมาะสม และก็จะไม่แข่งโดยปราศจากยูนิฟอร์มของทีมด้วย
พร้อมปิดท้ายว่า “Let’s make plays, not war”
ที่มา :