ในช่วงเวลาที่การพบปะผู้คนตรงๆ กลายเป็นเรื่องที่ถูกหลีกเลี่ยงเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายๆ คนจะเริ่มคิดถึงคืนวันที่เราสามารถเดินผ่านคนแปลกหน้าและมีเรื่องราวให้แบ่งปันได้ง่ายๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม การพบปะกับคนแปลกหน้าก็ใช่ว่าจะนำมาซึ่งเรื่องดีๆ เสมอไปเพราะในบางครั้ง เรื่องที่เราต้องพบจากคนแปลกหน้าก็อาจจะเป็นอะไรที่น่าอับอาย หรือแม้แต่ติดเรทแอบลามกได้เช่นกัน
และในบางครั้งเรื่องราวเหล่านั้นก็มักจะกลายเป็นเรื่องตลกที่ถูกนำมาเล่าต่อและแบ่งปันโดยชาวเน็ต เหมือนเรื่องราวทั้ง 10 เรื่องต่อไปนี้เลยด้วย
1. ตอนนั้นมันมีงานเทศกาล แล้วมันก็ร้อนมากๆ
ฉันกำลังนั่งท้องเสียอยู่ในห้องน้ำชั่วคราวที่เอามาตั้งเพื่องานเทศกาลในครั้งนี้โดยเฉพาะ ในสภาพเหงื่อออกเยอะมากๆ จนสุดท้ายก็เลยตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออก ว่าง่ายๆ ฉันกำลังนั่งโป๊ขี้แตกอยู่ในสวม
ในตอนนั้นเองก็มีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เปิดประตูของน้ำเข้ามา… ใช่แล้ว ฉันท้องเสียหนักเสียจนลืมล็อกห้องน้ำ!?
นึกภาพว่าไปเจอคนแก้ผ้าในห้องน้ำเล็กๆ ที่เหม็นทั้งเหงื่อทั้งอึดูสิ เชื่อเถอะว่าทั้งเขาและฉันคงไม่มีใครอยากจะจำมันหรอก
2. ตอนนั้นผมกำลังตัดผมให้ลูกค้าหญิงคนหนึ่งอยู่
พวกเราคุยกันถูกคอมากเธอจนเธอคิดว่าจะเอารูปสวนที่บ้านของเธอให้ผมดู สวนมันก็ดูดีอยู่หรอกแต่พอเธอเผลอเลื่อนภาพไปอีกภาพนี่สิ…
ภาพถ่ายคนอ้าขาโชว์จิมิ๊เต็มหน้าผมเลย
3. ตอนนั้นผมกำลังเข้าแถวรอรับพัสดุอยู่ในมหาวิทยาลัย
มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินกลับมาที่แถวหลังจากที่เธอไปห้องน้ำมา เธอเดินไปเล่นโทรศัพท์ไปจนกระทั่งมาหยุดอยู่ข้างๆ ผม
ในตอนที่ผมไม่ได้คิดอะไรนั่นเอง เธอก็ยื่นมือของเธอเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของผม ไม่ใช่เพื่อจะล้วงกระเป๋าแต่เพื่อไปเล่นกับส่วนหัวของเจ้าน้องชายของผม
ผมตกใจมากและพยายามจะถอยหนีแต่ก็ขยับอะไรมากไม่ได้ ผมเลยหันไปหาเธอตรงๆ แล้วพยายามจะพูดอะไรสักอย่างประมาณว่า “อ่า… ขอโทษนะครับ..” เธอเงยหน้าจากมือถือมามองผม
ผมยังจำรอยในตอนนั้นได้แม่นเลย มันเป็นรอยยิ้มเซ็กซี่ๆ ที่เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจอย่างสุดขีดในเสี้ยววินาที
เธอตะโกนว่า “ขอโทษค่ะ” และรีบวิ่งออกประตูไป และผมเห็นเธอคว้าแขนใครบางคนที่แต่งตัวคล้ายกับผมมากไปด้วย ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นแฟนของเธอนั่นเอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นในเวลาแค่ราวๆ สิบวินาที
4. ตอนนั้นผมเป็นเด็กส่งอาหารและมีการสั่งอาหารมาจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง
ตอนที่ผมกำลังขึ้นลิฟต์อยู่นั่นเองก็มีหญิงแก่ตัวอ้วนคนหนึ่งเข้ามาในลิฟต์ เธอเหงื่อออกเยอะมากๆ และมีฟันหายไปอยู่หลายซี่ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
จนกระทั่งจู่ๆ เธอก็ควักเต้านมของเธอออกมาจากเสื้อต่อหน้าผมเฉยเลย แถมผมดันมีปัญหากับการสื่อสารมากจนไม่กล้าพูดอะไรอีกต่างหาก
ผมได้แต่คิดว่านี่ล่ะนะชีวิตตรู… จนกระทั่งถึงชั้นที่ผมกดไว้ จะบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่กระอักกระอ่วนที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้
5. ครั้งหนึ่งฉันเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในฝรั่งเศส
ที่นั่นมีห้องที่มีแสงสลัวเพื่อให้ของที่จัดแสดงเด่นยิ่งขึ้น แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาจับก้นฉันจากด้านหลัง
ฉันหันไปตบเขาตามสัญชาตญาณแต่พอเราสบตากันเขากับเป็นภายตกใจกว่าฉันเสียอีกเขาหน้าแดงไปถึงหูก้มหัวขอโทษรัวๆ แบบรู้สึกผิดจากใจจริง (ว่ากันตรงๆ ฉันก็ฟังเขาไม่ออกหรอกนะ)
ไม่นานนักเขาก็รุดไปยังห้องจัดแสดงอีกห้อง ฉันได้ยินเขากระซิบกับผู้หญิงอีกคนแล้วเธอก็หัวเราะออกมา นั่นทำให้ฉันเดาว่า ก่อนหน้าเขาคงเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นแฟนของเขา
และว่ากันตามตรงฉันก็ชอบนะที่จะได้คิดว่า ในตอนนี้มีชายฝรั่งเศสที่เจอกันโดยบังเอิญคนหนึ่งต้องเขินตัวบิดทุกๆ ครั้งที่เขาคิดถึงการพบกันของพวกเรา
6. ตอนที่อายุ 17 ผมเป็นคนส่งของให้กับ FedEx อยู่ช่วงหนึ่ง
วันหนึ่งผมไปส่งของตามบ้านตามปกติ การส่งพัสดุของพวกเราต้องได้รับลายเซ็นผมจึงเคาะประตูบ้านเพื่อดูว่ามีใครอยู่ไหม มีเด็กสาวคนหนึ่งเปิดประตูออกมาจากในบ้าน เธอดูเหมือนว่าจะอายุราวๆ 14 ดังนั้นตามกฎแล้วผมจะไม่สามารถให้เธอเป็นคนเซ็นชื่อได้
เมื่อผมถามไปว่ามีคนอื่นอยู่อีกไหมก็มีเสียงจากข้างในดังออกมาว่า “ใครมาเหรอ” ส่วนเด็กสาวก็หันกลับไปตอบแบบสบายๆ ว่า “คนส่งของ”
ในตอนนั้นเองผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งหลบอยู่ที่มุมกำแพง ร่างท่อนบนของเธอเปลือยเปล่า เธอตะโกนบอกเด็กสาวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า
“ปิดประตูซะ ฉันยังไม่ได้ใส่กางเกงในเลย”
ผมต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่หลุดขำ และบอกกับเด็กสาวว่า “โอเค ผมว่าเธอเซ็นก็ได้”
7. ผมเป็นคนขับรถอูเบอร์
เคยมีผู้โดยสารคู่หนึ่งจะให้เงินผม 40 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1,250 บาท) เพื่อจัดหนักกันที่เบาะหลังของผม แถมตอนนั้นค่าโดยสารมันก็อยู่ที่ราวๆ 60 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 1850 บาท) แล้วด้วยสิ ผมก็เลยตัดสินใจว่า…
ผมจะเปิดเพลงดังๆ และปรับกระจกมองหลังขึ้นจนสุดก็แล้วกัน ตามสบายนะเพื่อน
8. วันหนึ่งจู่ๆ ก็มีหนุ่มเขามากระซิบใส่หูว่าจากข้างหลังว่า “ผมจะจัดหนักใส่เธอทีหลังนะ”
ว่ากันตรงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ขนลุกสุดๆ เลย แต่พอหันหลังกลับไป เจ้าหนุ่มคนนั้นกลับเป็นฝ่ายตกใจอายม้วนดิ้นแทนซะงั้น เพราะดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าเขาเองกำลังกระซิบใส่หูของภรรยาอยู่
แต่เอาจริงๆ นะไอ้หนุ่ม ผมไม่ใช่ผู้หญิงด้วยซ้ำ นี่เอ็งต้องมึนขนาดไหนเนี่ย!!
9. ฉันเห็นชายคนหนึ่งอยู่บนเนินตอนพระอาทิตย์ตก
เขาน่าจะกำลังปรบมือเบาๆ ให้กับภาพวิวสวยๆ ของฟิลาเดลเฟียโบ๊ทเฮาส์ด้านหน้านั้น ฉันเลยรู้สึกดีกับสิ่งที่เห็นมากๆ
แต่พอฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ เขา ฉันก็พบว่าเขานั้น กำลังยืนฉี่อยู่ต่างหาก
10. ไปที่บาร์ตั้งแต่ฟ้าสว่างในวันขอบคุณพระเจ้า
เห็นสาวน่ารักนั่งอยู่คนเดียว ว่าแล้วก็เลยสั่งเครื่องดื่มให้เธอ โดยบอกบาร์เทนเดอร์ว่าอย่าบอกเธอว่ามาจากใคร เพราะเธอดูเศร้าและน่าจะอยากอยู่คนเดียว
บาร์เทนเดอร์ทำตามอย่างว่าง่าย และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินกลับมาหาผม (ตอนที่เธอออกไปคุยโทรศัพท์) เพื่อบอกว่า เธออยากรู้ว่าใครเป็นคนซื้อเครื่องดื่มให้เธอมากๆ ผมจะโอเคไหมถ้าเขาจะบอกเธอ ผมเลยตอบตกลงไป
ไม่นานนักเราก็ได้คุยกันและเธอถามผมว่าผมขับรถได้ไหม อยากไปบาร์อื่นต่อกับเธอรึเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าผมตกลง แล้วเราก็ไปขึ้นรถด้วยกัน
ที่นั่นจู่ๆ เธอก็สวมวิญญาณดารา AV จัดหนักจัดเต็มกับผมในที่นั่งคนขับในตอนกลางวันแสกๆ ตรงในที่จอดรถหน้าบาร์ ซึ่งว่ากันตรงๆ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกมากกว่าสนุก แต่สุดท้ายเราก็ไปต่อกันที่บาร์ถัดไปกันได้ด้วยดี
ในตอนนั้นเองมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเขามาหาเธอและเริ่มโต้เถียงกันรุนแรง ปรากฎว่าเจ้าหนุ่มเป็นพี่ชายของเธอและเขามาพาเธอกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้านกับพ่อแม่ ผู้ซึ่งเธอ “เพิ่งแนะนำพวกเขาให้รู้จักกับคู่หมั้น” และหายตัวไปเฉยๆ
เมื่อเขาหันมาหาผมแล้วถามว่า “แล้วนายเป็นใคร?” ผมเลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าขอเวลาแป๊ป….
แล้วก็โกยออกจากที่นั่นเหมือนไฟไหม้หัวสิครับ!! จะอยู่ทำไมล่ะ!!
ที่มา reddit