ย้อนเวลากลับไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน สหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในช่วงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัฐทั้ง 34 รัฐเกิดความคิดแตกคอกันเองเรื่องการถือครองทาส ทำให้ต้องแต่ปี 1861-1865 ประเทศทั้งประเทศ ต้องตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง
และในช่วงปี 1862 ขณะที่สงครามเพิ่งจะเริ่มต้นนั่นเอง ช่างภาพอย่างคุณ William D. McPherson ก็ได้บังเอิญมีโอกาสพบกับทาสคนหนึ่ง ซึ่งหนีออกมาจากเจ้านายของตัวเอง ในสภาพที่บนแผ่นหลังเต็มไปด้วยบาดแผลการถูกเฆี่ยนตี
นี่คือภาพถ่ายที่ William บันทึกไว้ได้จากแผ่นหลังของทาสที่ชื่อว่า Gordon ทาสผู้หนีออกมาจากไร่ขนาด 12 ตารางกิโลเมตร ของ John และ Bridget Lyons ในลุยเซียนา ผู้ซึ่งมีทาสไว้ใช้แรงงานถูก 40 ชีวิต
และแน่นอนว่าสนับสนุนฝ่าย “สมาพันธรัฐอเมริกา” (ฝ่ายใต้) ซึ่งต่อสู้เพื่อให้ตัวเองสามารถใช้แรงงานทาสต่อไปได้ ภายในสงครามกลางเมือง
Gordon เล่าว่าในระหว่างทำงานอยู่ที่ไร่แห่งนี้ เขาถูกลงโทษเฆี่ยนตีอยู่หลายครั้ง จนเจ้าตัวต้องนอนรักษาตัวนานถึง 2 เดือนและแผ่นหลังมีสภาพอย่างที่เห็น ดังนั้นในช่วงช่วงเดือนมีนาคม เขาจึงตัดสินใจหลบหนีออกมา
ระหว่างการหลบหนีนายทาสของเขาได้ออกรวบรวมเพื่อนบ้านหลายคน และไล่ตามเขาพร้อมกับฝูงหมาล่าเนื้อ เจ้าตัวจึงต้องนำต้นหอมที่ขโมยจากสวนมาทาตามตัวเพื่อกำจัดกลิ่น ทั้งๆ ที่ตัวเต็มไปด้วยบาดแผล
ก่อนจะล้มลุกคลุกคลานอยู่กลับดินโคลนเป็นเวลาร่วม 10 วัน กว่าที่เขาจะมาถึงค่ายของทหารฝั่ง “สหภาพ” (ฝ่ายเหนือ) ซึ่งประจำการอยู่ห่างออกไปร่วม 128 กิโลเมตร
อาการบาดแผลบนหลังของ Gordon นั้น มาจากอาการที่รู้จักกันในชื่อ “แผลคีลอยด์” แผลเป็นชนิดหนึ่งที่มีลักษณะนูนและขนาดขยายใหญ่กว่ารอยแผลที่เกิดขึ้น เนื่องจากเนื้อเยื่อเจริญเติบโตผิดปกติ
ซึ่งอาการเช่นนี้ตามปกติแม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แต่ก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บ หรือระคายเคืองได้ และในกรณีของ Gordon แผลของเขาก็ออกมาน่าสยดสยองสุดๆ เลยด้วย
ภาพแผ่นหลังของ Gordon นั้นแน่นอนว่าต่อมาได้กลายเป็นภาพที่แพร่หลายที่สุดภาพหนึ่งในยุค และปลุกระดมความคิดต่อต้านการใช้งานทาสของผู้คน
ปลุกกระแสต่อต้านฝ่ายใต้ซึ่งยืนกรานว่าการใช้ทาสเป็นเรื่องของการอยู่รอดทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่การเหยียดเชื้อชาติ ได้เป็นอย่างดี
ส่วนนาย Gordon เองนั้นต่อมาก็ได้เข้าร่วมกองทัพสหภาพราวๆ สามเดือนหลังจากมีการอนุญาตให้ทาสที่เป็นอิสระสามารถเข้าเป็นทหารในกองทัพได้ โดยในระหว่างการรบ ว่ากันว่า Gordon เคยถูกจับกุมและทรมานอีกครั้งโดยฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกาแต่ก็หนีกลับมาได้
แถมต่อมาเจ้าตัวก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมรบอย่างกล้าหาญในฐานะจ่าสิบเอก ระหว่างการบุกโจมตีพอร์ตฮัดสันในเดือนพฤษภาคม 1863 ด้วย เรียกได้ว่าสร้างแรงบันดาลใจให้ชาวแอฟริกันอเมริกันจำนวนมากเดินตามรอยของเขาเลยก็คงไม่ผิด
นับว่าน่าเสียดายมากที่เรื่องราวของ Gordon ดูเหมือนว่าจะขาดหายไปโดยสิ้นเชิงตั้งแต่ในตอนนั้น และแทบไม่มีไม่มีใครทราบอีกเลยว่าชายคนนี้ มีความเป็นตายร้ายดีอย่างไรหลังจากนั้น
ถึงอย่างนั้นก็ตามภาพถ่ายของเขาก็จะถูกจดจำไปอีกนานแสนนานในฐานะหลักฐานของความโหดร้ายทารุณของการใช้แรงงานทาส และเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของระบบนี้ แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะสู้เพื่ออิสรภาพ
ที่มา rarehistoricalphotos